สุสานซุยโฮเด็น (瑞鳳殿 / Zuihoden) ในเมืองเซนไดจังหวัดมิยางิเป็นสุสานที่ขุนพลสมัยสงครามเซ็งโกคุ ดาเตะ มาซามุเนะ (伊達政宗) ได้นอนหลับไหลอยู่ เป็นหนึ่งในจุดที่เกี่ยวข้องกับ ดาเตะ มาซามุเนะ ที่ตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆในเมืองเซนได และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขาดไม่ได้เลยในการไปท่องเที่ยวในเมืองเซนได มีการถ่ายทอดคำสั่งเสียว่าตัวเขาเองได้ตัดสินใจที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นหลุมฝังศพของตนและสิ่งที่น่าสนใจก็คือการตกแต่งที่หรูหราชวนให้นึกถึงสถาปัตยกรรมสมัยโมโมยามะ
ซุยโฮเด็น คืออะไร
ซุยโฮเด็น ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของซากปราสาทหลักของปราสาทเซนไดขนาบข้างโดยลำน้ำโค้งตวัดของแม่น้ำฮิโรเสะ (広瀬 / Hirose) ของเซนได ถูกสร้างขึ้นในปีคันเอ (寛永 / Kan’ei) ที่ 14 (ค.ศ. 1637) ตามคำสั่งเสียของมาซามุเนะเพื่อใช้เป็นสุสานสำหรับดาเตะ มาซามุเนะ ซุยโฮเด็นประกอบด้วยเรือนหลัก (本殿) เรือนหน้า (拝殿) ที่ถวายเครื่องเซ่น (御供所) และประตูสุสาน (涅槃門)
ตัวสุสานเคยถูกทำลายโดยไฟสงครามในปีโชวะ (昭和 / Showa) ที่ 20 (ค.ศ. 1945) แต่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปีโชวะที่ 54 (ค.ศ. 2522) ตัวซุยโฮเด็นก่อนมอดไหม้นั้นถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติในปีโชวะที่ 6 (ค.ศ. 1931) เป็นสถาปัตยกรรมแบบเบียว (廟建築 / Joss House สถาปัตยกรรมแนววัดจีน) ช่วงต้นสมัยเอโดะ ภายในบริเวณยังมีสุสานของเจ้าแคว้นผู้ครองนครตระกูลดาเตะอื่นๆ เช่น คันเซ็นเด็น (感仙殿 / Kansenden) ซึ่งเป็นสุสานของผู้ครองนครรุ่นที่สอง ดาเตะ ทาดามุเนะ (伊達忠宗 / Date Tadamune) และ เซ็นโอเด็น (善応殿 / Zen'oden) ซึ่งเป็นสุสานของผู้ครองนครรุ่นที่สาม ดาเตะ สึนะมุเนะ (伊達綱宗 / Date Tsunamune) เป็นต้น
ดาเตะ มาซามุเนะ คือใคร
เกิดที่เมืองโยเนะซาวะ (米沢 / Yonezawa) จังหวัดยามากาตะ ในปีเอโรคุ (永禄 / Eiroku) ที่ 10 (ค.ศ. 1567) ในศึกเซคิกาฮาระ (関ケ原の戦い / Battle of Sekigahara) ในปีเคโจ (慶長 / Keicho) ที่ 5 (ค.ศ. 1600) ได้เข้าร่วมกับฝ่ายโทคุงาวะ และต่อมาได้กลายเป็นเจ้าแคว้นผู้ครองนคร (藩主 / Hanshu) รุ่นแรกของแคว้นเซนได (仙台藩 / Sendai-shu) ระหว่างที่สร้างปราสาทได้ทำการเปลี่ยนชื่อเมืองจากชิโยะ (千代 / Chiyo) เป็นเซนได (仙台 / Sendai) สร้างเมืองปราสาทและดำเนินงานก่อสร้างระบบควบคุมน้ำท่วมและการพัฒนาการทำไร่นาแผนใหม่ ในฐานะที่เป็นขุนศึกและบุคคลสำคัญทางวัฒนธรรม ดาเตะ มาซามุเนะจึงเป็นขุนศึกที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่นแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้
สิ่งที่น่าสนใจในสุสานซุยโฮเด็น
สิ่งที่น่าสนใจก็คือสุสานที่สวยงามนั่นเอง ในพื้นหลังสีดำสนิทมีสีอย่างสีแดงสดและสีเหลืองตัดกันจนดูโดดเด่น เป็นสถาปัตยกรรมที่สื่อถึงศักดิ์ศรีของดาเตะเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีบันไดหินอยู่ระหว่างทางเข้าสุสานซุยโฮเด็นซึ่งเชื่อกันว่ามี 62 ขั้น ณ เวลานั้น (ปัจจุบันมี 63 ขั้น) และกล่าวกันว่าเป็นตัวแทนของอัตรารายได้ของแคว้นอันเป็นที่มาของชื่อ แคว้นเซนได 62 หมื่นโคคุ (仙台藩62万石 โคคุ สมัยก่อนใช้เป้นอัตราเงินได้ เขียนด้วยคันจิ 石 ซึ่งแปลว่าหินได้ด้วย) ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็งดงามด้วยใบโมมิจิที่ถูกย้อมด้วยสีแสดเข้มและใบโมมิจิสีเหลืองสดใส มีการเปิดไฟส่องสว่างในวันหยุดสุดสัปดาห์ตั้งแต่ต้นถึงกลางเดือนพฤศจิกายน สร้างบรรยากาศอันน่าอัศจรรย์ นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเครื่องมือฝังศพและซากโบราณที่พบในการขุดสำรวจก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด
การเดินทางไปยังสุสานซุยโฮเด็น
จากสถานี JR "Sendai" ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีโดยรถยนต์ หรือประมาณ 15 นาทีโดยรถบัส "Rupuru Sendai" แล้วลงที่ป้ายรถเมล์ "Zuihoden" รถบัสรอบเมือง Rupuru Sendai ออกจากสถานี Sendai ทุกๆ 20 นาที (ทุกๆ 15 นาทีในวันหยุด) โดยรถรอบแรกออกเวลา 9.00 น. ป้ายที่สี่ "Zuihoden" เป็นป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด เนื่องจากเป็นรถวิ่งวนเส้นเดียว ขากลับจึงต้องใช้รถบัสท้องถิ่น หากใช้รถไฟใต้ดินใช้เวลาเดินประมาณ 15 ถึง 20 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Omachi Nishi Koen บนสาย Tozai
ข้อมูลสถานที่แนะนำ
- ชื่อสถานที่: สุสานซุยโฮเด็น (瑞鳳殿 / Zuihoden)
- ที่ตั้ง: 23-2 Otamashiyashita, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi 〒980-0814
- ค่าเข้าชม: บุคคลทั่วไป 550 เยน นักเรียนมัธยมปลาย 400 เยน นักเรียนประถม-มัธยมต้น 200 เยน
- เวลาทำการ: ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 30 พฤศจิกายน 9.00 - 16.30 น. (เวลาเข้าชมรอบสุดท้าย) ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม - 31 มกราคม 9.00 - 16.00 น. (เวลาเข้าชมรอบสุดท้าย)
- วันหยุดประจำ: 31 ธันวาคม
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: มูลนิธิสุสานซุยโฮเด็น
Comments