เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 31: เมื่อเจอผี คนญี่ปุ่นจะทำอย่างไร กรณีที่เจอในเคหะสถาน

  • 7 กรกฎาคม 2020
  • 3 กรกฎาคม 2020
  • Mon
  • Mon

เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 31: เมื่อเจอผี คนญี่ปุ่นจะทำอย่างไร กรณีที่เจอในเคหะสถาน

ในคราวนี้เราจะมาพูดถึงการรับมือเวลาเจอผีของคนญี่ปุ่น ในกรณีที่เจอตามเคหะสถาน เช่น ในบ้าน ในหอพัก ในโรงแรม กันครับ แต่ก่อนจะไปเจอสิ่งเหล่านี้ ก็มีวิธีการป้องกันล่วงหน้าครับ อย่างตอนไปนอกบ้าน ก็ยังมีการเลี่ยงสถานที่ที่ว่ากันว่ามีผีได้ การหาที่อยู่และหาโรงแรมก็มีเช่นกันครับ

ตรวจสอบล่วงหน้า อย่าไปหาสถานที่มีประวัติ

ตรวจสอบล่วงหน้า อย่าไปหาสถานที่มีประวัติ

ที่ญี่ปุ่นนั้น คำว่า จิโคบุคเค็น (事故物件 สถานที่มีประวัติ แปลตามตัวอักษรคือ สิ่งปลูกสร้างที่เคยประสบเหตุ) เป็นคำที่มักจะได้ยินกันบ่อยมากเวลาหาที่พัก ทั้งการย้ายบ้านหรือแม้กระทั่งหาโรงแรมพัก จนถึงขั้นมีเว็บไซต์บันทึกประวัติสถานที่ต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่นเลยเชียว ซึ่งผมเคยได้เขียนไว้ในเรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 23 แล้วนะครับ เห็นว่าในปี 2020 นี้ยังมีหนังผีสัญชาติญี่ปุ่นในชื่อเดียวกันด้วย หากใครอยากรู้จัก จิโคบุคเค็น มากกว่านี้ ก็ลองไปดูกันได้นะครับ

นอกจากนี้ ในกรณีที่หาบ้านหรือห้องเช่าไปอยู่อาศัย คุณยังสามารถสอบถามจากบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (不動産会社 / Fudosan-gaisha) หรือร้านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (不動産屋さん / Fudosanya-san) โดยทางเหล่านายหน้านี้ จะมีหลักปฏิบัติกันว่า หากมีเหตุอะไรเกิดขึ้น เช่นมีคนตายในห้องพัก จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้เข้าพักรายต่อไปทราบก่อนที่จะตกลงกัน แต่ก็มีบางรายที่พยายามเลี่ยงบาลี จนถึงขั้นที่บางที่จ้างคนมาเข้าพัก 1 คืนเพื่อให้ถือว่า คนที่มาหลังจากนั้นไม่ใช่รายต่อไป จึงไม่จำเป็นต้องแจ้ง กลายเป็นงานพาร์ทไทม์แปลก ๆ เลยทีเดียว

วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ตรวจค้นจากเว็บบันทึกสถานที่มีประวัติ ซึ่งอาจจะบอกได้ไม่หมดเพราะไม่ได้ระบุถึงทางสามแพร่ง ทางผีผ่าน หรือว่าก่อนที่จะสร้างอาคารนั้น แต่ก่อนเคยเป็นอะไร สร้างทับที่อะไร และอีกวิธีก็คือการลงพื้นที่ไปดูด้วยตัวเองครับ ถ้าเป็นคนไม่มีสัมผัสด้านนี้ จะพาเพื่อนที่พอมีไปดูด้วยกันก็ได้ แล้วลองทำตามวิธีตรวจสอบว่าในบ้านมีผีหรือไม่ ตามที่เขียนในตอนที่ 23 ดูครับ

มีบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ทำแบบสำรวจเรื่องสถานที่มีประวัติด้วย!

มีบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ทำแบบสำรวจเรื่องสถานที่มีประวัติด้วย!

บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์บางรายก็จริงใจกับลูกค้า ถึงขั้นทำการสำรวจและเขียนบทความช่วยเหลือสำหรับผู้ที่เข้าพักในสถานที่มีประวัติกันเลยเชียว มีรายหนึ่งได้ทำการสำรวจจากคนที่เคยพักในสถานที่มีประวัติกว่า 457 ราย พบว่าเกิน 50% เคยเจอเหตุการณ์ประหลาด ดังนี้

  • 13.8% ได้ยินเสียงแปลก ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่ (ラップ音 แร๊ป-ออง)
  • 13.5% รู้สึกเหมือนมีใครอยู่ด้วยในห้อง (気配 เคะไฮ)
  • 11.6% รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ สุขภาพแย่ลง
  • 10.3% เริ่มฝันร้ายนับตั้งแต่เข้าอยู่อาศัย
  • 9.6% โดนผีอำ (金縛り คานาชิบาริ)
  • 9.6% รู้สึกเหมือนร่างกายหนักขึ้น เคลื่อนไหวลำบาก
  • 8.7% มองเห็นบุคคลแปลกหน้า (幽霊 ยูเร ผี หรือ อื่น ๆ)
  • 7.6% สิ่งของขยับหรือเคลื่อนไหวเอง (ポルターガイスト โพลเตอร์ไกส์)
  • 7.4% ไฟเปิดปิดหรือดับติดเอง
  • 7.0% ได้กลิ่นแปลก ๆ

และอื่น ๆ อีก 3.3% ส่วนที่เหลือ 45.6% ไม่พบเหตุการณ์ใด ๆ ครับ

*จากเว็บไซต์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ โฮมส์ ทำการสำรวจในเดือนมิถุนายน 2016

จะทำเช่นใดหากเจอผีในสถานที่มีประวัติ จำพวกบ้านหรือห้องเช่า

จะทำเช่นใดหากเจอผีในสถานที่มีประวัติ จำพวกบ้านหรือห้องเช่า

ในแบบสำรวจเดียวกันยังได้ถามต่ออีกว่า คนที่เคยอาศัยในสถานที่มีประวัติเหล่านี้ ทำเช่นใดกัน โดยมีคำตอบดังนี้ครับ

  • 23.6% สาดเกลือตามในห้องหรือที่โถงทางเข้า
  • 19.4% วางเกลือตามในห้องหริอที่โถงทางเข้า
  • 18.1% โรยเกลือตามในห้องหรือที่โถงทางเข้า
  • 15.3% จุดธูป
  • 12.7% สาดเหล้าชำระล้าง
  • 9.0% ซื้อยันต์หรือป้ายบูชา
  • 6.3% สวดพระธรรมสูตร
  • 5.9% เชิญผู้เชี่ยวชาญมาทำพิธีปัดรังควาญ
  • 5.9% ปรับเปลี่ยนบ้านหรือห้องใหม่

และอื่น ๆ อีก 3.2% ส่วนที่เหลือ 34.1% ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษครับ

*จากเว็บไซต์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ โฮมส์ ทำการสำรวจในเดือนมิถุนายน 2016

การตรวจสอบว่าโรงแรมหรือเรียวกังมีผีหรือไม่

สำหรับเวลาไปพักในโรงแรมเองก็สามารถตรวจสอบจากเว็บไซต์สืบค้นสถานที่มีประวัติได้เช่นกัน หากไม่แน่ใจ ลองสอบถามทางโรงแรมไปด้วยว่าสามารถเปลี่ยนห้องได้หรือไม่ เผื่อในกรณีที่มีปัญหาจะได้ขอเปลี่ยนได้ครับ

นอกจากวิธีการต่าง ๆ ที่เคยแนะนำไปในตอนที่ 23 แล้ว ยังมีวิธีการเพิ่มเติมอีกบางส่วนครับ

ตอนเข้าห้องแล้วรู้สึกอากาศหนัก หายใจลำบาก

ว่ากันว่าถ้ามีสัมผัสอยู่พอตัว เวลาเข้าห้อง จะพบกับบรรยากาศที่ผิดแปลกจากปกติ เช่นหนัก ๆ หายใจลำบาก เย็นยะเยือก ฯลฯ ก็อาจจะเป็นสัญญาณบอกว่าในห้องนั้นมีผีก็ได้นะ

ตรวจสอบโดยใช้ควันไฟ

ตรวจสอบโดยใช้ควันไฟ

หากคุณเป็นคนที่พกบุหรี่ ก็ลองจุดสูบดูก็ได้ หากไม่มี ก็ลองเอาธูปหรือกำยานไล่ยุงมาจุดดู หากในห้องที่ปิดสนิท ไม่มีลม แต่บุหรี่สว่างวาบ ๆ หรือควันไฟส่ายไปมาทั้ง ๆ ที่ไม่มีลม ก็อาจจะมีอะไรที่นั่นก็ได้ครับ

ในตอนที่ 29 นายแพทย์สายคิ ยังใช้วิธีการคล้าย ๆ กัน คือดูว่าธูปจุดติดครบทุกดอกหรือไม่ด้วย หากไม่ครบก็อาจจะมีอะไรในห้องแล้วแหล่ะครับ

อยู่ห้องแล้วง่วงทันที

ถ้ามาตอนกลางคืนยังพอว่า แต่ถ้ากลางวันแสก ๆ แล้วจู่ ๆ ก็ง่วงโดยไม่มีสาเหตุ หลับไปก็อาจจะเจอผีอำเอาได้ง่าย ๆ เลยครับ

ดูว่าห้องมีการแปะยันต์ไว้หรือไม่

ดูว่าห้องมีการแปะยันต์ไว้หรือไม่

ห้องที่มีปัญหามักจะพบเจอยันต์สะกดแปะไว้บ้าง มีร่องรอยแปลก ๆ บ้าง ลองสำรวจห้องพักดูก่อน หากมีก็ทำใจไว้ได้เลย หรือจะลองไปขอเปลี่ยนดูก็ได้ครับ

แต่ก็ควรระวังไว้ว่า การนำยันต์มาแปะเองนั้นกลับจะเป็นเรื่องไม่ดีเสียอีก เพราะหากเป็นห้องที่ไม่มีปัญหาแล้วเอามาแปะ จะสร้างความรำคาญให้กับวิญญาณและคนอื่น ๆ เช่นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด แขกที่จะเข้ามาพักต่อ ฯลฯ

โรงแรมที่มีผี ไม่ได้น่ากลัวหรือส่งผลร้ายเสมอไป

ในบางครั้ง ผีที่อาจจะเจอตามโรงแรมนั้น ไม่ใช่ผีประจำที่ (地縛霊 จิบาคุเร) แต่เป็นสัมภเวสี (浮遊霊 ฟุยูเร) ที่แวะเวียนมา หรือผีที่ตามคุณมาจากที่อื่น ซึ่งในกรณีแรกก็แค่มาขอส่วนบุญหรือมาขอความช่วยเหลือแค่นั้น ส่วนกรณีหลังก็แล้วแต่เวรแต่กรรมครับ ไม่เกี่ยวกับโรงแรม...

ส่วนบางกรณีที่เป็นผีประจำที่จริง ๆ อย่างคนที่ฆ่าตัวตาย ตามความเชื่อแล้ว วิญญาณนั้นจะต้องใช้กรรมด้วยการฆ่าตัวตายซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น จึงไม่ส่งผลร้ายต่อผู้มาพักอาศัยแต่อย่างใด แค่ปรากฏตัวให้เห็นในช่วงเฉพาะของเขา เช่นเวลาที่ตาย หรือวันที่ตายในรอบปีเท่านั้น ซึ่งถ้าต่างคนต่างอยู่ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นผีเจ้าที่ที่หวงที่ ไม่ยอมให้อยู่ จริง ๆ ทางโรงแรมก็มักจะไม่ให้ใช้ห้องอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยมีเรื่องมีราว แต่ถ้าเกิดดวงดี เจอเข้าไป ก็ต้องแก้ไขไปตามเรื่องตามราวครับ

วิธีการไล่ผี ตามโรงแรมและสถานที่อื่น ๆ

นอกจากวิธีการที่ผู้คนได้ตอบในแบบสำรวจสำหรับในบ้านแล้ว ยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่คาดไม่ถึง ที่ได้มีคนรวบรวมมาจากเรื่องสยองขวัญต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ในการไปพักตามโรงแรมก็ได้ครับ

ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีปัญหา

หากมีหลอดไฟที่ชอบกระพริบแบบไม่เป็นจังหวะ เครื่องปรับอากาศที่มีกลิ่นหรือเสียงแปลก ๆ ทีวีที่ติดเอง เปลี่ยนช่องเอง ก็ให้รีบปิดและตัดไฟดูก่อน ถอดปลั๊กได้ก็ถอด ถ้ายังมีปัญหาอีกก็ต้องลองวิธีอื่นครับ

แต่ถ้าอะไรที่ไม่ใช้ ปิดไปเลยก็ดีครับ ถอดปลั๊กเลยก็ดี อย่างตู้เย็นหรือเครื่องทำน้ำร้อน ประหยัดไฟด้วย ป้องกันปรากฏการณ์ประหลาดด้วยครับ

เปิดเครื่องดูดความชื้นหรือเครื่องปรับอากาศ

เปิดเครื่องดูดความชื้นหรือเครื่องปรับอากาศ

ถ้าใครยังจำได้ ในตอนที่ 25 มีกรณีที่ผีโดนดูดไปในเครื่องฟอกอากาศอยู่ด้วย ซึ่งก็ได้ผลในบางกรณีครับ เพราะว่ากันว่าผีมักจะปรากฏตัวในอากาศที่ชื้น แต่ผมก็เคยฟังเรื่องผีที่มีผีอยู่ในเครื่องปรับอากาศด้วย อันนั้นนี้ หากไปเปิดเครื่องปรับอากาศ ก็จะมีเสียงแปลก ๆ หรือมีนิ้วคนหล่นลงมา ดังนั้นหากเจอผีแนวนี้ อย่าไปเปิดเครื่องใช้ที่มีผีอยู่จะดีกว่า

เปิดแฟลชถ่ายไล่ให้ทั่ว

เปิดแฟลชถ่ายไล่ให้ทั่ว

ในเรื่องผีบางเรื่องก็ยืนยันว่า ผีเนี่ย เกลียดแสงแฟลช เพราะปกติผีมักจะปรากฏตัวในที่มืด การมีแสงมารบกวนก็ทำให้เกิดความรำคาญได้

แต่แน่นอนว่า อันนี้เป็นดาบสองคมครับ ถ้าผีไม่กลัวจนหนีไป ก็ยิ่งจะอาฆาตแรงมากขึ้นอีกด้วยนะครับ วิธีนี้จึงได้ผลในกรณีที่เจอพวกวิญญาณเร่ร่อนเข้ามาในบ้านครับ

ปรบมือเสียงดัง

ปรบมือเสียงดัง ๆ แบบตอนที่ไปไหว้ศาลเจ้า ว่ากันว่า เสียงดังที่เกิดขึ้นในบรรยากาศที่เงียบสงัดจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ ทุกที ผีมักจะทำเสียงดังให้เราตกใจ แต่ถ้าเราทำบ้าง ผีเองก็น่าจะตกใจเช่นกันครับ หึหึหึ

ใช้อุจจาระ-ปัสสาวะ

อันนี้จริง ๆ ไม่แนะนำในบ้านหรือเคหะสถานครับ แต่เวลาไปเจอในที่แปลก ๆ อย่างตามป่าตามเขา ในบ้านพักตากอากาศ หรือเวลาไปตั้งแคมป์ การใช้ปัสสาวะยังอาจจะช่วยกันผีหรือไล่ผีได้ครับ แต่ต้องยังอุ่น ๆ อยู่นะครับ ในความเชื่อของไทย การไปปัสสาวะรดที่ผีมักจะทำให้ผีโกรธจนตามมารังควาญ แต่หากคุณโดนผีตามรังควาญก่อน เช่นพวกวิญญาณคนเป็นหรือคุณไสย การใช้ปัสสาวะราดใส่หรือปาใส่ผีจำพวกนี้ก็จะไล่ผีไปได้ชั่วคราวครับ เพราะผีบางส่วนก็เคยเป็นคน ย่อมไม่ชอบสิ่งสกปรกด้วยเช่นกัน

เล่นมุกใต้สะดือ

ว่ากันว่า นอกจากผีจะไม่ชอบสิ่งสกปรกเหมือนสมัยที่เป็นคนแล้ว ยังเชื่อกันว่า ผียังไม่ชอบฟังมุกใต้สะดือด้วย การใช้คำไม่สุภาพ คำลามก ผีบางส่วนก็ไม่ชอบฟัง จนถึงขั้นทนไม่ไหวกันเลยทีเดียว

แต่ถ้าเป็นผีที่เคยเป็นคนแนวโรคจิต อาจจะชอบและมาร่วมแจมแทนก็ได้นะครับ...

ใช้ป๊อกกี้ฉีด

ป๊อกกี้ที่ไว้ฉีดแป้งรีดผ้าเนี่ยแหล่ะครับ ในตำนานเทพปกรณัมญี่ปุ่นกล่าวกันว่า ในข้าวโพดนั้นมีเทพสถิตอยู่ แป้งสำหรับรีดผ้านั้น หากเป็นแป้งจำพวกที่ผสมแป้งที่มาจากข้าวโพด ก็เชื่อว่ามีผลในการไล่ผีได้ครับ ตามโรงแรมที่มีอุปกรณ์รีดผ้าในห้องก็มีให้พร้อมครับ ถ้าไม่มีก็ไปซื้อพวกสเปรย์ปรับอากาศที่มีส่วนผสมของแป้งข้าวโพดมาใช้ก็ดีครับ ช่วยดับกลิ่นในห้องและไล่ผีไปพร้อมกัน ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยครับ

ถ้าเตรียมตัวมาดี ต่อให้เจอผีก็มีวิธีรับมือ ทำให้พออุ่นใจได้ครับ ส่วนตัวผมก็เคยได้กลิ่นดอกไม้ป่าในโรงแรมตอนก่อนไปไหว้ศาลเจ้าใหญ่อิเสะมาก่อน ก็ไม่ได้กลัวอะไรมากครับ (ได้กลิ่นเฉพาะคืนแรกตอนช่วงตีสอง วันถัดมาไม่มีกลิ่นเลย) เพราะคิดว่าเขามาดี หรือเป็นเทพที่มาเยือน ก็เลยหลับต่อสบาย (พร้อมกลิ่นหอมชื่นใจ) ครับ 555555

อ่านบทความอื่นได้ที่นี่>>>เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend