ใครที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ก็จะนำเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีจำเป็นต้องใช้งานติดตัวไปด้วย อุปกรณ์เหล่านี้จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งนั้น เช่น กล้องถ่ายรูป, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, โน๊ตบุ๊ค, รวมทั้งอุปกรณ์เสริมสวยต่างๆ ของคุณผู้หญิง เราจึงจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการแรงดันไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าเพื่อใช้ให้เหมาะสมและถูกต้อง จะได้ท่องเที่ยวอย่างสบายใจ มีแบตเตอรี่เต็มตลอดการเดินทาง
✩✩ แรงดันไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น ✩✩
ในประเทศญี่ปุ่นจะใช้แรงดันไฟฟ้า 110V ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทยที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 220V เนื่องจากแรงดันไฟฟ้าที่มีความแตกต่างกันมากจึงอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทจากบ้านเราอาจใช้ไม่ได้ในประเทศญี่ปุ่น อย่างเช่น ไดร์เป่าผม จากบ้านเราที่ต้องการกระแสไฟฟ้า 220V เมื่อนำไปใช้ที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีกระแสไฟฟ้าอยู่ที่ 110V ทำให้ไดร์เป่าผมนั้นไม่ร้อน ร้อนช้า หรือใช้เวลานานมาก
✩✩ เต้าเสียบปลั๊กไฟในประเทศญี่ปุ่น ✩✩
เต้าเสียบปลั๊กไฟในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นแบบ ขาคู่หัวแบน เท่านั้น ไม่มีหลุมลึกลงไป
✩✩ หัวปลั๊กไฟในประเทศญี่ปุ่น ✩✩
ปลั๊กไฟญี่ปุ่นใช้ชนิดขาคู่หัวแบนเท่านั้น ตรวจสอบหัวปลั๊กของอุปกรณ์ให้ดี ถ้าเป็นปลั๊กขาคู่หัวกลมก็ใช้ไม่ได้
✩✩ Universal Adapter ✩✩
Universal Adapter หรือหัวแปลงปลั๊กไฟอเนกประสงค์ เจ้าตัว Universal Adapter นี้นั้น จะเป็นเหมือนตัวปลั๊กไฟที่คอยแปลงลักษณะของหัวปลั๊กให้ตรงกับเต้าเสียบของแต่ละประเภท ซึ่งใช้ได้กับเต้าเสียบประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก หาซื้อเจ้า Universal Adapter ได้ที่ 7-ELEVEN ,Tesco Lotus, Big C, แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า (เฉพาะสาขาใหญ่เท่านั้น) IT City, Se-Ed, นายอินทร์, B2S และเวป LAZADA หรือแม้แต่ในสนามบินก็มี สำหรับใครที่ลืมซื้อที่ประเทศไทยสามารถหาซื้อได้ที่ประเทศญี่ปุ่น ตามร้านสะดวกซื้อ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า Big CAMERA หรือ โรงแรมที่พักบางแห่งอาจจะมีบริการให้ยืมหัวแปลง แต่ก็มีจำนวนจำกัด อาจไม่มีเหลือมาให้เรายืมก็ได้ เราควรพกหัวแปลงไปด้วยดีกว่า
✩✩ วิธีการตรวจสอบว่าเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นใช้กับแรงดันไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นได้ ✩✩
ก่อนจะเสียบอุปกรณ์ต่างๆ ต้องดูแรงดันไฟฟ้าก่อน ถ้าระบุว่าใช้ได้ระหว่าง 100V – 240V ก็เสียบใช้ได้เลย สามารถตรวจสอบได้จาก Adapter ของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ หรือฉลากและคู่มือที่ติดมากับเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น INPUT: 100 – 240V ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้กับไฟฟ้าตั้งแต่ 100V ขึ้นไป ถึง 240V ดังนั้นเครื่องใช้ไฟฟ้าก็สามารถใช้กับกระแสไฟที่ประเทศญี่ปุ่นได้ อุปกรณ์พวกกล้องถ่ายรูป มือถือ โน้ตบุ๊ค ไดร์เป่าผม ที่หนีบผมหรือม้วนผมไฟฟ้า แบตสำรอง ส่วนใหญ่ใช้ได้หมด
✩✩ ปลั๊กสามตา ✩✩
สำหรับใครที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องใช้พร้อมกันหลายๆชิ้นและหลายคน แนะนำให้เอาเจ้าปลั๊กสามตาติดไปด้วย ซึ่งตามที่พักหรือโรงแรมอาจจะมีเต้าเสียบไม่พอ เราควรเอาปลั๊กสามตาไปเสริม เพื่อสามารถที่จะชาร์ตมือถือและใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างอื่นได้ในเวลาเดียวกัน ปลั๊กสามตาหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
✩✩ ประสบการณ์การเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทยไปใช้ที่ประเทศญี่ปุ่น ✩✩
แบตเตอรี่: การชาร์จแบตเตอรี่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้อง โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต โทรศัพท์ พาวเวอร์แบ้งค์ จะใช้เวลานานกว่าที่เคยชาร์จที่ประเทศไทย
ไดร์เป่าผม: จากที่ลมแรงๆ จะเบาหวิวเพราะกำลังไฟไม่พอ แทบใช้การไม่ได้ แต่เรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วงเพราะที่พักในปัจจุบันส่วนมากจะมีไดร์เป่าผมเอาไว้บริการอยู่แล้ว
ที่หนีบผมหรือม้วนผม: สิ่งนี้ต้องใจเย็น เพราะกว่าจะร้อนก็นานหลายนาทีเลยไม่ร้อนปุ๊บปั๊บทันใจเหมือนบ้านเรา จะสวยต้องใจเย็น
เตารีด: เกือบ 100% เอาไปใช้ไม่ได้ ไม่ร้อน พวกอุปกรณ์กินไฟสูงหรืออุปกรณ์ให้ความร้อน ถ้านำไปที่ประเทศญี่ปุ่นอาจใช้ไม่ได้ หรือใช้ได้แต่ไม่ร้อน
✩✩ ข้อควรระวังก่อนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น ✩✩
เครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพดีและคุณสมบัติหลากหลาย หลายคนก็อยากจะมาซื้อกลับไปใช้ที่ประเทศของตัวเองกันบ้าง ปัจจุบันร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ จะมีขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใช้ในต่างประเทศได้ เป็นรุ่นที่รองรับแรงดันไฟฟ้า 220 V และมีเคาน์เตอร์จำหน่ายโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้ออย่าลืมสอบถามพนักงานให้แน่ใจก่อนว่ารุ่นนั้นๆ สามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ถึงแค่ไหน และมีรูปแบบปลั๊กแบบไหน ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ แรงดันไฟฟ้า 110V หากนำมาเสียบปลั๊กใช้ในประเทศไทยที่มีกำลังไฟฟ้าถึง 220V แล้วนั้น อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น จะไหม้ ช็อตและเสียหายได้
แรงดันไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นไม่เพียงแตกต่างจากประเทศไทยเท่านั้น รวมถึงเต้าเสียบปลั๊กไฟและหัวปลั๊กไฟก็มีความต่างกัน ฉะนั้น เราควรรู้และเตรียมอุปกรณ์ เช่น หัวแปลงปลั๊กไฟและหัวปลั๊กไฟ เพื่อใช้ให้เหมาะสมและถูกต้อง จะได้ท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ และมีแบตเตอรี่เต็มตลอดการเดินทาง
Comments