ข่าวดีครับ บทความชุดนี้จะกลับมาเผยแพร่กันอีกครั้งทุกสัปดาห์ครับ ผู้เขียนจะนำเรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญจากญี่ปุ่นมาให้รับชมกันต่อนะครับ ที่ผ่านมา เรื่องสยองขวัญสั้นๆตามในเวบบอร์ดมีเสียงตอบรับค่อนข้างดี สัปดาห์นี้เราจึงจัดหามาให้อีกครับ ในครั้งนี้ขอเสนอเรื่องสยองเกี่ยวกับ “โรงแรม” กันนะครับ
โรงแรมโทรมๆกับโทรศัพท์ปริศนา
ขอนำเรื่องสั้นๆมาฝากนะครับ
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ผมได้พบเจอด้วยตัวเองเมื่อ 5 ปีก่อนที่นาโกย่าตอนที่เดินทางไปทำธุรกิจครับ
ผมไปกับคนในบริษัทหลายคน หนึ่งในนั้นก็มีรุ่นน้องคนหนึ่ง ขอเรียกว่า A คุง นะครับ
ว่ากันว่า A คุงเนี่ยเป็นคนมีสัมผัสเรื่องผีสางนางไม้ครับ
แถมยังเป็นพวกบ้าสาวๆแบบเห็นได้ง่ายด้วย (นอกเรื่องแล้ว)
พวกเราไปพักกันที่โรงแรมธุรกิจ (เพื่อลดค่าใช้จ่าย) แต่สภาพที่เจอก็แทบไม่น่าเชื่อครับ
เป็นโรงแรมสภาพโทรมๆ ดูท่าว่าจะมีผีออกมาหลอกกันได้ง่ายๆเลยเชียว
หลายวันผ่านไปในการเดินทางไปทำธุรกิจ เราเลิกงานตามเวลาและกลับเข้าที่พักกันครับ
ตอนที่ผมเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อจะทำงานต่อในห้องพัก โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น
พอดูที่มือถือ หน้าจอก็แสดงว่า A คุงเป็นคนโทรเข้าครับ
ตอนนั้นไฟมือถือก็กระพริบเป็นสีส้มปกติ ผมจำได้ชัดเลยครับ
แต่ทว่า...
พอรับสาย ก็ได้ยินแต่เสียงซ่าเหมือนเสียงรบกวนอย่างเดียว
ลองพูด “ฮัลโหล ฮัลโหล” ไปก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมาเลยครับ
เอาแล้วสิ... ผมคิดในใจ
พอลองเงี่ยหูฟังดูดีๆ ก็เป็นไปตามคาดเลยครับ ได้ยินเสียงผู้ชายโอดครวญเบาๆ
ฟังไม่ออกเลยว่าพูดอะไรครับ
แต่ในเสียงรบกวน ซ่า ซ่า มีเสียงโอดครวญแทรกอยู่ครับ
ผมจึงตัดสินใจวางสายลง
แล้วโทรไปหา A คุงใหม่ทั้งอย่างนั้น
A คุงรับสาย บอกว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก
แถมยังบอกกับผมถึงเรื่องราวต่อไปนี้...
ตอนที่ A คุงไปถึงที่ห้อง ไฟในห้องไม่ติด
แต่พอโทรไปที่ล็อบบี้โรงแรม ไฟก็กลับติดขึ้นมาเฉยๆ
แต่หลังจากนั้นสักพัก คราวนี้ประตูเปิดไม่ได้ขึ้นมา ก็เลยออกไปไหนไม่ได้อยู่พักหนึ่ง
พอคิดว่า เออ แปลกแฮะ ก็รู้สึกตัวว่ามีผีในห้องแน่ๆ ทำเอาเสียวสันหลังวาบ
ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ในตอนนั้น Aคุงออกไปข้างนอกเพื่อสูดอากาศสักหน่อย...
ซึ่งก็หมายความว่า ที่โทรมาหาผมก่อนหน้านี้... ก็คือผี...
ตอนนั้น ผมรู้สึกได้เลยว่า มีผีอยู่ อยู่ข้างหลังผมเลย ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที
ผมรีบเพ่งกระแสจิต คิดว่า “ออกไปซะ ออกไป อย่ามารบกวนคนจะทำงาน!”
พอมาคิดดูอีกที ก็ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่แฮะ
ลองกลับมาทบทวนดูอีกที ในบันทึกสายเรียกเข้า รายการที่ A คุงโทรมาตอนนั้นก็หายไปไร้ร่องรอย
ผีใช้โทรศัพท์ด้วยเหรอ? โคตรจะไฮเทคเลย
แต่ที่แน่ๆ ผมยังจำได้ชัดเลยว่าตอนที่มีสายเรียกเข้าปริศนานั้นมา หน้าจอเอยไฟโทรศัพท์เอยก็กระพริบเป้นสีส้มสว่างไปจนถึงไฟหัวเตียงเลยครับ
จากผู้ใช้ xDo09lwb0 บนกระทู้รวบรวมเรื่องสยอง 115 ในเว็บบอร์ด 2-channel (2ch)
---------------------------
ไม่มีบันทึกสายเรียกเข้าแบบนี้ ผีคงเลียนแบบปลอมเป็นสายเรียกเข้า ไม่ก็หลอกเจ้าของเรื่องให้คิดว่ามีสายเข้ากระมั้งครับ แต่ทำไมถึงจงใจให้ขึ้นที่หน้าจอว่าเป็น Aคุงโทรเข้านั่น... ก็คงไม่มีใครเข้าใจความคิดของผีหรอกครับ
มาดูเรื่องต่อไปกันดีกว่าครับ
เส้นผมที่ติดพัน
ขอเบรกสักครู่ด้วยเรื่องสยองสักเรื่องนะคะ
เรื่องนี้ค่อนข้างจะนานมาแล้วค่ะ
เป็นเรื่องเมื่อประมาณ 20 ปีก่อนตอนที่ไปพักในโรงแรมธุรกิจที่เมืองโชฟุ หลังอาบน้ำเสร็จชั้นก็ดื่มเบียร์ไปเยอะพอสมควร เลยไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็”เจอ”ค่ะ
ทำภารกิจเสร็จ (ถือว่าโชคดีไป) กดชักโครกเรียบร้อย จู่ๆไฟก็ดับ
ทุกอย่างมืดสนิท พอรีบจะไปเปิดประตู ก้าวไปได้สัก 5 ก้าว ก็เริ่มผวาขึ้นมาเลยค่ะ
ก็ห้องน้ำมีขนาดแคบๆแค่ 1x2 เมตรเท่านั้นเอง
ไม่มีทางจะเดินได้ถึง 5 ก้าวหรอกค่ะ
คาดว่าตอนนั้นชั้นคงวิ่งแบบสุดชีวิต ช่วงวินาทีที่ 5 หรือ 6 รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาถูกมือ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจค่ะ วิ่งเอาชีวิตรอดไว้ก่อน พอสักประมาณวินาทีที่ 10 ก็ชนกำแพง(?) ชั้นรีบวิ่งเข้าห้องพักไปชนกำแพงที่หน้าอ่างล่างหน้าอีกที
ทีนี้ก็วิ่งออกจากห้องแบบไม่เหลียวหลังเลยค่ะ ไปชนกับพนักงานโรงแรมที่ห้องโถงหน้าลิฟต์แล้วก็หมดสติไปค่ะ (อันนี้ฟังมาจากทางโรงแรมค่ะ ตัวเองจำเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้)
พอได้สติก็เจอพนักงานโรงแรมสีหน้าซีดเซียวกำลังเรียกชื่อชั้นอยู่พอดี
ชั้นรีบตั้งหลักลุกขึ้นและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้พนักงานฟัง สีหน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
มีทีท่าประมาณ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่” แต่เพราะว่าชั้นค่อนข้างเมาจากเบียร์ พนักงานจึงถามประมาณ “คิดไปเองหรือเปล่าครับ”
แต่ขาชั้นยังคงสั่นจากการวิ่งสุดชีวิต แถมสีหน้าของพนักงานก็ไม่ได้ดูปกติแบบไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นสักเท่าไหร่
พอสังเกตดูดีๆ ก็เห็นว่า สายตาของพนักงานมองไปที่มือของชั้นเป็นส่วนใหญ่
พอลองมองดูที่มือของตัวเอง คุณพระ! ชั้นนี่แทบขยับตัวไม่ได้เลยค่ะ
ก็ที่มือของชั้นมีผมยาวประมาณ 30 เซนติเมตรหลายต่อหลายเส้นพันติดอยู่เต็มเลยค่ะ
ชั้นขอให้พนักงานช่วยเก็บของของชั้นลงมาและขอเช็คเอาท์ออกก่อนกำหนดทันที
แบบว่า ไม่อยากจะเข้าไปใกล้ห้องนั้นอีกอ่ะค่ะ แค่อยู่ที่โรงแรมก็ยังแทบจะทนไม่ได้เลย
อยากจะรีบออกให้เร็วที่สุดแบบไม่ถงไม่ถามอะไรจากที่โรงแรมเลยค่ะ
ทางโรงแรมเองก็ไม่มีคำอธิบายใดๆสักคำ แถมไม่คิดค่ายกเลิกก่อนกำหนดด้วยค่ะ
คิดว่าคงจะไม่อยากถามเรื่องรายละเอียดสักเท่าไหร่
หรือไม่ก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในโรงแรมกับคนอื่นนอกจากชั้นมาก่อนก็เป็นได้ค่ะ
จนบัดนี้ชั้นยังไม่ค่อยกล้าจะปิดประตูห้องน้ำเลยค่ะ
ถึงเรื่องจะผ่านมานานมากแล้ว ดิชั้นก็ยังไม่ได้เข้าใกล้เมืองโชฟุอีกเป็นครั้งที่สองค่ะ
จากผู้ใช้ gfauoNGv0 บนกระทู้รวบรวมเรื่องสยอง 137 ในเว็บบอร์ด 2-channel (2ch)
----------------------------------
เอิ่ม ถ้าวิ่งสุดชีวิตได้ถึง 10 วินาทีโดยไม่ชนอะไรในห้องน้ำแคบๆที่ปิดประตู... คงหลุดไปมิติอื่นแล้วแหล่ะครับ จะว่าไป เดี๋ยวนี้ก็มีคำร่ำลือเป็นตำนานสมัยใหม่ว่าสถานที่บางที่ในญี่ปุ่นเป็นประตูสู่โลกอื่นด้วย... เอาไว้มีโอกาสจะนำมาฝากครับ แต่ครั้งนี้ขอลากันไปก่อนแค่นี้ครับ สวัสดีครับ!
Comments