ค้นคว้าและแปลเรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญของญี่ปุ่นกันมาครึ่งปีแล้ว ผมว่าถึงเวลาเอาประสบการณ์ตรงที่เจอในญี่ปุ่นมาบอกต่อกันบ้างแล้วครับ ขอรับรองได้เลยว่าเรื่องที่เล่ามานี้เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายใดๆครับ แต่จะเชื่อหรือไม่ โปรดใช้จักรยาน เอ้ย วิจารณญาณในการตัดสินใจครับ…
*เนื่องด้วยปัญหาบางประการ ของอนุญาตเลื่อนบทความเกี่ยวกับ สึกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ไปคราวหน้าครับ
เรชู ฆานสัมผัส
ตั้งแต่มาอยู่ญี่ปุ่น ตัวผมได้ไปกราบไหว้บูชาวัดวาอารมและศาลเจ้าในญี่ปุ่นด้วยใจศรัทธาเหมือนการไหว้ศาลเจ้าที่ไทย อาจจะเป็นเพราะความเชื่อคล้ายคลึงกันการหลิ่วตายามมาอยู่เมืองตาหลิ่วก็ไม่ยากอะไร แถมได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นไปด้วย แต่จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่ เรื่องแปลกๆก็เริ่มเกิดขึ้นกับตัวผมครับ
จมูกผมเริ่มไวผิดปกติ เริ่มได้กลิ่นอะไรรอบตัวก่อนคนอื่น ตั้งแต่เนิ่นๆหรือในระยะทางไกลกว่าคนญี่ปุ่นคนอื่นๆ แล้วยังเริ่มได้กลิ่นไม่ธรรมดา แถมบางครั้งคนรอบๆตัวยังได้กลิ่นเหมือนกับผมด้วย โดยเฉพาะเวลาอยู่ใกล้ๆตัวผม
ในภาษาญี่ปุ่น เหตุการณ์อย่างนี้เรียกว่า เรชู (霊臭 กลิ่นวิญญาณ) ครั้งแรกที่เริ่มเอะใจก็คือตอนไปแวะศาลเจ้าในฮาโกเน่กับเพื่อนรวมสามคน โดยได้กลิ่นดอกไม้ป่าหอมหวน แต่คนที่ได้กลิ่นในตอนนั้นมีแค่สองคนเท่านั้น ตอนนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
กลิ่นหอมตามศาลเจ้า
ตอนที่ผมได้ไปทัวร์เป็นหมู่คณะที่เมืองมิโต ช่วงที่แวะชมศาลเจ้าที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่งพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แรงที่สุด ศาลเจ้าที่มีถ้ำที่เทวีสุริยา อะมาเทราสึโอมิคามิ ได้ไปซ่อนตัวด้วยความเศร้าโศกตามตำนานเทพปกรณัมญี่ปุ่น ตัวศาลเจ้าอยู่ในป่าสภาพสมบูรณ์ แต่นับตั้งแต่ก้าวเข้าเขตศาลเจ้า ผมได้กลิ่นธูปแต่ไกล แม้ตัวเทวาลัยจะอยู่ลึกไปในป่าก็ตาม แต่พอไปถึงตัวเทวาลัยก็ต้องแปลกใจ ศาลเจ้านี้ไม่มีกระถางธูปใหญ่แบบวัดญี่ปุ่น ไม่มีใครจุดธูปไว้ และคนที่ได้กลิ่นมีเพียงแค่สองคนเท่านั้น คือตัวผมกับไกด์รุ่นป้าชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่ง ผมลองสอบถามลูกทัวร์และไกด์คนอื่นๆก็ไม่มีใครได้กลิ่น เว้นแต่ไกด์ชาวญี่ปุ่นอายุรุ่น 40 ต้นๆอีกท่านบอกได้กลิ่นวูบหนึ่งตอนที่คุยกับผมเรื่องประสบการณ์แปลกๆที่เจอที่นี่ครับ
นับตั้งแต่นั้นมา จมูกผมเริ่มไวเป็นพิเศษ หากว่ากันด้วยเรื่องวิทยาศาสตร์ ผมว่าคงเป็นเพราะความหิวจากการทานอาหารเพียงสองมื้อต่อวันที่ส่งผลให้สัญชาตญาณการหาอาหารเอาตัวรอดไวขึ้น และการได้กลิ่นที่หลงเหลือเป็นร่องรอยคล้ายๆสุนัข แต่พอลองค้นคว้าดู ก็พบคำในภาษาญี่ปุ่นว่า เรชู (霊臭) ในเว็บเรื่องลี้ลับที่เขียนโดยน้องชายของมิโกะที่มีญาณเรื่องผี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเรคัง (霊感 สัมผัสเรื่องวิญญาณ) แม้ว่าจะไม่ใช่จักขุสัมผัสหรือโสตสัมผัสก็ตาม
คุณมีวิญญาณคุ้มครองหรือเปล่า?
ผมยังไม่แน่ใจว่าตัวเองมีสัมผัสเรื่องเรชูนักจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์หนึ่งในที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติท่านหนึ่งซึ่งแปลบทความของผมเป็นภาษาอื่นทามมาว่า ตัวเธอมีวิญญาณคุ้มครอง (守護霊 ชูโกะเร) หรือเปล่า ผมตอบไปว่าผมไม่เห็น แต่ผมได้กลิ่น ประมาณ 3 วินาทีให้หลัง ตัวเธอเอ่ยปากว่าได้กลิ่นควันเทียน หลังจากที่พูดจบผมเองก็ได้กลิ่นด้วย ทีแรกก็นึกว่ามีใครเตรียมเค้กทำเซอร์ไพรส์วันเกิดหรือเปล่า แต่พอรอดูและเดินวนดูรอบๆสักพัก ก็ไม่พบเทียนสักเล่มในออฟฟิศ กลิ่นก็อยู่เฉพาะแถวๆที่ผมนั่ง คนอื่นไม่มีใครได้กลิ่นด้วยเลย
ผมจึงสรุปได้แค่เพียงว่า วิญญาณคุ้มครองของเธอตอบคำถามให้ผ่านทางสื่อที่ผมสัมผัสได้ ซึ่งก็คือกลิ่นครับ
ผู้มาเยือนยามวิกาล
เรื่องนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ผมกำลังเขียนบทความตอนที่ 17 “ความเฮี้ยนของไทระ โนะ มาซาคาโดะ” ใกล้จบครับ อย่างที่เคยบอก ผมได้เดินทางไปสักการะและขอขมาล่วงหน้าที่สุสานฝังศีรษะและศาลเจ้าที่สร้างถวายก่อนเริ่มเขียนบทในส่วนแรก พร้อมอธิฐานว่าจะเขียนเรื่องให้สมบูรณ์ถูกต้องที่สุด ในคืนก่อนวันเผยแพร่บทความ ผมเขียนเนื้อหาจบและว่าจะใช้เวลาว่างที่หอพักวาดรูปต่อให้เสร็จ แต่วันนั้นผมกลับดึกจึงตรงเข้านอนเลยโดยที่ตัวรูปยังอยู่ในช่วงขึ้นโครงร่าง
ผมตื่นขึ้นกลางดึกจากความรู้สึกเหมือนว่ามีใครอยู่ทางซ้ายมือของฟูกนอน (แถวๆหิ้งพระในห้อง) และกลิ่นธูปในห้อง เวลาตอนนั้นน่าจะประมาณตี 3 ตี 4 แต่เนื่องจากเป็นกลิ่นดี จึงคิดว่าคงมาดี เป็นวิญญาณดีหรือเทพ หรือไม่ก็ ไทระ โนะ มาซาคาโดะ เองเลย (เพราะถูกบูชาให้เป็นเทพ) ถึงไม่อาจจะเจาะจงได้ว่าเป็นใครแน่ ก็ตั้งจิตว่าจะรีบวาดรูปที่ค้างให้เสร็จเป็นสิ่งแรกเมื่อเข้างาน เช้าวันถัดมาผมรีบวาดรูปให้เสร็จทันทีไม่สนงานอื่น ในคืนนั้นผมหลับสบายหลังกังวลเรื่องบทความทั้งสองตอนมาตลอดสองสัปดาห์เต็ม
กลิ่นบอกเหตุล่วงหน้า?
บ่ายวันหนึ่งในออฟฟิศ ผมได้กลิ่นเหม็นไหม้เหมือนขยะพลาสติกไหม้ตั้งแต่บ่าย 2 กลิ่นแรงมากจนแสบจมูกเลยทีเดียว ผมต้องขอใช้พัดลมตั้งโต๊ะของรุ่นพี่ไล่กลิ่น แต่เท่าที่ลองสังเกตดูไม่มีใครได้กลิ่นเหมือนผม จะอุปทานไปเองหรือจมูกดีจนไม่มีคนอื่นได้กลิ่นก็ไม่แน่ใจ คิดเล่นๆว่าคงมีใครที่นั้งโต๊ะร่วมกับผมคงทำอาหารเช้าไหม้หรือไปนั่งทานยากินิคุมาและผมได้กลิ่นที่ตกค้างมา แต่มาลองคิดดูดีๆกลิ่นมันก็ไม่ใช่กลิ่นอาหารไหม้ ไม่ใช่กลิ่นบุหรี่ เลยไม่พูดอะไรออกไป
ช่วง 5 โมงกว่าๆ มีเสียงดังเหมือนของตก ตอนนั้นก็นึกว่าตึกฝั่งตรงข้ามที่กำลังรื้อถอนทำอะไรหล่น 17.45น. มีเสียงรถดับเพลิงดังขึ้น ก็ไม่ได้คิดอะไร สักพักช่วง 6 โมงกว่าๆ ตึกที่ออฟฟิศตั้งอยู่ประกาศเรื่องไฟไหม้ตึก ใช่ครับ ตึกที่ผมอยู่นั่นเลย เพื่อนร่วมงานบางคนเดินผ่านโต๊ะที่ผมนั่งและบอกได้กลิ่นไหม้ คุยกันว่าคงมาจากช่องแอร์บนเพดาน แต่ที่แปลกก็คือเฉพาะที่แถวๆโต๊ะผมเท่านั้น ตัวเพลิงนั้นดับเรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย ทางตึกให้หลบภัยออกจากตึกกันครับ เลยเก็บของเลิกงานเดินลงบันไดกัน
ตอนนั้นเอง ผมได้กลิ่นไหม้ เป็นกลิ่นเดียวกับที่ผมรู้สึกตั้งแต่ตอนบ่ายสอง
ผมมารู้ทีหลัง (จากเมลรายงานของฝ่ายบริหาร) ว่าไฟเกิดลุกขึ้นเองจากตัววัสดุก่อสร้างที่วางเก็บไว้ที่ชั้นสอง ช่วงประมาณ 4 โมงเย็น
ถ้ากลิ่นเกิดขึ้นทีหลัง ยังพอเข้าใจว่าอาจจะเหลือตกค้างมา แต่กลิ่นที่มาล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุนี่ คงอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ยากครับ
Comments