ตามส่องชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยเคโอ หนึ่งในมหาวิทยาลัยเอกชนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตอนที่ 2

  • 6 กันยายน 2019
  • 20 มกราคม 2019
  • FUN! JAPAN Team

th5

FJ: ไหนๆ แล้วก็เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม

Edward: ได้เลย ไปนั่งที่ระเบียงที่ผมชอบมั้ย มองเห็นโตเกียวทาวเวอร์ด้วยนะ


คำถาม1

FJ: ทำไมถึงมาที่ญี่ปุ่น?

Barbara: ฉันมาจากอิตาลี ชื่อ Barbara ค่ะ เรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ก็เลยได้มาในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน อยากมาที่ญี่ปุ่นนานแล้ว เพราะฉันอยากมาเรียนภาษาที่นี่ค่ะ

Edward: ผมชื่อ Edward เป็นคนจีนมาจากแคนาดาครับ ผมเรียนเศรษฐศาสตร์เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนกัน ที่แคนาดาผมอยู่ที่เมืองแวนคูเวอร์ อยากมาลองใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวน่ะครับ


คำถาม2

FJ: ทำไมถึงเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยเคโอ ทำไมไม่เลือกมหาลัยอื่นล่ะครับ

Barbara: ฉันชอบวัดญี่ปุ่นและสวนแบบญี่ปุ่น เคยคิดจะไปมหาวิทยาลัยเกียวโต แต่ลองดูโปรแกรมการเรียนของม.เคโอแล้วมีให้เลือกเรียนมากกว่าและเลือกได้อิสระกว่า คิดว่าที่นี่เหมาะกับที่ฉันต้องการพอดี ที่จริงแล้วประเทศฉันมีคนอยากเข้าเรียนเยอะมาก การแข่งขันก็เลยสูง

Edward: แน่นอนกว่าม.เคโอเป็นมหาลัยอันดับต้นๆ ผมก็เคยคิดว่าจะไปม.วาเซดะ หรือไม่ก็ม.โตเกียว แต่ที่นี่เดินทางสะดวกใกล้สถานีประมาณ 10 นาที แถมมีหลายเส้นทางที่เดินทางมาได้ เดินทางไปสถานีโตเกียว โตเกียวทาวเวอร์ สถานีชินากาว่าภายใน 20 นาที สะดวกมากครับ


คำถาม3

FJ: มาที่ม.เคโอ คิดว่าชอบอะไรของที่นี่ครับ?

Barbara: โปรแกรมที่ฉันเลือกเรียนนั้นเป็นการเรียนการสอนด้วยภาษาอังกฤษทั้งหมด และมีโอกาสได้คุยกับคนญี่ปุ่นมากขึ้น

Edward: งานเทศกาลมิตะก็ดีมากนะ เป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นเดือนพ.ย.ของทุกปีเป็นเวลา 4 วัน มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 2 แสนคน น่าจะเป็นงานเทศกาลมหาวิทยาลัยที่มีผู้เข้าร่วมงานมากที่สุดเลยมั้ง ผมรู้สึกภูมิใจนะครับที่ได้มาเรียนที่นี่ งานเทศกาลมิตะเป็นยังไงหรอ? ปีหน้าก็ลองมาดูด้วยตัวเองสิครับ


คำถาม4

FJ: ได้ภาษาญี่ปุ่นระดับไหน? มีอะไรที่ถนัดเป็นพิเศษบ้าง? อยู่ญี่ปุ่นแล้วเจอปัญหาอะไรบ้างไหม?

Barbara: ภาษาญี่ปุ่นฉันประมาณ N2 พวกคำเลียนเสียงอย่าง เปโกะเปโกะ สึรึสึระ โปกะโปกะ พวกนี้จำไม่ค่อยได้

Edward: น่าจะประมาณ N3 – N2 ช่วงที่อยู่ญี่ปุ่นแรกๆ พวกคำลงท้ายอย่าง sa, no, na ไม่รู้แยกใช้ยังไงไม่เข้าใจ

Barbara: ตอนเปิดเทอมจะมีโปรแกรมบัดดี้ที่เรียกว่า Keio Tomodachi Program ทำให้รู้จักเพื่อนมากขึ้น และเพื่อนร่วมชั้นก็คอยช่วยเหลือกันค่ะ

Edward: ที่มหาลัยมีโปรแกรมคอยซัพพอร์ตนักศึกษาแลกเปลี่ยน International Center หรือเวลามีปัญหาอะไรเพื่อนก็คอยช่วยเหลือ


คำถาม5

FJ: ไม่ชินกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอะไรบ้าง?

Barbara: ไม่ชินกับการต้องถอดรองเท้าเวลาเข้าห้องน่ะค่ะ โดยเฉพาะห้องลองเสื้อผ้า ฉันลืมถอดรองเท้าทุกที

Edward: จริงด้วย ผมเคยไปโรงอาบน้ำสาธารณะครั้งแรก เดินใส่รองเท้าเข้าไป โดนว่าใหญ่เลยครับ


คำถาม6

FJ: เรียนภาษาที่ประเทศก่อนมาญี่ปุ่น คิดว่าดียังไง

Barbara: คิดว่าการเรียนแบบ Role Play สมมติสถานการณ์ขึ้นมาแล้วให้ฝึกพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น ได้มีโอกาสพูดกับคนญี่ปุ่น ถามคำถามแล้วก็ตอบกลับมาเป็นภาษาญี่ปุ่น

Edward: นั่นสินะ การฝึกแบบสมมติสถานการณ์ขึ้นมาเช่น ในโรงพยาบาล สถานที่ทำงานพาร์ทไทม์ เป็นการฝึกสนทนาที่มีประโยชน์มาก


คำถาม7

FJ: มีงานอดิเรก หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษไหม

Barbara: ชอบท่องเที่ยวค่ะ อาทิตย์ก่อนฉันไปเบปปุมา ชอบไปออนเซนหรือไม่ก็สถานที่ทางประวัติศาสตร์

Edward: ส่วนผมชอบไปเดินสำรวจแถวสถานีรถไฟที่ยังไม่เคยไป ชอบเดินดูย่านร้านค้า แล้วก็หาของอร่อยๆ แถวๆนี้ก็คงจะเป็นย่านร้านค้าเคโอโดริโชเต็นไก แถบอื่นก็คงจะเป็นย่านสุกาโม่ หรือไม่ก็นาคาโนะซันมอล์ เดินไปเรื่อยๆ เจอของอร่อยก็รู้สึกสนุกดีครับ

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend