ฮอกไกโด (北海道 / Hokkaido) เป็นภูมิภาคที่อยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น ชื่อจังหวัดนั้นหมายถึง เส้นทางทะเลเหนือ และมักจะใช้คำว่า โด (道 / Do เส้นทาง) แทนคำว่าจังหวัด (県 / Ken) แหล่งท่องเที่ยวนั้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วจังหวัดที่กว้างใหญ่ และมีหลายจุดที่สามารถเห็นธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้ เช่น ทะเลสาบอันลึกลับ ทุ่งดอกไม้ที่ทอดยาวไปตลอดทาง และอื่น ๆ อีกมากมายค่ะ ในทางกลับกัน ซัปโปโร (札幌 / Sapporo) ก็มีย่านราตรีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น การเที่ยวเล่นในเมืองก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกันค่ะ
เกี่ยวกับฮอกไกโด
ฮอกไกโดเป็นเขตการปกครองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (เนื่องจากในภาษาญี่ปุ่น ฮอกไกโดไม่ใช้คำว่าจังหวัด จึงขอเลี่ยงการกล่าวว่าเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดไว้นะคะ) มีพื้นที่ประมาณ 22% ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ซึ่งในนั้นก็ยังเป็นภูเขาไปถึงครึ่งหนึ่งเลยด้วย มีอุณหภูมิต่ำตลอดทั้งปี ทั้งยังมีเขตภูมิอากาศแตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ ดังนั้นจึงสามารถเห็นพืชพรรณและสัตว์ป่าที่เป็นเอกลักษณ์ของฮอกไกโดได้ค่ะ
ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของฮอกไกโด
ฮอกไกโดเป็นดินแดนที่ชาวไอนุ (アイヌ / Ainu) ได้อาศัยอยู่ก่อนในฐานะชนพื้นเมือง จนเมื่อราวศตวรรษที่ 17 คนญี่ปุ่น (ชาววะจิน 和人 / Wajin) ซึ่งเป็นคนชาติพันธุ์อื่นนอกเหนือจากชาวไอนุก็ได้เข้ามาสู่ฮอกไกโด และได้เกิดสงครามขึ้นกับชาวไอนุ หลังจากนั้นวัฒนธรรมไอนุก็ได้เข้าสู่ยุคถดถอย และเกิดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่นการค้าขึ้นแทน จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ท่าเรือฮาโกดาเตะก็ได้เปิดค้าขายกับต่างชาติตามคำเรียกร้องขอของสหรัฐอเมริกา ทำให้คลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงให้ทันยุคสมัยได้เข้ามาถึงชายฝั่งฮอกไกโดนับแต่นั้นมาค่ะ
ตารางเที่ยวในฮอกไกโด ไปเที่ยวแค่ไหนถึงจะดี?
ฮอกไกโดมีขนาดใหญ่ แถมแหล่งท่องเที่ยวมากมายก็กระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ค่ะ มีพื้นที่ที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนก็ไม่สามารถไปเที่ยวให้ครบได้ภายในวันเดียว ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าถ้าคุณไปเที่ยวโดยการจำกัดวงของพื้นที่หรือจุดที่จะไปชมไว้เสียแต่แรกค่ะ ถ้าคุณเลือกที่จะไปไหนมาไหนหลาย ๆ ที่ คุณก็ควรมีเวลาเผื่อไว้อย่างน้อยสักหนึ่งสัปดาห์ค่ะ
เรื่องแสนสะดวกที่ควรรู้ไว้ก่อนจะไปเที่ยวฮอกไกโด
ฮอกไกโดมีจุดท่องเที่ยวและพื้นที่มากมาย ทำให้ต้องมีการเดินทางระหว่างจุดต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ดังนั้นคุณก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้การเที่ยวชมเป็นไปอย่างราบรื่นค่ะ
ไปรับแผนที่ท่องเที่ยวฮอกไกโดได้ที่ไหน?
แผนที่ท่องเที่ยวของฮอกไกโดนั้นมีแจกอยู่ตามโรงแรมและศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวในซัปโปโร ฮาโกดาเตะ และอาซาฮิคาวะค่ะ เราแนะนำ “ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวฮอกไกโด สาขาซัปโปโร” ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทางออกทิศตะวันตกของสถานี Sapporo เลยค่ะ มีบริการแจกแผ่นพับการท่องเที่ยวทั่วทุกพื้นที่ของฮอกไกโด และมีข้อมูลมากมายค่ะ
นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดได้จาก "GoodDay Hokkaido” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จัดทำโดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวฮอกไกโดได้ด้วยค่ะ
สถานที่รับฝากสัมภาระในฮอกไกโดอยู่ตรงไหน?
ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญที่สามารถฝากกระเป๋าเดินทางได้ในฮอกไกโดนั้นตั้งอยู่ตามสถานีหลัก ๆ ของ JR และสนามบิน แต่นอกจากสถานีใหญ่ ๆ แล้วก็มีบ้างที่มีล็อคเกอร์ในจำนวนที่น้อยกว่า และมีบ้างที่ไม่มีบริการตู้ล็อคเกอร์เลยค่ะ ดังนั้นจึงควรลองไปหาที่สถานีใหญ่ ๆ ไว้ก่อนค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น ที่สถานี JR Sapporo (ด้านนอกประตูตรวจตั๋ว) มีประมาณ 1,150 ตู้ ที่สถานี JR Otaru มีประมาณ 220 ตู้ ที่สถานี JR Asahikawa มีประมาณ 150 ตู้ และที่สถานี JR Hakodate มีประมาณ 500 ตู้ค่ะ
สำหรับการรับฝากกระเป๋าสัมภาระชั่วคราวนั้นก็มีให้บริการที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวและตามสถานที่ท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญด้วยค่ะ อนึ่ง โรงแรมบางแห่งในซัปโปโรยังให้บริการรับฝากเก็บกระเป๋าเดินทางสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เป็นแขกผู้เข้าพักด้วยค่ะ
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนของสาธารณูปการที่สามารถนำกระเป๋าสัมภาระไปฝากไว้ได้ในฮอกไกโดค่ะ
- ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ สถานี Sapporo และสถานี Hakodate ของ JR Hokkaido
- ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญและบริการรับฝากสัมภาระชั่วคราว สนามบินจิโตเสะใหม่
- ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ สนามบินฮาโกดาเตะ (54 ตู้)
- บริการรับฝากสัมภาระ อำเภอโนโบริเบทสึ
- บริการรับฝากสัมภาระชั่วคราว ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวอำเภอโอตารุ
- บริษัทส่งพัสดุ Yamato สาขา Aeon Mall หน้าสถานี Asahikawa อำเภออาซาฮิคาวะ
- ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวอำเภอโฮคุโต อำเภอโฮคุโต
- ศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ข้างสถานี JR Furano อำเภอฟุราโนะ
- Hotel GARDENS CABIN อำเภอซัปโปโร (ต้องจองล่วงหน้า)
- Hotel Stripe Sapporo อำเภอซัปโปโร (ต้องจองล่วงหน้า)
ค่าใช้จ่าย 300-700 เยนสำหรับตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ และ 300-840 เยนสำหรับบริการรับฝากสัมภาระค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิ และสิ่งน่าสนใจตามฤดูกาลในฮอกไกโด
ฮอกไกโดนั้นอยู่เหนือสุดในหมู่เกาะญี่ปุ่น และมีอุณหภูมิต่ำตลอดทั้งปี เนื่องจากฤดูกาลมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเพราะอุณหภูมิร้อนหนาวที่แตกต่างกันไป สิ่งน่าสนใจจึงเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาที่มาเยี่ยมเยือนค่ะ
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คืออุณหภูมินั้นมีความแตกต่างกันมากภายในช่วงเวลาหนึ่งวันค่ะ ดังนั้นจึงควรที่จะนำเสื้อผ้าบาง ๆ หลาย ๆ ชิ้นที่สามารถปรับการใช้งานได้ตามอุณหภูมิที่พบติดตัวมาด้วย จะช่วยให้สะดวกมากยิ่งขึ้นค่ะ
ฤดูใบไม้ผลิในฮอกไกโด (มีนาคมถึงพฤษภาคม)
ฤดูใบไม้ผลิในฮอกไกโดนั้น เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง สำหรับเดือนมีนาคมยังคงมีเศษเสี้ยวของฤดูหนาวหลงเหลืออยู่ แต่เมื่อเข้าเดือนเมษายนหิมะก็จะละลายหายไปในที่สุดค่ะ
สิ่งน่าสนใจก็คือดอกไม้ต่าง ๆ สำหรับดอกซากุระนั้นจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนเมษายน และดอกบ๊วย ดอกทิวลิป และดอกไลแล็คก็จะบานในเดือนพฤษภาคมค่ะ
สนุกไปกับการเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
เคล็ดลับการวางแผนสำหรับการชมดอกซากุระในฮอกไกโด
ฤดูร้อนในฮอกไกโด (มิถุนายน-สิงหาคม)
ต้นฤดูร้อนยังคงเป็นฤดูกาลแห่งใบไม้ผลิใหม่ค่ะ ญี่ปุ่นในช่วงต้นฤดูร้อนเป็นช่วงฤดูฝน (梅雨 / Tsuyu ฝนชะผลบ๊วย) แต่สำหรับฮอกไกโดแล้ว ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งก็คือที่นี่ไม่มีฤดูฝนค่ะ ในเดือนกรกฎาคมมีวันที่อุณหภูมิสูงกว่า 30 องศา แต่ในฤดูร้อนก็ค่อนข้างสั้น พอถึงเดือนสิงหาคมก็จะมีวันที่อากาศเย็นเพิ่มมากขึ้น
สิ่งน่าสนใจประจำช่วงฤดูร้อนก็คือดอกลาเวนเดอร์ค่ะ ในแต่ละพื้นที่ก็จะเข้าสู่ช่วงบานเต็มที่ ให้คุณได้ชมทิวทัศน์ทุ่งดอกไม้สีม่วงอ่อนอันแสนงดงามที่ปกคลุมพื้นที่โดยรอบไปทั่วเลยค่ะ
มาดูวิธีเที่ยวหน้าร้อนในฮอกไกโดกัน
ฤดูใบไม้ร่วงในฮอกไกโด (กันยายน-พฤศจิกายน)
ฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นฤดูแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ในเดือนกันยายนยังคงมีวันที่อากาศร้อนอยู่บ้าง แต่ในแทบภูเขาก็จะเริ่มมีหิมะตกกันแล้วค่ะ
นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนกันยายนก็สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้เร็วกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ด้วยค่ะ
วิธีเที่ยวให้สนุกกับฮอกไกโดในฤดูใบไม้ร่วง
ลิ้มรสอาหารฮอกไกโดที่อร่อยที่สุดแห่งปีในฤดูใบไม้ร่วงที่ซัปโปโร
ฤดูหนาวในฮอกไกโด (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
ฮอกไกโดในฤดูหนาวนั้นมีอากาศหนาว บางวันมีอุณหภูมิสูงสุดต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส อย่าลืมเตรียมตัวรับมือกับความหนาวด้วย
สิ่งน่าสนใจในฤดูหนาวก็คือกิจกรรมหรืองานอีเวนต์ต่าง ๆ เที่มีธีมเป็นหิมะและน้ำแข็งนั่นเอง คุณสามารถชมรูปปั้นหิมะและรูปสลักน้ำแข็งและเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์พิเศษเช่นมินิเกมบนพื้นน้ำแข็งได้ด้วยค่ะ
ชอบหิมะกันมั้ย? มาดูวิธีเที่ยวหน้าหนาวในฮอกไกโดกัน!
ผลิตภัณฑ์และอาหารขึ้นชื่อประจำฮอกไกโด
ฮอกไกโดมีการเกษตรที่เจริญรุ่งเรือง จึงมีผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมากมาย คุณสามารถทานผักและผลไม้สด อาหารทะเลสด และผลิตภัณฑ์นม ในรูปแบบต่าง ๆ มากมายได้
นมฮอกไกโด
ฮอกไกโดมีฟาร์มปศุสัตว์มาก จึงมีผลิตภัณฑ์จำพวกนมมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ตั้งแต่เนมุโระไปจนถึงคุชิโระก็มีการผลิตนมสดได้ในปรมาณที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ในนั้น นมยตสึบะ (よつ葉牛乳 / Yotsuba Milk Products) ก็มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษค่ะ
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารมากมายที่ใช้นมสดจากแทบทุกพื้นที่ของฮอกไกโด ตัวอย่างเช่น หากต้องการขนมปังนมก็แนะนำ "Marumugi Moon Bakery" ในซัปโปโร หากต้องการไอศครีมก็แนะนำ "Ice Kobo Tamura Farm Clover" ที่อยู่ใกล้สนามบิน Asahikawa ค่ะ
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ชีสก็ไม่ควรมองข้ามค่ะ ที่ “Kinotoya Shiraishi Main Store KINOTOYA café” ในซัปโปโรมีชื่อเสียงในด้านของทาร์ตชีสที่อบเสร็จสดใหม่จากเตา ส่วน “Furano Delice” ในฟุราโนะนั้นก็มีชื่อเสียงในเรื่องชีสเค้ก Double Fromage ค่ะ
อาหารทะเลและซูชิในฮอกไกโด
เนื่องจากฮอกไกโดถูกรายล้อมไปด้วยทะเล การประมงจึงมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากค่ะ วัตถุดิบคุณภาพสูงอย่างเช่นเม่นทะเลและปู และผลิตภัณฑ์พิเศษเช่นหมึกกล้วยและปลาฮกเกะก็มีชื่อเสียงอย่างมากค่ะ การไปทานอาหารทะเลได้หลากหลายชนิดยและซื้อได้ในราคาที่สมเหตุสมผลก็เป็นเสน่ห์น่าสนใจอย่างยิ่งค่ะ
หากคุณต้องการทานซูชิหรือข้าวดงบุริที่ใช้อาหารทะเลสดใหม่ประกอบ ให้ไปที่ตลาดสดในแต่ละพื้นที่ดูค่ะ ตลาดที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่ “ตลาดนิโจ” กับ “ตลาดค้าส่งกลางอำเภอซัปโปโร-ตลาดนอก” ในซัปโปโร “ตลาดเสรีฮาโกดาเตะ” ในฮาโกดาเตะ และ “ตลาดซันคาคุ” กับ “ตลาดนันทารุ“ ในโอตารุ ค่ะ
ร้านราเมนในฮอกไกโด
ร้านราเมนในฮอกไกโดนั้นมีลักษณะพิเศษแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับภูมิภาคค่ะ ในบรรดาราเมนเหล่านี้ ราเมนซัปโปโร ราเมนฮาโกดาเตะ และราเมนอาซาฮิคาวะก็ถูกเรียกรวมกันว่าเป็นสามราเมนยอดเยี่ยมแห่งอกไกโด (北海道三大ラーメン / Hokkaido Sandai Ramen) ค่ะ
ราเมนซัปโปโรนั้นส่วนใหญ่เป็นซุปสูตรมิโสะ และร้านที่ขึ้นชื่อก็คือ “สุมิเระ” (すみれ / Sumire) ส่วนราเมนฮาโกดาเตะเป็นราเมนซุปเกลือ และร้านที่มีชื่อเสียงดีก็คือร้าน “เมนชูโบ อะจิไซ” (麺厨房 あじさい / Menchubo Ajisai) ทางด้านราเมนอาซาฮิคาวะนั้นปกติจะเป็นซุปสูตรโชยุค่ะ ร้านค้าที่เป็นตัวแทนของรามเมนสายนี้ก็คือ "อาซาฮิคาวะราอุเมนอาโอบะ" (旭川らうめん青葉 / Asahikawa Raumen Aoba) ร้านเจ้าเก่าชที่เปิดดำเนินการมานานกว่า 75 ปีแล้วค่ะ
บุฟเฟ่ต์ในฮอกไกโด
ฮอกไกโดมีร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลมากมาย ตัวอย่างเช่น ร้าน “นันดะ” (難陀 / Nanda) ในซัปโปโรที่มีปูให้ทานได้ไม่อั้นภายในเวลา 100 นาที แต่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ดังนั้นอย่าลืมติดต่อไว้ก่อนที่จะไปที่ร้านนะคะ
นอกจากนี้ ห้องอาหาร “โอตารุอุนกะโชคุโด" (小樽運河食堂 / Otaru Unga Shokudo) ในโอตารุก็ให้บริการบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลและอื่น ๆ รวมกว่า 80 ชนิด ส่วนที่ "ฮอกไกโดบุฟเฟ่ต์" (北海道ビュッフェ / Hokkaido Buffet) ของ Tokachi Sahoro Resort นั้น นอกจากอาหารทะเลแล้วก็ยังมีอาหารอีกหลากหลายชนิด ช่วงราคา (ราคาแบบบุฟเฟ่ต์) อยู่ระหว่าง 5,000 ถึง 6,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
เมล่อนฮอกไกโด
ฮอกไกโดเป็นแหล่งผลิตเมล่อนมีชื่อเสียงมากค่ะ มีหลายแบรนด์ให้เลือก แต่ที่ดีที่สุดก็คือ “ยูบาริเมล่อน” (夕張メロン / Yubari Melon) แม้ว่าจะมีราคาแพง แต่ก็นุ่มและฉ่ำ เป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำในญี่ปุ่นเลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมี "ไรเด็นเมล่อน” (らいでんメロン / Raiden Melon” ซึ่งมีความหวานพร้อมกลิ่นหอม และ “ฟุราโนะเมล่อน" (富良野メロン / Furano Melon) ซึ่งมีความหวานเข้มข้นค่ะ
ขอแนะนำให้ทานเมล่อนเหล่านี้แบบสด ๆ ค่ะ แต่ก็ยังสามารถทานได้ในรูปแบบสินค้าแปรรูปอื่น ๆ เช่น พาร์เฟ่ต์ บามคูเฮน และเค้กค่ะ
ถ้ามาฮอกไกโดแล้ว ไปพักที่ไหนดี?
ในฮอกไกโดมีที่พักประมาณ 950 แห่งทั่วทั้งจังหวัด ซึ่งเกือบ 1 ใน 5 นั้นก็ไปกระจุกอยู่ในพื้นที่ซัปโปโร และถัดไปก็คือแถบชานเมืองฮาโกดาเตะและต่อไปยังแถบชานเมืองฟุราโนะ เนื่องจากเป็นการยากที่จะเดินทางไปมาระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ จึงควรตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางแล้วหาที่พักในพื้นที่นั้น ๆ ไปค่ะ
โรงแรมในฮอกไกโด
โรงแรมในฮอกไกโดแบ่งออกโดยใหญ่ ๆ ได้เป็นโรงแรมราคาประหยัดในเขตเมืองและโรงแรมรีสอร์ทในแหล่งท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ในแหล่งท่องเที่ยวนั้นก็มีโรงแรมราคาถูกจำนวนมากด้วยเช่นกันค่ะ
โรงแรม 5 ดาวและ 4 ดาวในฮอกไกโด
โรงแรมในฮอกไกโดที่ได้รับการจัดอันดับเป็น 5 หรือ 4 ดาวนั้นมีเพียงไม่กี่แห่ง อย่างไรก็ตามมีโรงแรมหรูหราหลายแห่งที่มีห้องมาตรฐานราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 60,000 เยนต่อคืน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
ชื่อโรงแรม | จุดเด่น |
The Vale Niseko | คอนโดมิเนียมที่โดดเด่นด้วยทำเลพิเศษที่สามารถเล่นสกีเข้า / ออกได้ |
Suiboku Hirafu | คอนโดมิเนียมที่มีห้องอันน่าพิสมัย 10 ห้อง |
โรงแรมราคาประหยัดและโรงแรมแคปซูลในฮอกไกโด
ที่ที่มีโรงแรมราคาประหยัดและโรงแรมแคปซูจำนวนมากที่สุดในฮอกไกโดก็คือซัปโปโร ตามด้วยฮาโกดาเตะ ทั้งสองอำเภอนี้มีการกระจุกตัวของโรงแรมกันมากในเขตตัวเมือง ดังนั้นสภาพแวดล้อมการเข้าถึงจึงยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีกระจายอยู่ทั่วฟุราโนะและนิเซโกะด้วย ช่วงราคาที่พบได้บ่อยที่สุดคือ 5,000-6,000 เยนสำหรับโรงแรมราคาประหยัด และ 2,500-3,000 เยนสำหรับโรงแรมแคปซูล (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2020)
โรงแรมรีสอร์ทในฮอกไกโด
โรงแรมรีสอร์ทในฮอกไกโดนั้นส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ทลานสกี เช่นคิโรโระ นิเซโกะ และโทมามุ มีสถานประกอบการมากมายที่คุณอาจจะต้องการไปพักดูแม้จะอยู่นอกฤดูเล่นสกี เช่น คอนโดมิเนียมอันแสนกว้างขวางและโรงแรมที่มีกิจกรรมฤดูร้อนให้ไปทำมากมาย ช่วงราคาขึ้นอยู่กับประเภทของโรงแรมค่ะ
แหล่งน้ำพุร้อนอันขึ้นชื่อและเรียวกังที่สามารถไปแช่ออนเซ็นได้
น้ำพุร้อนในฮอกไกโดนั้นมีความหลากหลายทางสรรพคุณของน้ำพุ และแต่ละออนเซ็นก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกันค่ะ ในส่วนนี้เราจะมาอธิบายแหล่งน้ำพุร้อนหลัก ๆ กันค่ะ
แหล่งน้ำพุร้อน | จุดเด่น | ที่พักที่แนะนำ |
โทคาจิกาวะออนเซ็น | บ่อน้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณหายากที่เรียกว่า "มอร์ออนเซ็น" (モール温泉 / Moor Hot Spring) ซึ่งมีสารอินทรีย์มากมายจากพืช | ซานโยอัน (三余庵 / Sanyoan) |
อะคังโกะออนเซ็น | น้ำพุร้อนที่สามารถชมทะเลสาบได้ | อะคังสึรุกะเบ็สโซ ฮินะโนะสะ (あかん鶴雅別荘 鄙の座 / Akan Tsuruga Bessou Hinanoza |
โจซันเคออนเซ็น | ออนเซ็นที่เข้าถึงสะดวก อยู่ภายในเขตอำเภอเมืองซัปโปโร | ซุยซันเตคลับโจซันเค (翠山亭倶楽部定山渓 / Suizantei Club Jozankei) |
โนโบริเบทสึอออนเซ็น | “ห้างน้ำพุร้อน” ที่มีน้ำพุถึง 9 สรรพคุณผุดขึ้น | โบโรโนกุจิโนโบริเบทสึ (望楼NOGUCHI登別 / Bourou NOGUCHI Noboribetsu) |
ยุโนะคาวะออนเซ็น | น้ำพุร้อนแสนสะดวกที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองของอำเภอฮาโกดาเตะ | คัปโปเรียวกังวากามัตสึ (割烹旅館若松 / Kappo Ryokan Wakamatsu) |
ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในฮอกไกโด
ฮอกไกโดมีพื้นที่ท่องเที่ยวมากมาย ดังนั้นการเข้าถึงจึงแตกต่างกันไปตามแหล่งท่องเที่ยว ในส่วนนี้คือข้อมูลโดยสังเขปของการเข้าถึงที่ต่าง ๆ ในฮอกไกโด
การเดินทางไปฮฮกไกโดนั้นไปทางอากาศจะสะดวกมาก!
การเดินทางไปฮฮกไกโดนั้น ไปทางอากาศจะสะดวกมากค่ะ มีสนามบินหลัก 9 แห่งในฮอกไกโด อันได้แก่ New Chitose, Hakodate, Asahikawa, Wakkanai, Tokachi Obihiro, Tancho Kushiro, Nemuro Nakashibetsu, Memanbetsu และ Okhotsk Monbetsu ค่ะ
แถมยังมีเที่ยวบินตรงไปยังสนามบิน New Chitose จากทั่วญี่ปุ่น และมีเที่ยวบินไปยังสนามบินอื่น ๆ ทั่วฮอกไกโดออกจากที่นี่ด้วย การเดินทางในญี่ปุ่นใช้เวลาไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง แม้ว่าจะยังมีไม่มากแต่ก็มีเที่ยวบินระหว่างประเทศเปิดให้บริการเช่นกัน สามารถเข้าถึงได้โดยตรงจากกรุงเทพฯ ไทเป และฮ่องกงค่ะ
วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปยังฮอกไกโด
การเดินทางจากโตเกียวไปยังฮอกไกโดมี 2 วิธี หากไปโดยเครื่องบินจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมงจากโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) ไปยังสนามบินต่าง ๆ ในฮอกไกโด ในทางกลับกัน ถ้าคุณใช้ JR Tohoku / Hokkaido Shinkansen จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงจากสถานี JR Tokyo ไปยังสถานี Shin-Hakodate Hokuto
ข้อมูลการเดินทางจากซัปโปโรไปยังแหล่งท่องเที่ยวหลักอื่น ๆ ในฮอกไกโด
การเดินทางจากซัปโปโรซึ่งเป็นประตูทางเข้าฮอกไกโดไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในฮอกไกโด มีดังนี้ค่ะ
ชื่อสถานีหลัก | วิธีการเดินทาง | เวลาเดินทาง |
โอตารุ (Otaru) | รถไฟขบวนด่วน JR หรือ รถบัส Hokkaido Chuo Bus | ประมาณ 35 นาที หรือ ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที |
อาซาฮิคาวะ (Asahikawa) | รถไฟขบวนด่วนพิเศษ JR Hakodate สายหลัก หรือ รถบัส Hokkaido Chuo Bus | ประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที หรือ ประมาณ 2 ชั่วโมง |
นิเซโกะ (Niseko) | รถไฟขบวนด่วนพิเศษ JR Hakodate สายหลัก หรือ รถบัส Hokkaido Chuo Bus | ประมาณ 2 ชั่วโมง หรือ ประมาณ 3 ชั่วโมง |
โอบิฮิโระ (Obihiro) | รถไฟ JR สาย Chitose หรือ รถบัส Hokkaido Chuo Bus | ประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาที หรือ ประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที |
คุชิโระ (Kushiro) | รถไฟ JR สาย Chitose หรือ รถบัส Hokkaido Chuo Bus | ประมาณ 4 ชั่วโมง หรือ ประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที |
ฮาโกดาเตะ (Hakodate) | รถไฟ JR สาย Chitose หรือ รถบัส Hokkaido Chuo Bus | ประมาณ 4 ชั่วโมง 10 นาที หรือ ประมาณ 5 ชั่วโมง 45 นาที |
การเที่ยวในฮอกไกโด ใช้ “JR Hokkaido Rail Pass” จะสะดวกมาก!
หากคุณจะเดินทางเที่ยวทั่วฮอกไกโด การใช้ตั๋วแบบบัตรผ่าน “JR Hokkaido Rail Pass” ของบริษัทการทางรถไฟฮอกไกโด (JR Hokkaido) นั้นสะดวกสบาย มีบัตรผ่านแบบต่อเนื่องสำหรับการใช้งาน 3 วัน 5 วัน และ 7 วันติดกัน และแบบที่ให้คุณเลือกวันใช้บริการได้เองอย่างยืดหยุ่นซึ่งใช้ได้สูงสุด 4 วัน สามารถขึ้นรถไฟทั้งหมดที่ดำเนินการโดย JR Hokkaido (ไม่รวมชินคันเซ็น) สามารถซื้อตั๋วได้ที่ บริษัทนำเที่ยวที่ได้รับการแต่งตั้งเฉพาะซึ่งอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น และที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่สถานีหลัก ๆ ในฮอกไกโด
Comments