เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 58: เกมจับผิดเรื่องเล่า เรื่องที่รู้ความหมายปุ๊บสยองปั๊บ ครั้งที่ 3

  • 2 พฤษภาคม 2024
  • Mon
  • Mon

เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 58: เกมจับผิดเรื่องเล่า เรื่องที่รู้ความหมายปุ๊บสยองปั๊บ ครั้งที่ 3

กลับมาอีกครั้งนะครับสำหรับ "เรื่องที่รู้ความหมายปุ๊บสยองปั๊บ" หรือ "อิมิโควะ" ที่หลายคนชอบกันมากในคอลัมน์นี้ ครั้งนี้ก็นำ 4 เรื่องมาฝากกันเช่นเคย และเพื่อให้ทุกคนได้สนุกกับการลองคิดหาคำตอบกัน ครั้งนี้เราจะเก็บเฉลยไว้เปิดเผยทีหลังกันครับ ส่วนใครที่อยากท้าทายเกมนี้ เขียนคำตอบของตัวเองลงในช่องคอมเม้นต์ได้นะครับ!

อ่าน "อิมิโควะ" ครั้งก่อนๆ

งานศพ

【เรื่องที่รู้ความหมายปุ๊บสยองปั๊บ】งานศพ

ปู่ผมเสียชีวิตไป เนื่องจากไม่ค่อยได้เจอปู่เลยไม่ค่อยรู้จัก แต่วันนี้ก็มางานศพปู่ครับ

ไหน ๆ ก็ว่าง เลยเล่นซ่อนหากับญาติ ๆ ที่เป็นเด็กด้วยกัน
แต่ก็โดนแม่ดุว่า อยู่ในงานพิธี ทำตัวให้ดีหน่อยสิ

ในญาติที่เป็นเด็ก ๆ ด้วยกัน ก็มีเด็กที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนด้วย แต่ก็เล่นสนุกด้วยกันได้เร็วไว
พอทุกคนโดนดุเช่นนั้น ก็มานั่งอารมณ์บูดเหมือนกันหมด

สักพักก็มีรถทัวร์มา แม่ก็บอกให้ขึ้นรถเพื่อไปที่ฌาปนสถานครับ
เพราะว่าไม่อยากโดนดุอีก เลยขึ้นไปนั่งกันอย่างเรียบร้อย

ทุกคนนั่งบนรถจนครบ แต่กลับมีป้าคนหนึ่งไม่ขึ้นรถ วิ่งวนไปวนมาเรียกชื่อใครอยู่
ก็แอบคิดนะครับว่า ทำไมทีพวกผมวิ่งเล่นส่งเสียงดังกันกลับโดนดุ แต่คุณป้าตะโกนโหวกเหวกโวยวาย กลับไม่เห็นมีใครดุเลย

รถทัวร์ก็ออก พองานศพก็เสร็จสิ้น ก็มีตำรวจมากันมากมาย
เห็นบอกว่า อัฐิของปู่ มีจำนวนเหมือนของศพสองศพ ฟังแล้วก็ไม่เข้าใจครับ อยากรีบกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว

ขับรถเล่นกันทั้งครอบครัว

【เรื่องที่รู้ความหมายปุ๊บสยองปั๊บ】ขับรถเล่นกันทั้งครอบครัว

ครอบครัวชั้นมี 4 คนค่ะ มีชั้น พ่อ แม่ และน้องสาว

วันหนึ่ง ระหว่างที่ขับรถไปกันทั้งครอบครัว ชั้นเป็นคนขับ
ตอนที่ขับมาถึงทางบนเขา ก็เจอทางโค้งยาว ตอนที่ลดความเร็วลงเพื่อเข้าโค้ง
จู่ ๆ รถคันหลังก็เร่งเครื่องมาชนท้ายเข้า รถของพวกชั้นเลยตกเขาค่ะ

ตัวชั้นรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่แม่และน้องสาวเสียชีวิต ส่วนพ่อก็หายสาบสูญค่ะ
รถที่ขับมาชนท้ายก็หนีหายไปค่ะ

แกล้งป่วย

【เรื่องที่รู้ความหมายปุ๊บสยองปั๊บ】แกล้งป่วย

วันนี้เป็นวันแข่งกีฬาสีที่เกลียดเอามาก ๆ

อยากหยุดพักอยู่บ้าน แกล้งป่วยเป็นไข้ดีกว่า

แต่ป๊าบอกให้ลองวัดไข้ดู
ทำไงดี อ้อ ที่บ้านมีเครื่องวัดอุณหภูมิรุ่นเก่าอยู่
อ๊ะ!

จู่ ๆ ลูกสาวก็ทำหน้าตกใจ
ต่อให้บอกว่าเกลียดการเล่นกีฬาสีแค่ไหน จะมาแกล้งป่วยเพื่อไม่ไปแบบนี้ไม่ได้
พอจะลองวัดไข้ดู เครื่องวัดกลับพังขึ้นมา

นี่จงใจแอบทำพังเพื่อไม่ให้วัดไข้ได้เหรอ ทีแรกก็โกรธ
แต่เห็นสีหน้าลูกสาวแล้วอาการเหมือนจะหนักจริงๆ
เลยให้ภรรยาพาไปโรงพยาบาลแทน

เอ้า อุตส่าห์ชงชาไว้ร้อนๆ เย็นชืดหมดซะแล้ว
เพราะว่าเย็นชืดรึเปล่านะ รสชาติแย่เอามากๆ

อาคารร้าง

【เรื่องที่รู้ความหมายปุ๊บสยองปั๊บ】อาคารร้าง

ผมกับเพื่อนคนหนึ่งได้เข้าไปลองของที่อาคารร้างแห่งหนึ่ง เป็นอพาร์ตเมนต์คอนกรีต 2 ชั้น โดยเข้าไปตอนกลางวัน

เมื่อขึ้นไปสำรวจถึงชั้นสองก็พบประตูบานหนึ่งมีข้อความเขียนไว้ว่า
ฉันอยู่ในนี้

สองคนก็กล้า ๆ กลัว ๆ เปิดประตูเดินเข้าไป ก็พบผนังและห้องย่อย 2 ห้องอยู่ซ้ายขวา มีข้อความเขียนไว้ว่า
หัวอยู่ทางซ้าย ร่างอยู่ทางขวา

เพื่อนเห็นก็จิตเตลิด วิ่งหนีไปก่อน
ผมก็ทำใจดีสู้เสือ เดินไปยังห้องทางขวา

กลับพบว่าห้องสะอาดไม่มีรอยเปรอะเปื้อนใด ๆ ที่พื้นเลย
จนไปสุดที่ผนัง ก็มีข้อความเขียนไว้ว่า
ร่างของฉันอยู่ข้างล่าง

พอมองลงข้างล่าง ก็มีข้อความว่า
หัวของฉันกำลังมาจากห้องทางซ้าย อย่ามองข้างหลังนะ

ผมก็ปีนหน้าต่างกระโดดหนีทันที
จากนั้นผมก็ไม่ได้ย่างกรายไปยังอาคารร้างนั้นอีกเลย

เฉลย (ใครที่อยากท้าทายหาคำตอบเอง อย่าเพิ่งรีบอ่านเฉลยนะครับ!)

งานศพ

เรื่องนี้ง่าย ๆ แต่ประเด็นหลักอยู่ที่การจำว่าเด็กเล่นอะไรกัน แน่นอนครับ เล่นซ่อนหา เลยมีคนไปซ่อนในโลง

จนถูกนำไปฌาปนสถานและถูกฌาปนกิจไปด้วย

ขับรถเล่นกันทั้งครอบครัว

ประเด็นอยู่ในสิ่งที่เรื่องไม่ได้บอก คือจำนวนรถที่ขับกันไปทั้งครอบครัว กับพ่อที่หายสาบสูญที่ดูผิดธรรมชาติ เพราะเส้นทางตามเขาไม่มีทางแยกทางเชื่อมใดๆ ถ้าไม่กระเด็นหลุดจากรถก็น่าจะหาเจอ

แต่ถ้าพ่อเป็นคนขับรถคันที่ 2 ที่วิ่งตามหลัง ก็จะพอเดาได้เลยว่าใครเป็นฆาตกรตัวจริงที่วางแผนฆ่าครอบครัวตัวเอง จึงอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม เลยต้องทำตัวหายสาบสูญนั่นเองครับ...

แกล้งป่วย

ลูกสาวจะหลอกว่ามีไข้เลยแอบเอาปรอทวัดไข้ไปจุ่มในชาของพ่อ แต่ดันทำปรอทแตกในแก้วน้ำชา แน่นอนว่าปรอทเป็นพิษต่อร่างกาย ทั้งการสูดดม สัมผัส หรือแม้แต่การกิน... หลายคนอาจจะมองข้ามว่าทำไมลูกสาวอาการหนักเหมือนป่วยจริง ก็เพราะเธออาจจะสัมผัสและสูดไอปรอทเข้าไปครับ

ส่วนพ่อนี่ดื่มชาที่ผสมปรอทเข้าไปแล้ว...

อาคารร้าง

มีคำตอบถูกต้องสองแบบครับ 

แบบแรกก็คือ ข้อความสุดท้ายไม่ได้ระบุว่าโดน “เขียน” ครับ ทำให้อาจตีความได้ว่า เป็นเสียงครับ

อีกแบบนั่นก็คือพื้นที่สะอาด ถ้ามีข้อความข้างล่างแต่แรกต้องมองเห็นแล้ว แต่นี่เพิ่งมาเห็นหลังอ่านข้อความบนผนัง นี่ก็หลอนได้ระดับหนึ่งว่าข้อความมาจากไหน...

แบบแรกต่อให้ไม่ใช่เสียงผี ก็อาจจะเป็นคนไร้บ้านที่อาศัยอยู่ หรือฆาตกรโรคจิตที่หนีมากบดานอยู่ก็ได้ (มิน่าพื้นถึงสะอาด มีคนอยู่นี่เอง) ส่วนแบบหลังนี่คงไม่น่าจะใช่คนแน่ๆ... แต่ทางที่ดี โกยไว้ก่อนเถอะครับ

อ่าน "อิมิโควะ" ครั้งก่อนๆ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend