อย่างที่ได้กล่าวกันไว้ในตอนที่แล้วนะครับ เรื่องราวเกี่ยวกับเขตอาคมป้องกันเมืองหลวงจากภัยอันตรายต่างๆนั้น เป็นที่ร่ำลือกันอย่างมากในหมู่คนญี่ปุ่นจนหลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่สำหรับเราท่านที่อาศัยอยู่นอกญี่ปุ่นคงแทบไม่ค่อยรู้จักหรือรู้ผ่านการ์ตูนแนวลึกลับเท่านั้น เนื่องจากเป็นเรื่องที่เล่ากันปากต่อปากบ้าง หรือมีเขียนตามเว็บแนวลี้ลับเป็นภาษาญี่ปุ่นบ้าง เราจึงคิดว่า ถ้านำมาเผยแพร่คงน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว!
ตำนานสมัยใหม่เรื่องเขตอาคมคุ้มภัย
แท้จริงเรื่องนี้ก็มิได้เป็นเพียงคำร่ำลือแต่อย่างใด เพราะในสมัยก่อน องเมียวจิก็มีอิทธิพลอย่างมาก เพราะศาสตร์ที่ใช้มีรวมถึงฮวงจุ้ยและพลังธาตุต่างๆ ทั้งยังมีการบันทึกไว้ด้วยว่าการย้ายเมืองหลวงก็ทำโดยปรึกษากับเหล่าองเมียวจิ ซึ่งจะเห็นได้จากผังเมืองเกียวโตที่มีความเป็นระบบระเบียบราวกับตารางหมากรุกเลยครับ
แต่จะด้วยความบังเอิญหรือจงใจก็ตาม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือในปัจจุบันทางญี่ปุ่นเรียกกันว่า พาวเวอร์สป็อต (パワースポット พาว่าสฺป็อตโตะ จุดพลังศักดิ์สิทธิ์) ก็มีที่ตั้งราวกับถูกจัดเรียงเป็นรูปร่างบางอย่าง จนหลายต่อหลายคนเชื่อว่าจงใจสร้างขึ้น ณ ที่นั้นๆ ส่วนถ้าถามว่าเพื่อเหตุอันใด ก็คงเดากันได้แค่ว่า เพื่อสร้างเขตอาคมคุ้มกันภยันตรายต่างๆครับ แต่อย่าฟังจากผมอย่างเดียว ไปลองดูกันเองเลยดีกว่าครับ
เขตอาคมเฮโจเคียว (平城京結界)
จุดศูนย์กลางของเขตอาคมนี้มีแนวโน้มว่ากับจะเป็นเมืองเฮโจเคียว (平城京 นาระในปัจจุบัน) เมืองหลวงแห่งแรกของญี่ปุ่น แต่เมืองเฮอันเคียว (平安京 เกียวโตในปัจจุบัน) ก็ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองหลวงเก่าโดยตรง (บนจุดตัดของเส้นเมื่อลากเส้นเชื่อมจุดทั้งห้าเป็นรูปดาวห้าแฉก) บางครั้งจึงเป็นที่รู้จักในชื่อ เขตอาคมเฮอันเคียว (平安京結界)
เขตอาคมเป็นรูปดาวห้าแฉก (五芒星 โกะโบเซ) ล้อมรอบเมืองหลวงเก่าทั้งสอง เฮโจเคียว และ เฮอันเคียว โดยดึงพลังจากจุดพลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าดังต่อไปนี้:
- ศาลเจ้า โทโยอุเกะ ไดจิงจะ (ชื่อเดิม โมโตอิเสะไกคู 元伊勢外宮 หรือ ศาลเจ้าอิเสะนอกเก่า) ในนครเกียวโต
- ศาลเจ้าอิเสะจิงกู (ศาลอิเสะไนคู 伊勢内宮 หรือ ศาลเจ้าอิเสะใน) ในจังหวัดมิเอะ
- ศาลเจ้าอิซานามิ (อิซานามิจิงกู 伊弉諾神宮) ในจังหวัดเฮียวโงะ
- ภูเขาอิบูกิ (อิบูกิยามะ 伊吹山) ในจังหวัดกิฟุ
- ศาลเจ้าคุมาโนะฮอนกูไทฉะ (熊野本宮大社) ในจังหวัดวากายามะ
จะสังเกตได้ว่า จากในห้าจุดนี้ มีถึงสี่แห่งที่มีคำว่า 伊 (อิ) ในชื่อเดิม สัญลักษณ์ดาวห้าแฉกนี้ดึงพลังจากธาตุทั้งห้าตามความเชื่อทางศาสตร์องเมียว โดยแต่ละจุดก็เป็นตัวแทนแต่ละธาตุ แต่อาจจะเห็นได้ว่าสัญลักษณ์ดาวห้าแฉกนี้กลับหัว ซึ่งในความเชื่อทางฝั่งโลกตะวันตก ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้าย แต่ทางญี่ปุ่นนั้นเชื่อว่าตั้งใจจะวางแหล่งพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อรับมือกับประตูผี (鬼門 คิมง) นั่นเอง
ซึ่งตราอาคมนี้อาจจะเป็นอันที่ใหญ่ที่สุดในตำนานสมัยใหม่ แต่ละจุดกระจายกันอยู่ถึงห้าจังหวัด การจะเดินทางไปชมทุกจุดภายในวันเดียวก็ไม่ง่ายดายเสียเลย ต้องมีความอดทนทั้งทางกายและใจ แถมใช้ทั้งเวลาและเงินอีกด้วย แต่บางคนก็เห็นว่าเป็นเรื่องท้าทาย เชื่อว่าหากทำได้จริงก็คงโชคดีมาก (ที่สามารถทำได้สำเร็จภายในวันเดียว) และจะเสริมโชคลาภให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แล้วคุณละ อยากจะลองไปเสี่ยงดวงดูบ้างไหม?
เขตอาคมคุ้มครองพระราชวังหลวง: ตำนานตราดาวห้าแฉก (皇居結界:五芒星説)
ตำนานความเชื่อนี้มีข้อเท็จจริงสนับสนุนที่น่าเชื่อถือขึ้นหน่อยเพราะแต่ละจุดมีสัญลักษณ์ตัวแทนธาตุแต่ละธาตุอย่างชัดเจน ถึงแม้จุดเหล่านี้จะไม่ได้เรียงตัวเป็นรูปดาวห้าแฉกแบบสมมาตรสักเท่าใด แต่ชาวญี่ปุ่นหลายคนก็ยังจัดทริปตระเวนแหล่งพลังศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้กันเพื่อเสริมโชคลาภกันไม่น้อยเลยครับ
- ศาลเจ้า โตเกียวไดจิงกู (東京大神宮) แทน ธาตุไม้ (木)
- ศาลเจ้า คันดะ เมียวจิน (神田明神) แทน ธาตุไฟ (火)
- ศาลเจ้า ซุยเท็นกู (水天宮) แทน ธาตุน้ำ (水)
- ศาลเจ้า โคโตะฮิระกู (金刀比羅宮) ที่โทระโนะมง แทน ธาตุทอง (โลหะ 金)
- ศาลเจ้า ฮิเอะจิงจะ (日枝神社) แทน ธาตุดิน (土)
เชื่อกันว่า แม่ทัพผู้รวมแคว้นต่างๆได้สำเร็จ โชกุน โทกุกาว่า อิเอยาสึ ได้ปรึกษากับองเมียวจิเมื่อเปลี่ยนฐานปฏิบัติการมายังปราสาทเอโดะ และได้มีการสร้างศาลเจ้าเหล่านี้เพื่อสร้างเขตอาคมคุ้มกันปราสาทเอโดะให้พ้นภัย ครั้นเมื่อโตเกียวได้กลายเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการและเหล่าราชวงศ์ของจักรพรรดิญี่ปุ่นย้ายมาที่โตเกียวก็ได้แปรสภาพปราสาทเอโดะเดิมให้เป็นพระราชวังหลวงโตเกียวนับแต่นั้นมา
เรื่องร่ำลือเกี่ยวกับเขตอาคมนั้นยังไม่หมด ยังมีเรื่องกระแสชีพจรโลก หรือ พลังชี่ ตามฮวงจุ้ยจีน และ จุดผนึกวิญญาณของผีหัวขาดที่อาละวาดจนถือได้ว่าเฮี้ยนที่สุด ไทระ โนะ มาซาคาโดะ (平将門) อีกด้วย! อย่าลืมติดตามบทที่ 2 กันในสัปดาห์หน้านะครับ!
Comments