เสื้อผ้าวินเทจและเสื้อผ้ามือสองกำลังได้รับความสนใจทั่วโลกโดยเกาะตามกระแส "SDGs" และ "Ethical Fashion" ค่ะ ในบรรดานั้น เสื้อผ้าวินเทจหรือมือสองของญี่ปุ่นคุณภาพสูงนั้นก็ได้รับความนิยมมาก และมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยที่ไปตามร้านเสื้อผ้ามือสองกันเพื่อค้นหาเสื้อผ้าแบบที่ถูกใจค่ะ
ในบทความนี้ เราจะมาลงละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ที่มีร้านค้าเสื้อผ้ามือสองและเสื้อผ้าวินเทจมากมายซึ่งก็กระจายอยู่ทั่วโตเกียว รวมถึงแหล่งสร้างกระแสฮิตอย่างชิบูย่าและฮาราจูกุค่ะ! แต่ละพื้นที่ก็มีลักษณะเฉพาะของตัวเองและมูลค่าในตลาดก็ยังแตกต่างกันค่ะ ดังนั้นอย่าลืมลองไปเดินดูรอบระหว่างท่องเที่ยวและค้นหาเสื้อผ้าชิ้นที่คุณถูกชะตาดูนะคะ
ชิบูย่า - ย่านที่มีร้านค้าเสื้อผ้าวินเทจและเสื้อผ้ามือสองเยอะ แหล่งสร้างกระแสฮิต มีตั้งแต่ร้านค้ารายบุคคลจนถึงร้านในเครือดัง สวรรค์แห่งเสื้อผ้าวินเทจและมือสอง
ชิบูย่าที่มีชื่อเสียงจากแยกสแครมเบิล คือฐานการสร้างกระแสนิยมใหม่ๆ ค่ะ ในยุค 90s ที่นี่ก็เป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมแกล (Gyaru) และแนวเพลงที่รู้จักกันในชื่อ "ชิบูย่าเค" (สไตล์ชิบูย่า) และยังคงเป็นเมืองที่สร้างกระแสต่างๆ อยู่เสมอค่ะ
เริ่มต้นด้วย SHIBUYA109 มีห้างสรรพสินค้าและสถานที่ค้าปลีกขนาดใหญ่เช่น Shibuya Hikarie, Scramble Square, Shibuya Parco, และ Seibu Shibuya รวมถึงร้านค้าแบรนด์แฟชั่นและร้านเลือกที่ตั้งอยู่ที่ระดับถนนค่ะ นอกจากนี้ยังมีร้านขายเสื้อผ้ามือสองและเสื้อผ้าวินเทจแบบดั้งเดิมที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่จินนันด้วยค่ะ
พื้นที่จินนันอยู่ห่างจากสถานี Shibuya เพียง 5 นาทีด้วยการเดิน เป็นพื้นที่ซึ่งยังเป็นที่รู้จักกันดีด้วยชื่อเล่น "ถนนชิบูย่าโคเอ็นโดริ" โดยเป็นย่านที่อยู่ระหว่างสวนโยโยงิกับสถานี Shibuya ตามสาย JR ค่ะ ในบริเวณใกล้เคียงมีสำนักงานราชการอย่างสำนักงานเขตชิบูย่า ไปจนถึงร้าน Tower Records Shibuya ค่ะ
ทั้งพื้นที่ทั้งหมดมีร้านสาขาของเครือใหญ่เช่น RAGTAG และร้านเสื้อผ้ามือสองที่มีอายุนานอยู่ริมทางค่ะ สามารถลองไปตรวจสอบทุกอย่างตั้งแต่กระแสฮิตล่าสุดจนถึงแฟชั่นถนนและสินค้าแบรนด์เน้นที่ไม่ซ้ำใครระหว่างที่เดินเที่ยวรอบๆ ได้ค่ะ
นอกจากนี้ Shibuya Parco ยังมี VCM MARKET BOOTH อยู่ที่ชั้น 4 รวมถึงร้านวินเทจอื่นๆ ในอาคารแฟชั่นที่หลากหลายค่ะ ความน่าสนใจคือคุณสามารถเลือกสินค้าโดยไม่ต้องคำนึงถึงรสนิยมแฟชั่นที่ชื่นชอบค่ะ
อย่างไรก็ตาม ช่วงราคาของสินค้าก็มีแนวโน้มที่จะสูงกว่าตามย่านชิโมคิตะซาว่าและโคเอ็นจิ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สินค้าที่ไม่มีแบรนด์จะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 10,000 เยนค่ะ
การเดินทาง: ถึงทันทีเมื่อเดินออกจากสถานีชิบุย่าบนรถไฟ JR สายต่างๆ รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สายต่างๆ รถไฟ Tokyu สายต่างๆ และรถไฟ Keio สาย Inokashira
ฮาราจูกุและโอโมเตะซันโด - เมืองที่มีร้านขายเสื้อผ้าวินเทจและมือสองเป็นจำนวนมาก สามารถหาเสื้อผ้าที่มีรสนิยมต่างๆ ได้บนถนน 3 สาย
พื้นที่ฮาราจูกุและโอโมเตะซันโดได้ให้กำเนิดคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ไม่ธรรมดาอย่าง "แฟชั่นแบบฮาราจูกุ" และ "วัฒนธรรมคาวาอี้" ค่ะ
นับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา ที่นี่เป็นเมกกะแฟชั่นที่ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ เช่น แบรนด์ DC*, แฟชั่นถนน, ชุดลำลองสไตล์อเมริกัน ฯลฯ และว่ากันว่าสาเหตุที่นักสะสมและตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองทั่วโลกขายยีนส์วินเทจในราคาที่สูงนั้นก็มีต้นกำเนิดมาจากร้านขายเสื้อผ้ามือสองในย่านฮาราจูกุค่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีร้านขายเสื้อผ้าวินเทจและมือสองมากมายตาม "ถนนทาเคชิตะ" ซึ่งทอดยาวประมาณ 400 เมตรจากทางออกทาเคชิตะของสถานี JR Harajuku "Cat Street" ที่เชื่อมต่อระหว่างชิบูย่ากับฮาราจูกุ และ "ถนนร้านขายของเก่ามินามิอาโอยามะ" ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีโอโมเตะซันโดประมาณ 10 นาทีด้วยการเดิน อย่างไรก็ตาม ลูกค้าและบรรยากาศของร้านขายเสื้อผ้าวินเทจตามถนนทั่งสามสายนี้ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงค่ะ
ตัวอย่างเช่น ถนนทาเคชิตะมีนักเรียนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และเนื่องจากมีร้านขายของที่ระลึก ร้านเครื่องสำอางราคาประหยัด และร้านขายของภูมิภาคจำนวนมาก ราคาต่อหน่วยของเสื้อผ้าวินเทจและเสื้อผ้ามือสองก็ถูก และมีสินค้าจำนวนมากที่สามารถซื้อได้ในราคาประมาณ 1000 ถึง 2000 เยน ร้านอย่างฮาราจูกุชิคาโกะและ KINJI ก็เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางค่ะ
ในทางกลับกัน Cat Street ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ "อุระฮาราจูกุ" ที่มีร้านแบรนด์ดังตามถนน ร้านที่คัดเลือกสินค้ามาขาย และคาเฟ่สุดกิ๊บเก๋ตั้งเรียงรายกัน ก็มีร้านค้าเสื้อผ้าวินเทจและมือสองในเครือใหญ่ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ อย่าง RAGTAG และ 2nd STREET และร้านค้าเสื้อผ้าวินเทจและมือสองส่วนบุคคลค่ะ
จากร้านขายเสื้อผ้ามือสอง BerBerJin ที่สร้างชื่อจากยีนส์ ร้านแฟชั่นถนนเช่น Dog ที่มีศิลปินจากต่างประเทศมาเยี่ยมชมโดยไม่เปิดเผยตัวตน ไปจนถึงร้านที่จำหน่ายเฉพาะเสื้อผ้ามือสองวินเทจจากยุโรป และร้านเฉพาะทางที่จำหน่ายสินค้าที่ถูกทำขึ้นใหม่ ความหลากหลายนี้ทำให้สามารถสนุกได้แม้เพียงแค่เดินชมสินค้าที่แสดงอยู่ค่ะ
สุดท้าย ถนนร้านขายของเก่ามินามิอาโอยามะเป็นถนนทอดยาวเป็นเส้นตรงที่เชื่อมต่อระหว่าง "ทางแยกมินามิอาโอยามะ 5-โจเมะ" บนถนนอาโอยามะและ "ทางแยกทาคาจิโจ" บนถนนรปปงงิค่ะ เป็นพื้นที่ที่คับคั่งไปด้วยร้านค้าแบรนด์ระดับสูงและจุดท่องเที่ยวเชิงศิลปะเช่นพิพิธภัณฑ์ทาโระโอคาโมโตะและพิพิธภัณฑ์เนซุในพื้นที่ใกล้เคียง ดังนั้น ร้านขายเสื้อผ้ามือสองในพื้นที่นี้ก็จะมีการจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ระดับสูงมือสองและร้านเครื่องประดับที่จัดจำหน่ายนาฬิกาและเครื่องประดับมากมาย แม้ว่าจะเป็นสินค้ามือสอง การซื้อสินค้าใหม่ก็อาจทำให้คุณจ่ายเงินเท่าเดิม หรืออาจมากกว่าถ้าเป็นสินค้าโบราณที่มีคุณค่าค่ะ!
※DC หมายถึง "Designers & Characters Brand" ซึ่งเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่น มันเป็นคำทั่วไปสำหรับแบรนด์ที่ออกแบบโดยนักออกแบบที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น เช่น COMME des GARÇONS, ISSEI MIYAKE, Yohji Yamamoto.
การเดินทาง: ถึงทันทีที่เดินจากสถานี JR Harajuku บนรถไฟ JR สาย Yamanote สถานี Meiji-Jingumae บนรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Chiyoda และสาย Fukutoshin, สถานี Omotesando บนรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza, สาย Chiyoda, และสาย Fukutoshin Line
ชิโมคิตะซาวะ - เมืองที่เต็มไปด้วยร้านขายของมือสองที่คุณสามารถหาเสื้อยืดของวงดนตรีและเสื้อผ้าที่มีสไตล์ในราคาถูกมาก
ชิโมคิตะซาวะ, พื้นที่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมากรอบๆ สถานีค่ะ ถนนช้อปปิ้ง Shimokita Senrogai (ถนนทางรถไฟ) ที่เกิดจากการพัฒนาที่ดินทางรถไฟเก่าเนื่องจากการย้ายสถานี Setagaya-Daita ไปอยู่ใต้ดินจากสถานี Higashi-Kitazawa ของสาย Odakyu และถนนช้อปปิ้ง Mikan Shimokita ที่เกิดขึ้นใต้ทางรถไฟยกระดับของรถไฟ Keio สาย Inokashira ก็เป็นสถานที่ที่น่าสนใจที่ปรากฏขึ้นหน้าสถานี ซึ่งทำให้ความนิยมของชิโมคิตะซาวะในฐานะเมืองสำหรับคนรุ่นใหม่ได้รับการจุดประกายขึ้นใหม่ค่ะ
พื้นที่นี้ที่มีชื่อเสียงเพราะวัฒนธรรมย่อย ละคร และดนตรี เป็นที่อยู่ของบุคคลทางวัฒนธรรมและนักดนตรีหลายราย และมีร้านขายเสื้อผ้ามือสองที่มีสไตล์แบบต่างๆ มากมายค่ะ
อย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ต่างจากชิบูย่าและฮาราจูกุ พื้นที่ด้านหน้าสถานีประกอบด้วยถนนช้อปปิ้ง 6 สาย และหลายร้านขายเสื้อผ้ามือสองก็ตั้งอยู่ภายในถนนช้อปปิ้งเหล่านี้ ทำให้ง่ายต่อการค้นหาเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดีที่ราคาถูกค่ะ และจะไม่น่าแปลกใจเลยที่จะสามารถซื้อเสื้อผ้าได้ในราคาต่ำกว่า 1000 เยนต่อชิ้น และยังมีร้านที่ถูกมากๆ เช่น Stick Out ที่ขายทุกอย่างในราคาเดียวกันหมดที่ 700 เยนค่ะ!
อาจเป็นเพราะจำนวนนักดนตรีที่มากในพื้นที่ ทำให้มีร้านค้าที่ขายเสื้อยืดวงดนตรีและแฟชั่นทหารเป็นจำนวนมาก คุณอาจพบของล้ำค่าที่คาดไม่ถึงที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นค่ะ!
การเดินทาง: ขึ้นรถไฟ Odakyu สาย Odawara จากสถานี Shinjuku และลงที่สถานี Shimokitazawa หรือขึ้นรถไฟ Keio สาย Inokashira (มุ่งหน้าไปทาง Kichijoji) จากสถานี Shibuya และลงที่สถานี Shimokitazawa
โคเอ็นจิ - เมืองที่เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าวินเทจและมือสอง! เพลินไปกับเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งของสุดละเมียด, อาหารอร่อย, และถนนช้อปปิ้ง
โคเอ็นจิเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนทางรถไฟ JR สาย Chuo และมักติดอันดับใน "เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในญี่ปุ่น" เป็นประจำค่ะ ที่นี่ก็โดดเด่นไปด้วยลักษณะเฉพาะตัวที่มีอาหารอร่อยเช่นราเม็งและข้าวแกงกะหรี่ เสื้อผ้ามือสองและวินเทจ และยังเป็นที่รู้จักในฐานะ "เมืองแห่งระบำอาวะ" โดยจัดงานเทศกาลระบำอาวะโอโดริที่โคเอ็นจิในโตเกียวทุกเดือนสิงหาคม ซึ่งดึงดูดผู้คนประมาณ 1.2 ล้านคนค่ะ
ทางออกทิศเหนือของสถานีนำไปสู่ถนนช้อปปิ้งโคเอ็นจิจุนโจที่มีลักษณะเก่าแก่ซึ่งเคยปรากฏในนวนิยายของฮารูกิ มูราคามิ ทางออกทิศใต้นำไปสู่ถนนช้อปปิ้ง Pal และถนนช้อปปิ้ง Look ที่ทอดยาวไปถึงสถานี Shin-Koenji ที่คุณสามารถเดินเล่นผ่านถนนค้าและช้อปปิ้งเสื้อผ้าวินเทจได้อย่างไม่ต้องกังวลค่ะ
มีร้านค้าจำนวนมากในถนนช้อปปิ้งที่มีราคาส่วนใหญ่ถูก แต่ถ้าคุณเดินเข้าไปในซอยจากถนนช้อปปิ้ง คุณจะพบร้านที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์แนววินเทจ ของเก่าที่ไม่มีที่ไหนเหมือน และผลิตภัณฑ์จากนักออกแบบญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงค่ะ แม้จะเป็นร้านเสื้อผ้าวินเทจและมือสอง แต่ก็ยังมีร้านที่มีความพิถีพิถันอยากมากคล้ายกับร้านคัดเลือกสินค้าเลยค่ะ ช่วงราคาของเสื้อผ้าอาจจะไม่ถูกขนาดในชิโมคิตะซาวะที่คุณสามารถซื้อเสื้อผ้าวินเทจได้ง่ายๆ ด้วยราคาไม่ถึง 1,000 เยน แถมบางรายการที่นี่ก็อาจมีราคามากกว่า 10,000 เยนต่อชิ้นเลยค่ะ
ในปัจจุบัน "เสื้อผ้ามือสองโคเอ็นจิ" ได้กลายเป็นแบรนด์อย่างหนึ่งไปแล้วด้วยค่ะ ด้วยนักดนตรีระดับโลกที่มีชื่อเสียงอย่าง Lady Gaga ไปเยี่ยมชมสถานที่อย่างเช่น Kitakore Building ด้วยค่ะ
การเดินทาง: จากสถานี Shinjuku ขึ้นรถไฟ JR สาย Sobu ไปทาง Mitaka หรือสาย Chuo Rapid ไปทาง Takaosan ลงที่สถานี Koenji
อุเอโนะ อาเมะโยโก - เมืองที่มีร้านเสื้อผ้าวินเทจเป็นจำนวนมาก! มีเสื้อผ้าทหารมากมาย! หนึ่งในสถานที่ช้อปปิ้งชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดมาจากตลาดมืด
หนึ่งในสถานที่ช้อปปิ้งชั้นนำของญี่ปุ่นคือตลาดอุเอโนะอาเมะยะโยโกโจ หรือที่นิยมเรียกกันว่า "อาเมะโยโก" ตั้งอยู่ในอุเอโนะซึ่งเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเช่นพิพิธภัณฑ์และสวนสัตว์ ถนนยาวประมาณ 500 เมตรที่เชื่อมต่อระหว่างสถานี JR Ueno และสถานี JR Okachimachi มีร้านค้าเฉพาะทางมากกว่า 400 ร้านค่ะ
เมื่อคุณนึกถึงอาเมะโยโก คุณอาจจะนึกถึงร้านค้าที่ขายอาหารและเครื่องปรุง การเดินรับประทานผลไม้และขนมหวานจากร้านแผงลอยข้างทาง เสียงเรียกลูกค้าที่คึกคักมีชีวิตชีวาและการแสดงที่ไม่ธรรมดาของพ่อค้า เช่น "ใส่เลย! ใส่เลย! ใส่เลย!" และ "แถมอีก! ให้อีกหนึ่ง!" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความน่ารักของการขายสินค้าราคาถูกค่ะ
อย่างไรก็ตาม อาเมะโยโกนั้นเริ่มต้นขึ้นมาจากการเป็นตลาดมืดหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มีร้านค้าจำนวนมากที่จัดการกับสินค้าที่เหลือมาจากกองทัพสหรัฐฯ เช่น เครื่องแบบทหาร และแม้กระทั่งตอนนี้ยังมีร้านค้าจำนวนมากเช่น Nakata Shoten ร้านค้าที่มีอายุนานตั้งแต่ปี 1956 ที่ขายสินค้าทางทหารและเครื่องแต่งกายทางทหารค่ะ
จากสินค้าวินเทจและมือสองที่ใช้ง่ายเช่นเสื้อยีนส์และเสื้อฟแลนเนล ไปจนถึงเสื้อทหารเช่น MA-1 และแจ็คเก็ตหนังสำหรับขับเครื่องบิน และแม้กระทั่งสินค้าทางทหารที่ดูเหมาะสำหรับการปิกนิกและกิจกรรมกลางแจ้ง ความหลากหลายและความไม่ซ้ำซ้อนของสินค้าเป็นเอกลักษณ์ของอาเมะโยโก! ในกรณีของเสื้อผ้ามือสองและวินเทจนั้น มีร้านค้าที่ราคาเป็นมิตรที่คุณสามารถซื้อเสื้อผ้าในราคาประมาณ 500 ถึง 2000 เยน แต่ช่วงราคาจะแตกต่างไปสำหรับเสื้อทหารค่ะ ควรระวังเพราะราคาจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงขึ้นอยู่กับว่าเป็นของทำเหมือนหรือสินค้าที่หลงเหลือมาจากที่ทหารเคยใช้จริงค่ะ
นอกจากนี้ยังมีร้านค้าจำนวนมากที่ขายเครื่องมือเก่าและงานศิลปะวินเทจ ดังนั้นอย่าลืมสนุกกับการท่องเที่ยวสินค้ามือสองเมื่อคุณเยี่ยมชมอาเมะโยโกนะคะ
การเดินทาง: ประมาณ 30 นาทีโดยรถไฟ JR สาย Yamanote จากสถานีชินจูกุ
ไม่ได้มีแค่เสื้อผ้าเท่านั้น! "ถนน●●" ต่างๆ ในโตเกียว
ในโตเกียว ยังมีหลายพื้นที่ที่รู้จักกันในนาม "ถนน●●" นอกเหนือจากเสื้อผ้ามือสองด้วยค่ะ ใช้ข้อมูลนี้เป็นแนวทางเมื่อคุณอยากซื้อของที่ระลึกญี่ปุ่นที่ไม่ธรรมดานะคะ!
นิปโปริ ถนนผ้า
พื้นที่รอบ ๆ สถานีนิปโปริของ JR Yamanote Line เป็นเขตขายส่งแบบดั้งเดิมสำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอค่ะ
เพียงเดิน 3 นาทีจากทางออกทางใต้ของสถานี ถนนนิปโปริชูโอโดริ รู้จักกันในนาม "ถนนทอผ้านิปโปริ" มีร้านสิ่งทอผ้าและผ้าทอประมาณ 90 ร้าน แต่ละร้านก็ขายสินค้าทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าและงานฝีมือ รวมถึงผ้าสำหรับทั้งกิโมโนและเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตก กระดุม อุปกรณ์เย็บผ้า แพทเทิร์นตัดผ้า อุปกรณ์เสริมและอื่นๆ อีกมากมายค่ะ
การเข้าถึง: ประมาณ 20 นาทีโดยรถไฟ JR สาย Yamanote จากสถานีชินจูกุ
กัปปะบาชิ ถนนเครื่องครัว
ถนนคัปปะบาชิโดกุ เป็นถนนทอดยาวแนวเหนือใต้ที่มีความยาวประมาณ 800 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างอาซากุสะและอุเอโนะ สามารถเดินทางไปถึงได้ในระยะเวลาประมาณ 5 นาทีจากสถานี Tawaramachi บนรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza หรือสถานี Asakusa บนสาย Tsukuba Express และเป็นถนนช้อปปิ้งแห่งเครื่องครัวที่มีนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมไม่เพียงแค่ร่วมในทริปเที่ยวอาซากุสะอย่างวัดเซนโซจิ แต่ยังมีช่างครัวมืออาชีพจากต่างประเทศมาเยี่ยมชมในระหว่างการเยี่ยมชมญี่ปุ่นกันด้วยค่ะ
นอกจากเครื่องใช้ในการรับประทานอาหารประจำวันและมีดแล้ว ยังมีอุปกรณ์ทำอาหารที่หลากหลาย เช่น กระทะและหม้อ รวมถึงอุปกรณ์ทำขนมหวาน เช่น แม่พิมพ์เค้กและคุกกี้ นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างอาหารที่ซับซ้อนและโคมไฟที่มีตัวอักษรญี่ปุ่น ทำให้การหาของที่ระลึกนั้นสนุกสนานเพลิดเพลินอย่างยิ่งค่ะ!
การเดินทาง: เดินเท้า 5 นาทีจากสถานี Tawaramachi บนรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 3 เมืองหนังสือมือสองแห่งโตเกียว ถ้าต้องการหาหนังสือที่จะเป็นความทรงจำของชีวิต ไปที่นี่กันเลย
- จุดช้อปปิ้งที่แนะนำในกัปปะบาชิ - KAPPABASHI STREET ตอนที่ 1
- จุดช้อปปิ้งที่แนะนำในกัปปะบาชิ - KAPPABASHI STREET ตอนที่ 2
- 【เทรนด์ล่าสุด】อาหารเดินกินและสินค้าพิเศษในอาซากุสะ โตเกียว
- คู่มือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในอุเอโนะฉบับสมบูรณ์ ตั้งแต่แหล่งช้อปปิ้งไปจนถึงร้านอาหาร สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และอื่น ๆ อีกมากมาย!
- คู่มือแนะนำสถานีชิบูย่าในโตเกียวฉบับสมบูรณ์: ตั้งแต่เส้นทางรถไฟ ประตูตรวจตั๋ว ทางออก ไปจนถึงตั๋วลดราคา
- 【คาเฟ่น่าจับตาในโตเกียว!】คาเฟ่ที่มีสไตล์ในพื้นที่ชิบูย่าและฮาราจูกุที่สามารถใช้สำหรับมื้อเที่ยงและชายามบ่ายได้
Comments