ซัปโปโรเป็นเมืองหลวงของฮอกไกโด และยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคทางเหนือของญี่ปุ่นอีกด้วย ในปี 1972 ซัปโปโรได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาว และได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่มีใจรักกีฬาฤดูหนาวจากทั่วโลก ในวันนี้เราจะขอแนะนำเมืองในมิติต่างๆ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ อาหารและสถานที่ต่างๆ
เผยความงามแห่งซัปโปโร
ซัปโปโรเป็นเสมือนประตูสู่ฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ในดวงใจของนักท่องเที่ยว ด้วยความหนาวเย็นและหิมะ ทำให้ในปต่ละปีมีผู้เดินทางมาที่นี่มากถึง 13 ล้านคนต่อปี โดยที่จำนวนนักท่องเที่ยวนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี ทั้งนี้ต้องขอบคุณรถไฟชินคันเซ็นที่เปิดให้บริการแล้วและสายการบินชั้นประหยัดที่มีจำนวนเส้นทางมากขึ้น
รายละเอียดโดยรวมของซัปโปโร
เราจะขอเล่าประวัติคร่าวๆของซัปโปโรให้คุณฟัง เมืองซัปโปโรถูกตั้งขึ้นในปี 1868 เพื่อใช้เป็นเมืองหลักแทนฮาโกดาเตะ ซึ่งสมัยนั้นเป็นเมืองหลวงของฮอกโกโด และด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของธุรกิจและกิจกรรมต่างๆ ที่นี่จึงเป็นเสมือนสถานที่กลางของเกาะไป ชื่อซัปโปโรมาจากคำพูดของชาว Ainu (ชาวฮอกไกโดดั้งเดิม) ว่า “sat poro pet” มีความหมายว่า แม่น้ำอันยิ่งใหญ่ที่แห้งแล้ง ซึ่งสมัยนั้นซัปโปโรยังเป็นพื้นที่ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ นอกจากคลองที่มนุษย์ขุดขึ้นใหม่
ตั้งแต่นั้นมาซัปโปโรกลายเป็นเมืองที่มีความมั่งคั่ง และเป็นเสมือนหัวใจของฮอกไกโด ด้วยระบบคมานาคมรถไฟที่ช่วยอำนวยความสะดวก การมีมหาวิทยาลัยอันเก่าแก่ และยังเป็นสถานที่ของงานเทศกาลใหญ่ๆหลายงาน ซัปโปโรจึงเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งในใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล
สถานที่ท่องเที่ยวในซัปโปโร
ฤดูหนาวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่ซัปโปโร เทศกาลหิมะจัดขึ้นครั้งแรกที่ซัปโปโรในปี 1950 ผู้คนจำนวนมากทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเดินทางมาที่สถานีรถไฟ Sapporo ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปฏิมากรรมจากน้ำแข็งและหิมะขนาดมหึมาถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากของจริง และจากภาพยนต์การ์ตูน หรือแม้กระทั่งที่กำลังเป็นที่นิยม
หากคุณต้องการจะพักที่นี่สักคืนและออกไปทำกิจกรรมแบบผู้ใหญ่ๆ สักหน่อย เราขอแนะนำให้คุณไปที่ Susukino หรือ “red-light district” ของ ฮอกไกโด ที่นี่จะเต็มไปด้วยบาร์ คลับ และสิ่งเริงรมย์ต่างๆ
และด้วยความที่เมืองนี้มีอายุมากกว่า 100ปี ที่นี่จึงมีอาคารทรงโบราณแบะพิพิธภัณฑ์ให้คุณได้เข้าเยี่ยมชม หากคุณสนใจความเป็นมาของฮอกไกโดหรือเบียร์ของฮอกไกโดให้คุณไปที่ Sapporo Beer museum ซึ่งคุณจะสามารถชิมเบียร์ได้แบบฟรีๆ หรือหากคุณไม่ดื่มเบียร์ ก็สามารถไปที่หมู่บ้านโบราณของ ฮอกไกโด ที่คุณจะได้ตื่นตากับภาพจำลองของประวัติศาสตร์ในสมัยเก่าที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่
ลิ้มรสอันโอชะของอาหารซัปโปโร
ที่ซัปโปโรมีอาหารขึ้นชื่อหลายอย่าง และส่วนใหญ่จะทำมาจากวัตถุดิบพื้นเมืองที่เก็บหรือได้มาสดๆ เมื่อมาถึงซัปโปโรแล้วคุณจะไม่ได้ปล่อยให้ท้องว่างเวลยทีเดียว
เกี่ยวกับซัปโปโรราเมน
ที่นี่เป็นบ้านเกิดของมิโสะราเมน ว่ากันว่ามิโสะราเมนที่อร่อยและคุณภาพดีที่สุดอยู่ที่ซัปโปโร จริงๆแล้วการหาร้านราเมนไม่ใช่เรื่องยาก แต่เราจะขอแนะนำร้านที่อร่อยที่สุด นั่นคือร้าน Sapporo Ramen Republic ร้านนี้อยู่บนชั้น 10 ของห้างสรรพสินค้า ESTA หรือไปที่ร้าน Sapporo Ramen Yokocho อันเป็นบ้านเกิดที่แท้จริงของมิโสะราเมน ทั้งสองร้านนี้มีราเมนหลากหลายแบบให้เลือกรับประทาน ในราคาที่ไม่แพงนัก
Sapporo Sushi สดใหม่
ถ้าไปถึงฮอกไกโดแล้วไม่ได้ทานซูชิจะถือว่าไปไม่ถึง ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ได้มีซูชิในแบบของซัปโปโรเอง แต่ด้วยความสดใหม่ของวัตถุดิบ ได้รสแท้ๆแบบฮอกไกโด ทำให้คุณต้องมาลองรับประทานให้ได้ ลองไปทาน Kinki (ปลาเก๋า) รสละมุนที่ร้าน Sushi Saiko ใกล้ๆกับ Susukino ดูนะคะ
Sapporo Ichiban Sapporo Ichiban Ramen แสนอร่อย
สิ่งหนึ่งที่จะหาไม่เจอคือร้าน Sapporo Ichiban Ramen ซึ่งมีความหมายว่า ราเมนเบอร์หนึ่งของซัปโปโร ถึงแม้ว่าจะมีคำว่า ซัปโปโร แต่ก็ไม่ได้เป็นร้านราเมนที่เปิดในซัปโปโร เรื่องมีอยู่ว่าประธานของบริษัทแห่งหนึ่งได้เดินทางไปทั่วญี่ปุ่นเพื่อตามหาราเมนที่อร่อยที่สุด และเขาก็พบว่าราเมนที่ซัปโปโรนั้นมีรสชาติเยี่ยมยอดที่สุด เขาจึงนำความอร่อยนี้มาผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสมิโสะซุปและใช้ชื่อว่า Sapporo Ichiban Ramen นั่นเอง
เบียร์ซัปโปโรเป็นเบียร์เก่าแก่ของญี่ปุ่น
ของโบราณขึ้นชื่อว่าเป็นของแท้ดั้งเดิมของที่นี่คงหนีไม่พ้นเบียร์ซัปโปโร โรงงานกลั่นเบียร์ของที่นี่เปิดตัวขึ้นในปี 1876 ในสมัยเมจิ อันเป็นยุคที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้ฮอกไกโดเป็นเมืองที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ เบียร์ซัปโปโรเป็นเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นเบียร์จากเอเชียที่สามารถครองอันดับ 1 ในอเมริกาได้ คุณสามารถลิ้มลองได้ตามร้านค้าต่างๆทั่วฮอกไกโด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซัปโปโร
การเดินทางจากโตเกียวไปซัปโปโร
การเดินทางจากโตเกียวไปซัปโปโรนั้นแสนง่าย ต้องขอบคุณรถไฟชินคันเซ็น Hokkaido Shinkansen ที่จะพาผู้โดยสารเดินทางตรงจากสถานี Tokyo ไปยังสถานีรถไฟท้องถิ่นที่ฮาโกดาเตะ หรือคุณจะเดินทางด้วยการบินตรงไปลงที่สนามบิน New Chitose Airport ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ก็ได้
การเดินทางด้วย Hokkaido Shinkansen จะใช้เวลาเดินทางถึง 8 ชั่วโมง และมีราคาค่อนข้างสูง อยู่ที่ 22,000 เยนต่อเที่ยว และจะต้องมีการเปลี่ยนรถ เพราะทางรถไฟที่เชื่อมต่อกันจะทำการสร้างแล้วเสร็จในปี 2031 รถไฟ Hokkaido Shinkansen นี้จะพาคุณเดินทางจากโตเกียวมาถึงซัปโปโรภายในเวลา 5 ชั่วโมง สำหรับตัวเลือกที่ใช้เวลาน้อยกว่าและประหยัดกว่าคือการนั่งเครื่องบิน
ในปัจจุบันมีสายการบินราคาประหยัดให้บริการมากมาย และยังมีสายการบินที่บินตรงจากสนามบิน Haneda หรือNarita มายัง ซัปโปโร ในราคา 12,000 เยน แบบไป-กลับ โดยจะใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้นเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง การเดินทางด้วยเครื่องบินจะสามารถช่วยให้คุณประหยัดได้ทั้งเวลาและเงินในกระเป๋า เมื่อมาถึงสนามบินแล้ว คุณสามารถใช้บริการรถบัสหรือรถไฟจากสนามบินเข้าสู่เมืองได้
Comments