ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ชาวญี่ปุ่นบริโภคนั้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลก พวกเขาก็มี “การทานปิดท้ายการดื่มเหล้า” ที่ไม่ได้เหมือนประเทศไหนในโลก วันนี้เราจะพาไปดูกันค่ะว่าทำไม
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักปิดท้ายด้วยราเมน
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนญี่ปุ่นจะไปกินอาหารตามร้านเหล้าอิซากายะที่เสิร์ฟเบียร์ วิสกี้ และไป "ปิดท้าย" ที่ร้านราเมน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอย่างนี้กันทุกคน อย่างน้อยไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาวก็ไม่เปลี่ยน ร้านราเมนโดยเฉพาะใจกลางเมืองใหญ่ก็จะเปิดให้บริการจนถึงรถไฟหมดเที่ยวสุดท้าย
ชาวโอกินาว่าจะปิดท้ายด้วยสเต็ก
ชาวโอกินาว่ามักจะปิดท้ายการดื่มเหล้าด้วยสเต็ก เรื่องนี้คนญี่ปุ่นด้วยกันเองก็ยังประหลาดใจ ภายในจังหวัดโอกินาว่ามีร้านสเต็กมากถึง 150 ร้าน แต่มีประชากรอยู่น้อยอันดับท้ายๆ ของญี่ปุ่น เป็นเพราะที่นี่มีฐานทัพอเมริกาตั้งอยู่ก็คงไม่แปลกที่จะมีร้านสเต็กมากขนาดนี้ แต่ดูจากมุมมองของชาวโอกินาว่าแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดท้ายด้วยสเต็ก เพียงแต่ร้านสเต็กส่วนมากมักจะเปิดถึงดึกเท่านั้น นอกจากนี้ในโอกินาว่าเป็นจังหวัดที่มีผู้ที่ทำงานด้านบริการหรือคนขับแท็กซี่จำนวนมาก หลังเลิกงานดึกก็อาจจะแวะทานเท่านั้นเอง
การปิดท้ายด้วยพาเฟ่ต์ ต้นกำเนิดเริ่มที่ฮอกไกโด
ย่านราตรีที่ไม่เคยหลับใหลชื่อดัง 3 แห่งในญี่ปุ่น ได้แก่ คาบุกิโจที่ชินจุกุ นาคาสึที่ฟุคุโอกะ และซุซุกิโนะที่ฮอกไกโด ชาวเมืองที่นั่นมักจะตบท้ายการดื่มด้วยของหวานอย่างพาเฟ่ต์ ถึงแม้ในร้านเหล้าอิซากายะจะมีเมนูของหวาน แต่ก็เลือกไปทานที่คาเฟ่มากกว่า และรายการทีวีหนึ่งได้นำเสนอเรื่องราวนี้ ความนิยมทานพาเฟ่ต์ปิดท้ายก็แพร่มาในโตเกียวและนาโงย่าด้วย
หลังดื่มเหล้าเสร็จ ทำไมต้องทานของหนักๆ กันด้วย?
ร่างกายเมื่อมีการดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว แอลกอฮอล์บางส่วนจะถูกทำลายโดยตับ ซึ่งในการทำลายนั้นจำเป็นต้องมีน้ำตาลในเลือด หากดื่มแอลกอฮอล์มากน้ำตาลในเลือดก็จะลดต่ำตามลงไปด้วย ซึ่งขณะเดียวกันปริมาณโพแทสเซียม โซเดียมก็ต่ำลงด้วยเช่นกัน ร่างกายจึงต้องการน้ำตาล อะลานีน ออร์นิทีนมากขึ้น
เพราะฉะนั้นราเมนอาหารที่มีส่วนประกอบที่ร่างกายต้องการไม่ว่าจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูหรือน้ำซุปคอมบุ และเมื่อดื่มแอลกอฮอล์มากร่างกายก็ต้องการน้ำ ทำให้อยากทานราเมนขึ้นมา ทั้งสเต็กและพาเฟ่ต์ก็เป็นเหตุผลเดียวกัน
เป็นยังไงกันบ้างคะกับการดื่มแบบชาวญี่ปุ่น แล้วที่ประเทศของคุณมีการปิดท้ายยังไงเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ
Comments