จังหวัดยามากุจิตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกกุของญี่ปุ่น (พื้นที่ซันโย-ซันอิน) เนื่องจากอยู่ติดกับทะเลญี่ปุ่น จึงมีจุดที่น่าสนใจมากมาย อย่างเช่นสะพานสึโนะชิมะเหนือทะเลสีฟ้าโคบอลต์และศาลเจ้าโมโตโนสุมิซึ่งมีเสาโทริอินับไม่ถ้วนเรียงรายอยู่ตามทะเล ในสมัยเอโดะ จังหวัดยามากุจิถูกเรียกว่าแคว้นโชชู และเป็นอาณาเขตที่ควบคุมโดยไดเมียวผู้มีอำนาจ จึงมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์กระจายอยู่ทั่วจังหวัดยามากุจิ ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์เมืองเก่าที่จะให้คุณสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นได้
ครั้งนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของจังหวัดยามากุจิ โดยแบ่งออกเป็นสี่พื้นที่ ได้แก่ "พื้นที่อำเภอยามากุจิ" "พื้นที่อำเภอชิโมโนเซกิและอำเภอมิเนะ" "พื้นที่อำเภอฮกิและอำเภอนากาโตะ" และ "พื้นที่อำเภออิวาคุนิ" เวลาวางแผนเที่ยว อย่าลืมนึกถึงระยะทางไปยังจุดต่าง ๆ ด้วยนะ
(อำเภอยามากุจิ) แม่น้ำอิจิโนะซากะ: สถานที่ขึ้นชื่อสำหรับการชมดอกซากุระและหิ่งห้อยในจังหวัดยามากุจิ
แม่น้ำนี้แยกเมืองเป็นสองส่วน และยังเป็นที่ที่วิวสวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งด้วย มีทางเท้าริมน้ำที่เรียงรายไปด้วยดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ถ้ามาในช่วงหน้าร้อนระหว่างกฤกฎา-สิงหา ที่นี่ยังมีชื่อเสียงเรื่องหิ่งห้อยที่บินเล่นตามลมในเวลากลางคืนอีกด้วย
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: แม่น้ำอิจิโนซากะกาวะ (一の坂川 / Ichinosaka-gawa)
- ที่ตั้ง: Ushirogawara, Yamaguchi-shi, Yamaguchi
- การเดินทาง: เดิน 12 นาทีจากสถานี JR Yamaguchi
(อำเภอยามากุจิ) วัดรุริโคจิ: สมบัติของชาติและหนึ่งในสามเจดีย์ห้าชั้นแห่งญี่ปุ่น
วัดรุริโคจิ (瑠璃光寺 / Ruriko-ji) เป็นวัดทางพุทธที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดงดังที่สุดของเมือง โดยมีเจดีย์ห้าชั้นเป็นจุดท่องเที่ยวหลัก ตัวเจดีย์มีความเก่าแก่นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1442 (พ.ศ. 1985) และยังกล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในสามวัดที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากตัวเจดีย์ ผู้มาเยี่ยมชมยังสามารถชมบริเวณวัดอันกว้างขวางรวมถึงสวนสาธารณะโคซัน (香山公園 / Kozan-koen โคซันโคเอ็น) ที่มีอาคารทางประวัติศาสตร์ต่างๆอยู่เต็มไปหมดอย่างโรงเก็บของ หอระฆัง และพิพิธภัณฑ์ ที่สวนยังมีสุสานฝังศพบุคคลในตระกูลโมริ (毛利 / Mori) ที่เป็นเจ้าเมืองต่อจากตะกูลโออุจิในยุคเอโดะอีกหลายราย และยังมีร้านน้ำชาน่ารักๆอีกด้วย และยังมี "ชินริวเต" (沈流亭 / Chinryutei) ซึ่งเป็นโรงน้ำชาที่ที่เป็นที่โปรดปรานของ ไซโก ทาคาโมริ (西郷隆盛 / Saigo Takamori) ซามูไรที่มีชื่อเสียงที่เชื่อกันว่าเป็นซามูไรคนสุดท้ายค่ะ
นอกเหนือจากพื้นที่สีเขียวที่สวยงามแห่งนี้แล้ว พื้นที่ด้านในยังเป็นที่จัดแสดงวัตถุที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเจดีย์เป็นจำนวนมาก คงไม่มีการเดินทางใดที่สามารถบอกได้เต็มปากว่าได้เข้าถึงระดับจิตวิญญาณที่สูงขึ้นหากยังไม่ได้มาแวะที่วัดนี้กันค่ะ
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: วัดรุริโคจิ (瑠璃光寺 / Ruriko-ji)
- ที่ตั้ง: 7-1, Kozancho, Yamaguchi-shi, Yamaguchi 753-0081
- เวลาทำการ: เปิดให้เข้าชมได้โดยอิสระทุกวัน (เฉพาะพิพิธภัณฑ์วัดรุริโคจิ เปิด 9::00 - 1700 น.)
- ค่าเข้าชม: ฟรี (เฉพาะพิพิธภัณฑ์วัดรุริโคจิ มีค่าเข้าชม)
- การเดินทาง: จากสถานี JR Yamaguchi ขึ้นรถบัส Yamaguchi City Community Bus เส้นทาง Ouchi ที่มุ่งหน้าไปทาง Kozan Koen Gojunoto-mae เป็นเวลา 15 นาที และลงที่ป้ายสุดท้าย
(อำเภอยามากุจิ) โบสถ์อนุสรณ์เซนต์ฟรานซิสซาเวียร์ ยามากุจิ: สถานที่ที่กล่าวกันว่าเป็นแหล่งกำเนิดของคริสต์มาสในญี่ปุ่น
โบสถ์อนุสรณ์เซนต์ฟรานซิสซาเวียร์ (サビエル記念聖堂 / Yamaguchi Catholic Church Xavier Memorial Chapel ซาบิเอรุคิเน็นเซโด) ที่ยามากุจินั้น เริ่มต้นจากฟรานซิส ซาเวียร์มิชชันนารีนิกายเยซุอิตที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในเอเชียในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ตัวโบสถ์ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2495 แม้ว่าตัวมิชชันนารีนั่นจะเข้ามาที่ยามากุจิครั้งแรกในปีพ.ศ. 2093 หลังสร้างเสร็จ ตัวโบสถ์ถูกไฟไหม้ในปีพ.ศ. 2534 และสร้างขึ้นใหม่ในปีพ.ศ. 2541 โดยใช้การออกแบบสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์อันยอดเยี่ยมที่นี่ที่มีรูปศิลปะ รูปปั้น และโบราณวัตถุเชิงคริสตศาสนาจัดแสดง รวมไปถึงแผนที่โบราณที่แสดงการเข้ามาของคริสตศาสนาในญี่ปุ่นครั้งแรก
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: โบสถ์อนุสรณ์เซนต์ฟรานซิสซาเวียร์ (サビエル記念聖堂 / Yamaguchi Catholic Church Xavier Memorial Chapel)
- ที่ตั้ง: 4-1B, Kameyama-cho, Yamaguchi-shi, Yamaguchi 753-0089
- เวลาทำการ: 09.00 ~ 17.00 น.
- ค่าเข้าชม: ฟรี (ใช้วิธีสนับสนุนให้บริจาคเพื่อเป็นค่าบำรุงโบสถ์แทน) 300 เยนสำหรับการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของโบสถ์
- การเดินทาง: ประมาณ 1.3 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงเหนือของสถานี Yamaguchi สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้า (15-20 นาที) หรือเช่าจักรยานซึ่งมีให้บริการที่หน้าสถานี (300 เยนต่อสองชั่วโมงหรือ 700 เยนสำหรับการเช่าตลอดทั้งวัน)
(อำเภอยามากุจิ) สวนเซสชู วัดโจเอจิ: หนึ่งในสวนขึ้นชื่อชั้นนำของญี่ปุ่น
วัดโจเอจิ (常栄寺 / Joei-ji) เป็นวัดนิกายเซนที่เป็นที่รู้จักในเรื่องบรรยากาศเงียบสงบเป็นธรรมชาติและสวนโดยรอบแสนงดงามตาที่เรียกกันว่า สวนเซสชูเต (雪舟廷園) ตัวสวนเป็นผลงานความคิดของพระรูปหนึ่งซึ่งมีนามว่า เซสชู ซึ่งป็นทั้งช่างทาสีและนักตกแต่งผู้มีสายตาด้านความสมจริงยอดเยี่ยม สร้างขึ้นกว่า 500 ปีก่อน สวนยังมีชื่อในเรื่องการเรียงหินและตัวอุโบสถหลักสวยงามที่ภายในบุด้วยเสื่อทาทามิ เส้นทางสำรวจวัดที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งก็คือการเดินตามทางที่ผ่านสวน ผ่านบริเวณสวนเซ็นที่มีกรวดที่กวาดเป็นรอยสวยงาม
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: วัดโจเอจิ (常栄寺 / Joei-ji)
- ที่ตั้ง: 2001-1 Miyanoshimo, Yamaguchi-shi, Yamaguchi 753-0011
- เวลาทำการ: 8.00 น. - 17.00 น. (ถึงแค่ 16.30 น. ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน - มีนาคม) (ปิดรับการเข้าชม 30 นาทีก่อนเวลาปิดจริง)
- ค่าเข้าชม: 300 เยน
- การเดินทาง:
- ลงที่สถานี Miyano เดินประมาณ 25 นาที (หรือนั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาทีจากสถานี Miyano)
- ประมาณ 10 นาทีโดยรถยนต์จากสถานี JR Yamaguchi บนสาย Yamaguchi Line หรือจากทางออกทางด่วน Chugoku Expressway Yamaguchi IC
(อำเภอชิโมโนเซกิ) เกาะสึโนะชิมะ & สะพานสึโนชิมะโอฮาชิ: จุดที่งดงามที่หลายคนบอกว่า "อยากไปเที่ยวสักครั้งในชีวิต"
ที่ญี่ปุ่นมักจะเชื่อมโยงสัมผัสทางจิตวิญญาณเข้ากับสะพาน อย่าง "ฮาชิกาคาริ" (橋掛り / hashigakari) ที่มักปรากฎใน "โรงละครโนะห์" นั้นก็เชื่อกันว่าเป็นการเชื่อมโยงดินแดนโลกมนุษย์กับโลกอื่น นี่คงเป็นการเปรียบเทียบเพียงอย่างเดียวที่เป็นไปได้หากจะพยายามพรรณนาถึงความงามอันสมบูรณ์แบบของสะพานสึโนชิมะ (角島 / Tsunoshima) ด้วยความยาว 1780 เมตรมันเป็นสะพานที่ใหญ่เป็นอันดับสองในญี่ปุ่น ระหว่างที่ขับขี่ไปบนเส้นทางยกระดับราวกับสวรรค์นี้คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับสีฟ้าของมหาสมุทรรอบด้านเลยค่ะ เหมาะที่จะเพลิดเพลินที่สุดในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกค่ะ
และหากคุณเริ่มเบื่อกับการถ่ายรูปหลายรูปแล้ว คุณยังสามารถไปลองชิมอาหารที่มีให้เลือกมากมายซึ่งประกอบด้วยอาหารทะเลและผักต่างๆได้ที่เกาะใกล้เคียงค่ะ
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: เกาะสึโนชิมะ (角島 / Tsunoshima)
- ที่ตั้ง: Hohokucho Oaza Tsunoshima, Shimonoseki-shi, Yamaguchi 759-5332
- เวลาใช้งาน: เปิดตลอดเวลา
- ค่าเข้าใช้บริการ: ฟรี
- การเดินทาง: จากสถานี Takibe นั่งรถบัสคันที่มุ่งหน้าไปยัง Tsunoshima ประมาณ 30 นาที ลงที่ป้ายรถเมล์ "Hotel Nishi-Nagato Resort Iriguchi" แล้วเดินประมาณ 3 นาที
(อำเภอชิโมโนเซกิ) โชฟุ เมืองในอาณัติปราสาท: ทิวทัศน์เมืองเก่าในสมัยเอโดะ
บริเวณนี้ถูกเรียกว่า "โชฟุ" (長府 / Chofu) เพราะ "แคว้นโชฟุ" (長府藩 / Chofu-han) ซึ่งเป็นแคว้นย่อยของ "แคว้นโชชู" (長州藩 / Choshu-han) ที่ปกครองโดยตระกูลโมริ ตระกูลไดเมียวในสมัยเอโดะ ได้มาตั้งฐานการปกครองและเจริญรุ่งเรืองเป็นศูนย์กลางของการเมืองและวัฒนธรรม ทิวทัศน์ของเมืองในอาณัติปราสาทยังคถูกรักษาไว้ มีจุดที่คุณสามารถสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นมากมาย เช่น ซากคฤหาสน์ซามูไรขนาดน้อยใหญ่ ศาลเจ้าและวัดวาอาราม และทางเดิน "ฟุรุเอโชจิ" (古江小路 / Furueshoji) ที่ซึ่งกำแพงดินและกำแพงหินถูกสร้างเรียงต่อกันไป เป็นต้น
นอกจากนี้ วัด "โคซันจิ" (功山寺 / Kozanji) และคฤหาสน์ "โชฟุ โมริเท" (長府毛利邸 / Chofu Moritei) ยังมีชื่อเสียงในด้านใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: เมืองในอาณัติปราสาท โชฟุ (城下町長府 / Jokamachi Chofu)
- ที่ตั้ง: Chofu, Shimonoseki-shi, Yamaguchi
- การเดินทาง: ประมาณ 5 นาทีโดยรถประจำทางจากสถานี JR Chofu ลงที่ "Jokamachi Chofu"
(อำเภอชิโมโนเซกิ) เกาะกันริว: เกาะไร้ผู้คนอาศัยซึ่งเป็นเวทีการประลองครั้งประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในจังหวัดยามากุจิก็คือเกาะกันริว (巌流島 / Ganryujima) ซึ่งสันนิษฐานว่าการประลองดาบอันเลื่องชื่อระหว่างนักดาบระดับตำนาน มิยาโมโตะ มูซาชิ (宮本武蔵 / Miyamoto Musashi) และคู่แข่งอันเกรียงไกร ซาซากิ โคจิโร่ (佐々木小次郎 / Sasaki Kojiro) ได้เกิดขึ้นบนชายหาดในเกาะแห่งนี้ค่ะ
คุณสามารถเดินทางไปยังเกาะกันริวได้โดยเรือข้ามฟาก (เฟอร์รี่) ผ่านท่าเรือในอำเภอชิโมโนเซกิ ซึ่งใช้เวลา 10 นาทีในราคา 800 เยนสำหรับผู้ใหญ่และ 400 เยนสำหรับเด็ก (ราคาตั๋วไป-กลับ) ค่ะ
ตามเรื่องเล่านั้นกล่าวกันว่า มูซาชิตั้งใจมาถึงการประดาบล่าช้าเพื่อทำลายสมาธิของคู่ต่อสู้ เชื่อกันว่ามุซาชิใช้ดาบไม้ที่เหลาจากไม้พายของเรือเอาชนะโคจิโร่ได้สำเร็จค่ะ สำหรับคนรักเรื่องราวของซามูไร นี่เป็นจุดที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดเลยค่ะ
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: เกาะกันริว (巌流島 / Ganryujima)
- ที่ตั้ง: 648 Funajima, Hikoshima, Shimonoseki-shi 750-0073
- เวลาทำการ: เปิดตลอดเวลา
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- การเดินทาง: ประมาณ 10 นาทีโดยเรือจากท่าเรือ Karato Sambashi
หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิโมโนเซกิ ดูบทความนี้ด้วยนะคะ: ยามากุจิ ชิโมโนเซกิ: เมืองที่ทั้งคอประวัติศาสตร์และนักชิมต้องถูกใจ
(อำเภอมิเนะ) อะคิโยชิโด: ถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
หลังเจอแสงจ้ามาจนแสบตา คงเป็นการดีที่จะพักสายตาในที่มืดๆสักหน่อยสินะคะ
ถ้ำหินปูนอะคิโยชิโด (秋芳洞 / Akiyoshi-do) ตั้งอยู่ใน "อำเภอมิเนะ" ของจังหวัดยามากุจิ เป็นสถานที่ที่น่าสนใจอย่างแท้จริง การก่อตัวของหินปูนหลากหลายรูปแบบนี้ต้องใช้เวลากว่า 3 ล้านปีและน้ำฝนจำนวนมากเพื่อให้มีรูปร่างที่เห็นในปัจจุบันค่ะ
นอกจากถ้ำแล้วยังมีทางเดินป่าผ่านหุบเขา "อะคิโยชิได" (秋吉台 / Akiyoshidai) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักเดินป่าปีนเขาจากทั่วโลก และเส้นทางนั้นมีระดับความงามที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับฤดูกาล จากสีแดงราวตะวันตกดินในฤดูร้อนไปจนถึงสีเขียวสดในฤดูใบไม้ผลิ มันเป็นพื้นที่ที่น่าประหลาดใจอย่างแท้จริง
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: ถ้ำหินปูนอะคิโยชิโด (秋芳洞 / Akiyoshi-do)
- ที่ตั้ง: 3506-2 Akiyoshi, Shuho-cho, Mine-shi, Yamaguchi
- เวลาเปิดเข้าชม: 08:30 - 17:30 น. (มีนาคม ~ พฤศจิกายน) หรือ 08:30 - 16:30 น. (ธันวาคม ~ กุมภาพันธ์)
- ค่าเข้าชม: บุคคลทั่วไป 1,300 เยน (มัธยมปลายขึ้นไป) นักเรียน 1,050 เยน (มัธยมต้น) และ 700 เยน (ประถมศึกษา)
- การเดินทาง: สถานี Akiyoshido สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถบัสของ JR จากสถานีขนส่งหน้าสถานี Yamaguchi ใช้เวลาประมาณ 40 นาที (1,230 เยน) หรือจาก JR Shin-Yamaguchi ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีโดยรถบัสไปยัง "Akiyoshido Bus Center” (1,170 เยน)
บทความที่เกี่ยวข้อง
(อำเภอมิเนะ) สระเบปปุเบนเท็น หนึ่งใน 100 แหล่งน้ำขึ้นชื่อแห่งญี่ปุ่น
น้ำแร่ธรรมชาติแห่งสระเบปปุเบนเท็น (別府弁天池 / Beppu Benten Ike) ในบริเวณศาลเจ้าเบปปุอิสึคุชิมะ (別府厳島神社 / Beppu Itsukushima Jinja) มีความโปร่งแสงสูง และเมื่อแสงแดดส่องลงมา ก็จะเปล่งประกายแสงสีฟ้าราวกับอัญมณี ว่ากันว่าน้ำแร่นั้นดีต่อผิว ช่วยให้ผิวสวย และว่ากันว่าการดื่มน้ำนั้นจะช่วยทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นด้วย กาแฟ Benten Meisui ที่ขายในร้านก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: สระเบปปุเบนเท็น (別府弁天池 / Beppu Benten Ike)
- ที่ตั้ง: 1951-2 Beppu, Shuhocho, Mine-shi, Yamaguchi
- การเดินทาง: ขับรถจากทางแยกทางด่วน "Mine Interchange" ประมาณ 20 นาที
(อำเภอฮากิ) เมืองในอาณัติปราสาทฮากิ: จุดที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
เมืองในอาณัติปราสาทที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะฐานของแคว้นโชชูซึ่งปกครองโดยตระกูลโมริ ไดเมียวในสมัยเอโดะ และมีขนาดใหญ่กว่าเมืองในอาณัติปราสาทโชฟุอีกด้วย คฤหาสน์ซามูไรเก่า บ้านพ่อค้า และบ้านหมอยังคงสภาพดีอยู่ และถนนที่สวยงามของกำแพงสีขาว กำแพงลายขัดไม้นามาโกะ และผนังกระดานดำก็เรียงยาวต่อกันไป โดยเฉพาะถนนที่เรียกว่า "คิคูยะ โยโกโช" (菊屋横町 / Kiukya Yokocho) ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 ถนนแห่งญี่ปุ่น" ก็เป็นจุดถ่ายภาพที่มีชื่อเสียงซึ่งคุณสามารถสัมผัสบรรยากาศของฮากิได้
ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งของเมืองในอาณัติปราสาทฮากิก็คือ คุณสามารถเห็นส้มฤดูร้อน นัตสึมิคัง (夏みかん / Natsu Mikan) ของฮากิได้ทั่วบริเวณ การสวมชุดกิโมโนเช่าแล้วเดินเล่นรอบร้านกาแฟหรือร้านค้าทั่วไปที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากบ้านเรือนเก่าแก่ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์นั้นก็น่าสนุกมากด้วย!
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: เมืองในอาณัติปราสาทฮากิ (萩城下町 / Hagi Jokamachi)
- ที่ตั้ง: ใกล้กับ Minamifuruhagimachi, Hagi-shi, Yamaguchi
- การเดินทาง: เดินประมาณ 20 นาทีจากสถานี JR Higashi-Hagi
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ซากปราสาทฮากิ สัญลักษณ์ของเมืองในอาณัติปราสาทฮากิที่เป็นหนึ่งในทรัพย์สินในรายการมรดกโลก
- ศาลเจ้าโชอินแห่งฮากิ แฟนๆกินทามะห้ามพลาด! สถานที่ที่เกียวข้องกับ โยชิดะ โชอิน
(อำเภอนากาโตะ) ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ: ได้รับเลือกให้เป็น "31 สถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น" ของ CNN!
สร้างขึ้นโดยใช้เวลากว่า 10 ปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 ซุ้มประตูโทริอิสีแดงจำนวน 123 ต้นเรียงจากศาลเจ้าลงไปสู่ทะเลญี่ปุ่นด้วยความยาวแถวมากกว่า 100 เมตร สีที่ตัดกันระหว่างซุ้มประตูโทริอิสีแดง ต้นไม้สีเขียว และทะเลสีฟ้าก็ดูงดงามเกินบรรยาย! และหากคุณโชคดี น้ำทะเลจะกระทบโขดหินและพวยพุ่งขึ้นสูงจากพื้นประมาณ 30 เมตรในบริเวณที่เป็นโขดหินใกล้กับทางเข้าถนนเข้าศาลเจ้า และคุณสามารถเห็นภสพที่งดงามราวกับมังกรที่ทะยานขึ้นสู่สวรรค์เลยค่ะ
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ (元乃隅神社 / Motonosumi Jinja)
- ที่ตั้ง: 498 Yuyatsuo, Nagato-shi, Yamaguchi
- การเดินทาง: ขับรถจากทางแยกทางด่วน "Mine Interchange" ประมาณ 60 นาที หรือ นั่งแท็กซี่จากสถานี Nagato Furuichi ประมาณ 20 นาที
(อำเภออิวาคุนิ) สะพานคินไตเคียว: หนึ่งในสามสะพานขึ้นชื่อแห่งญี่ปุ่น
全長約200mの五連アーチ木造橋「錦帯橋」は、日本を代表する国指定名勝の木造橋です。木材の配置や反りを調整する大工技術が精巧かつ独創的で、このような構造の木造アーチ橋としては、錦帯橋は世界にたった一つの存在です。その素晴らしい技術や美しい姿を目の前に感じることができます。春には桜、夏は鵜飼いや花火、秋は紅葉、冬は雪化粧、四季折々の色彩豊かな景観も楽しめます。また、錦帯橋を渡った先にある岩国城も一緒に散策しましょう。
สะพานคินไตเคียว (錦帯橋 / Kintaikyo) ซึ่งเป็นสะพานไม้แบบโค้งห้าโค้งที่มีความยาวรวมประมาณ 200 ม. เป็นสะพานไม้ที่มีทิวทัศน์สวยงามซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น ภูมิปัญญาของช่างไม้ในการปรับการจัดวางและการบิดงอของไม้นั้นประณีตและเป็นเอกลักษณะ และสะพานคินไตเคียวเป็นสะพานโค้งที่ทำจากไม้เพียงแห่งเดียวที่มีโครงสร้างแบบดังกล่าวในโลกนี้ค่ะ คุณจะสัมผัสได้ถึงเทคนิคที่ยอดเยี่ยมและรูปลักษณ์ที่สวยงามได้ด้วยตา สามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ การตกปลาด้วยนกกาน้ำและพลุดอกไม้ไฟในฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และการแต่งแต้มด้วยหิมะในฤดูหนาว เป็นทิวทัศน์ที่มีสีสันในแต่ละฤดูกาลเลยค่ะ นอกจากนี้ ลองแวะไปเดินเล่นกันที่ปราสาทอิวาคุนิซึ่งอยู่ตรงข้ามสะพานคินไตเคียวกัน
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: สะพานคินไตเคียว (錦帯橋 / Kintaikyo)
- ที่ตั้ง: 1 Iwakuni, Iwakuni-shi, Yamaguchi
- การเดินทาง:
- ประมาณ 4 นาทีโดยรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง "Kintaikyo" จากสถานี Nishi-Iwakuni
- ประมาณ 15 นาทีโดยรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง "Kintaikyo" จากสถานี Shin-Iwakuni
- ประมาณ 20 นาทีโดยรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง "Kintaikyo" จากสถานี Iwakuni
บทความที่เกี่ยวข้อง
แหล่งช้อปปิ้งในจังหวัดยามากุจิ
คุณสามารถซื้อของที่ระลึกแบบญี่ปุ่นได้ตามร้านค้าที่เรียงรายตามถนนช้อปปิ้งในท้องถิ่นและเมืองในอาณัติปราสาท หากคุณต้องการซื้อสินค้าแฟชั่น เราขอแนะนำห้างสรรพสินค้าในอำเภอยามากุจิซึ่งสะดวกกว่าในการคมนาคมค่ะ
ยูเมะทาวน์ยามากุจิ
ยูเมะทาวน์ยามากุจิ (ゆめタウン山口 / Youme Town Yamaguchi) เป็นห้างช้อปปิ้งมอลล์ที่ขายสินค้าหลากหลายประเภทรวมไปถึงเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ และอุปกรณ์ไฟฟ้า บริเวณที่ดีที่สุดของห้างอีกที่หนึ่งก็คือบริเวณที่เรียกกันว่า HARD OFF ที่ขายสินค้ามือสอง แต่ไม่มีสินค้าใดมีอายุเกินห้าปี ซึ่งก็หมายความว่ามีราคาต่อรองดีๆให้เลือกซื้อแบบคุ้มค่า
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: ยูเมะทาวน์ยามากุจิ (ゆめタウン山口 / Youme Town Yamaguchi)
- ที่ตั้ง: 6-9-1, Ouchisenbo, Yamaguchi 753-0251
- เวลาทำการ: 10.00 - 21.00 น.
อีออนทาวน์ โอโกริ
อีออนทาวน์ โอโกริ (イオンタウン小郡 / AEON Twon Ogori) เป็นห้างในสังกัดอีอ้อนที่มีทุกที่ทั่วญี่ปุ่น ขายสินค้าหลากประเภทในพื้นที่หลากหลายชั้น มีสินค้าแฟชั่นท่านชายท่านหญิงและเด็กล่าสุดของญี่ปุ่นในเลือกซื้อ และมีร้านอาหาร ร้านกาแฟให้เวลาที่อยากพักทานอะไรระหว่างช้อปปิ้ง
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: อีออนทาวน์ โอโกริ (イオンタウン小郡 / AEON Twon Ogori)
- ที่ตั้ง: 2-24, Ogorimae Damachi, Yamaguchi 754-0023
- เวลาทำการ: 10.00 ~ 21.00 น.
ที่พักแนะนำในจังหวัดยามากุจิ
อุตส่าห์มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที ไปพักที่โรงแรมที่มีน้ำพุร้อนและสัมผัสวัฒนธรรมออนเซ็นที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นกันดีกว่าค่ะ เราขอแนะนำยูดะออนเซ็น (湯田温泉 / Yuda Onsen) หนึ่งในเมืองน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคซันโย และหมู่บ้านออนเซ็นฮากิ (萩温泉郷 / Hagi Onsenkyo) ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานค่ะ หากคุณไม่มีเวลาเหลือเฟือ การเดินทางจากสถานี JR Shin-Yamaguchi ก็สะดวกดีไม่ว่าจะไปที่ไหนค่ะ ดังนั้นเราจึงแนะนำโรงแรมที่อยู่ใกล้สถานีเช่นกันค่ะ
รายชื่อโรงแรมที่แนะนำ: (ดูรายละเอียดในแต่ละบทความ)
- APA Hotel Yamaguchi Hofu
- Comfort Hotel Shin-Yamaguchi
- Kokusai Hotel Yamaguchi
- Iwakuni Plaza Hotel
- Iwakuni Kokusai Kanko Hotel
- ฮังเก็ตสึอัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ทริปเที่ยวชมแหล่งมรดกโลกและเรียวกังเก่าแก่: 3 แหล่งออนเซ็นน่าเที่ยว + โรงแรมที่น่าพักในจังหวัดยามากุจิ
- โรงแรมน่าพักเวลาไปเที่ยวฮากิ ไปพักในเมืองประวัติศาสตร์ที่คุณสามารถลองใช้แผนที่สมัยเอโดะดูได้
เกี่ยวกับการเดินทางในจังหวัดยามากุจิ
สนามบินยามากุจิอุเบะ (山口宇部空港 / Yamaguchi Ube Airport) มีเที่ยวบินระหว่างประเทศไม่กี่เที่ยว ดังนั้นควรบินหรือนั่งชินคันเซ็นจากจังหวัดอื่นในญี่ปุ่นค่ะ
โดยเครื่องบิน
ทั้งสายการบิน JAL และ ANA มีเที่ยวบินไปลงสนามบินยามากุจิอุเบะจากสนามบินฮาเนดะในโตเกียวโดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง การเดินทางจากสนามบินอุเบะเข้าตัวเมือง สามารถขึ้นรถประจำทางไปลงสถานีชินยามากุจิได้ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ราคาเที่ยวเดียวตกประมาณ 910 เยน
โดยรถไฟ
วิธีทีง่ายที่สุดในการเดินทางเข้าตัวเมืองยามากุจิอีกวิธีหนึ่งก็คือการใช้บริการรถไฟฟ้า โดยสถานีหลักที่มีรถไฟชิงกังเซ็นบริการก็คือสถานีชินยามากุจิ มีรถไฟฟ้าวิ่งจากโอซาก้าไปยังยามากุจิบนสายชิงกังเซ็น JR ซันโย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในราคาประมาณ 12000 เยน นอกจากนี้ยังมีรถไฟที่วิ่งจากฟุกุโอกะโดยขึ้นรถไฟสาย JR Sanyo Shinkansen และใช้เวลา 35 นาทีด้วยค่าใช้จ่าย 5,000 เยน สุดท้ายคุณสามารถเดินทางไปยังยามากุจิ จากโตเกียวโดยรถไฟชิงกังเซ็น ซึ่งใช้เวลา 4.5 ชั่วโมงในราคาประมาณ 20,000 เยน
การคมนาคมโดยระบบขนส่งสาธารณะในจังหวัดยามากุจิส่วนใหญ่เป็นรถไฟหรือรถบัส เราขอแนะนำรถบัสนำเที่ยว "Yamaguchi Zekkei Mankitsu Bus" ค่ะ นอกจากนี้ ประสบการณ์การนั่งรถจักรไอน้ำ "SL Yamaguchi" ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีบางจุดที่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยระบบขนส่งสาธารณะ ดังนั้น หากคุณต้องการไปเที่ยวชมสถานที่อย่างอิสระ คุณควรใช้รถเช่าหรือแท็กซี่นำเที่ยวค่ะ
ที่เมืองยามากุจิ ฤดูร้อนก็ร้อนมากส่วนฤดูหนาวก็หนาวจัด ฤดูร้อนยังเป็นช่วงที่ฝนตกมากที่สุดในรอบปีอีกด้วย เพราะฉะนั้น ช่วงที่เหมาะที่สุดในการมาเที่ยวเมืองยามากุจิคือช่วงฤดูใบไม้ผลิซึ่งมีดอกซากุระให้ชมจากช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม และช่วงฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนอากาศเย็นและแห้งกว่า และยังมีใบไม้เปลี่ยนสีทั่วเมืองสร้างสีสันอันหลากหลายอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 5 ของอร่อยที่ควรลองทานดูให้ได้ตามร้านอาหารในยามากุจิ
- 4 ของดังประจำเมืองที่ควรลองทานดูให้ได้ตามร้านอาหารในฮากิ
Comments