ผลสรุปยอดขายรถใหม่ตั้งแต่เดือนมกราคม – เดือนมิถุนายน ปี 2018 จะเห็นได้ชัดว่าตลาดญี่ปุ่นนั้นนิยมรถอีโคคาร์เป็นอย่างมาก เรามาดู 5 อันดับของประเภทรถทั่วไปและรถอีโคคาร์กันค่ะ ตัวเลขในวงเล็บนั้นแสดงการเปรียบเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์กับช่วงเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ประเภทรถทั่วไป
อันดับ 1 Note (Nissan) 73,380 คัน (₋12.9)
อันดับ 2 Aqua (Toyota) 66,144 คัน (+3.1)
อันดับ 3 Prius (Toyota) 64,019 คัน (₋29.8)
อันดับ 4 Serena (Nissan) 56,095 คัน (+3.2)
อันดับ 5 Fit (Honda) 47,962 คัน (+3.9)
ประเภทอีโคคาร์
อันดับ 1 N Box (Honda) 127,548 คัน (+20.1)
อันดับ 2 Spacia (Suzuki) 79,718 คัน (+38.0)
อันดับ 3 Move (Daihatsu) 74,109 คัน (+2.7)
อันดับ 4 Tanto (Daihatsu) 71,809 คัน (₋10.9)
อันดับ 5 Dayz (Nissan) 71,778 คัน (₋16.4)
นิสสันได้ติดอันดับประเภทรถทั่วไปในรอบ 48 ปี
สำหรับการสรุปยอดขายครั้งนี้จะเห็นว่ารถจากค่ายนิสสันมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรถรุ่น Note ซึ่งสามารถคว้าอันดับหนึ่งยอดขายสูงสุดประเภทรถธรรมดาไปครอง แม้จะเป็นช่วง 6 เดือน แต่ที่จริงแล้วครั้งนี้นิสสันสามารถก้าวเข้าสู่อันดับหนึ่งในรอบ 48 ปี
ค่ายนิสสันนั้นก็ยังคว้าอันดับ 4 ไปครองด้วยรุ่น Serena สำหรับนั่ง 7-8 ที่นั่ง เป็นรถมินิแวนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนสามารถเบียดคู่แข่งนำคว้าที่หนึ่งของรถประเภทมินิแวนไปได้ 5 อันดับของครั้งนี้ที่ไม่ได้เป็นอีโคคาร์ก็เห็นจะเป็นรุ่น Serena เท่านั้นที่ติดโผเข้ามา
สิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ทั้งสองรุ่นนี้มียอดขายสูงก็คงจะเป็น e-POWER ซึ่งเป็นระบบไฮบริดเอกลักษณ์เฉพาะของนิสสัน และระบบ Pro Pilot ซึ่งช่วยในการขับขี่ให้สะดวกสบาย
e-POWER เป็นระบบไฮบริดประเภทหนึ่งที่เรียกว่าซีรีส์ไฮบริด รถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วก็เหมือนรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันปกติ แต่การขับเคลื่อนนั้นจะเหมือนกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ทั้งรุ่น Note และ Serena ได้ติดตั้งระบบ e-POWER จึงทำให้ความรู้สึกในการขับขี่นั้นราวกับได้ขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ปกตินั้นรอบเครื่องยนต์มากหรือน้อยนั้นก็มีผลต่อความแรงของรถเป็นอย่างมาก แต่กลับกันสำหรับรถที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ความแรงของรถจะไม่เกี่ยวกับรอบเครื่อง รวมไปถึงการเหยียบคันเร่งเวลาก็ไม่ต่างกันมากนัก เรียกได้ว่าการที่สามารถควบคุมรถให้ได้ดั่งใจนั้นถือเป็นจุดขายที่สำคัญของสองรุ่นนี้ เพราะรถไฮบริดรุ่นอื่นๆ ก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้
เข้าสู่โลกอนาคตด้วยโหมดการขับอัจริยะกึ่งอัตโนมัติ Pro Pilot
จุดแข็งอีกอย่างหนึ่งที่ต้องยกนิ้วให้ก็คือระบบการขับขี่อัจฉริยะ Pro Pilot ที่เป็นกึ่งอัตโนมัติสามารถช่วยให้การขับขี่นั้นสบายขึ้น อย่างเช่นการขับบนทางด่วน หรือการเข้าช่องบายพาสที่ต้องรักษากฎจราจรอย่างเข้มงวด การควบคุมพวงมาลัย คันเร่ง เบรก จะเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติช่วยให้เราขับได้อย่างสบายไร้กังวล。
หากเราขับรถบนทางด่วนและเปิดโหมด Pro Pilot เอาไว้ ระบบก็จะจับความเร็วของรถคันข้างหน้า เมื่อคันข้างหน้าขับช้า ระบบก็จะลดความเร็วของรถให้เข้ากับคันหน้าโดยอัตโนมัติ เมื่อเราเปลี่ยนเลนแล้วและไม่มีรถคันข้างหน้า ระบบก็จะเร่งความเร็วให้อัตโนมัติเช่นกัน
กรณีที่เผลอขับออกนอกเลนจะเป็นอย่างไร? ไม่ต้องกังวลเลย เพราะระบบจะควบคุมพวงมาลัยให้เรากลับเข้ามาอยู่ในเลนได้ตามปกติ
ปัจจุบันที่ประเทศญี่ปุ่นมีอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่ของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ด้วยเทคโนลียีอันอันสมัยของ Pro Pilot นี้ก็กลายเป็นความหวังที่จะช่วยให้การใช้รถใช้ถนนนั้นปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ในอนาคตข้างหน้าคาดการณ์ว่ารถขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือแม้แต่ระบบช่วยในการขับขี่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับค่ายนิสสันเองก็ได้มีการคิดค้นและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งและได้นำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้งานจริง ลืมบอกไปอย่างหนึ่ง อันดับ 5 ของรถประเภทอีโคคาร์อย่าง DAYZ รุ่นนี้ก็ได้มีการปรับโฉมครั้งใหญ่และสามารถเลือกติดตั้งระบบ Pro Pilot เพิ่มเข้าไปได้ด้วย!!
Comments