【ทำไมคนญี่ปุ่นถึง...】 ทำไมพระญี่ปุ่นถึงแต่งงานได้? แถมยังไปร่วมงานหาคู่อีกด้วย!

  • 9 เมษายน 2019
  • FUN! JAPAN Team

พระภิกษุสงฆ์ทั่วโลกต่างยึดมั่นคำสอนและสืบทอดตามหลักพระพุทธศาสนา ซึ่งมีความเคร่งครัดอย่างมากในเรื่องบทบัญญัติวินัยที่ห้ามแตะกายเพศหญิง รวมไปถึงอยู่ในสถานที่กับสตรีสองต่อสอง แล้วทำไมพระที่ญี่ปุ่นถึงแต่งงานได้ แถมยังมีลูกด้วย นอกจากนี้พระสงฆ์บางรูปยังเข้าร่วมงานปาร์ตี้หาคู่อีก ทำไมล่ะ? ทำไมล่ะ? จริงๆ เรื่องเหล่านี้มีเหตุผลอยู่


การที่แต่งงานได้เป็นนโยบายของประเทศ

ศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่นบางนิกายก็ได้มีการห้ามรับประทานเนื้อสัตว์ ห้ามแตะต้องเนื้อตัวผู้หญิง แต่ในสมัยเมจิช่วงยุค 1870 รัฐบาลสมัยนั้นได้มีการกวาดล้างพระพุทธศาสนา จากนั้นในปี 1872 มีการออกคำสั่งในเรื่องการรับประทานเนื้อสัตว์และการแตะต้องเนื้อตัวผู้หญิงให้เป็นเรื่องที่ไม่บังคับ พระภิกษุสงฆ์จึงได้รับการปฏิบัติเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นพระญี่ปุ่นจึงสามารถรับประทานเนื้อสัตว์และการแตะต้องเนื้อตัวผู้หญิงได้

เข้าร่วมงานปาร์ตี้จับคู่หาคู่แต่งงาน

ที่ญี่ปุ่นสมัยนี้มักจัดปาร์ตี้หาคู่โดยแยกประเภทหน้าที่การงาน เช่น เฉพาะหมอ เฉพาะทนาย เฉพาะกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวกับการเงิน จำกัดอาชีพของผู้ชายที่เข้าร่วมงาน หญิงสาวก็สามารถเลือกและตัดสินใจได้ง่ายในการเข้าร่วมงาน งานปาร์ตี้หาคู่ที่มีเฉพาะ “พระภิกษุสงฆ์” ก็มี ซึ่งได้รับความนิยมมาก เป็นเพราะว่า “เชื่อใจได้” “มีความมั่นคงกว่าครอบครัวมนุษย์เงินเดือน”

เมื่อเทียบกับผู้ชายทั่วไปแล้วครึ่งหนึ่งก็มักร่วมงานปาร์ตี้แบบเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไร กลับกันกับทางพระภิกษุนั้นต้องการผู้สืบทอดจึงมีความจริงจังที่ต้องการจะแต่งงานมากกว่า 

ชีวิตความเป็นอยู่ของพระภิกษุที่แต่งงานได้

การใช้ชีวิตก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ไม่มีกฎข้อห้ามในการรับประทานเนื้อสัตว์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลูกก็ไปโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป บางคนก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเรียนทางศาสนาเพียงอย่างเดียว แต่คนที่เป็นลูกชายส่วนมากจะต้องสืบต่อกิจการของวัด

แต่ถ้ามองจากมุมมองทางศาสนา แบบนี้ดีแล้วหรือ...?

ที่จริงแล้วมีบางนิกายที่ยอมรับการแต่งงานของพระภิกษุมาตั้งแต่อดีต

ในสมัยเมจิ ปีค.ศ.1867 มีเพียงแค่นิกายโจโดะชินชูที่ยอมรับการแต่งงาน ซึ่งมีเหตุผลว่าการแต่งงานไม่ได้ทำให้ละเว้นการปฏิบัติธรรม และการมีภรรยาแล้วสามารถช่วยเกื้อหนุนได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้ยังมีนิกายนิจิเร็นชูฟุจุฟุเสะ เป็นนิกายที่เคร่งที่สุด ในปัจจุบันก็ยังคงห้ามเรื่องการรับประทานเนื้อสัตว์และการแต่งงานอยู่

พระพุทธศาสนาเหมือนกัน ทำไมถึงแตกต่างกัน

ที่ประเทศไทยนั้นได้มีการนับถือพระพุทธศาสนานิกายหินยาน (เถรวาท) ซึ่งมีปฏิบัติตามคำสอนอย่างเคร่งครัดเพื่อมุ่งสู่นิพพานเป็นจุดสูงสุด ซึ่งประเทศศรีลังกาและกัมพูชาก็นับถือนิกายนี้เช่นเดียวกัน

ส่วนพระพุทธศาสนาในประเทศญี่ปุ่นเป็นนิกายมหายาน รวมไปถึงประเทศจีน (ไต้หวันและฮ่องกงส่วนหนึ่ง) อินเดีย เวียดนามส่วนหนึ่ง ก็นับถือนิกายนี้เช่นเดียวกัน 

ในประเทศไทยนั้นพระภิกษุสงฆ์จะถือศีล 227 ข้อ ที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีแค่เบญจศีลซึ่งเป็นกฎข้อห้าม 5 ข้อ ได้แก่

  1. ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ เราจักถือศีลโดยเว้นจากการเบียดเบียนชีวิต
  2. อทินฺนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ เราจักถือศีลโดยเว้นจากการเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้
  3. กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ เราจักถือศีลโดยเว้นจากการประพฤติไม่เหมาะสมทางเพศ
  4. มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ เราจักถือศีลโดยเว้นจากการกล่าวเท็จ
  5. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ เราจักถือศีลโดยเว้นจากการบริโภคสุรายาเมาอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

เป็นยังไงกันบ้างคะ น่าแปลกใจจริงๆ แต่ทุกเรื่องก็มีที่มาที่ไปทำให้แต่ละประเทศจึงแตกต่างกันค่ะ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend