พื้นที่คิวชูที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่น ฟุกุโอกะที่ขึ้นชื่อเรื่องราเม็งและมตสึนาเบะ คุมาโมโตะซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากคุมะมง โออิตะและซากะที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อนออนเซ็น นางาซากิ มิยาซากิ คาโกชิม่า ฯลฯ ที่มีทิวทัศน์ทะเลที่สวยงามและอาหารอร่อย แต่ละจังหวัดมีลักษณะเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันและเต็มไปด้วยไฮไลท์! ในครั้งนี้ เราจะแนะนำลักษณะและความแตกต่างในลักษณะจำเพาะของแต่ละจังหวัดในคิวชูกันค่ะ! การทราบข้อมูลนี้จะทำให้การเดินทางของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้นค่ะ!
ทบทวนตำแหน่งและข้อมูลท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดในพื้นที่คิวชู
"ภูมิภาคคิวชู" หมายถึงเกาะที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ที่สุดของ 4 เกาะใหญ่ในหมู่เกาะญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัด: ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโตะ โออิตะ มิยาซากิ และ คาโกชิม่า
แต่ละจังหวัดมีสนามบินของตัวเอง และใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 2.5 ชั่วโมงจากสนามบินฮาเนดะในโตเกียวไปยังสนามบินคาโกชิม่า ดังนั้นการใช้เครื่องบินสำหรับการออกจากหรือไปที่โตเกียวจึงสะดวก อย่างไรก็ตาม มีสนามบินที่ไม่มีเที่ยวบินจากภูมิภาคคันไซและพื้นที่อื่นๆ และสนามบินที่มีเที่ยวบินบริการน้อยมากด้วยค่ะ ในกรณีเช่นนี้ คุณต้องใช้สนามบินฟุกุโอกะหรือสถานี JR Hakata ซึ่งเป็นประตูทางเข้าสู่คิวชู และเปลี่ยนไปใช้เครื่องบิน ชินคันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษ และรถบัสทางด่วนจากที่นั่นอีกทีค่ะ
ถ้าคุณต้องการท่องเที่ยวรอบๆ คิวชู การใช้ Kyushu Shinkansen ซึ่งเชื่อมต่อสถานี Hakata และสถานี Kagoshima-Chuo จะสะดวกมาก คุณสามารถเข้าถึงสถานี Shin-Tosu ในจังหวัดซากะและสถานี Kumamoto จากสถานี JR Hakata ได้ในเวลาอันสั้น และตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา เส้นทาง West Kyushu ได้เปิดให้บริการแล้ว ทำให้ง่ายขึ้นในการเข้าถึงทาเคโอะออนเซ็นในจังหวัดซากะ และสถานี Nagasaki สถานีปลายทางในจังหวัดนางาซากิค่ะ
เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่น! ลักษณะและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของแต่ละจังหวัดในพื้นที่คิวชูมีอะไรบ้าง?
ลักษณะเฉพาะและสถานที่แทนของพื้นที่คิวชูซึ่งมีบุคลิกเฉพาะตัวที่เด่นชัดและมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายสำหรับแต่ละจังหวัด มีดังนี้ค่ะ
จังหวัดฟุกุโอกะ
บริเวณรอบๆ สถานี Hakata ย่านเท็นจิน-นาคาสุ ศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู และศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังงู ก็เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางค่ะ อาหารท้องถิ่นอย่างมตสึนาเบะและมิซุทากิ และอาหารข้างทางเช่น ราเม็งซุปกระดูกหมูก็ยังเป็นที่รู้จักในนาม "ฮาคาตะกูร์เมต์" ด้วยค่ะ
จังหวัดซากะ
เพลิดเพลินไปกับแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ การทำเครื่องเคลือบดินเผา และน้ำพุร้อน โดยเฉพาะที่มีชื่อเสียงคือสถานที่พักผ่อนที่น้ำพุร้อนเช่นอุเรชิโนะออนเซ็นและทาเคโอะออนเซ็น และเครื่องเคลือบดินเผาที่ทำขึ้นในสถานที่เช่นเมืองอาริตะ อำเภอคารัตสึ และอำเภออิมาริค่ะ
จังหวัดนางาซากิ
เมืองที่มีวัฒนธรรมเฉพาะตัวจากการค้ากับประเทศต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในฐานะเมืองคริสเตียน และสิ่งที่เหลือจากประวัติศาสตร์สงครามเช่นโดมปรมาณูและสวนสันติภาพนางาซากิค่ะ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อยจำนวนมากที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศต่างๆ เช่นเค้กคัสเตลล่าค่ะ
จังหวัดคุมาโมโตะ
เมืองที่มีปากปล่องภูดเขาไฟอาโสะที่มีชื่อเสียงทั่วโลกและบรรยากาศของเมืองในอาณัติปราสาทที่อยู่รอบปราสาทคุมาโมโตะ ของอร่อยคุมาโมโตะยังได้รับการยกย่องอย่างสูงและเป็นที่รู้จักกันดีในการผลิตผลิตภัณฑ์เกษตรเช่น "บาซาชิ" (ซาชิมิม้า) ที่ทำจากเนื้อม้าซึ่งมีปริมาณการผลิตในประเทศสูงสุด รวมถึงแตงโม มะเขือเทศและส้มโอด้วยค่ะ
จังหวัดโออิตะ
อำเภอเบปปุที่มีชื่อเสียงจากการทัวร์บ่อนรก (地獄めぐり / Jigokumeguri) และอำเภอยูฟุอินที่มั่งคั่งด้วยธรรมชาติ เป็นที่ที่น้ำพุร้อนที่กระจายอยู่ทั่วจังหวัด ที่คุณสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมน้ำพุร้อนที่ไม่เหมือนใครของญี่ปุ่นได้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่สนุกสนานในที่กลางแจ้งมากมาย เช่น สะพานแขวน "ยูเมะ" แห่งโคโคโนเอะ ซึ่งมีความสูงที่สูงที่สุดสำหรับสะพานที่เปิดให้เฉพาะคนเดินเท้าใช้เท่านั้นในญี่ปุ่นค่ะ
จังหวัดมิยาซากิ
เป็นที่รู้จักเรื่องชายฝั่งทะเลที่สวยงามและสภาพภูมิอากาศที่อบอุ่น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงรวมถึงชายฝั่งนิชินันซึ่งถูกกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ เกาะอาโอชิมะซึ่งเป็นสถานที่ตามตำนาน และทาคาจิโฮะซึ่งเป็นแหล่งเกิดตำนานเทพปกรณัมญี่ปุ่น อาหารท้องถิ่นก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน มีไก่ท้องถิ่น เนื้อวัวมิยาซากิ และผลไม้เช่นมะม่วงและผลไม้จำพวกส้มค่ะ
จังหวัดคาโกชิม่า
ภูเขาไฟซากุระตจิมะที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ก็เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดค่ะ ในปีหลังๆ การท่องเที่ยวไปยังเกาะเพื่อเยี่ยมชมแหล่งมรดกธรรมชาติของโลกที่เกาะยาคุชิมะ และเกาะอามามิโอชิมะ รวมถึงเกาะคิริชิมะและเกาะทาเนะงะชิมะก็ได้รับความนิยมอย่างมากค่ะ! อาหารท้องถิ่นก็มีอย่างมากมาย ทั้งหมูดำคาโกชิม่าและเนื้อวัวดำคาโกชิม่า และการผลิตโชจูจากมันเทศท้องถิ่นก็กำลังเป็นที่รุ่งเรืองค่ะ
ทำไมถึงเรียกว่า "คิวชู" ในเมื่อมีเพียงแค่ 7 จังหวัด? ที่มาของชื่อมาจากชื่อเก่าของดินแดน
ชื่อภูมิภาค "คิวชู" หมายถึง "เก้ารัฐ" ซึ่งประกอบด้วยตัวอักษร '九' (คิว) ที่แปลว่า "เก้า" และ '州' (ชู) ซึ่งหมายถึงเขตอยู่อาศัยหรือเขตการปกครอง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีเพียงแค่ 7 จังหวัดในคิวชูเท่านั้นค่ะ
ในความเป็นจริง ชื่อ "คิวชู" มาจากการที่มีดินแดนทั้งหมด 9 ดินแดนในยุคระบบริตสึเรียว Ritsuryo (ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 7 ถึงประมาณ 1870) ในสมัยนั้น มีแคว้นทั้งหมด 9 แคว้น อันได้แก่ ชิคุเซ็น (筑前 / Chikuzen) ชิคุโกะ (筑後 / Chikugo) บุเซ็น (豊前 / Buzen) บุงโกะ (豊後 / Bungo) ฮิเซ็น (肥前 / Hizen) ฮิโกะ (肥後 / Higo) ฮิวกะ (日向 / Hyuga) โอสุมิ (大隅 / Osumi) และซัตสึมะ (薩摩 / Satsuma) ในปัจจุบัน บางส่วนของชิคุเซ็น ชิคุโกะ และบุเซ็น ได้รวมกันเป็นจังหวัดฟุกุโอกะ และพื้นที่ของซัตสึมะและโอสุมิได้กลายเป็นจังหวัดคาโกชิม่า แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ แต่ชื่อ "คิวชู" ก็ยังคงถูกงานอยู่เช่นเดิมค่ะ
สัมผัสลักษณะเฉพาะของแต่ละจังหวัดผ่านราเม็งและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เพลิดเพลินกับอาหารอร่อยและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมคิวชู!
เมื่อพูดถึงคิวชู ก็จะคิดถึงอาหารอร่อยค่ะ! ในส่วนนี่เราจะแนะนำราเม็งซุปกระดูกหมูทงคตสึและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ผลิตขึ้นในปริมาณมากในแต่ละจังหวัด มาสนุกกับการรับประทานอาหารและเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมเนียมและวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดกันค่ะ!
ราเม็งซุปกระดูกหมูทงคตสึสะท้อนลักษณะเฉพาะของแต่ละจังหวัดจริงหรือ? แนะนำลักษณะของราเม็งที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่
©สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดฟุกุโอกะ
หลายคนอาจจะเชื่อมโยงราเม็งซุปกระดูกหมู (ทงคตสึ) กับราเม็งฮาคาตะจากฟุกุโอกะ แต่ในความเป็นจริง มีอาหารราเม็งทงคตสึท้องถิ่นในหลายส่วนของคิวชูด้วยค่ะ
ราเม็งคุรุเมะ
ที่ขึ้นชื่อมากก็คือราเม็งคุรุเมะจากอำเภอคุรุเมะ จังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งเป็นที่กำเนิดของราเม็งทงคตสึค่ะ
ราเม็งคุรุเมะ เช่นเดียวกับราเม็งฮาคาตะ ใช้ซุปกระดูกหมูที่มีความนัวและเส้นราเม็งที่ตรงแต่มันมีลักษณะเฉพาะที่มีรสชาติที่เข้มข้นขึ้น กลิ่นที่แรงกว่า และเส้นราเม็งที่หนากว่าค่ะ
ราเม็งคุมาโมโตะ
ราเม็งคุมาโมโตะน่าสนใจไม่เพียงแค่เพราะน้ำซุปกระดูกหมูเท่านั้น แต่ยังมีการใช้น้ำซุปที่ต้มด้วยกระดูกไก่และผักด้วย นอกจากนี้ มันยังมีลักษณะเฉพาะที่มีรสชาติที่เข้มข้นเนื่องจากการเพิ่มกระเทียมเจียวที่หอมและน้ำมันกระเทียม 'มายุ' (น้ำมันที่ทอดกับกระเทียม)
ราเม็งคาโกชิม่า
ถ้าคุณชอบซุปที่รสชาติเบา แนะนำราเม็งคาโกชิม่าค่ะ! คล้ายกับราเม็งคุมาโมโตะ ซุปทำจากกระดูกหมู กระดูกไก่ ผัก ฯลฯ แต่มีรสชาติที่บางกว่า นอกจากนี้ นอกจากหมูชาชูแล้ว ท็อปปิ้งมักจะมีผักมากมาย เช่น ต้นหอม ถั่วงอก กะหล่ำปลี และเสิร์ฟมาพร้อมผักดองซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองในจานแยกค่ะ
คิวชูเต็มไปด้วยเนื้อวัว ไก่ และหมูติดแบรนด์⁉ ไม่ได้ดังแค่อาหารทะเลเท่านั้น!
แม้ว่าคิวชูจะมีภาพลักษณ์เรื่องอาหารทะเลที่อุดมสมบูรณ์ แต่จริงๆ แล้วมันถูกทราบว่าเป็นฐานการผลิตผลผลิตทางปศุสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และยังรู้จักกับความหลากหลายของเนื้อที่อร่อยด้วยค่ะ
ตามข้อมูลผลผลิตทางการเกษตรของแต่ละจังหวัดในปี 2022 จังหวัดคาโกชิม่าอยู่ในอันดับที่ 1 ของประเทศในเรื่องของเนื้อวัวและหมู และอยู่ในอันดับที่ 2 ในเรื่องของไก่ จังหวัดมิยาซากิอยู่ในอันดับที่ 1 ในเรื่องของไก่และอันดับที่ 3 ในเรื่องของเนื้อวัว นอกจากนี้ยังมีเนื้อวัว หมู และไก่ติดแบรนด์ในจังหวัดฟุกุโอกะและจังหวัดคุมาโมโตะ และมีอาหารท้องถิ่นจำนวนมากที่ใช่สิ่งเหล่านี้ด้วยค่ะ
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดคาโกชิม่าก็คือเนื้อวัวดำคาโกชิม่าและหมูดำคาโกชิม่า โดยเฉพาะเนื้อวัวดำคาโกชิม่าได้รับอันดับที่ 1 ถึง 2 งานติดต่อกันในการแข่งขันวากิวโอลิมปิกปี 2022 ทำให้เป็นวากิวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ!
นอกจากนี้ จังหวัดมิยาซากิที่มีชื่อเสียงเรื่องไก่นัมบัน※ ไก่ย่างถ่าน และไก่ซาชิมิ ยังมีไก่ติดแบรนด์ชื่อดังหลายชนิด ที่แต่ละชนิดมีพื้นที่ผลิต รสชาติ และวิธีการทำอาหารที่แนะนำที่แตกต่างกัน เราขอแนะนำให้คุณลองชิมหลายๆ อย่างค่ะ
นอกจากนี้ยังมีสินค้าพื้นเมืองอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ไก่ฮากาตะจิโดริ ไก่แบรนด์ชื่อดังจากฟุกุโอกะที่มีชื่อเสียงเรื่องมิซุทากิ หมูรินโดที่ตั้งชื่อตามดอกไม้ของจังหวัด "รินโด" ของจังหวัดคุมาโมโตะ และเนื้อวัวซากะที่เลี้ยงด้วยน้ำและธรรมชาติที่มีคุณภาพสูงในจังหวัดซากะค่ะ
※ เมนูท้องถิ่นที่เสิร์ฟพร้อมซอสทาร์ทาร์บนไก่ทอดคาราอาเกะชิ้นใหญ่
มีความเป็นผู้ชายสูงและคอแข็ง⁉ คำอธิบายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะของ "หนุ่มคิวชู"
เมื่อคนญี่ปุ่นมีการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการ วลีที่พบบ่อยอย่าง "หนุ่มคิวชู" (九州男児 / Kyushu Danji) และ "สาวฮากาตะ" (博多美人 / Hakata Bijin) ซึ่งใช้แสดงถึงชาวคิวชูและฟุกุโอกะ ก็มักจะถูกใช้บ่อยครั้ง ในบทความนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับคำว่า "หนุ่มคิวชู" ซึ่งเป็นที่นิยมในงานปาร์ตี้และการสนทนาท้องถิ่น!
ภาพลักษณ์ของ "หนุ่มคิวชู" ที่คนญี่ปุ่นพูดถึงบ่อยครั้งคืออะไร?
คำว่า "หนุ่มคิวชู" ใช้เพื่ออธิบายผู้ชายที่มาจากคิวชูค่ะ
เหตุผลที่ถูกกล่าวคือเพราะ ไซโกะ ทาคาโมริ (西郷隆盛 / SAIGO Takamori) ผู้ที่มีบทบาทสำคัญใน "การฟื้นฟูแห่งสมัยเมจิ (1868)" ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งรัฐบาลใหม่และมีผลกระทบอย่างมากต่อการทำญี่ปุ่นให้ทันสมัยนั้น เป็นผู้ที่มาจากจังหวัดคาโกชิม่า ดังนั้นภาพลักษณ์ของผู้ชายคิวชูที่ "แข็งแรงและน่าเชื่อถือ" และ "ดื่มเหล้าเยอะ" จึงเด่นชัดค่ะ
"หนุ่มคิวชู" ที่คนญี่ปุ่นทั่วไปนึกถึง
- ชอบดื่มสุราและรักงานเทศกาลและกิจกรรม
- มีความรู้สึกลึกซึ้งและเอาใจเขามาใส่ใจเรา
- ไม่มีความอดทนและอารมณ์ร้อน
- มีพลังและมีความเป็นผู้นำ
- ชอบอวดและใช้เงินอย่างหรูหรา
สำหรับข้อ 1 นั้นมาจากความเจริญรุ่งเรืองในการผลิตและบริโภคโชจูค่ะ ในคิวชู โชจูท้องถิ่นถูกผลิตขึ้นในทุกจังหวัด และการบริโภคในคาโกชิม่าและมิยาซากิก็ติดอันดับสูงสุดในประเทศ โชจูมักมีระดับแอลกอฮอล์ระหว่าง 20 ถึง 30 องศา ซึ่งสูงกว่าสุราที่ผลิตในญี่ปุ่น และความคิดที่ว่า "การดื่มโชจูมาก = คอแข็ง" ก็ได้กลายเป็นเรื่องแพร่หลายค่ะ
นอกจากนี้ คิวชูยังมีชื่อเสียงในเทศกาลต่างๆ เช่น ฮากาตะกิองยามากาสะ นางาซากิคุนจิ และคารัตสึคุนจิ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความรักต่องานเทศกาล ความอาจหาญ และความกล้า! อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อเสียเช่นการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยสำหรับคนที่ชอบงานเทศกาลและชอบอวด ไม่มีความอดทน และอารมณ์ร้อน เช่นตัวอย่างในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งมีปริมาณการจราจรที่สูง คิวชูมักจะกลายเป็นข่าวเนื่องจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ค่อยดีของคนขับรถค่ะ
แนะนำลักษณะทั่วไปของแต่ละจังหวัดในคิวชู!
ชาวท้องถิ่นในคิวชูก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครค่ะ!
ฟุกุโอกะ: เมืองที่ทำให้คนที่ย้ายมาต้องร้องไห้⁉ ฟุกุโอกะเป็นเมืองที่อยู่สบายจนไม่อยากย้ายกลับ
เมืองฟุกุโอกะเป็นที่รู้จักในฐานะที่สุดยอดความนิยมไม่เพียงแค่ในหมู่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในหมู่ผู้ที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ด้วย เนื่องจากมีการเข้าถึงที่สะดวกจากสนามบินไปยังเมือง อาหารอร่อยมากมาย และสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการอยู่อาศัย บางครั้งนักธุรกิจญี่ปุ่นต้องย้ายไปยังพื้นที่ภูมิภาคเนื่องจากสถานการณ์ของบริษัท และฟุกุโอกะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ถูกย้ายไปประจำตามสำนักงานท้องถิ่นค่ะ มีคำพูดว่า "พนักงานที่ถูกให้ย้ายจากโตเกียวไปฟุกุโอกะจะร้องไห้สองครั้ง" นั่นคือพวกเขาจะร้องไห้ครั้งแรกเมื่อพวกเขาได้รับคำสั่งให้ย้ายไปประจำเพราะไม่อยากย้ายออกจากโตเกียว และจะร้องไห้อีกครั้งเมื่อต้องกลับเพราะไม่อยากย้ายออกจากฟุกุโอกะ นี่เป็นคำพูดที่สื่อให้เห็นว่าฟุกุโอกะเป็นเมืองที่สะดวกสบายและน่าสนใจในการอยู่อาศัยค่ะ
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดฟุกุโอกะ คลิกที่นี่
จังหวัดซากะ: ภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างเครื่องเคลือบดินเผาอาริตะ อิมาริ และคารัตสึ! ส่วนใหญ่ของเครื่องใช้ในบ้านทำจากในจังหวัด⁉
จังหวัดซากะเป็นที่กำเนิดของเครื่องเคลือบอาริตะ ซึ่งเป็นเครื่องเคลือบดินเผาญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงทั่วโลก นอกจากนี้เครื่องเคลือบคารัตสึจากอำเภอคารัตสึก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางค่ะ
ด้วยเหตุดังกล่าว ส่วนใหญ่ของเครื่องจานชามในครัวเรือนจึงถูกผลิตในจังหวัด แม้ในร้านราเม็งและอาหารเที่ยงโรงเรียน ก็มีการกล่าวว่าใช้จานและชามที่ผลิตในจังหวัด ยังมีข่าวลือว่าร้านรีไซเคิลในจังหวัดมีสต็อกแบรนด์ดังของเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิก เช่นเครื่องเคลือบอาริตะ เครื่องเคลือบอิมาริ และเครื่องเคลือบคารัตสึค่ะ!
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดซากะ คลิกที่นี่
จังหวัดนางาซากิ: อุด้นจานใหญ่เป็นอาหารหลักสำหรับวันโอบงและวันปีใหม่
ซาระอุด้ง (ราดหน้าหมี่กรอบ) เป็นอาหารจำพวกเส้นในนางาซากิซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศญี่ปุ่นค่ะ
เป็นเมนูหลักในการทานเที่ยงโรงเรียน และมักจะเสิร์ฟเป็นจานใหญ่ในการรวมตัวครอบครัวในช่วงโอบงหรือปีใหม่ จึงเป็นประเพณีในนางาซากิที่จะสั่งซาระอุด้งเป็นจานใหญ่จากร้านอาหารจีนท้องถิ่นและเสิร์ฟให้แขก ทุกคนจะรวมตัวรอบๆ โต๊ะกลมที่เสิร์ฟจานขนาดใหญ่นี้ค่ะ
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดนากาซากิ คลิกที่นี่
จังหวัดคุมาโมโตะ: น้ำประปามีรสชาติดีกว่าน้ำแร่ที่ขายตามร้าน!
จังหวัดคุมาโมโตะที่รู้จักกันดีเพราะมีภูเขาไฟอาโสะ ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเหตุนี้น้ำแร่จากภูเขาไหลลงมาทั่วจังหวัด และน้ำประปาในอำเภอคุมาโมโตะจึงเป็นน้ำบาดาล 100% ค่ะ
ในบรรดาเมืองที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลที่มีประชากรมากกว่า 700,000 คน ที่นี่เป็นเมืองเดียวในญี่ปุ่นที่น้ำประปาทั้งหมดเป็นน้ำบาดาล ชาวเมืองภูมิใจมากจนพูดว่า "ในคุมาโมโตะ น้ำแร่ธรรมชาติไหลออกจากก๊อกน้ำ" กันค่ะ
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดคูมาโมโตะ คลิกที่นี่
จังหวัดโออิตะ: จังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อน มีผู้คนที่สนุกกับการอาบน้ำพุร้อนทุกวันในบ้านของพวกเขาด้วยน้ำพุร้อนของตัวเอง!
เมื่อพูดถึงจังหวัดโออิตะนั้น ก็เป็นจังหวัดที่มีน้ำพุร้อนออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากค่ะ ในความเป็นจริง น้ำพุร้อนสามารถพบได้ในทุกที่ (16 อำเภอ-เมือง-หมู่บ้าน) ภายในจังหวัด ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งออนเซ็นที่ยอดเยี่ยมในญี่ปุ่นทั้งในเรื่องของ "จำนวนแหล่งน้ำพุร้อน" และ "ปริมาณน้ำที่ผุดออกมา" ค่ะ
ในอำเภอเบปปุและอำเภอยุฟุอิน มีอ่างแช่เท้า ออนเซ็นเรียวกัง และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงออนเซ็นทั่วทั้งเมืองค่ะ แต่คนท้องถิ่นหลายๆ คนเพลิดเพลินกับการอาบน้ำออนเซ็นทุกวันที่บ้านโดยการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีน้ำพุร้อนในตัว หรือไปที่น้ำพุร้อนสาธารณะที่กระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง ที่เรียกว่า "จิโมะเซ็น" ด้วยค่าธรรมเนียมที่แสนถูกเพียง 100 ถึง 300 เยนเท่านั้นค่ะ!
หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดโออิคตะ คลิกที่นี่
จังหวัดมิยาซากิ: แคมป์ฝึกเบสบอลมืออาชีพที่ไม่สามารถชมการแข่งเบสบอลชิงแชมป์โลกได้⁉ สถานการณ์สถานีโทรทัศน์ที่ "ต้องทำอะไรสักอย่าง"
จังหวัดมิยาซากิเป็นนิยมในฐานะสถานที่ค่ายฝึกสำหรับเบสบอลมืออาชีพ แต่นอกจากสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลแล้วก็มีสถานีโทรทัศน์เอกชนเพียง 2 สถานีเท่านั้น ดังนั้น ชาวจังหวัดจึงมักจะไม่สามารถชมการแข่งที่สำคัญได้ค่ะ
สถานที่ฝึกซ้อมของทีมชาติญี่ปุ่น "Samurai Japan" สำหรับ World Baseball Classic (WBC) ซึ่งเป็นการแข่งขันเพื่อหาทีมเบสบอลที่ดีที่สุดในโลกและจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2023 ก็อยู่ที่อำเภอมิยาซากิ จังหวัดมิยาซากิ เช่นกัน แต่เกมระหว่างญี่ปุ่นและอิตาลีที่ญี่ปุ่นชนะอย่างชัดเจนและไปสู่รอบรองชนะเลิศ และเกมชิงชนะเลิศก็ไม่ได้ถูกออกอากาศภายในจังหวัดมิยาซากิค่ะ
ผู้คนจำนวนมากในจังหวัดมิยาซากิก็เพิ่งรู้ว่าญี่ปุ่นได้ชนะการแข่งขันครั้งสุดท้ายผ่านทางทวิตเตอร์ (ปัจจุบัน X) ของคนอื่นค่ะ! จะมีวันไหนที่ชาวมิยาซากิจะสามารถชมการแข่งขันของ Samurai Japan ทั้งหมดได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ?
หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดมิยาซากิ คลิกที่นี่
จังหวัดคาโกชิม่า: จริงๆ แล้วเป็นอาณาจักรโซเม็ง! นางาชิโซเม็งที่ไม่ธรรมดาด้วย!
คนที่มาจากจังหวัดคาโกชิม่านั้น จริงๆ แล้วชอบเส้นโซเม็งมาก รับประทานเส้นโซเม็งกันตลอดทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น แต่ยังใส่ในซุปมิโสะและมีอาหารผัดที่เรียกว่า "ยุโซเม็ง"※ ด้วยค่ะ มีคำกล่าวว่าถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะให้อะไรเป็นของขวัญให้คนที่มาจากคาโกชิม่า ให้เส้นโซเม็งไปรับรองไม่พลาดกันเลยค่ะ
※ อาหารที่ทำจากการผัดเส้นโซเม็งที่ต้มสุกด้วยหมู ผัก และน้ำซุป
วิธีที่ชาวคาโกชิม่าทำนางาชิโซเม็ง (การไหลเส้นโซเม็ง) นั้นก็เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วยการใช้เครื่องหมุนค่ะ เพราะพวกเขาใช้เครื่องหมุนเส้นโซเม็งให้ไหลเป็นวงกลม ทุกคนสามารถรับประทานร่วมกันได้เหมือนกับว่าพวกเขากำลังนั่งล้อมรอบโต๊ะอาหาร ซึ่งดูสนุกสนานมากเลยค่ะ♪
Comments