กรุงเกียวโต (京都府 / Kyoto-fu) เป็นจุดท่องเที่ยวชั้นนำของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคิงกิ (近畿地方 / Kinki Region) เป็นที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นจากทิวทัศน์บ้านเรือนเก่าแก่ วัดวาอาราม เกอิชา และอาหารแบบเกียวโต มีจุดท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกถึง 17 แห่งในจังหวัด นอกจากทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแล้วก็ยังมีป่าไม้ พืชและสัตว์ต่าง ๆ มากมายด้วยค่ะ ทิวทัศน์อันงดงามของทรัพย์สินทางวัฒนธรรมกับธรรมชาตินั้นก็ควรค่าแก่การไปชมอย่างยิ่งค่ะ
อนึ่ง นครเกียวโต (京都市 / Kyoto-shi อำเภอ) และกรุงเกียวโต (จังหวัด) นั้นเป็นคนละส่วนกัน กรุงเกียวโตแบ่งออกเป็นห้าพื้นที่ และนครเกียวโตก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ บทความนี้แนะนำส่วนของนครเกียวโตพร้อมกับกรุงเกียวโตทั้งจังหวัดค่ะ
เกี่ยวกับกรุงเกียวโต
พื้นที่ของกรุงเกียวโตกว่า 80% เป็นพื้นที่ภูเขาและเนินเขาค่ะ อย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ไม่มีภูเขาที่สูงระดับ 1,000 เมตรเลยสักลูก จึงมีลักษณะเป็นพื้นที่ค่อนข้างเปิดค่ะ หากแบ่งตามสภาพภูมิประเทศจะแบ่งได้เป็นตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้ค่ะ ทางตอนเหนือและตอนกลางเป็นภูมิประเทศแบบภูเขา และตอนใต้เป็นภูมิประเทศแบบแอ่งก้นกระทะค่ะ
อนึ่ง นครเกียวโตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของแอ่งก้นกระทะเกียวโตซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้าน ในตัวเมืองนั้นมีผังเมืองเป็นถนนตัดผ่านแบบตารางสี่เหลี่ยมที่ถูกทำขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 8 ค่ะ
ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของกรุงเกียวโต
กรุงเกียวโตเป็นเมืองเก่าแก่ที่เคยได้กลายเป็นเมืองหลวงในศตวรรษที่ 8 แม้ว่าศูนย์กลางการปกครองจะถูกย้ายมาอยู่ที่คามาคุระในศตวรรษที่ 12 ก็ตาม แต่ก็ยังได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ต่อมาในศตวรรษที่ 14 และ 19 ก็กลายเป็นศูนย์กลางทางการปกครองอีกครั้งและได้พัฒนากลายเป็นมหานครแบบทันสมัยในที่สุดค่ะ
อนึ่ง วัดวาอารามที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมายหลายแห่งนั้นถูกสร้างขึ้นมานานนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เลยค่ะ วัดคิโยมิสุเดระ (清水寺 / Kiyomizudera วัดน้ำใส) วัดนินนาจิ (仁和寺 / Ninnaji) และอุโบสถโฮโอ อารามเบียวโดอิน (平等院鳳凰堂 / Byodo-in Hodo-do) ก็ถูกสร้างขึ้นตามลำดับค่ะ
ไปเที่ยวกรุงเกียวโต พักสักกี่คืนถึงจะคุ้ม?
กรุงเกียวโตแบ่งออกได้เป็นห้าพื้นที่ใหญ่ ๆ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะเลือกจำนวนวันที่จะไปพักโดยพิจารณาตากจำนวนของพื้นที่ท่องเที่ยวและสถานที่ที่จะไปเยี่ยมชมค่ะ ข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละพื้นที่ท่องเที่ยวนั้นเราได้เขียนอธิบายอยู่ข้างล่าง แต่ว่าการเที่ยวชมเพียงพื้นที่เดียวก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองคืนสามวันเลยค่ะ นอกจากนี้ กรณีที่จะไปเที่ยวชมหลายพื้นที่ในทริปเดียวก็ควรกะเวลาไว้สัก 3 ถึง 4 คืนจะเป็นการดีกว่าค่ะ
ตัวอย่างเช่น ทางตอนเหนือสุดของกรุงเกียวโตคือพื้นที่ทังโกะ (丹後 / Tango) และทางตอนใต้สุดคือพื้นที่ยามะชิโระ (山城 / Yamashiro) ค่ะ จากสถานี Kumihama ในอำเภอเคียวทังโกะ (京丹後市 / Kyotango-shi) ทางตอนเหนือสุดของพื้นที่ทังโกะ ไปยังสถานี Uji ในอำเภออุจิ (宇治市 / Uji-shi) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักในพื้นที่ยามาชิโระ เวลาเดินทางระหว่างสองสถานีนั้นใช้เวลาเดินทางเที่ยวเดียวโดยรถไฟประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งเลยค่ะ
เมื่อพิจารณาเวลาการเดินทางและเวลาที่ใช้ในสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งดูแล้วละก็ เราขอแนะนำให้เดินทางเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้นสำหรับการไปเที่ยวกรุงเกียวโตให้ครบถ้วนและเพลิดเพลินอย่างเต็มที่ค่ะ
พื้นที่ท่องเที่ยวในกรุงเกียวโต
พื้นที่ท่องเที่ยวของกรุงเกียวโตแบ่งออกเป็น 5 พื้นที่ดังต่อไปนี้ค่ะ แผนที่ท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่นั้นสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์การท่องเที่ยวของแต่ละอำเภอในกรุงเกียวโต
แผนที่ท่องเที่ยวในพื้นที่เกียวโตนั้นมีให้บริการที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเกียวโตภายในอาคารสถานี Kyoto ค่ะ
พื้นที่ท่องเที่ยว | จุดเด่น |
ทังโกะ (อะมาโนะฮาชิดาเตะ และอื่น ๆ) | แหล่งวิวสวย แหล่งออนเซ็น |
ชูตัน (ปราสาทฟุกุจิยามะ และอื่น ๆ) | มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายซึ่งใช้ธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ |
นันตัน (แม่น้ำโฮซุกาวะ และอื่น ๆ) | พื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติซึ่งอยู่ติดกับนครเกียวโต |
นครเกียวโต (สถานี Kyoto และอื่น ๆ) | พื้นที่ที่มีมรดกโลกถึง 15 อย่าง |
ยามาชิโระ (อุจิ และอื่น ๆ) | เมืองหลวงแห่งชาเขียว |
ทังโกะ (อะมาโนะฮาชิดาเตะ)
ทังโกะ (丹後 / Tango) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเกียวโต พื้นที่นี้มีศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอเคียวทังโกะ (京丹後市 / Kyotango-shi) ในคาบสมุทรทังโกะ (丹後半島 / Tango Peninsula) และมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งชมวิวทิวทัศน์และแหล่งน้ำพุร้อนค่ะ
จุดที่น่าจับตามากที่สุดก็คือ อะมาโนะฮาชิดาเตะ (天橋立 / Amanohashidate สันดอนสะพานฟ้า) และทาเตะอิวะ (立岩 / Tateiwa หินตั้ง) อะมาโนะฮาชิดาเตะเป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์งดงามแห่งญี่ปุ่น (日本三景 / Three Views of Japan) ค่ะ นอกจากนี้ ทาเตะอิวะยังเป็นแนวโขดหินชันตามธรรมชาติที่มีความสูงถึง 20 เมตรและถูกกำหนดให้เป็นจุดชมวิวขึ้นชื่ออีกด้วยค่ะ
ชูตัน (ฟุกุจิยามะ และอื่น ๆ)
ชูตัน (中丹 / Chutan) ตั้งอยู่ด้านล่างของทันโกะ ประกอบด้วยอำเภอฟุกุจิยามะ (福知山 / Fukuchiyama) อำเภอไมสึรุ (舞鶴 / Maizuru) และอำเภออายาเบะ (綾部 / Ayabe) ในพื้นที่แห่งนี้ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอย่างทะเลและภูเขา กิจกรรมต่าง ๆ เช่นการเดินป่าปีนเขา และการล่องเรือชมวิวก็เป็นที่นิยมมากค่ะ
นอกจากนี้ยังมีอาคารเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เช่น ปราสาทฟุกุจิยามะ (福知山城 / Fukuchiyama-jo) และวัดอังโคคุจิ (安国寺 / Ankokuji) เป็นต้นค่ะ
นันตัน (แม่น้ำโฮซุกาวะ)
นันตัน (南丹 / Nantan) เป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกับนครเกียวโต ในด้านสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากจะมีทัศนียภาพทางธรรมชาติต่าง ๆ อย่างเช่นหุบเขาและป่าดึกดำบรรพ์แล้ว ก็ยังมีด้านอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นศาลเจ้าและวัดวาอารามโบราณ เป็นต้น
อย่าลืมสัมผัสกับกิจกรรม ที่คุณจะสัมผัสได้ถึงธรรมชาติของเกียวโต อย่างเช่น การเล่นร่มร่อนพาราไกลดิ้ง การล่องแพ และอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การล่องลำน้ำโฮซุกาวะนั้นเป็นเส้นทางตามลำน้ำจากคาเมะโอกะ (亀岡 / Kameoka) ไปยังอาราชิยามะ (嵐山 / Arashiyama) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเกียวโต มีระยะทางถึง 16 กิโลเมตร และเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นค่ะ
นอกจากนี้นันตันยังมีเมืองมิยามะ (美山町 / Miyama-cho) ซึ่งถูกเรียกว่า “เกียวโตอีกแห่ง” ค่ะ เมืองมิยามะเป็นพื้นที่ที่มีอาคารหลังคามุงจากตั้งเรียงรายกันคล้ายหมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะค่ะ คุณยังสามารถชมความงามตามธรรมชาติไปพร้อมกับการชมหลังคามุงจากได้ค่ะ
เผยความงามของหมู่บ้านมิยามะ หมู่บ้านชนบทแห่งเกียวโต
ฤดูหนาวของเมืองมิยามะในเกียวโต
นครเกียวโต (สถานี Kyoto และอื่น ๆ)
นครเกียวโตตั้งอยู่ในใจกลางของกรุงเกียวโต พื้นที่นี้มีศูนย์กลางอยู่ที่สถานีเกียวโต มีจุดท่องเที่ยวมากมายเช่นสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกค่ะ
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือบรรยากาศที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่ท่องเที่ยวแม้จะอยู่ภายในเมืองค่ะ
ตัวอย่างเช่น คาวาระมาจิ (河原町 / Kawaramachi ย่านลานกว้างริมแม่น้ำ) เป็นย่านใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเกียวโต บริเวณนี้เป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวอย่างเรื่องการช้อปปิ้งค่ะ
สำหรับที่อื่น ๆ ก็ได้แก่ กิออน (祇園 / Gion) และฮิกาชิยามะ (東山 / Higashiyama) ซึ่งก็เป็นสถานที่ชั้นนำของเกียวโตด้วยเช่นกัน มีทั้งทิวทัศน์อาคารบ้านเรือนเก่าแก่มากมายที่มีห้องแถวโบราณและร้านค้าแบบดั้งเดิมตั้งเรียงกัน และศาลเจ้ากับวัดวาอารามโบราณเช่นเจดีย์แห่งยาซากะ (八坂の塔 / Yasaka no To) และวัดน้ำใส คิโยมิสุเดระ (清水寺 / Kiyomizudera) เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีอาราชิยามะ (嵐山 / Arashiyama) และคุรามะ (鞍馬 / Kurama) ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินป่าปีนเขาค่ะ
ยามาชิโระ (อุจิ และอื่น ๆ)
ยามาชิโระ (山城 / Yamashiro) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงเกียวโต เป็นพื้นที่ที่ประกอบด้วย 12 เขตเทศบาล มีชื่อเล่นว่า "เมืองหลวงแห่งชาเขียว” (お茶の京都 / Ocha no Kyoto) มีร้านค้าชื่อดังมากมายในพื้นที่แห่งนี้ซึ่งให้กำเนิดมีชาแบรนด์ญี่ปุ่น “อุจิชา” (宇治茶 / Ujicha) ค่ะ
นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่มีศาลเจ้าและวัดวาอารามมากมายค่ะ หนึ่งในที่มีชื่อเสียงที่สุดในนั้นก็คือ อารามเบียวโดอิน (平等院 / Byodoin) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกค่ะ ที่นี่คุณสามารถชื่นชมสมบัติชาติ “อุโบสถโฮโอ” (鳳凰堂 / Ho-O-do) และสวนในวัดได้ ค่ะ
ถ้ามาที่เกียวโตแล้ว ไปพักที่ไหนดี?
กรุงเกียวโตมีที่พักมากมาย จุดเด่นนั้นก็แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะในนครเกียวโตที่มีโรงแรมหลากหลายประเภท ตั้งแต่โรงแรมหรูไปจนถึงโฮมสเตย์ค่ะ
พื้นที่ท่องเที่ยว | จุดเด่น |
ทังโกะ (อะมาโนะฮาชิดาเตะ และอื่น ๆ) | มีที่พักที่มีออนเซ็นด้วยมากมายหลายแห่ง |
ชูตัน (ปราสาทฟุกุจิยามะ และอื่น ๆ) | มีโฮมสเตย์กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ |
นันตัน (แม่น้ำโฮซุกาวะ และอื่น ๆ) | เต็มไปด้วยที่พักขนาดกะทัดรัด เช่น ที่พักแบบเน้นมื้ออาหาร และที่พักที่มีออนเซ็น |
นครเกียวโต (สถานี Kyoto และอื่น ๆ) | มีโรงแรมเป็นจำนวนมาก |
ยามาชิโระ (อุจิ และอื่น ๆ) | ที่พักราคาสมเหตุสมผลเช่นเรียวกังและโฮมสเตย์ตั้งกันเรียงราย |
ที่พักราคาถูกกระจายอยู่รอบ ๆ สถานี Kyoto ในนครเกียวโตหรือในพื้นที่ยามาชิโระค่ะ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเกียวโตมีขนาดใหญ่มาก จึงเป็นความคิดที่ดีที่จะจำกัดการค้นหาที่พักให้แคบลงโดยเลือกที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยวก่อนที่จะลองค้นหาช่วงราคาค่ะ
แหล่งน้ำพุร้อนอันขึ้นชื่อและเรียวกังที่สามารถไปแช่ออนเซ็นได้ในกรุงเกียวโต
น้ำพุร้อนในกรุงเกียวโตนั้นก็มีหลายแห่งในนครเกียวโตและอำเภอเคียวตันโกฝั่งทะเลญี่ปุ่นค่ะ ในนครเกียวโตก็มีที่พักน้ำพุร้อนอยู่ใกล้กับอาราชิยามะทางฝั่งพื้นที่ภูเขาค่ะ ช่วงราคาที่พบได้มากที่สุดอยู่ในช่วง 20,000 ถึง 30,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
แหล่งน้ำพุร้อน | จุดเด่น | เรียวกังหลัก |
อาราชิยามะออนเซ็น | อยู่ใกล้กับย่านตัวเมืองของเกียวโต | โทเก็ตสึเต (渡月亭 / Togetsutei) |
ยุโนะฮานะออนเซ็น | แหล่งน้ำพุร้อนทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครเกียวโต ในพื้นที่ภูเขาของอำเภอคาเมะโอกะ | สุมิยะคิโฮอัน (すみや亀峰菴 / Sumiya Kiho-an) |
ฮะมาโนะฮาชิดาเตะออนเซ็น | แหล่งน้ำพุร้อนในอะมาโนะฮาชิดาเตะ แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อทางตอนเหนือของกรุงเกียวโต | อะมาโนะฮาชิดาเตะริคิว โฮชิโนะโอโตะ (天橋立離宮 星音 / Amanohashidate Villa Hishonooto) |
คุมิโนะฮามะออนเซ็นเคียว | แหล่งน้ำพุร้อนที่อยู่ทางฝ่งทะเลในอำเภอเคียวตันโกะทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว | เฮคิซุยเกียวเอ็น (碧翠御苑 / Hekisui Gyoen) |
ไทสะออนเซ็นเคียว | แหล่งน้ำพุร้อนที่อยู่ริมทะเลอำเภอเคียวตันโกะ โด่งดังเรื่องปูไทสกานิ (間人ガニ / Taizagani) | ไทสะออนเซ็น สุมิเฮ (間人温泉 炭平 / Taizaonsen Sumihei) |
ในส่วนนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับนครเกียวโตกันค่ะ
เรื่องแสนสะดวกที่ควรรู้ไว้ก่อนจะไปเที่ยวนครเกียวโต
นครเกียวโตเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายค่ะ ดังนั้นจึงควรหาข้อมูลตามที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวไว้ก่อนที่คุณจะเริ่มออกไปเที่ยวค่ะ และควรตรวจสอบแผนที่รถไฟใต้ดินและสถานที่รับฝากกระเป๋าเดินทางเพื่อให้การเที่ยวในเกียวโตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพราบรื่นยิ่งขึ้นค่ะ
อนึ่ง ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่นและร้านสตาร์บัคทั้งหมดทุกสาขาในเขตนครเกียวโตนั้น เป็น "ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวย่านกลางเมืองเกียวโต" (京都まちなか観光案内所 / Kyoto Machinaka Tourist Information Center) ซึ่งให้บริการฟรีแนะนำข้อมูลจุดท่องเที่ยว ข้อมูลการจราจร แผนที่และอื่น ๆ รอบ ๆ ตัวร้านสาขานั้น ๆ ค่ะ
ดาวน์โหลดแผนที่รถไฟใต้ดินนครเกียวโตกันไว้ดีกว่า
ภายในเขตนครเกียวโตมีรถไฟใต้ดินและทางรถไฟที่วิ่งลงใต้ดินบางส่วนรวมทั้งหมด 4 สาย เพื่อที่จะไปยังจุดท่องเที่ยวแต่ละแห่งได้อย่างราบรื่น เราขอแนะนำให้ดาวน์โหลดแผนที่ล่วงหน้ากันค่ะ
อนึ่ง คุณสามารถดาวน์โหลดแผนที่รถไฟใต้ดินเกียวโตได้จากเว็บไซต์สำนักงานขนส่งนครเกียวโตได้ค่ะ
สถานที่รับฝากสัมภาระในเกียวโตอยู่ตรงไหน?
สถานีส่วนใหญ่ภายในกรุงเกียวโตนั้นมีตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญค่ะ อย่างไรก็ตาม ตู้ล็อคเกอร์ที่สามารถเก็บกระเป๋าขนาดใหญ่ได้นั้นมีจำนวนค่อนข้างน้อย นอกจากนี้ เมื่อเที่ยวชมนอกเขตนครเกียวโตก็อาจหาตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญและสถานที่รับฝากสัมภาระทางได้ยาก ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้าค่ะ
อย่างไรก็ตาม ในนครเกียวโตมีหลายสถานที่ที่คุณสามารถไปฝากสัมภาระได้ค่ะ โดยเฉพาะในแถบสถานีเกียวโตก็มีมากเป็นพิเศษ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนค่ะ
- จุดรับฝากกระเป๋า สถานี JR Kyoto (Crosta Kyoto ทางออก Hachijo ฝั่งตะวันตก Japan Travel TiS สาขาทางออกทิศตะวันตกสถานีเกียวโต)
- ที่ทำการไปรษณีย์กลางเกียวโต
- ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวคันไซสาขาเกียวโต เกียวโตทาวเวอร์
- ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญในสถานีเกียวโต (24 จุด รวมประมาณ 4,200 ตู้)
ค่าธรรมเนียมการใช้งานอยู่ที่ 300-700 เยนสำหรับตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญและ 400-1,000 เยนสำหรับการฝากสัมภาระโดยตรงค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
ลักษณะเด่นของเกียวโตในฤดูกาลทั้งสี่ - สภาพภูมิอากาศและสิ่งน่าสนใจ
เกียวโตมีภูมิอากาศที่แตกต่างกันระหว่างตอนเหนือและตอนใต้ ลักษณะเฉพาะของตอนเหนือคือมีหิมะมากในฤดูหนาว ในทางตรงกันข้าม ส่วนทางตอนใต้มีอากาศร้อนในฤดูร้อนและหนาวในฤดูหนาว ลักษณะเด่นอีกอย่างก็คือคุณสามารถเห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาลได้
ในส่วนนี้เราจะกล่าวถึงรายละเอียดสภาพภูมิอากาศของนครเกียวโตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญกันค่ะ
ฤดูใบไม้ผลิในเกียวโต (มีนาคม-พฤษภาคม)
ฤดูใบไม้ผลิมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14 องศาเซลเซียสค่ะ ในช่วงกลางวันมีอากาศค่อนข้างอบอุ่น แต่เนื่องจากช่วงเช้าและเย็นจะมีอากาศหนาวเย็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคม จึงควรสวมเสื้อแขนยาวค่ะ
สิ่งน่าสนใจประจำฤดูใบไม้ผลิก็คงไม่พ้นดอกซากุระนั่นเองค่ะ ในที่ต่าง ๆ จะมีดอกซากุระบาน โดยจะบานเต็มที่ในเดือนเมษายนค่ะ ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดงานซึ่งเป็นหนึ่งในสามเทศกาลใหญ่แห่งเกียวโตซึ่งมีชื่อว่า เทศกาลอาโออิ (葵祭 / Aoi Matsuri) ขึ้นค่ะ
ฤดูร้อนในเกียวโต (มิถุนายน-สิงหาคม)
ฤดูร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 26 องศาเซลเซียสค่ะ อากาศในช่วงเช้าและเย็นไม่เย็นมาก การสวมเสื้อแขนสั้นก็พอเพียงค่ะ อย่างไรก็ตามฤดูกาลนี้มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าฤดูอื่นค่ะ
เมืองเกียวโตในฤดูร้อนนั้นเต็มไปด้วยกิจกรรมอีเวนต์มากมาย ตัวอย่างเช่น เทศกาลกิออน (祇園祭 / Gion Matsuri) ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม และเทศกาลทานาบาตะและการจุดไฟส่งวิญญาณเกียวโตโกซังโอคุริบิ (京都五山送り火 / Kyoto Gozan Okuribi) จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ยังมีการเปิดชายหาดเล่นน้ำทะเลและการประกวดพลุดอกไม้ไฟด้วยค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วงในเกียวโต (กันยายน-พฤศจิกายน)
ฤดูใบไม้ร่วงมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมค่อนข้างอบอุ่นและเย็นสบาย แต่ในเดือนพฤศจิกายนอุณหภูมิต่ำสุดอาจลดต่ำกว่า 10 องศ้เซลเซียส ดังนั้นการสวมเสื้อแขนยาวจึงเป็นการดีค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูกาลแห่งใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงที่สวยงามที่สุดและมีทิวทัศน์ที่งดงามแผ่กว้างให้ชมค่ะ สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ทุกที่ แต่ในแถบซากาโนะและอาราชิยามะทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครเกียวโตนั้นก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีมากเป็นพิเศษค่ะ
ฤดูหนาวในเกียวโต (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
ฤดูหนาวมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียสค่ะ แม้ว่าจะไม่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง แต่ก็ควรเสื้อผ้าที่หนาไว้ก่อนเป็นค่ะ
ในฤดูหนาวก็มีเสน่ห์ด้วยการประดับไฟอิลลูมิเนชั่นและการส่องไฟยามค่ำคืนค่ะ โดยเฉพาะไฟประดับตามศาลเจ้า วัดวาอาราม และสถานที่ท่องเที่ยวในแถบฮิกาชิยามะ ซากะ และอาราชิยามะในเขตนครเกียวโตนั้นก็งดงามราวภาพมายาเลยค่ะ
อาหารและร้านอาหารในเกียวโต
ในกรุงเกียวโตนั้นก็มีอาหารญี่ปุ่นมากมายให้ไปรับประทานกันได้ค่ะ อาหารที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่ อาหารเจแบบเซน (精進料理 / Shojin Ryori) เต้าหู้น้ำ ยูโดฟุ (湯豆腐 / Yudofu) และซูชิปลาซาบะ (さば寿司 / Saba Sushi) เป็นต้นค่ะ สถานที่ที่สามารถไปทานอาหารเหล่านี้ได้ก็มีหลายแห่ง แต่จะมีมากเป็นพิเศษตามย่านกิออนและตามริมแม่น้ำคาโมะค่ะ
ร้านซูชิในเกียวโต
หากคุณต้องการทานซูชิในเมืองเกียวโต ลองไปที่ร้านขายซูชิสายพานและที่นั่งเคาน์เตอร์ดูได้เลยค่ะ ตัวอย่างเช่น หากจะทานที่ร้านซูชิสายพาน ที่ร้าน "คุราซูชิ สาขานิโจ” (くら寿司 二条店 / Kurasushi Nijo Store) คุณสามารถรับประทานซูชิได้.oik8k0ko[t 100 ถึง 200 เยนgmjkoyho8jt
ในทางกลับกัน หากคุณต้องการทานซูชิในเมนูแบบคอร์สหรือแบบชุด เราขอแนะนำร้าน “กิออนซูชิ ทาดายาสุ” (祇園 鮨 忠保 / Gion Sushi Tadayasu) และร้าน “ซูชิ คาวาโนะ” (鮨 かわの / Sushi Kawano) ช่วงราคาเริ่มตั้งแต่ 5,000 ถึง 33,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
ในพื้นที่แถบทังโกะในกรุงกียวโตมีอาหารท้องถิ่นชื่อ "บาราซูชิ” (ばらずし / Barazushi) ค่ะ เป็นข้าวซูชิโรยหน้าด้วยปลาซาบะหมักจนได้รสหวานเผ็ดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ โรยด้วยเห็ดชิตาเกะ ไข่เจียวหั่นฝอยคินชิทามาโกะ และขิงดองเบนิโชกะค่ะ เป็นซูชิแบบข้าวหน้าปลาดิบที่ต่างจากนิกิริซูชิ (ข้าวปั้นซูชิ) ที่พบเห็นทั่วไปในปัจจุบัน มีร้านค้าชื่อดังมากมายในพื้นที่แถบทังโกะเนื่องจากเป็นอาหารท้องถิ่นในแถบนี้ แต่จะมีร้านมากเป็นพิเศษในอำเภอเคียวตังโกะค่ะ ราคามีช่วงกว้างตั้งแต่ 500 ถึง 2,000 เยนค่ะ
ร้านราเมนในเกียวโต
ราเมนของกรุงเกียวโตเป็นที่รู้จักกันดีไปทั่วญี่ปุ่นในนาม "เกียวโตราเมน” ลักษณะจำเพาะก็คือมีซุปที่ใช้รสโชยุที่เข้มข้นหรือรสซุปไก่ที่จัดจ้านเป็นต้นค่ะ
ชื่อสถานที่ | จุดเด่น |
MENBAKA Kyoto Fire Ramen | ราเมนไฟแดงที่โด่งดังที่ใช้ต้นหอมคุโจของเกียวโตอย่างจุใจไม่ยั้งมือ |
Shinpukusaikan Honten | ต้นกำเนิดของเกียวโตราเมน ขึ้นชื่อเรื่องโซบะจีนรสซีอิ๊ว |
Honke Daiichiasahi Honten | หมูย่างและเส้นหมี่ที่เข้ากับซุปรสโชยุก็อร่อยลงตัวมาก |
Masutani | ลักษณะเด่นคือซุปโชยุไก่ตุ๋นและเส้นหมี่ที่เรียวเล็ก |
แม้จะมีพื้นฐานเป็นรสชาติที่เข้มข้นเหมือนกัน แต่ความหนาของเส้นหมี่และส่วนผสมที่ใช้ก็แตกต่างกันไป ดังนั้นถ้าคุณมีเวลาพอ การไปลองทานเปรียบเทียบก็น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ ช่วงราคาของราเมนหนึ่งชามคือ 600-2,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
ภัตตาคารระดับมิชลินในเกียวโต
มีร้านอาหารประมาณ 200 ร้านในกรุงเกียวโตที่ถูกแนะนำในมิชลินไกด์รวมถึงที่ถูกแนะนำในหนังสือคู่มือแนะนำสุดยอดร้านอาหาร Bib Gourmand ค่ะ ในบรรดาร้านระดับมิชลินเหล่านั้น ร้านเฮียวเต (瓢亭 / Hyotei) เป็นร้านอาหารแบบไคเซกิเก่าแก่ที่มีประวัติการเปิดร้านมานานถึง 400 ปี สำหรับอาหารตะวันตกนั้นเราแนะนำร้าน Restaurant Hiramatsu Kodaiji (レストランひらまつ高台寺) และ Ristorante Chimera (リストランテ キメラ) ค่ะ
ร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างอุด้ง ชุดอาหาร ฯลฯ ในเกียวโต
นครเกียวโตมีร้านอาหารญี่ปุ่นมากมาย มีร้านแฟรนไชส์เพียงไม่กี่ร้าน คุณจึงสามารถทานอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเกียวโตได้ค่ะ
หากจะทานอุด้ง เราแนะนำร้าน Yamamoto Menzou (山元麺蔵) หากจะทานอาหารเกียวโตก็แนะนำร้าน Gohandokoro Yaosada (ごはん処 矢尾定) และร้าน Kyosaimi Nomura (京菜味 のむら) ค่ะ ควรเตรียมงบประมาณไว้สัก 900 ถึง 1,300 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
ร้านกาแฟและคาเฟ่ในเกียวโต
ในเกียวโตมีร้านกาแฟและคาเฟ่มากมายที่คุณสามารถไปทานขนมญี่ปุ่นได้ค่ะ
สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษในนั้นก็คือ ร้านสาขาของ”สตาร์บัคส์” ที่มีอยู่ทั่วประเทศ “สตาร์บัคส์คอฟฟี่ ร้านน้ำชาสาขาเกียวโตนิเนยาซากะชายะ” (スターバックスコーヒー 京都二寧坂ヤサカ茶屋店 / Starbucks Coffee Kyoto Ninenzaka Yasaka Chaya branch) ค่ะ ที่นี่คุณสามารถทานกาแฟและเค้กภายในร้านได้เหมือนสาขาอื่น ๆ แต่สาขานี่ก็มีการตกแต่งภายนอกที่แปลกตาโดยใช้บรรยากาศของเมืองเกียวโตให้เป็นประโยชน์จนเหมือนร้านน้ำชาสมัยโบราณเลยค่ะ
นอกจากนี้การตกแต่งภายในก็มีเสน่ห์เช่นเดียวกับภายนอก โดยมีการใช้ห้องรับแขกแบบซาชิกิ (座敷 / Zashikiแบบนั่งพื้นบนเสื่อทาทามิ) ที่สามารถนั่งจิบกาแฟได้ค่ะ
สำหรับร้านอื่น ๆ เราขอแนะนำ Gion Hitsuji Cafe (祇をん ひつじカフェ) ที่ซึ่งคุณสามารถดื่มกาแฟในพื้นที่ที่เงียบสงบซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกียวโตค่ะ
ร้านอาหารแปลก ๆ ในเกียวโต
เมื่อคุณมาถึงเกียวโตแล้ว อย่าไปเยือนเพียงแค่ร้านอาหารมาตรฐานเท่านั้นนะคะ ต้องลองไปยังร้านที่มีความแปลกแหวกแนวดูด้วยค่ะ
ชื่อสถานที่ | ช่วงราคา |
Issen Yoshoku (壹錢洋食) | 210-800 เยน |
Shishin Samurai Restaurant (士心 サムライレストラン) | 1,200-10,000 เยน |
Omurice KichiKichi (ザ・洋食屋キチキチ) | 1,500-3,250 เยน |
Issen Yoshoku (壹錢洋食) เป็นร้านขายเครื่องปั้นที่กลายมาเป็นร้านต้นตำหรับโอโคโนมิยากิค่ะ หุ่นที่พบได้ทั้งในและนอกร้านก็เป็นผลงานต้นฉบับของทางร้านค่ะ
ในทางกลับกัน ภัตตาคาร Shishin Samurai Restaurant (士心 サムライレストラン) ซึ่งมีชุดเกราะและดาบจัดแสดงภายในร้านก็ให้บริการอาหารที่จัดราวกับเป็นอาหารสำหรับขุนศึกเลยค่ะ
ส่วนร้าน Omurice KichiKichi (ザ・洋食屋キチキチ) มีครัวแบบเปิดซึ่งคุณสามารถชมการทำข้าวไข่เจียวแบบสด ๆ ได้ค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
จุดทานอาหารเช้าที่แนะนำในเกียวโต
สำหรับการทานอาหารเช้าในเกียวโต เราขอแนะนำอาหารจำพวกแพนเค้ก อาหารเช้าแบบญี่ปุ่น และบุฟเฟ่ต์ค่ะ สำหรับอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น ร้าน “ทัน” (丹 / Tan) และร้าน “คิชิน” (喜心 / Kishin) ก็เป็นที่นิยมมาก สำหรับอาหารตะวันตกเช่นแพนเค้ก ร้าน “Okaffe Kyoto” (おかふぇ きょうと) และ “Cafe & Pantry Matsunosuke” (Cafe & Pantry 松之助) เป็นที่นิยมมากค่ะ
ส่วนสำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ร้านที่อยู่ภายในโรงแรมก็น่าสนใจค่ะ
ของว่าง-ของหวานขึ้นชื่อของเกียวโต
กรุงเกียวโตมีชื่อเสียงเรื่องขนมชาเขียวมัทฉะค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้นำมาใช้กับแค่เพียงขนมญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังใช้กับขนมตะวันตกต่าง ๆ ด้วยค่ะ ตัวอย่างเช่น ร้าน "สะเรียว สึจิริ” (茶寮都路里 / Saryo Tsujiri) สามารถทำพาร์เฟ่ต์แบบให้คุณกำหนดเองโดยใช้เค้กคาสเทลล่าและช็อคโกแลตที่ใช้ผงชาเขียวมัทฉะประกอบได้ค่ะ
นอกจากนี้ ร้าน “กิออนโคอิชิ คันมิโดโคโระ (祇園小石 甘味処 / Gankoishi Kanmidokoro) นอกจากผงชาเขียวมัทฉะแล้วก็ยังให้บริการขนมญี่ปุ่นรสหวานอื่น ๆ เช่นอันมิสึอีกด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 630-1,500 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
โรงแรมในเกียวโต
ในเกียวโตมีตั้งแต่โรงแรม 5 ดาวที่ถูกแนะนำในคู่มือมิชลินไกด์ ไปจนถึงโรงแรมแคปซูลค่ะ นี่คือโรงแรมที่แนะนำสำหรับแต่ละระดับค่ะ
โรงแรม 5 ดาวและ 4 ดาวในเกียวโต
โรงแรมระดับ 5 ดาวและ 4 ดาวจำนวนมากภายในกรุงเกียวโตนั้น จะตั้งอยู่ในเขตฮิกาชิยามะของนครเกียวโตที่มีบรรยากาศสงบและอยู่ห่างจากความวุ่นวายใจกลางเมืองค่ะ ช่วงราคาค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่ 10,000 เยนไปจนถึง 90,000 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
ชื่อสถานที่ | จุดเด่น |
Kyoto Hotel Okura | โรงแรมคุณภาพสูงที่ถูกแนะนำไว้ในมิชลินไกด์ |
Kyoto Century Hotel | ทำเลสะดวกเพราะอยู่ใกล้กับสถานี Kyoto |
The Ritz-Carlton Kyoto | มีกิจกรรมสำหรับแขกผู้เข้าพักมากมาย |
Hyatt Regency Kyoto | ห้องพักที่เพรียบพร้อมด้วยฟังค์ชั่นการใช้งานแต่ให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่น |
Four Seasons Hotel Kyoto | มีสวนญี่ปุ่นเก่าแก่อายุราว 800 ปี |
The Westin Miyako Hotel Kyoto | อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวในฮิกาชิยามะ |
ART MON ZEN KYOTO | โรงแรมศิลปะที่จัดทำขึ้นโดยตัวแทนจำหน่ายผลงานศิลปะ |
โรงแรมราคาประหยัดในเกียวโต
โรงแรมราคาประหยัดในนครเกียวโตนั้นตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางและใช้งานง่าย มีโรงแรมที่มีความพิถีพิถันและเป็นเอกลักษณ์มากมาย ช่วงที่พบได้บ่อยที่สุดคือประมาณ 8,000 ถึง 12,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
ชื่อสถานที่ | จุดเด่น |
Hotel Granvia Kyoto | ทัวร์พิเศษที่จัดโดยโรงแรมนั้นเป็นที่นิยมมาก |
Kyoto Granbell Hotel | สามารถชมการแสดงของเหล่าไมโกะได้ |
Kyoto Tokyu Hotel | สะดวกแก่การไปเที่ยวทางฝั่งตะวันตกของสถานี |
Tokyo Brighton Hotel | โรงแรมที่อยู่ ณ “ใจกลางเกียวโต” |
Cross Hotel Kyoto | ทำเลเยี่ยมใกล้แหล่งท่องเที่ยว |
Solaria Nishitetsu Hotel Kyoto Premium | สามารถมองข้ามฝั่งแม่ร้ำคาโมะได้จากในห้องพัก |
The Celestine Kyoto Gion | ห้องพักที่พิถีพิถันเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก |
โรงแรมแคปซูลในเกียวโต
นครเกียวโตเต็มไปด้วยโรงแรมแคปซูลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ มีหลายแห่งในแถบคาวาระมาจิจึงสะดวกในการไปเที่ยวค่ะ ช่วงราคาอยู่ที่ประมาณ 2,200-5,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
ชื่อสถานที่ | จุดเด่น |
Smart Stay SHIZUKU | แสนสบายด้วยฟูกนอนสูตรต้นตำหรับของโรงแรม |
GLANSIT KYOTO KAWARAMACHI | สะดวกแก่การท่องเที่ยวด้วยทำเลใกล้ย่านกิออนและนิชิกิโคจิ |
9h nine hours Kyoto | มีจุดเด่นเป็นแคปซูลที่ดูล้ำสมัย |
Comicap Kyoto สาขา Shinkyogoku | สามารถอ่านหนังสือการ์ตูนที่มีนับหมื่นเล่มได้แบบไม่อั้น |
Centurion Cabin & Spa | พักในบรรยากาศนักออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น |
Capsule Resort Kyoto Square | มีแคปซูลแบบเตียงยาวให้บริการ |
Capsule Ryokan Kyoto | โรงแรมยอดนิยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการจอง |
Airbnb และโฮสเทลในเกียวโต
ในนครเกียวโตมีบ้านเช่าหลายแห่งจากสถานีไล่ไปตามถนนคาราสุมะโดริ (烏丸通 / Karasuma-dori) ค่ะ ช่วงราคาที่พบบ่อยที่สุดคือประมาณ 2,000-3,000 เยนซึ่งก็สมเหตุสมผลค่ะ ด้านโฮสเทลก็มีมากมาย เช่น "Ryokan HOSTEL Gion”, “Kyoto Morris Hostel” และ "Hostel Grids Kyoto” ช่วงราคาที่พบบ่อยที่สุดคือประมาณ 2,000-4,000 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
โรงแรมที่มีเอกลักษณ์แปลกตาในเกียวโต
เกียวโตมีโรงแรมที่มีเอกลักษณ์มากมาย มีการเตรียมห้องพักที่มีคอนเซปท์หลากหลายด้วยค่ะ
ชื่อสถานที่ | จุดเด่น |
Hotel Gracery Kyoto Sanjo | มีห้องที่จัดตามคอนเซปท์คาบุกิ |
Hotel Anteroom Kyoto | มีห้องพักคอนเซปท์ที่ศิลปินมากมายหลายหน้าได้มาช่วยตกแต่ง |
MIMARU KYOTO | มีห้องพักตามคอนเซปท์โปเกม่อน |
เลิฟโฮเต็ลในเกียวโต
ในกรุงเกียวโตมีเลิฟโฮเต็ลมากกว่า 80 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในเขตฟุชิมิทางใต้ของสถานี Kyoto ค่ะ ราคาอยู่ในช่วงตั้งแต่ 4,000 ถึง 30,000 เยน สาธารณูปการครบครันและสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนก็เป็นเสน่ห์สำคัญค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในเกียวโต
เราได้รวบรวมข้อมูลการเข้าถึงระหว่างกรุงเกียวโตไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ไว้ตามนี้ค่ะ
วิธีการเดินทางไปยังเกียวโต
ถ้าคุณจะเดินทางไปยังกรุงเกียวโต (นครเกียวโต) การไปลงที่สนามบินนานาชาติคันไซก็สะดวกมากค่ะ จากสนามบินคันไซ ใช้รถบัสรับส่งของสนามบินคันไซ คุณจะมาถึงสถานี JR Kyoto ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ
การเดินทางภายในเกียวโตนั้นใช้รถบัสหรือรถไฟจะสะดวกมาก! แต่ก็คนแน่นมากด้วย
ในเขตนครเกียวโตนั้น สถานที่ท่องเที่ยวจะกระจายอยู่ตามแต่ละพื้นที่ ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะค่ะ
อย่างไรก็ตาม บริการอาจมีคนแน่นแออัดมาก ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะเปลี่ยนสายรถไฟและรถบัสบ่อย ๆ ในกรณีดังกล่าวก็ควรซื้อตั๋วแบบบัตรผ่านหนึ่งวันค่ะ
ค่าโดยสารอยู่ที่ 900 เยนสำหรับตั๋วแบบบัตรผ่านหนึ่งวัน และ 1,700 เยนสำหรับตั๋วแบบบัตรผ่านสองวันค่ะ
นอกจากนี้ หากคุณต้องการใช้ไม่ใช่เพียงแค่รถไฟใต้ดินเท่านั้นแต่รวมถึงรถไฟ JR ด้วยก็ให้เลือก“ Kyoto JR Pass” จะดีกว่าค่ะ สามารถขึ้นรถไฟใต้ดินเทศบาลนครเกียวโต รถไฟ JR West รถไฟ Hankyu รถไฟ Keihan และรถไฟ Arashiden ภายในพื้นที่ในเขตนครที่กำหนดได้ไม่อั้นหนึ่งวันในราคา 1,300 เยนค่ะ โปรดทราบไว้ว่า ตั๋วนี้ไม่สามารถใช้ขึ้นรถบัสแบบไม่อั้นได้ค่ะ (ข้อมูล ณ วเดือนมกราคม 2020)
รวมตั๋วรถไฟและรถบัสญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ【ฉบับพื้นที่คันไซ】
การเดินทางจากเกียวโตไปยังสถานีหลักและแหล่งท่องเที่ยวหลักอื่น ๆ ทั่วประเทศ
การเดินทางจากสถานีเกียวโตไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ ดูได้จากข้างล่างค่ะ
ชื่อสถานีหลัก | วิธีการเดินทาง | เวลาเดินทาง |
โตเกียว | JR Tokaido Shinkansen | ประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที |
โอซาก้า | JR Tokaido Shinkansen | ประมาณ 13 นาที |
นาระ | รถไฟ JR สาย Nara | ประมาณ 1 ชั่วโมง 1 นาที |
ฮิโรชิม่า | JR Tokaido Shinkansen | ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที |
สนามบินคันไซ | รถบัสขนส่งสนามบินคันไซ | ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที |
Comments