สัมภาษณ์นักเรียนต่างชาติจากไต้หวันและฮ่องกงมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเมจิ

ในบทความก่อนหน้านี้ทีมงานได้สัมภาษณ์นักเรียนต่างชาติชาวมาเลเซียที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเมจิ ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 130 ปี คราวนี้มาฟังชีวิตในมหาวิทยาลัยของนักศึกษาชาวฮ่องกงและชาวไต้หวันกันค่ะ

Q1：กรุณาแนะนำตัวเองหน่อยคะ

A：ผมชื่อแอนโทนี่จากฮ่องกงอายุ 35 ปีมาญี่ปุ่นประมาณ 5 ปี เรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 ถึง 5 ปีในฮ่องกง เนื่องจากลุงของผมได้ไปศึกษาที่ต่างประเทศที่ญี่ปุ่นผมก็เลยตัดสินใจไปศึกษาที่ต่างประเทศที่ญี่ปุ่น ตอนนี้ผมเป็นนักศึกษาปีที่ 4 จากคณะการศึกษานานาชาติของญี่ปุ่น

Y：Yuyu มาจากไต้หวันค่ะ เรียนคณะบริหารธุรกิจ 2 ปี ปีที่ 3 มาญี่ปุ่น ตอนนี้ฉันอายุ 21 ปี ก่อนที่ฉันจะไปต่างประเทศฉันผ่านการสอบวัดระวัดภาษาญี่ปุ่นระดับ N4

Q2：ทำไมคุณถึงเลือกเรียนที่ญี่ปุ่น

A：ผมต้องการเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ในอดีตผมสอนญี่ปุ่นให้เพื่อน ๆ ผมมาญี่ปุ่นเพื่อศึกษาการออกเสียงและไวยากรณ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น

Y：สำหรับการศึกษาในต่างประเทศได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครอง การใช้ชีวิตและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนั้น มีความใกล้เคียงกับฉันมากกว่าทางประเทศฝั่งตะวันตก

Q3：ทำไมคุณถึงเลือกมหาวิทยาลัยเมจิ

A：มีคำว่า "คนต่างชาติ" ในหน้าอธิบายนักศึกษาปริญญาตรีในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเมจิ ฉันจึงหลงใหลในแนวคิดนั้นและคิดว่าฉันจะนำมุมมองที่เป็นสากลของญี่ปุ่นไปถ่ายทอด "วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่แท้จริง" ในฮ่องกง

Y：นคิดว่าฉันเหมาะสำหรับการเรียนระดับปริญญาตรีสาขาการจัดการธุรกิจ นอกจากนี้หลักสูตรยังเป็นปัจจัยสำคัญเมื่อฉันเลือกมหาวิทยาลัย หลังจากเปรียบเทียบมหาวิทยาลัยอื่น ๆ แล้วคณะธุรกิจของมหาวิทยาลัยเมจิเป็นคณะที่เน้นงานภาคปฏิบัติต่างประเทศ

Q4：ช่วยเล่าถึงลักษณะเด่นและเนื้อหาของโปรแกรมการเรียน

A："การศึกษาภาษาญี่ปุ่นระหว่างประเทศ" รวมถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นและนานาชาติอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาที่มีคุณสมบัติเช่น Cool Japan ยังไงก็ตามนักเรียนต่างชาติที่ไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ก็สามารถเรียนภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า English Track

Y："คณะบริหารธุรกิจ" เป็นคณะที่ทุกอย่างเพียบพร้อม มีรายงานและประกาศต่าง ๆ มากมายจากนักเรียนปีแรกและฉันได้ไปเยี่ยม บริษัทต่างๆในญี่ปุ่น คุณสามารถเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ หากคะแนนระหว่างภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษอยู่ในเกรดที่ดีแล้ว

Q5：คุณมีความประทับใจอะไรในการเรียนมหาวิทยาลัยหรือไม่?

A：การเดินทางไปค่ายในห้องปฏิบัติการเมื่อปี 2018ที่จังหวัด Aomori, Akita และKesennuma ในปี 2017

Y：การเดินทางในญี่ปุ่นนั้นดีที่สุด ฉันเล่นสกีที่ Karuizawa เป็นครั้งแรก ซึ่งฉันได้พึ่งกลับมาจากน้ำพุร้อนจังหวัดโออิตะกับเพื่อนของฉัน

Q6：แนะนำต่อผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น

A：เพื่อไม่ให้รู้สึกมีความเสียใจในการใช้ชีวิตเพื่อการศึกษาในวิทยาลัย อยากให้คุณเรียนอย่างจริงจังและสนุกกับเวลาของคุณในฐานะนักเรียนต่างชาติ

Y：การเป็นนักเรียนต่างชาติค่อนข้างยากในการศึกษาหรือการใช้ชีวิตต่างประเทศ เพื่อให้สามารถเติบโตได้มาท้าทายขีดจำกัดของคุณเพราะชีวิตของคุณต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง