ภาพกำแพงหินที่เรียงซ้อนกันจนสูงและหลังคากระเบื้องหลายชั้นที่ติดตา ปราสาทญี่ปุ่นนั้นก็ยังคงอยู่ในภูมิภาคต่างๆ เป็นสิ่งที่เหลือจากยุคที่ซามูไรครองญี่ปุ่น ไม่เพียงแค่ปราสาทที่คงสภาพเดิมตามที่สร้างขึ้นในช่วงเวลาของการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงที่ที่เหลือเพียงกำแพงหินที่ยังคงรูปลักษณ์เดิมจากยุคนั้น ไปจนถึงปราสาทที่ถูกสร้างจำลองขึ้นใหม่ในยุคสมัยทันสมัยก็ยังกระจายอยู่ทั่วญี่ปุ่นด้วยค่ะ ในบรรดาคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น เชื่อว่าคงจะมีผู้ที่เคยเยี่ยมชมภูมิภาคท้องถิ่นกันไม่น้อยค่ะ ครั้งนี้ เราจะแนะนำวันพิเศษที่เกี่ยวข้องกับปราสาทญี่ปุ่นกันค่ะ
ที่มาของการจัดตั้งวันพิเศษวันปราสาทในวันที่ 6 เมษายน
วันปราสาทนี้ถูกกำหนดอย่างไร? ในญี่ปุ่น วันพิเศษนี้ที่รู้จักกันในนาม "ขิโระโนะฮิ" (城の日 / shiro no hi) ถูกกำหนดให้เป็นวันที่ 6 เมษายน วันพิเศษนี้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1974 โดยสมาคมปราสาทญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อสาธารณะประโยชน์ นอกจากนี้ อำเภอฮิเมจิที่เป็นที่ตั้งของ "ปราสาทฮิเมจิ" ที่เราจะแนะนำในภายหลัง ก็กำหนดวันที่ 6 เมษายนเป็น "วันปราสาท" ในปี 1990 เช่นกันค่ะ
เหมือนว่าที่มานั้นก็มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าตัวเลข 4 และ 6 สามารถอ่านเป็น "ชิ โระ" ในโกโระอาวาเสะ (เสียงช่วยจำ การเล่นคำ) และในวันนี้ค่าเข้าชมปราสาทจะไม่คิดค่าเข้าชม แต่เนื่องจากมีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น กิจกรรมนี้จึงสิ้นสุดลงในปี 2007 อย่างไรก็ตาม ได้มีการเริ่มระบบที่ให้เข้าชมฟรีในวันที่ "11 ธันวาคม วันที่ปราสาทฮิเมจิถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก" แทนค่ะ
อนึ่ง เรามาดูอีกครั้งว่าทำไมจึงสามารถอ่านตัวเลข 4 และ 6 ซึ่งมาจากวันที่ 6 เมษายน เป็น "ชิโระ" (ปราสาท) ได้กันค่ะ ในญี่ปุ่น มีกฎ (การเล่นคำ) ที่เรียกว่า "โกโระอาวาเสะ" ที่กำหนดเสียงที่กลายเป็นการอ่านแต่ละตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 9 รวมถึง 10 และ 100 และสนุกกับการรวมคำ (ภาษาญี่ปุ่น) และลำดับของตัวเลขที่กำหนดให้กับเสียงที่สร้างคำนั้นๆ ค่ะ
ในกรณีของ "ชิโระ" ครั้งนี้ เลข 4 มีอ่านออกเสียงเป็น "โยะ", "ยอน", "ชิ" ได้ และเลข 6 อ่านออกเสียงเป็น "โระ", "โรคุ", "มุ" ได้ ทำให้เราสามารถนำ "ชิ" ของ 4 และ "โระ" ของ 6 มาอ่านรวมกันเป็น "ชิโระ" และเป็นไปได้ที่จะเชื่อมโยงกับคำญี่ปุ่นว่า "ชิโระ" (城 / shiro - ปราสาท) ที่มีเสียงนี้กับวันที่ประกอบด้วยเลข 4 และ 6 หรือวันที่ 6 เมษายนนั่นเองค่ะ
ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ "วันปราสาท"
แม้ว่าวันที่ 6 เมษายนจะเป็น "วันปราสาท" แต่เรายังไม่สามารถยืนยันกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวันนี้ได้ในปัจจุบันค่ะ อย่างไรก็ตาม "เทศกาลปราสาท" จัดขึ้นที่ปราสาททั่วญี่ปุ่นในวันที่ต่างกัน ดังนั้นเราจะมาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมเหล่านี้แทนค่ะ
สมบัติชาติ ปราสาทมัตสึเอะ เทศกาลปราสาท (จังหวัดชิมาเนะ): 27 มีนาคม - 10 เมษายน 2024
"เทศกาลปราสาท ณ ปราสาทมัตสึเอะ สมบัติชาติ" จะจัดขึ้นที่สวนปราสาทมัตสึเอะในจังหวัดชิมาเนะ ระหว่างช่วงเวลานี้ มีการวางแผนให้เปิดลานกว้างวงล้อมกำแพงหลักปราสาทภูเขาและการส่องไฟสว่างตามต้นซากุระด้วยค่ะ ในส่วนนี้ "ขบวนแห่ซามูไรแห่งมัตสึเอะ โฮริโอะ โยชิฮารุ ครั้งที่ 17" จะจัดขึ้นในวันที่ 6 เมษายน ซึ่งบังเอิญว่าในปีนี้ตรงกับ "วันปราสาท" ที่เราได้แนะนำไปพอดีค่ะ ในงานนี้ ขบวนแห่ซามูไรประมาณ 170 คน รวมถึงซามูไรที่ขี่ม้า จะเดินขบวนผ่านเมืองไปยังปราสาทมัตสึเอะค่ะ ในขบวนแห่นี้ ยังมีแผนจะจัดการแสดงโดยหน่วยปืนยาวและหน่วยอื่นๆ ทำให้เป็นไฮไลต์หลักเลยค่ะ
เทศกาลอินุยามะ ครั้งที่ 390 (จังหวัดไอจิ): 6 และ 7 เมษายน 2024
เทศกาลนี้คือ "พิธีบวงสรวงแห่งศาลเจ้าฮาริสึนะ" ที่ตั้งอยู่ที่เชิงเขาของปราสาทอินุยามะ ซึ่งมีเกี้ยวแห่ที่ตกแต่งด้วยหุ่นกระบอกและเกี้ยวแห่ที่มีการประดับโคมไฟในเวลากลางคืนค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักว่าได้รับการลงทะเบียนเป็น "มรดกวัฒนธรรมที่ไม่สามารถจับต้องได้ของยูเนสโก" ในปี 2016 ด้วยค่ะ
เทศกาลดอกซากุระปราสาทฮิโกเนะ (จังหวัดชิกะ): 28 มีนาคม - 16 เมษายน 2024
ในพื้นที่ปราสาทฮิโกเนะ จะมีการจัดงาน "เทศกาลดอกซากุระปราสาทฮิโกเนะ" ซึ่งมีกิจกรรม "การส่องไฟสว่างต้นซากุระเลียบคลอง" ค่ะ มีผู้มาเยือนเพื่อชมดอกซากุระมากันเป็นจำนวนมาก โดยมุ่งหวังที่จะมาชมต้นซากุระประมาณ 1,100 ต้นที่อยู่รอบ ๆ ปราสาทฮิโกเนะกันค่ะ
เทศกาลปราสาทฮิเมจิ (จังหวัดเฮียวโงะ): 17-19 พฤษภาคม 2024
"เทศกาลปราสาทฮิเมจิ" จะจัดขึ้นในวันที่ 17 ถึง 19 พฤษภาคม ณ สวนโอเทะมาเอะและถนนโอเทะมาเอะรอบๆ ปราสาทฮิเมจิ จุดเด่นคือการเดินขบวนเหล่าไดเมียวแห่งฮิเมจิค่ะ การเดินขบวนที่ยิ่งใหญ่ของเหล่าซามูไร ไดเมียว และเจ้าหญิงเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งค่ะ
ห้าปราสาทสมบัติชาติในญี่ปุ่นที่ควรเรียนรู้เกี่ยวกับ "วันปราสาท"
เป็นที่ทราบกันว่าปัจจุบันมีหอปราการปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ในญี่ปุ่น 12 แห่ง ซึ่งมี 5 แห่งถูกกำหนดเป็นสมบัติชาติค่ะ ที่ FUN! JAPAN เราได้รวบรวมบทความเกี่ยวกับแต่ละปราสาทที่ถูกนับว่าเป็น "ห้าปราสาทสมบัติชาติ" มาดูกันว่าแต่ละปราสาทนั้นเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ
ปราสาทฮิเมจิ
ปราสาทฮิเมจิ คือปราสาทที่ตั้งอยู่ในอำเภอฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นที่รู้จักว่าเป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในบรรดาห้าปราสาทสมบัติชาติค่ะ ทิวทัศน์สวยงามของกำแพงสีขาวนี้ถูกเปรียบเทียบกับรูปภาพของนกกระสาสีขาวที่กำลังกางปีก และยังถูกเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" (ฮาคุโระโจ) ปราสาทฮิเมจิในสภาพปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี 1609 โดยผู้ครองปราสาทคนสี่ อิเกดะ เทรุมาสาะ และเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ที่ปราสาทรอดพ้นจากการโจมตีทางอากาศที่ฮิเมจิในช่วงสงครามโลกปี 1945 และนำไปสู่การคงสภาพเดิมจนถึงปัจจุบันค่ะ ในช่วงที่ผ่านมา การปรับปรุงใหญ่ๆ ได้แล้วเสร็จ และลักษณะที่สวยงามของปราสาทสีขาวก็ยังคงทำให้แฟนพันธุ์แท้ปราสาทญี่ปุ่นหลายคนหลงใหลค่ะ
ปราสาทมัตสึเอะ
ปราสาทมัตสึเอะ ตั้งอยู่ในเมืองมัตสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ เมื่อมองจากด้านหน้า ส่วนสามเหลี่ยมของปราสาทดูเหมือนปีกที่กำลังสยาย ดังนั้นจึงเรียกว่า "ปราสาทนกชิโดริ" (ชิโดริโจ) กันค่ะ เป็นปราสาทที่มีประวัติศาสตร์ที่สร้างโดยขุนศึก โฮริโอะ โยชิฮารุ ในปี 1600 และได้รับการแต่งตั้งเป็นสมบัติแห่งชาติในปี 2015 ค่ะ จากชั้นบนสุดของหอปราการปราสาท คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ 360 องศารอบๆ รวมถึงทะเลสาบชินจิและเกาะโยเมกาชิมะ นอกจากนี้ คุณยังสามารถทัวร์รอบคูน้ำที่ล้อมรอบปราสาทโดยการนั่งเรือแบบมีหลังคาได้ด้วยค่ะ
ปราสาทฮิโกเนะ
ปราสาทฮิโกเนะ เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในอำเภอฮิโกเนะ จังหวัดชิกะ ยังเป็นที่รู้จักในนาม "ปราสาทเต่าทอง" (คอนคิโจ) เพราะว่ามันถูกสร้างบนภูเขาฮิโกเนะ ซึ่งมีชื่อเล่นว่า "คอนคิซัง" (แปลตรงตัวคือ ภูเขาเต่าทอง) ปราสาทนี้ถูกสร้างระหว่างปี 1604 และ 1622 ค่ะ จากยอดปราสาท คุณสามารถเพลิดเพลินกับภาพพาโนรามา 360 องศาของเมืองฮิโกเนะและทะเลสาบบิวะโกะ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นได้ค่ะ ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระที่สวยงามจะบานเต็มที่ตามคูคลอง และคุณยังสามารถทัวร์ภายในปราสาทจากน้ำโดยเรือได้ด้วยค่ะ
ปราสาทมัตสึโมโตะ
ปราสาทมัตสึโมโตะ เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในอำเภอมัตสึโมโตะ จังหวัดนางาโนะ ปราสาทสีดำนี้ที่มีสัญลักษณ์เป็นหลังคาห้าชั้นนั้นถูกสร้างขึ้นโดย อิชิคาวะ คาสุมาสะ และลูกชาย อิชิคาวะ ยาสุนากะ ซึ่งเป็นผู้ครองปราสาทตั้งแต่ปีค.ศ. 1590 ถึง 1613 ผนังด้านนอกถูกทาด้วยปูนขาวและสีดำ สีที่เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้เพื่อทำให้ดูคล้ายปราสาทโอซากะของ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้ที่มีอิทธิพลในขณะนั้น การทาสีดำทำให้ปราสาทได้รับการป้องกันจากฝนและยังทำหน้าที่กันน้ำฝนออกไปด้วยค่ะ
ปราสาทอินุยามะ
ปราสาทอินุยามะเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในอำเภออินุยามะ จังหวัดไอจิ ถูกสร้างขึ้นในปี 1537 และยังรู้จักกันในนาม "ปราสาทฮาคุเท" สิ่งปลูกสร้างที่ยังคงสภาพเดิมคือหอปราการรูปแบบหอสังเกตการณ์ค่ะ จากปราสาทคุณสามารถมองเห็นแม่น้ำคิโซที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างจังหวัดไอจิและกิฟุ นอกจากนี้ ปราสาทอินุยามะนั้นเป็นทั้งสมบัติแห่งชาติและเคยเป็นทรัพย์สินของส่วนบุคคลเป็นเวลานาน แต่เจ้าของปัจจุบันคือปราสาทอินุยามะฮาคุเทบุนโกค่ะ
ส่งท้าย: การตามเก็บปราสาทไปกับ "ตราปราสาท"
ในประเทศญี่ปุ่น มีเทรนด์การสะสม โกะชุอิน' ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์และตัวหนังสือที่ได้รับจากวัดและศาลเจ้าเมื่อไปเยี่ยมชมในสมุดสะสมที่เรียกว่า 'โกะชุอินโจ' มาหลายปีแล้วค่ะ นี่ถือเป็น 'บันทึกดวงสัมพันธ์ของคุณกับเทพเจ้าและพระผู้เป็นเจ้า เป็นหลักฐานของการไปสักการะ' และประกอบด้วย 'ตราประทับ และการเขียนด้วยหมึกเป็นชื่อวัดหรือศาลเจ้า และชื่อของเทพเจ้าหรือพระผู้เป็นเจ้า' ค่ะ
ในทางกลับกัน นอกจากโกะชุอินแล้ว ยังมีสถานที่ที่รู้จักกันในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเช่นปราสาท ซึ่งออกสิ่งที่เรียกว่า 'ตราปราสาท' (โกะโจอิน) ค่ะ สิ่งนี้สามารถอธิบายสั้นๆ ได้ว่าเป็น 'ใบรับรองหรือของที่ระลึกจากการเยี่ยมชมปราสาท' และโดยทั่วไปประกอบด้วย 'การเขียนหมึก (การคัดพู่กัน) เป็นชื่อปราสาทบนกระดาษญี่ปุ่น, และตราสีแดงของตราสัญลักษณ์ของตระกูลผู้ครองปราสาท' ค่ะ
ตามหนึ่งในทฤษฎีที่ว่า 'ตั้งแต่ปี 2020 มีปราสาทมากกว่า 500 แห่งที่ออกตราปราสาท' ค่ะ ดังนั้นถ้าคุณสนใจในสถาปัตยกรรมปราสาทญี่ปุ่น หรือถ้าคุณกำลังคิดจะเริ่ม 'การไล่เก็บปราสาทให้ครบ' ทำไมไม่ลองเยี่ยมชมปราสาทต่างๆ ด้วย 'สะมุดสะสมตราปราสาท' ของคุณเองดูละคะ?
Comments