อำเภอโชชิ (銚子市 / Choshi) จังหวัดชิบะ เป็นที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของแหลมและแนวชายฝั่ง ทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กีฬาทางน้ำได้ ของอร่อยที่ใช้อาหารทะเลสดส่งตรงจากท่าเรือประมงโชชิซึ่งมีการนำปลามาขึ้นฝั่งมากที่สุดในญี่ปุ่น และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ปลูกในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางไปยังอำเภอโชชิ คือรถไฟ Choshi Electric Railway (銚子電鉄) สายท้องถิ่นค่ะ ในครั้งนี้ เราจะพาไปรู้จักกับสถานีแนะนำสำหรับการแวะเที่ยวระหว่างทาง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวน่าชมและอาหารอร่อยใกล้ ๆ สถานีเหล่านี้กันค่ะ
อำเภอโชชิอยู่ไหน?
อำเภอโชชิตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของภูมิภาคคันโตในญี่ปุ่น และพื้นที่ทั้งหมดถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่อุทยานธรณี มีไฮไลท์มากมายเช่น แหลมอินุโบซากิ (犬吠埼 / Inubosaki) ซึ่งคุณสามารถชมชั้นหินที่ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 120 ล้านปีก่อนได้ และชายฝั่งผาหินเบียวบุงาอุระ (屛風ヶ浦 / Byoubugaura) ที่ซึ่งคุณสามารถมองเห็นชั้นหินเมื่อประมาณ 3 ล้านปีก่อนที่ถูกคลื่นกัดเซาะของมหาสมุทรแปซิฟิกได้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดตามทางรถไฟสาย Choshi Electric Railway ได้อีกด้วย เป็นพื้นที่ที่สามารถสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ได้มากมายเลยค่ะ
Choshi Electric Railway คืออะไร?
บริษัทรถไฟฟ้าโชชิ หรือ Choshi Electric Railway (銚子電鉄 / Choshi Dentetsu) ซึ่งฉลองครบรอบ 100 ปีในปี 2023 เป็นบริษัทรถไฟฟ้าสายท้องถิ่นที่มีความยาวรวมประมาณ 6.4 เมตร โดยสามารถเดินทางจากสถานี Choshi ซึ่งมีรูปร่างเหมือนกับกังหันลมในเนเธอร์แลนด์ไปยังสถานี Tokawa สถานีสุดท้ายได้ในเวลาประมาณ 20 นาที รถไฟจะวิ่งประมาณชั่วโมงละครั้ง ยกเว้นในช่วงเวลาเดินทางไปทำงาน-ไปเรียนตอนเช้า มีตั๋วลดราคาที่ให้คุณขึ้นลงได้ไม่อั้น 1 วัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแวะระหว่างทางและเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวตลอดเส้นทางและอาหารรสเลิศของอำเภอโชชิค่ะ
คงพูดได้ยากถ้าจะบอกว่าประวัติศาสตร์ของ Choshi Electric Railway ดำเนินไปอย่างราบรื่นค่ะ ในนั้นยังมีเรื่องของผู้คนที่ช่วยให้รอดจากการล้มละลายถึง 2 ครั้ง ซึ่งก็คือผู้ที่ซื้อช่วยกัน "นุเระเซมเบ้" (ぬれ煎餅 / Nure Senbei) ที่ Choshi Electric Railway ขายที่ร้านค้าออนไลน์เป็นธุรกิจเสริมค่ะ จากนั้นก็ยังมีผู้โดยสารถึง 100,000 คนที่มาช่วยกันสนุบสนุนด้วยการขึ้นรถไฟของ Choshi Electric นี่คือรถไฟที่เต็มไปด้วยความรักของผู้คนมากมาย และยังคงวิ่งได้ดีจนถึงทุกวันนี้ด้วยแรงสนับสนุนของเหล่าผู้อุปการคุณค่ะ
【สถานี Choshi】สัมผัสกับชั้นหินอันทรงพลังและมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่! ชายฝั่งผาหินเบียวบุงาอุระ และสถาบันวิจัยทางทะเลโชชิ
เบียวบุงาอุระ เป็นหน้าผาที่มีความสูงประมาณ 40 ม. ถึง 50 ม. ทอดยาวตามแนวชายฝั่งประมาณ 10 กม. เรียกอีกอย่างว่า "โดเวอร์แห่งโลกตะวันออก" เพราะมีลักษณะคล้ายหน้าผาสีขาวในช่องแคบโดเวอร์ในอังกฤษ คุณสามารถมองเห็นเบียวบุงาอุระได้อย่างใกล้ชิดจากทางเดินที่ทอดมาจากหาด Choshi Marina ที่อยู่ติดกัน สามารถถ่ายภาพที่ทรงพลังของผาหินสูงใหญ่ได้ เราขอแนะนำให้ขึ้นเรือชมโลมา-วาฬของ "สถาบันวิจัยทางทะเลโชชิ" (銚子海洋研究所 / Choshi Ocean Institute) ซึ่งออกเดินทางจาก Choshi Marina คุณอาจได้พบกับโลมา วาฬ แมวน้ำขนเฟอร์ นกอพยพย้ายถิ่น และอื่น ๆ อีกมากมายในการล่องเรือนี้ค่ะ
【สถานี Nakanocho】จุดท่องเที่ยวมากมาย: ดอกวิสทีเรียในวัดเมียวฟุคุจิ โรงเก็บรถไฟสถานี Nakanocho โรงงานโชยุยามาสะ
ที่สถานี Nakanocho ซึ่งมีบรรยากาศแบบย้อนยุค คุณสามารถเที่ยวชมโรงเก็บรถไฟได้โดยเสียค่าเข้าเพียง 150 เยน ในพื้นที่สังเกตการณ์ นอกจากรถไฟไทโชโรมันที่ถูกนำมาเก็บรักษาไว้แล้ว ยังมีหัวรถจักรไฟฟ้าหายากที่ผลิตในเยอรมนีในปี 1922 อีกด้วย
ถัดจากสถานีคือ "YAMASA Shoyu" (ヤマサ醤油) ซึ่งเริ่มผลิตโชยุในอำเภอโชชิมาตั้งแต่ปี 1645 และได้รับการขนานนามว่าเป็น "โมกามิโชยุ" (最上しょうゆ / Mogami Shoyu - โชยุยอดเยี่ยม) เนื่องจากมีคุณภาพสูง มีบริการทัวร์โรงงานฟรีเมื่อมีการจองล่วงหน้า ที่ YAMASA Soy Sauce Factory (しょうゆ味わい体験館 / Shoyu Ajiwai Taiken-kan) ซึ่งมีนิทรรศการของวัตถุที่เกี่ยวกับการทำโชยุเรียงรายให้ชมอยู่ คุณยังสามารถลองทำข้าวเกรียบเซมเบ้ได้อีกด้วย ไอศกรีม "ซอฟต์ครีมโชยุ" ที่ใช้โชยุสไตล์น้ำตาลแดงของ YAMASA ก็เป็นที่นิยมเช่นกันค่ะ
นอกจากนี้ ช่วงตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ก็ยังมีวัดเมียวฟุคุจิซึ่งมีดอกวิสทีเรียที่สวยงามยาวประมาณ 1.8 เมตรบานสะพรั่งจากซุ้มวิสทีเรียทั้ง 4 ที่น่าไปชมด้วยค่ะ สถานีนี้แนะนำสำหรับการแวะลงไปเที่ยวระหว่างทางมากเลยค่ะ
【สถานี Kimigahama】ที่ที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติมากมาย - ชายฝั่งคิมิงาฮามะ แหลมอินุโบซากิ
"ชายฝั่งคิมิงาฮามะ แหลมอินุโบซากิ" (犬吠埼君ヶ浜海岸 / Inubousaki Kimigahama Kaigan) เป็นชายฝั่งที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นแนวโค้งที่สวยงามไปทางทิศเหนือจากแหลมอินุโบซากิ เป็นจุดชมวิวที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ชายหาดชั้นนำของญี่ปุ่น และเป็นจุดถ่ายภาพที่คุณสามารถถ่ายภาพสัญลักษณ์ของโชชิ ประภาคารอินุโบซากิ และมหาสมุทรแปซิฟิกพร้อมกันได้ นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในฐานะจุดที่คุณสามารถถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นแรกของปีได้เร็วที่สุดในญี่ปุ่น ยกเว้นแค่จากที่ยอดภูเขาไฟฟูจิและจากเกาะห่างไกลเท่านั้นค่ะ
【สถานี Inubo】แหล่งท่องเที่ยวเพียบ! ประภาคารอินุโบซากิที่เป็นสัญลักษณ์ หมู่บ้านออนเซ็นอินุโบซากิ ฯลฯ
อินุโบซากิล้อมรอบด้วยทะเลทั้งสามด้าน มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย หนึ่งในนั้นคือ "ประภาคารอินุโบซากิ" (犬吠埼灯台 / Inubosaki Toudai) ซึ่งเป็นหนึ่งในประภาคารที่สามารถปีนขึ้นไปข้างบนได้เพียง 16 แห่งในญี่ปุ่น คุณสามารถยึดครองภาพวิวมหาสมุทรไว้เพียงคนเดียวได้จากบนยอดประภาคาร ที่เชิงประภาคารมีตู้ไปรษณีย์สีขาวซึ่งกล่าวกันว่าเป็นไปรษณีย์ที่นำความสุขมาให้ ขอแนะนำให้ถ่ายภาพกับประภาคารตัดกับท้องฟ้าสีครามค่ะ
คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์จากตำแหน่งที่สูงขึ้นได้อีกที่หอชมวิว Horizon Observatory (地球の丸く見える丘展望館 / Chikyuu no Maru Mieru Oka Tenbou-kan) จากจุดชมวิวที่มีความสูง 16 เมตรบนยอดเขาที่ความสูง 73.6 เมตรแห่งนี้ คุณสามารถมองลงไปที่เบียวบุงาอุระและมหาสมุทรที่กว้างขวางราวไม่มีที่สิ้นสุดได้ เป็นสถานที่ที่คุณสามารถรู้ได้ว่าโลกนั้นกลมจริงค่ะ
"วัดมังกันจิ" (満願寺 / Manganji) ซึ่งมีผู้คนมากมายจากทั่วญี่ปุ่นมาสักการะก็แนะนำค่ะ ที่นี่มีพระประธานเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ 11 พักตร์ (十一面観世音菩薩 / Juu-ichi Men Kanzeon Bosatsu) ซึ่งกล่าวกันว่าเป็น "เจ้าแม่กวนอิมผู้ประทานความปรารถนาให้สัมฤทธิ์ผล" บริเวณวัดขนาดใหญ่เรียงรายไปด้วยอุโบสถหลัก เจดีย์ทอง อุโบสถมังกันโด และหอระฆัง อุโบสถมังกันโดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอันเป็นพระประธานของวัด 188 แห่งในไซโกคุ บันโด ชิจิบุ และชิโกกุ จึงกล่าวกันว่าเพียงมาที่วัดมังกันจินี่ที่เดียวก็เหมือนได้ไปสักการะวัดวาอารามถึง 189 แห่งเลยค่ะ ในเดือนสิงหาคมของทุกปี ทุ่งทานตะวันจะปรากฏขึ้นที่หน้าวัด เนื่องจากจะบานก่อนมีการเก็บเกี่ยวเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ดังนั้นใครได้เห็นก็ถือว่าจะโชคดี จะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ยังมีที่พักและโรงแรมออนเซ็นหลายแห่งในหมู่บ้านออนเซ็นอินุโบซากิ (犬吠埼温泉郷 / Inubosaki Onsenkyo) ซึ่งอยู่ริมทะเล ลองไปพักค้างคืนและเพลิดเพลินกับออนเซ็นและอาหารทะเลดูสักหน่อยไหมค่ะ?
【สถานี Togawa】เดินชมเมืองประมงบรรยากาศวันวาน: เดินเล่นตามทิวทัศน์เมืองเก่าโทกาวะ หินสุนัขอินุอิวะ
โทกาวะ (外川 / Togawa) เป็นเมืองประมงมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ถนนมีลักษณะเป็นตรอกและทางลาดที่ทอดตรงไปยังท่าเรือประมง ในโทกาวะ นอกจากอาหารทะเลสด ๆ แล้ว เรายังแนะนำให้ลองชิมของอร่อย เช่น พุดดิ้งนมถั่วเหลือง ซึ่งเป็นเมนูพิเศษของร้านเต้าหู้ที่เปิดมายาวนานค่ะ
สถานที่ยอดนิยมอีกแห่งในโทกาวะคือ หินสุนัข อินุอิวะ (犬岩 / Inuiwa) ซึ่งมีรูปร่างเหมือนสุนัขที่มีหูแหลม ตำนานเล่าว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิสึเนะ (源義経) ซามูไรแห่งยุคเฮอัน ได้ถูกฝั่งศัตรูตามล่า จึงจำใจต้องทิ้งสุนัขแสนรักไว้ที่นี่ 7 วัน 7 คืน และในวันที่ 8 สุนัขก็ได้กลายเป็นหินค่ะ รูปของโขดหินที่มีแสงจากดวงอาทิตย์ตกดินสาดส่องยังเป็นที่นิยมในฐานะจุดถ่ายภาพอีกด้วยค่ะ
การเดินทางไปยังโชชิจากโตเกียว
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาทีจากสถานีโตเกียวไปยังสถานี Choshi บนรถไฟ JR Sobu Main Line Limited Express "Shiosai"
Comments