เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 16: ชีวิตของไทระ โนะ มาซาคาโดะ

  • 11 มิถุนายน 2020
  • 18 ตุลาคม 2018
  • Mon
  • Mon

Horror & Mystery Series Vol. 16: The Life of Taira no Masakado

เคยได้ยินเรื่อง3ตำนานสุดเฮี้ยนแห่งญี่ปุ่นกันบ้างไหมครับ? ในภาษาญี่ปุ่นคือ "日本三大怨霊" (นิฮ่อนซันไดออนเรียว) โดยคำว่าออนเรียวก็แปลว่า วิญญาณอาฆาตนั่นเอง หนึ่งในสามวิญญาณเฮี้ยนที่ว่าก็คือ ไทระ โนะ มาซาคาโดะ ซึ่งดวงวิญญาณของเขาถูกอันเชิญให้ไปสถิตเป็นหนึ่งในสามเทพประจำศาลเจ้าคันดะเมียวจิน มาดูชีวิตความเป็นมาของเทพองค์นี้ก่อนและหลังสิ้นชีพสักเล็กน้อยกันดีกว่าครับ

มาซาคาโดะ แห่งตระกูลไทระ: ต้นกำเนิดอันสูงศักดิ์

ชุดนักรบสมัยเฮอัน (ยังไม่รวมชุดเกราะ)

มาซาคาโดะ แห่งตระกูลไทระ (平将門 ไทระ โนะ มาซาคาโดะ *สมัยเฮอัน ผู้มีตระกูลมักจะเรียกโดยใช้ชื่อตระกูลและ โนะ นำ) มีเชื้อสายจักรพรรดิ เป็นทายาทรุ่นที่ 5 ของจักรพรรดิคัมมู (桓武天皇) จักรพรรดิองค์ที่ 50 ของญี่ปุ่นในสมัยก่อน เกิดในปี ค.ศ. 903 เป็นบุตรของ ไทระ โนะ โยชิมาสะ (平良将) ผู้มีตำแหน่งเป็นชินจูฟุโชกุน (鎮守府将軍 นายทัพรักษาการณ์ตอนเหนือ) ในสมัยเฮอัน มาซาคาโดะมีชื่อเดิมว่า โคะจิโร่แห่งโซมะ (相馬小次郎 โซมะ โนะ โคะจิโร่) เนื่องจากเติบโตมาจากแขวงโซมะ บ้านเกิดของมารดา หลังเข้าถวายตัวในวังหลวงแล้ว ก็ได้กลับไปประจำอยู่ที่แคว้นชิโมสะบ้านเกิด

จุดเปลี่ยนชีวิต

หลังบิดาได้เสียชีวิตไป เหล่าญาติๆก็หวังจะครอบครองมรดกที่ดินมากมายที่มาซาคาโดะจะได้รับ เนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่มีระบบการสืบทอดมรดกให้กับลูกคนโตอย่างเป็นทางการ ญาติๆทั้งหลายจึงวางแผนจะแย่งชิงมรกดจากเขา โดยจุดเปลี่ยนสำคัญก็คือลุงแท้ๆของเขา ไทระ โนะ คุนิกะ (平国香) ซึ่งวางแผนร่วมมือกับตระกูลมินาโมโตะ (คุนิกะได้แต่งงานกับตระกูลมินาโมโตะ) ลอบโจมตีมาซาคาโดะในปี 935 ที่สมรภูมิโนโมโตะ (野本合戦) แต่ทว่า มาซาคาโดะผู้ซึ่งเป็นนักรบที่ชาญฉลาดแล้วมีพรสวรรค์ ได้พลิกกระดานและมีชัยเหนือมินาโมโตะ โนะ ทาสุกุ (源佐) จากนั้นก็บุกเข้าโจมตีอาณาบริเวณของตระกูลมินาโมโตะ ปล้นสะดมและเผาทำลายที่ดินจนสิ้น รวมไปถึงการสังหารลุงของเขาเองด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มาซาคาโดะถูกทางวังหลวงเรียกตัวไปสอบสวน แต่ก็ได้รับการอภัยโทษ

เท็นเกียว โนะ รัน (天慶の乱): การก่อกบฏของไทระ โนะ มาซาคาโดะ

ความขัดแย้งในตระกูลยังคงดำเนินต่อไปกับญาติคนอื่นๆเป็นเวลาหลายปี และถูกวังหลวงเรียกตัวไปหลายต่อหลายครั้ง แม้ว่ามาซาคาโดะจะพยายามไม่ทำอะไรนอกขอบเขตของกฎหมายวังหลวงแล้วก็ตาม ความขัดแย้งที่มีต่อมาไม่ขาดสายยังรวมถึงการรบรากับ โยชิคาเนะ (平良兼) ผู้เป็นลุงอีกคน และลูกพี่ลูกน้อง ซาดาโมริ (平貞盛) จนเมื่อถึงปี 939 มาซาคาโดะเพิกเฉยต่อหมายเรียกและนำกำลังเข้าไปบุกแคว้นฮิตาชิเพื่อจับตัวซาดาโมริที่คอยกลั่นแกล้งเขา แต่เมื่อซาดาโมริหลบหนีไปได้ มาซาคาโดะได้ก่อการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในหลายๆแคว้นในแถบคันโต โดยยึดอำนาจจากผู้ปกครองแคว้นที่กดขี่ข่มเหงชาวบ้านแล้วช่วยเหลือผู้คนทั่วไป โดยเริ่มจากแคว้นฮิตาชิ แล้วกระจายไปยังแคว้นชิมตสึเกะและโคสึเกะต่อ จากนั้นก็นำกำลังไปครองแคว้นมุซาชิ แคว้นคาสึวะ แคว้นอาวะ แคว้นซากามิ แคว้นอิสึ และแคว้นชิโมสะบ้านเกิด

มาซาคาโดะส่งจดหมายถวายความไปยังผู้มีอุปการคุณ ฟูจิวาระ โนะ ทาดาฮิระ (藤原忠平) เพื่อขอให้ช่วยทูลความแก่วังหลวงว่าถูกใส่ร้ายและทำไปเพื่อกำจัดผู้ที่ใส่ร้ายและปกป้องผู้บริสุทธิ์

วาระสุดท้ายของมาซาคาโดะก่อนถูกตัดศีรษะ

แต่ทางวังหลวงกลับมองว่ามาซาคาโดะเป็นภัยแก่แผ่นดิน จึงส่งกองทัพไปจับตัวมาซาคาโดะกลับมารับโทษ โดยส่งนักรบฐานันดรสูงฝีมือดีจำนวนมากไปปราบ รวมถึงลูกพี่ลูกน้อง ซาดาโมริ และอดีตสหายอย่าง ฟูจิวาระ โนะ ฮิเดซาโตะ (藤原秀郷) ด้วยกำลังทัพมากกว่ามาซาคาโดะเกิน 10 เท่าตัว การรบที่สมรภูมิตอนตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นชิโมสะจึงจบลงด้วยความตายของมาซาคาโดะจากศรธนู ศีรษะของมาซาคาโดะถูกตัดและนำกลับไปเสียบประจานที่เมืองหลวงในฐานะกบฏแผ่นดินในปี 940

ตำนวนเกี่ยวกับความตายของมาซาคาโดะ

ศีรษะได้ลอยกลับคันโตเอง

บางตำนานก็เล่าว่าศีรษะของมาซาคาโดะไม่มีทีท่าจะเน่าเปื่อยแถมใบหน้าก็ดูราวกับยังมีชีวิต บ้างก็กล่าวว่าใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นแสยะยิ้ม ดูน่ากลัวขึ้นทุกวันและเริ่มกล่าวท้าทายเวลาไม่มีผู้ใดเห็น ในป้ายประจำสุสานกล่าวว่าสามวันหลังจากถูกเสียบประจาร แต่บางตำนานก็เล่าว่าสามเดือน อย่างไรก็ดี ได้มีแสงไฟสีขาวซีดปรากฏขึ้นและพุ่งหายไปทางทิศตะวันออก และศีรษะของมาซาคาโดะก็หายไปไม่มีใครพบ ส่วนใหญ่ตีความกันว่าศีรษะนั้นบินกลับไปทางแถบคันโตเอง โดยหยุดพักตามสถานที่ต่างๆหลายแห่ง ก่อนจะไปตกลงที่หมู่บ้านชิบาซากิ (柴崎村) ตรงบริเวณที่ปัจจุบันกลายเป็นเนินสุสานมาซาคาโดะ (将門塚 มาซาคาโดะสึกะ) ภายหลังมีชาวบ้านมาพบ จึงทำความสะอาดและทำการฝังศีรษะให้ในบริเวณดังกล่าวซึ่งเป้นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าทางชินโต คันดะเมียวจิน (神田明神) ในที่ตั้งเดิม

เนินสุสาน

สิ่งที่ยังหลงเหลือของไทระ โนะ มาซาคาโดะ

ไทระ โนะ มาซาคาโดะ ถูกยกให้เป็นต้นตำหรับแห่งวิถีบุชิโด (ซามูไร) เป็นตัวอย่างแห่งจิตวิญญาณการต่อสู้กับความอยุติธรรมและการยืนหยัดขึ้นสู้แทนผู้ที่อ่อนแอ ด้วยเหตุนี้ มาซาคาโดะจึงถูกบูชาในฐานะปฐมาจารย์แห่งบุชิโดสำหรับชาวเอโดะ (江戸っ子 เอดกโกะ) และเทพประจำศาลเจ้าคันดะเมียวจิน

ส่วนตำนานที่เกิดขึ้นหลังความตายของมาซาคาโดะและสถานที่อื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถานที่ฝังร่างกายส่วนที่เหลือของเขานั้น รอติดตามได้ในตอนหน้านะครับ!

บทความก่อนๆ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend