ไปโอซาก้าจากสถานีโตเกียวด้วย Tokaido Shinkansen! ใครที่อยากไปเที่ยวโตเกียวและโอซาก้าในคราวเดียวไม่ควรพลาด!

  • 14 กุมภาพันธ์ 2023
  • 29 มิถุนายน 2022
  • Cody Ng
  • Mon

ในการไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ชาวต่างชาติหลายคนก็อยากจะไปสองเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและโอซาก้ากันค่ะ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ระยะทางระหว่างโตเกียวกับโอซาก้านั้นไกลถึง 500 กม. เลยทีเดียว โดยจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงหากคุณโดยสารเที่ยวบินภายในประเทศ แต่จะใช้เวลาจริงนานกว่านั้นหากคุณรวมเวลาเช็คอินเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากคุณนั่งชินคันเซ็น คุณสามารถขึ้นที่สถานีโตเกียวและมาถึงสถานีโอซาก้าได้ภายในเวลาเพียงสองชั่วโมงครึ่ง! สะดวกมาก! ครั้งนี้เราจะมาแนะนำประเภทของชินคันเซ็นที่สามารถขึ้นที่สถานีโตเกียวและไปจนถึงโอซาก้าได้ค่ะ

ชินคันเซ็นของญี่ปุ่นคืออะไร?

ชินคันเซ็นนั้นเร็วมาก!

ชินคันเซ็นของญี่ปุ่นคืออะไร?
เอื้อเฟื้อภาพโดย: JR Central

“ชินคันเซ็น” (新幹線 / Shinkansen แปลว่า สายหลักใหม่) เป็นชื่อรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรถไฟที่สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 200 กม./ชม. ขึ้นไป ชินคันเซ็นปรากฏตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นบนสาย Tokaido Shinkansen ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างโตเกียวและโอซาก้า โดยเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1964 รถไฟชินคันเซ็นสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่สูงมากประมาณ 285 กม. / ชม. แต่ได้รับความไว้วางใจจากความปลอดภัยที่โดดเด่น เมื่อเดินทางไกล ขอแนะนำให้ใช้ชินคันเซ็นแทนรถไฟธรรมดาที่เรียกว่า "ไซไรเซ็น" (在来線 / Zairaisen แปลว่า สายทั่วไป) ค่ะ

ตั๋วแบบระบุที่นั่งกับแบบไม่ระบุที่นั่ง แบบไหนดีกว่ากัน?

ตั๋วแบบระบุที่นั่งก็เป็นไปตามชื่อค่ะ สามารถระบุตู้รถไฟและที่นั่งที่จะไปนั่งได้ล่วงหน้า แต่ในทางกลับกัน ตั๋วแบบไม่ระบุที่นั่งนั้นสามารถขึ้นไปใช้บริการรถไฟชินคันเซ็นได้ไหนขบวนไหนก็ได้หากอยู่ในวันที่และเส้นทางวิ่งที่ระบุในตั๋ว อย่างไรก็ตาม ตั๋วแบบนี้ก็ไม่สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ ดังนั้น หากคุณจะเดินทางบนรถไฟเป็นเวลานาน ขอแนะนำให้เลือกตั๋วแบบระบุที่นั่งเพื่อสำรองที่นั่งแทนการไปแย่งที่นั่งกับคนอื่นค่ะ

ตู้ Green Car ของชินคันเซ็น เหมือนเครื่องบินชั้นหนึ่งหรือไม่?

ชินคันเซ็นของญี่ปุ่นคืออะไร?
เอื้อเฟื้อภาพโดย: JR Central

รถไฟชินคันเซ็นประกอบด้วย "ตู้ขบวนธรรมดา" และ "ตู้ขบวน Green Car" โดยทั่วไปแล้ว ตู้ขบวน Green Car จะมีที่นั่งที่กว้างกว่าและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีกว่าตู้ขบวนธรรมดาค่ะ พูดง่าย ๆ ก็คือเครื่องบินที่นั่งชั้นประหยัด (ตู้ขบวนธรรมดา) และชั้นหนึ่ง (ตู้ขบวน Green Car) นั่นเองค่ะ ราคาตั๋วก็จะแตกต่างกันด้วย ดังนั้นเวลาซื้อต้องสังเกตดี ๆ นะคะ

หากคุณกำลังจะเดินทางจากโตเกียวไปยังโอซาก้า ให้ขึ้น Tokaido Shinkansen!

เนื่องจากสถานี Tokyo มีขนาดใหญ่ คุณจึงสามารถใช้บริการทั้งรถไฟชินคันเซ็น รถไฟธรรมดา และรถไฟเอกชนได้ ในบรรดารถไฟที่ให้บริการนี้ก็มีรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็นทั้งหมด 7 สายที่สามารถเข้าถึงปลายทางได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ตั้งแต่สายที่วิ่งไปยังฮอกไกโดทางเหนือของญี่ปุ่นไปจนถึงสายที่วิ่งไปคิวชูทางตอนใต้ค่ะ

สายที่ขึ้นจากสถานี Tokyo ได้ก็ได้แก่ Hokkaido Shinkansen, Akita Shinkansen, Yamagata Shinkansen, Tohoku Shinkansen, Joetsu Shinkansen, Hokuriku Shinkansen และ Tokaido / Sanyo Shinkansen ค่ะ

สายรถไฟชินคันเซ็นที่วิ่งระหว่างสถานี Tokyo และสถานี Shin-Osaka เรียกว่า "Tokaido Shinkansen" และสายรถไฟชินคันเซ็นที่วิ่งระหว่างสถานี Shin-Osaka และสถานี Hakata (ในจังหวัดฟุกุโอกะ) ในคิวชูเรียกว่า "Sanyo Shinkansen" ค่ะ สาย Tokaido Shinkansen ให้บริการวิ่งต่อเนื่องกับสาย Sanyo Shinkansen ดังนั้นหากคุณขึ้นชินคันเซ็นที่สถานีโตเกียว คุณสามารถไปถึงสถานี Hakata ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟเลยค่ะ

Nozomi, Hikari, และ Kodama ต่างกันอย่างไร?

Nozomi, Hikari, และ Kodama ต่างกันอย่างไร?
เอื้อเฟื้อภาพโดย: JR Central

ชินคันเซ็นนั่นจะมีชื่อเล่นสำหรับขบวนแต่ละประเภท ทำให้ต่างจากรถไฟธรรมดาค่ะ ขบวนรถไฟในสาย Tokaido Shinkansen มี 3 ประเภท: Nozomi, Hikari และ Kodama การจัดที่นั่งก็เหมือนกัน แต่ลักษณะเฉพาะจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรถไฟ ดังนั้นให้เลือกขบวนรถไฟตามความต้องการและตารางการเดินทางของคุณ

ในบรรดารถไฟ 3 ประเภทนี้ Nozomi มีสถานีแวะรับส่งผู้โดยสารน้อยที่สุดและใช้เวลาเดินทางสั้นที่สุดจากสถานี Tokyo ไปยังสถานี Shin-Osaka ค่ะ


Nozomi (のぞみ)
Hikari (ひかり)
Kodama (こだま)
ความเร็วสูงสุด
285km
285km
285km
ความถี่การออกรถ
มากที่สุด 12 ขบวนต่อชั่วโมง
มากที่สุด 2 ขบวนต่อชั่วโมง
มากที่สุด 3 ขบวนต่อชั่วโมง
เวลาระหว่างสถานี Tokyo กับสถานี Osaka (เร็วสุด)
2 ชั่วโมง 21 นาที
2 ชั่วโมง 45 นาที3 ชั่วโมง 42 นาที
การขายของบนรถไฟ
มี
มี
ไม่มี
ราคาค่าตั๋วโดยสาร
(ตู้ขบวนธรรมดาแบบระบุที่นั่ง ช่วงเวลาปกติ)
14,720 เยน
14,400 เยน
14,400 เยน

โปรดทราบว่าสถานี Shin-Osaka นั้นแตกต่างจากสถานี Osaka นอกจากนี้ หากคุณใช้รถไฟขบวน "Hikari" และ "Kodama" โดยใช้ตั๋วพาสสำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ (JR PASS) คุณจะสามารถประหยัดได้มากกว่านั้นอีกด้วยค่ะ!

* JR PASS ไม่สามารถใช้กับขบวน "Nozomi" ได้

วิธีเพลิดเพลินไปกับชินคันเซ็น? ความสะดวกสบายที่โดดเด่น!

Nozomi, Hikari, และ Kodama ต่างกันอย่างไร?
เอื้อเฟื้อภาพโดย: JR Central

ตู้ขบวนของ "ชินคันเซ็น" และ "ไซไรเซ็น" (รถไฟธรรมดา) นั้นแตกต่างกันมาก คุณสมบัติที่เด่นชัดที่สุดของชินคันเซ็นคือมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในรถไฟมากมาย! ตู้ขบวนของชินคันเซ็นมีห้องสุขา ห้องล้างหน้า และห้องสูบบุหรี่ ต่อให้ต้องนั่งนาน ๆ คุณก็สามารถนั่งได้อย่างอุ่นใจค่ะ

ที่นั่งบนรถไฟชินคันเซ็นนั้นก็ไม่ได้เป็น "แถวหน้ากระดานตามความยาวรถไฟทั้งสองข้าง" เหมือนรถไฟธรรมดาค่ะ แต่ที่นั่งสำหรับ 2-3 คนจะจัดเรียงในแนวขวางของตู้ขบวน และคุณยังสามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิและทะเลจากที่นั่งริมหน้าต่างขณะรถวิ่งได้ด้วย! นอกจากที่นั่งที่กว้างขวางแล้วก็ยังมีพื้นที่สำหรับวางกระเป๋าเดินทางโดยเฉพาะด้วย! แถมยังสามารถปรับมุมของพนักพิงได้อย่างอิสระ ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณใช้โต๊ะพับหน้าที่นั่ง คุณก็สามารถกินเอกิเบ็น (ข้าวกล่องสถานีรถไฟ) ที่สามารถซื้อจากบริการขายสินค้าในรถไฟได้ ต่อให้ออกเช้าแค่ไหนก็กินอาหารเช้าในรถให้เสร็จได้ค่ะ!

นอกจากนี้ คุณสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ปลั๊กไฟสำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือและ Wifi ฟรี เพื่อให้คุณสามารถเดินทางไปพลางเพลิดเพลินกับภาพยนตร์และเพลงบนคอมพิวเตอร์ส่วนตัวหรือสมาร์ทโฟนในพื้นที่ที่สะดวกสบายไปพลางได้นั่นเองค่ะ!

งั้นเรามาซื้อตั๋ว Tokaido Shinkansen กันเถอะ!

จะซื้อตั๋วชินคันเซ็นได้อย่างไรและที่ไหนได้บ้าง เราจะอธิบายกันในส่วนนี้ค่ะ

ต้องใช้ตั๋วค่าโดยสารและตั๋วรถไฟชินคันเซ็นด่วนพิเศษด้วย!

สำหรับตั๋วในการนั่งชินคันเซ็น คุณต้องใช้ทั้ง "ตั๋วค่าโดยสาร" และ "ตั๋วรถด่วนพิเศษ" แต่โปรดทราบว่ามีบางกรณีที่แยกเป็นตั๋ว 2 ใบ และมีบางกรณีที่ออกตั๋วค่าโดยสารและตั๋วรถด่วนพิเศษในใบเดียวกันค่ะ "ตั๋วค่าโดยสาร" ก็เหมือนกับตั๋วโดยสารรถไฟธรรมดาค่ะ "ตั๋วรถด่วนพิเศษ" เป็นตั๋วที่จำเป็นสำหรับรถไฟที่อัพเกรดขึ้นมาซึ่งสามารถเคลื่อนที่ "เร็ว" และ "สบาย" ได้

วิธีซื้อตั๋ว

คุณยังสามารถซื้อตั๋วชินคันเซ็นทางอินเทอร์เน็ต ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วตามสถานี และที่ JR Midori no Madoguchi (JR Ticket Office) ค่ะ หากคุณไม่แน่ใจ ก็ควรไปซื้อที่สำนักงานขายตั๋ว Midori no Madoguchi ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการ นอกจากนี้ ราคาตั๋วจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าเป็นตู้ขบวนธรรมดาหรือตู้ขบวน Green Car และเป็นตั๋วแบบไม่ระบุที่นั่งหรือแบบระบุที่นั่ง เมื่อซื้อที่ Midori no Madoguchi ก็ควรตัดสินใจประเภทตั๋วล่วงหน้าและกรอก "แบบฟอร์มการขอซื้อตั๋วค่าโดยสาร / ตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ" ให้เรียบร้อยก่อนยื่นใหเเจ้าหน้าที่ของ Midori no Madoguchi เพื่อความราบรื่นและรวดเร็วค่ะ

แม้ว่าคุณจะซื้อ JR PASS แต่ถ้าหากคุณต้องซื้อตั๋วแบบระบุที่นั่ง ก็จำเป็นต้องทำการจองที่นั่งล่วงหน้าด้วยค่ะ ดังนั้นก่อนขึ้นรถไฟก็อย่าลืมไปจองให้เรียบร้อยนะคะ!

บทความที่เกี่ยวข้อง

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend