เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 32: เรื่องสยองตามเน็ตเกี่ยวกับ “ทะเล”

  • 22 กรกฎาคม 2020
  • 17 กรกฎาคม 2020
  • Mon
  • Mon

เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 32: เรื่องสยองตามเน็ตเกี่ยวกับ “ทะเล”

ที่ญี่ปุ่นนั้น วันทะเล หรือ อุมิโนะฮิ (海の日 / Umi no Hi) นั้นจะตรงกับวันจันทร์รอบที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม แต่เนื่องจากในบางพื้นที่นั้นยังจัดโอบงในเดือนกรกฎาคม เรื่องราวแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในทะเลก็มีมากมายเช่นกัน เพราะมักกล่าวกันว่า ช่วงโอบงอย่าลงทะเล แม้ว่าเหตุผลหนึ่งก็คือมีแมงกะพรุนออกมาตามชายหาดก็ตาม แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ดวงวิญญาณจากภพภูมิอื่นจะเข้ามาทางทะเล และมักจะทำให้เกิดเรื่องแปลก ๆ มากมาย

มาดูกันเลยดีกว่าครับ

ทะเลในช่วงโอบง

ทะเลในช่วงโอบง

นี่เป็นประสบการณ์จริงที่เกิดกับเพื่อนค่ะ

ก็กล่าวกันมาแต่โบราณกาลแล้วว่าช่วงโอบงอย่าลงทะเลนะคะ
แต่ดูเหมือนจะมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากทางวิทยาศาสตร์ที่ว่าเพราะมีแมงกะพรุนออกมาเพียงอย่างเดียวค่ะ
พูดง่าย ๆ ก็คือ ยังว่ากันว่า เพราะวิญญาณจะเอาตัวลงทะเลไปด้วยนั่นแหล่ะค่ะ

แต่โอบงก็เป็นช่วงที่ผู้คนจะกลับไปเยี่ยมบ้านกัน หลาย ๆ คนก็มารวมตัวกันและเล่นสนุกกันจนเพลิน
มีหลายคนที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่ดี แต่ก็ลงเล่นน้ำทะเลกัน
ในตอนเกิดเรื่อง พวกดิชั้นก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ

ในตอนนั้น พวกชั้นหญิง 3 ชาย 4 ได้ไปลงเล่นน้ำทะเลกัน
แต่ฉันมีปัญหาทางสุขภาพ เลยนั่งดูคนที่เล่นน้ำกันจากชายหาดค่ะ

เหตุการณ์มันเกิดขึ้นกะทันหันค่ะ
ตรงแนวน้ำตื้นที่ไม่ลึกเกินเข่า จู่ ๆ เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งก็หายตัวไป
จากที่ชั้นเห็น เขาร้อง โอ๊ะ แล้วก็หายไปในทะเลเฉย ๆ เลยค่ะ

ทะเลในช่วงโอบง

ตัวดิชั้นที่มองจากไกล ๆ ก็ฟังไม่ออกว่าที่พวกเพื่อน ๆ ส่งเสียงดังกันนั้นเป็นเสียงเล่นสนุกหรือโหวกเหวกโวยวายค่ะ ทำได้แค่นั่งมองอย่างเดียว
เพื่อนคนที่หายตัวไปก็ถูกเพื่อนผู้ชายคนอื่น ๆ ลากออกมาจากทะเล
พวกเพื่อนผู้ชายพยายามลากตัวเพื่อนที่หมดสติกันสุดกำลัง ส่วนพวกผู้หญิงทำได้แต่มองค่ะ
ส่วนตัวชั้นก็รีบวิ่งไปตามบ้านริมหาดเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เคราะห์ร้ายที่เป็นช่วงโอบง ไม่มีใครอยู่สักคน ชั้นจึงโทรเรียกรถพยาบาลค่ะ
ระหว่างที่รอรถพยาบาลก็ทำการผายปอดแบบที่ลักจำกันมา ภาวนาขอให้เพื่อนคนนี้ฟื้นขึ้นมาค่ะ
พอเอาตัวขึ้นรถพยาบาลได้ ระหว่างที่ทุกคนกำลังมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล ก็ไม่มีใครสามารถอธิบายเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ค่ะ

ทะเลในช่วงโอบง

ตอนที่เล่นบอลชายหาดกันตรงหาดน้ำตื้น จู่ ๆ เขาก็หายตัวไปดื้อ ๆ
สงสัยลื่นล้มรึเปล่า ทุกคนลองไล่หาสาเหตุที่ยังคาใจกันอยู่

เพื่อนที่ถูกพาตัวไปส่งถึงโรงพยาบาลก็มีอาการดีขึ้นพ้นขีดอันตราย
แต่เมื่อถึงห้องผู้ป่วย ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ถามด้วยสีหน้าซีด
เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ
พวกดิชั้นก็เข้าใจว่าคงเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน

ที่หลังของเพื่อนมีรอยจ้ำแดง ๆ ลักษณะเหมือนรอยมือเด็กนับไม่ถ้วน

แม้ว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถามว่า “เล่นกับเด็ก ๆ มาเหรอคะ” แต่ตอนนั้นที่ทะเลก็มีแต่พวกเรา เด็กสักคนก็ไม่มี
พวกดิชั้นไปดูที่หลังของของเพื่อน ก็รู้สึกถึงความน่าสะพรึงค่ะ

พอเพื่อนคนนั้นฟื้นขึ้นมา ก็ได้ลองถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนก็บอกแค่ว่า
ตัวเราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จำได้ว่าถูกใครสักคนดึงลงไปในน้ำ...
พวกดิชั้นก็ใช้กระจกยกให้เพื่อนที่แอดมิตเข้าโรงพยาบาลดูรอยจ้ำรอยช้ำที่หลัง
เพื่อนก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ค่ะ

บนหลังเพื่อนก็มีรอยจ้ำอยู่ประมาณ 2 – 3 วัน แต่ในใจพวกดิชั้นคงมีรอยแผลเป็นไปชั่วชีวิตเลยค่ะ
หลังจากนั้นพวกเราก็เลิกการลงเล่นน้ำในทะเลช่วงโอบงไปค่ะ แต่ด้วยความกลัว คิดว่าชาตินี้คงไม่มีวันลงทะเลอีกเลยแหล่ะค่ะ

แปลมาจากเรื่อง “お盆の海” ไม่ทราบผู้เล่าเรื่องต้นฉบับ

---------------------------

จริง ๆ ช่วงโอบงเป็นช่วงหยุดยาวด้วย ยามชายฝั่ง ไลฟ์การ์ดก็ไม่มีประจำอยู่ หากเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีคนช่วยครับ ต่อให้ไม่มีเรื่องผีก็อันตราย ยิ่งถ้าโดนแมงกะพรุนต่อยด้วย...

ศพเกยตื้น

ศพเกยตื้น

ตัวผมเองไม่ได้มีสัมผัสเรื่องวิญญาณเท่าไหร่ แต่ผมอยากจะขอมาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงโอบง ซึ่งฝังอยู่ในความทรงจำจนกลายเป็นความหวาดกลัวฝังใจให้ฟังกันนะครับ
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องของลุงผมที่เป็นตำรวจอย่างต่างจังหวัดและชอบเล่าให้ฟังบ่อย ๆ สมัยที่ผมยังเด็กครับ

แม้ว่าจะพูดกันบ่อย ๆ ว่า ในช่วงโอบง อย่าเข้าใกล้น้ำ แต่ช่วงที่ลุงของผมยังเป็นตำรวจใหม่ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงหลายคนถูกคลื่นสูงพัดหายสาบสูญไป ในวันถัดมา ก็พบศพของทุกราย แม้จะไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โตอะไรก็ตาม แต่ในบรรดาเพื่อนร่วมงานของลุง ก็เป็นที่เลื่องลือในที่สำนักงานมากจนไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องนี้กันเลยครับ
หลังเหตุการณ์ผ่านไปได้หลายวัน มีการแจ้งข้อมูลจากคนในท้องที่ว่า มีการพบศพมาเกยตื้นอยู่ แม้ว่าจะไปกู้ศพขึ้นมาได้ก็ตาม แต่ปัญหานั้นอยู่ที่การแจ้งข้อมูลนั่นเอง

หาดที่ไปพบศพนั้น เป็นหาดที่ปกติแทบจะไม่มีผู้คนผ่านไปมา แน่นอนว่าไม่มีใครอาศัยอยู่ใกล้ ๆ แม้จะมีชื่อหาด แต่ก็ไม่ได้ถูกบรรจุในแผนที่เท่าใดนัก
ทั้ง ๆ ที่มีการพบศพ แต่ผู้แจ้งกลับพูดโดยไม่มีอารมณ์ใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้น เสียงผู้แจ้งก็เป็นผู้หญิง และยังพูดทิ้งทายไว้ด้วยว่า “ขอขอบคุณอย่างสูงค่ะ” และตัดสายไปโดยไม่บอกชื่อของตัวเองแต่อย่างใด
แค่นี้ก็แปลกพอดูแล้ว แต่ยิ่งไปกว่านั้น หาดที่มาเกยตื้นนั้น โดยสภาพคลื่นลมแล้ว เป็นสถานที่ที่ไม่มีทางที่จะมีอะไรถูกซัดมาขึ้นฝั่งได้เลยด้วยซ้ำ พอลองหาข้อมูลการติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้หญิงที่แจ้งข้อมูล ก็กลับพบว่า เป็นโทรศัพท์ที่โทรมาจากหมายเลขที่ไม่มีอยู่จริง
แถมศพที่กู้ขึ้นมาได้ก็ยังอยู่ในสภาพที่ดีผิดปกติจนแทบไม่น่าเชื่อ กลายเป็นเรื่องราวแปลกประหลาดเกิดขึ้นต่อ ๆ กันมากมายครับ

แม้ว่าจะไม่มีร่องรอยอาชญากรรม จึงสรุปว่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่ในหมู่คนหนุ่มในสำนักงานก็เป็นที่โจษจันกันอย่างมาก ณ ตอนนั้น ถึงแม้ว่าลุงผมจะไม่ได้เป็นคนรับสายโดยตรง แต่ก็มีโอกาสได้ลองฟังเทปที่บันทึกการแจ้งข้อมูลไว้ด้วยตัวเอง ลุงบอกว่า เสียงพูดที่เยือกเย็นราวไร้ซึ่งอารมณ์ของมนุษย์นั้น แค่ฟังก็รู้สึกสยองเลยครับ

แม้ว่าลุงจะเสียไปแล้ว และตัวผมก็ไม่ได้อยากไปค้นหาความจริงแต่อย่างใด แต่พอถึงช่วงเวลานี้ในรอบปี ก็จะนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นเสมอ

เรื่องในส่วนของลุงก็มีอยู่เท่านี้แหล่ะครับ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผมกลัวฝังใจแต่อย่างใด

มันเกี่ยวกับความฝันของผมครับ

มันเป็นฝันที่ผมกับลุงว่ายน้ำเล่นด้วยกัน

แต่ ตัวผมที่ว่ายน้ำในฝันนั้น ไม่ใช่ตัวผม

ตอนนี้ก็ยังจำได้ติดตาเลยครับ

ศพเกยตื้น

เส้นผมและเล็บที่ยาวของ “ตัวผม” ในความฝันนั้น

ขอบคุณที่ฟังมาจนถึงตรงนี้นะครับ ผมอยากจะฝากไว้เป็นอุทาหรณ์อย่างหนึ่งครับ

หากฝันเห็นเรื่องราวแปลกประหลาด อย่าปล่อยผ่านไปโดยคิดไปว่าไม่เกี่ยวกับสัมผัสพิเศษของตัวเอง

ตัวผมแม้จะเสียใจภายหลังก็ยังไม่อาจแก้ไขอะไรได้

คุณลุงครับ ตอนนั้นผมไม่ได้ห้ามไม่ให้คุณลุงไปที่ทะเล ผมขอโทษด้วยนะครับ

แปลมาจากเรื่อง “打ち上げられた遺体” บนช่อง りっきぃの夜話 ไม่ทราบผู้ส่งเรื่องต้นฉบับ

---------------------------

เรื่องของลางสังหรณ์ ต่อให้ไม่มีสัมผัสเรื่องวิญญาณก็เกิดขึ้นได้ จนเป็นที่พูดถึงกันทั่วโลกครับ จิ้งจกทักคนไทยเรายังเชื่อ ฝันอะไรแปลก ๆ ก็ลองทักกันไว้ดีกว่าครับ แต่ก็น่าแปลกนะครับว่า ศพอยู่ในสภาพดีจนผิดปกติ บางคนก็วิเคราะห์กันว่า อาจจะเป็นผีพรายทะเลที่แฝงอยู่ในศพ หลอกให้เก็บศพไปเพื่อไปหาตัวตายตัวแทนในสำนักงานตำรวจเอาก็ได้...

เรื่องของผมปริศนาที่มาพันขาของชั้นจนเกือบจมน้ำ

เรื่องของผมปริศนาที่มาพันขาของชั้นจนเกือบจมน้ำ

นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่ชั้นไปเล่นที่บ้านคุณปู่คุณย่าในช่วงโอบงค่ะ

ใกล้ ๆ บ้านคุณปู่คุณย่าชั้นมีหาดเล่นน้ำทะเลอยู่ค่ะ ทุก ๆ ปีจะมีผู้คนมากมายมาเล่นสนุกกันที่นี่
ตอนนั้นชั้นยังอยู่มัธยมต้น ยังเป็นเด็กอยู่บ้าง เลยไปว่ายน้ำเล่นในทะเลค่ะ

ในตอนที่เกิดเรื่อง ชั้นกำลังว่ายด้วยห่วงยางอยู่ แล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรมาโดนที่ขาค่ะ
เพราะว่าอยู่ในทะเล ชั้นเลยนึกไปว่าคงเป็นสาหร่าย เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่ก็รู้สึกได้ว่าสาหร่ายมันเริ่มมาพันที่ขามากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
ชั้นคิดว่าถ้าถ้าขาหนักขึ้นเดี๋ยวจะเกิดอันตรายเอาได้ จึงพยายามแกะสาหร่ายออกจากขา แต่อนิจจา แกะไม่ออกค่ะ แถมห่วงยางยังหลุดออกจากตัวด้วย

ในตอนนั้นพอดีมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ใกล้ ๆ เข้ามาช่วยและพาตัวขึ้นมาถึงที่หาด ชั้นจึงรอดมาได้โดยไม่จมน้ำค่ะ

เรื่องของผมปริศนาที่มาพันขาของชั้นจนเกือบจมน้ำ

พอถึงที่หาดก็ว่าจะแกะสาหร่ายที่พันขาอยู่ออก แต่พอเหลียวไปมองปุ๊บ ก็เห็นชัดว่ามีสาหร่ายพันขาอยู่จริง ๆ ค่ะ แต่ประเด็นคือมันมีอย่างอื่นที่ไม่ใช่สาหร่ายพันขามาด้วย

นั่นก็คือเส้นผมที่ยาวมาก ๆ น่าจะเป็นของผู้หญิงค่ะ

แถมดูจากสภาพแล้ว ดูเหมือนว่าเส้นผมจะมาพันขาชั้นก่อน แล้วสาหร่ายค่อยตามมาพันทีหลังค่ะ

ตอนที่เห็นสภาพแบบนั้น ไม่ใช่แค่ตัวชั้นค่ะ ทั้งผู้ชายที่มาช่วย ทั้งพ่อและแม่ก็ช็อคกันสุดขีดค่ะ

ชั้นรีบแกะเอาเส้นผมที่พันขาออก ทางครอบครัวก็ขอบคุณผู้ชายคนนั้นที่ช่วยชีวิตชั้นไว้ แล้วก็กลับบ้านคุณปู่คุณย่ากันค่ะ

ชั้นเล่าเรื่องที่เกิดที่ทะเลให้คุณปู่คุณย่าฟัง แต่ท่านก็นึกไม่ออกว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่น่าจะเกี่ยวข้อง แถวนี้ก็เหมือนจะไม่มีใครเคยจมน้ำตายด้วย ดังนั้นเส้นผมที่มาพันขาชั้นตอนนั้นก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ค่ะ

เรื่องเล่าโดยผู้เล่านิรนาม (ผู้หญิงอายุช่วง 20-30 ปี)

---------------------------

แม้จะเป็นสถานที่ที่ไม่มีประวัติคนตาย แต่ในช่วงโอบง ว่ากันว่าประตูระหว่างภพจะเปิดออก อาจจะมีวิญญาณไม่ดีหาตัวตายตัวแทนหรือหาคนไปอยู่ด้วยก็ได้นะครับ เรื่องความเชื่อนี่ แม้จะต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟัง แต่ก็เชื่อไว้บ้างก็ดีครับ ดีกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาแล้วแก้ไขไม่ได้

ไว้คราวหน้าเดี๋ยวเราจะมาว่ากันด้วยเรื่อง ทำไมเรื่องสยองจึงเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อน กันครับ

อ่านบทความอื่นได้ที่นี่>>>เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend