โตเกียว หนึ่งในพื้นที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทุกอย่างทั้งการเที่ยวชมโบราณสถาน แหล่งช้อปปิ้ง และอาหารการกิน

มหานครโตเกียว (東京都 / Tōkyō-to ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า โทเคียวโตะ) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่น ตั้งแต่รัฐบาลสำเร็จราชการโดยโชกุนได้ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 17 โตเกียวได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางของการปกครอง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ในปัจจุบันก็ยังได้รับการพัฒนาเสริมต่อไปอีก และเสน่ห์มากมายอย่างแหล่งท่องเที่ยวที่ทันสมัยและโบราณสถานแบบเก่าแก่ก็ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงพักผ่อนหย่อนใจในโตเกียว
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงความบันเทิงในโตเกียว

เกี่ยวกับโตเกียว

กรุงโตเกียวตั้งอยู่ทางใต้ของภูมิภาคคันโต มีพื้นที่ประมาณ 2,200 กม. และประชากรประมาณ 13 ล้านคน และยังเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

พื้นที่ท่องเที่ยวนั้นแบ่งออกเป็นพื้นที่ใหญ่ ๆ ได้ 3 พื้นที่ ได้แก่ "เขตใจกลางเมือง" (都心部 / Toshin-bu) ซึ่งมีสาธารณูปการที่หลากหลายแม้จะอยู่ภายในกรุงโตเกียว “พื้นที่โอคุทามะ" (奥多摩エリア / Okutama Area) ที่คุณสามารถสัมผัสถึงความงามของธรรมชาติแห่งพื้นที่ภูเขา และ "เขตเกาะ" (島嶼部 / Tōsho-bu) ซึ่งประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ ในหมู่เกาะอิสึและหมู่เกาะโอกาซาวาระที่ไม่มีการรุกรานจากน้ำมือมนุษย์ค่ะ

โตเกียวยามราตรีปลอดภัยหรือไม่?

เมื่อเทียบกันแล้ว โตเกียวค่อนข้างปลอดภัยในเวลากลางคืน โดยได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกจากการสำรวจโดยนิตยสาร The Economist ในเดือนกันยายน 2019 ค่ะ

และยังมีอาสาสมัครคอยลาดตระเวนทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนตาม “เทศบัญญัติการพัฒนาเมืองปลอดภัยไร้กังวล กรุงโตเกียว” (東京都安全・安心まちづくり条例 / Tokyo Metropolitan Safety and Security Town Development Ordinance) ที่จัดตั้งขึ้นในปี 2003 ด้วย นอกจากนี้ ทางตำรวจก็ยังออกลาดตระเวนและดำเนินตามมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายในพื้นที่ใจกลางเมืองย่านต่าง ๆ ด้วยค่ะ

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวซึ่งจะจัดขึ้นในปี 2020!

โตเกียวจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 32 ในปี 2020 ในอดีตด้เคยมีการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวเมื่อปี 1964 และนี่เป็นครั้งที่สองสำหรับโตเกียวที่จะได้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกค่ะ ในระหว่างการแข่งขันจะมีการแข่งขัน 28 ชนิดกีฬา และยังสามารถชมนักกีฬาที่ดีที่สุดของโลกกันได้ที่นี่ค่ะ

สภาพอากาศและอุณหภูมิในโตเกียว

เนื่องจากญี่ปุ่นมีฤดูที่แตกต่างกันไปถึงสี่ฤดูกาล การมาเยี่ยมชมดูวิวทิวทัศน์และทานอาหารที่มีเฉพาะฤดูนั้นๆก็เป็นมนต์สเน่ห์อีกอย่างหนึ่งของโตเกียว เราขอนำจุดเด่นและเคล็ดลับประจำแต่ละฤดูมาแนะนำให้กับนักท่องเที่ยวทีจะมาญี่ปุ่นกันค่ะ

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนา เมษา พฤษภา)

อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นในช่วงกลางวัน ในช่วงฤดูกาลนี้ ดอกบ๊วย (เหมย) ดอกซากุระ ดอกเนโมฟีล่า และดอกวิสทีเรียก็เรียงลำดับกันบาน สร้างสีสันให้ทัศนียภาพสวยสดงดงามเลยเชียว มีบางวันในเดือนมีนาคมที่อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส แต่ก็มีบางวันในเดือนพฤษภาคมที่อุณหภูมิสูงกว่า 20 องศาเซลเซียสเช่นกัน ควรมีเสื้อโค้ทบางๆหรือผ้าคลุมกันหนาว หากคุณเป็นพวกไม่ถูกกับอากาศหนาว ควรลองสวนเสื้อผ้าหลายๆชั้นอย่างถุงน่องรัดรูปหรือเสื้อผ้าชั้นในหนาๆ

• ไปเที่ยวญี่ปุ่นจะแต่งตัวยังไงดี? ตอนฤดูใบไม้ผลิ
  
• เทศกาลฤดูใบไม้ผลิและสภาพอากาศในโตเกียวที่ควรรู้ก่อนมาเยือน
  

ฤดูร้อน (มิถุนา กรกฎา สิงหา)

ฤดูร้อนในโตเกียวมีลักษณะเฉพาะคือความชื้นสูง และยังมีกิจกรรมพื้นเมืองอย่างการสวมชุดยูกาตะหรือการราดน้ำบนถนน และงานกิจกรรมประเพณีต่างๆเช่นงานเทศกาลทานาบาตะ (七夕) และงานเทศกาลแข่งขันพลุดอกไม้ไฟ และอื่นๆอีกมากมาย เนื่องจากในช่วงเดือนมิถุนายนยังเป็นช่วงหน้าฝนของญี่ปุ่น จึงแนะนำให้พกร่มพับหรือเสื้อกันฝนติดตัวไว้ดีกว่า ระหว่างช่วงเดือนมิถุนา กรกฎาและสิงหา อุณหภูมิเฉลี่ยโดยรวมต่ำกว่า 30 องศา แต่ในเดือนสิงหาตอนกลางวันอาจจะมีอุณหภูมิสูงเกิน 30 องศาและมีความชื้นสูงมากในช่วงกลางวัน จึงแนะนำให้เตรียมเครื่องดื่ม ครีมกันแดด ร่มกันแดด และอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องไปด้วยเวลาไปเที่ยวชมข้างนอก

• ใส่อะไรไปเที่ยวญี่ปุ่นดี? ตอนฤดูร้อน
  
• งานเทศกาลหน้าร้อนในโตเกียว ที่คุณไม่ควรพลาด!
  

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยา ตุลา พฤศจิกา)

ในภาษาญี่ปุ่นมีคำกล่าวที่ว่า "ฤดูใบไม้ร่วงแห่งความอยากอาหาร" (食欲の秋 โชคุโยคุโนะอากิ) ซึ่งกล่าวถึงการอิ่มอร่อยไปกับอาหารต่างๆอย่างข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวใหม่ๆ ปลาซัมมะ และพืชผักต่างๆ ทั้งยังเป็นฤดูแห่งการชมใบไม้เปลี่ยนสี เดือนกันยายนอากาศค่อนข้างหนักไปทางร้อน แต่พอเข้าเดือนตุลาคมอากาศก็จะเริ่มเย็นลงทุกวัน ในเดือนพฤศจิกายนอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 13 องศา หากใครไม่ชินกับอากาศหนาว ก็ควรสวมเสื้อโค้ทหนาๆหรือผ้าคลุมขนแกะ

• ใส่อะไรไปเที่ยวญี่ปุ่นดี? ตอน ฤดูใบไม้ร่วง
  
• ฤดูใบไม้ร่วงในโตเกียวเต็มไปด้วยสิ่งที่สวยงามเช่นใบไม้เปลี่ยนสีและเทศกาลชมจันทร์! อย่าพลาดกับสิ่งเหล่านี้
  

ฤดูหนาว (ธันวา มกรา กุมภา)

ฤดูหนาวมักจะเข้ากับหิมะ แต่สำหรับโตเกียวแล้ว กว่าหิมะจะตกก็ปาเข้าไปเดือนกุมภาพันธ์ แถมไม่ค่อยสะสมเป็นกองเท่าไหร่ อย่างไรเสีย ไฟประดับก็เป็นสิ่งน่าสนใจประจำฤดูหนาวของโตเกียว ถนนต่างๆในโตเกียวจะมีสีสันตามไฟประดับนับตั้งแต่เข้าเดือนธันวาคม เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเป็นฤดูหนาวแต่ก็ไม่ได้หนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 5 องศา หากใครจะมาเที่ยวโตเกียวในฤดูหนาว ควรมีเสื้อโค้ทขนแกะหรือเสื้อโค้ทยาวติดตัวมาด้วย

• มาเที่ยวญี่ปุ่นจะแต่งตัวยังไงดี? ฤดูหนาว
  
• ฤดูหนาวในโตเกียว – สว่างระยิบระยับไปทั่วทั้งเมืองด้วยไฟประดับ!
  

10 ที่ที่ควรไปเยือนเมื่อมาโตเกียว

กรุงโตเกียวนั้นมีหลากหลายพื้นที่ แต่จากที่ต่าง ๆ เหล่านั้นเราขอยกสถานที่ที่แนะนำมาให้รู้จักกันสัก 10 แห่งค่ะ

ชินจูกุ

ชินจูกุ (新宿 / Shinjuku) เป็นเมืองที่มีสองด้าน ได้แก่ ย่านออฟฟิศสำนักงานและย่านใจกลางเมือง ทางด้านตะวันตกของสถานีนั้นมี "ศาลาว่าการกรุงโตเกียว” โรงแรม และอาคารสำนักงานต่าง ๆ ตั้งอยู่ค่ะ

ส่วนทางด้านตะวันออกของสถานีนั้นก็เรียงรายไปด้วยห้างสรรพสินค้า อาคารแฟชั่น ร้านอาหารและดื่มกิน และสถานบันเทิงค่ะ นอกจากนี้ในตอนกลางคืนบรรยากาศก็จะแตกต่างออกไป และจะก็กลายเป็นย่านใจกลางเมืองที่พลุกพล่านไปด้วยแสงไฟนีออนค่ะ

10 กิจกรรมห้ามพลาดในชินจูกุ

ฮาราจูกุ

ฮาราจูกุ (原宿 / Harajuku) เป็นเมืองที่มีแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารมากมายตามคอนเซปท์ "Kawaii" ค่ะ ร้านสินค้าสุดฮิตและร้านขนมต่างก็เรียงรายอยู่แถวถนนทาเกะชิตะโดริ (竹下通り / Takeshita Dōri) ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งหลักค่ะ

นอกจากแหล่งช้อปปิ้งแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติค่ะ เรายังแนะนำจุดชมวิวที่มีดอกซากุระและดอกไอริส (อายาเมะ) บาน อย่างที่ศาลเจ้าเมจิจิงกู (明治神宮 / Meiji Jingū) และสวนโยโยกิ (代々木公園 / Yoyogi Kōen) ค่ะ

ฮาราจูกุ แดนศักดิ์แห่งโลกแฟชั่นแบบโตเกียวที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์
เรื่องน่าทำในฮาราจูกุ

อาซากุสะ

อาซากุสะ (浅草 / Asakusa) เป็นเมืองที่มีวัดวาอารามและศาลเจ้ามากมาย นอกจากวัดเซ็นโซจิ (浅草寺 / Sensoji) แล้วยังมีศาลเจ้ายาซากิอินาริ (矢先稲荷神社 / Yasaki Inari Jinja) และศาลเจ้าอาซากุสะ (浅草神社 / Asakusa) นอกจากการซื้อของตามถนนช้อปปิ้งที่ทอดยาวไปถึงหน้าวัดเซ็นโซจิแล้ว คุณยังสามารถล่องเรือไปตามแม่น้ำสุมิดะ (隅田川 / Sumida-gawa) ได้อีกด้วยค่ะ

นอกจากนี้ ใกล้กับอาซากุสะก็ยังมีจุดท่องเที่ยวอีกมากมายอย่างเช่นอุเอโนะและโตเกียวสกายทรีค่ะ

วิธีการเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอาซากุสะให้สุขสำราญ

อุเอโนะ

อุเอโนะ (上野 / Ueno) เป็นเมืองที่มีจุดท่องเที่ยวมากมายหลายประเภท เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ และวัดวาอาราม รวมตัวกันอยู่ในย่านเดียว มีถนนช้อปปิ้ง 9 สาย อย่างเช่นถนนช้อปปิ้งอาเมะโยโกะ (アメ横 / Ameyoko) ค่ะ

นอกจากนี้ สวนอุเอโนะออนชิ (上野恩賜公園 / Ueno Onshi Kōen) เป็นสวนสาธารณะกลางเมืองแห่งแรกในญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ชมซากุระอันเลื่องชื่อและเป็นจุดท่องเที่ยวที่เป็นตัวแทนของย่านอุเอโนะค่ะ

สุดยอดจุดน่าเที่ยวทั้ง 5 ในอุเอโนะ ตั้งแต่ย่านอันคึกคักไปจนถึงแพนด้าสุดน่ารัก!

อากิฮาบาระ

อากิฮาบาระ (秋葉原 / Akihabara ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า อะคิฮะบาระ) เป็นหนึ่งในเมืองเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ในบ้านจำนวนมากทำให้เหมาะสำหรับการไปหาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ

อากิฮาบาระเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับอนิเมะญี่ปุ่นและวัฒนธรรมชาวโอตาคุ เมืองนี้เต็มไปด้วยโฆษณาของตัวละครต่าง ๆ และผู้คนมากมายก็แต่งคอสเพลย์กันค่ะ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าแปลกตากระจุกตัวกันอยู่มาก อย่างเช่นร้านค้าเฉพาะทางที่มีเกมและการ์ตูนมังงะเรียงราย เวทีแสดงที่สามารถไปพบเจอกับไอดอลได้ และร้านค้าที่สามารถไปลองสัมผัสประสบการณ์การแต่งคอสเพลย์ได้เป็นต้นค่ะ

10 สถานที่ท่องเที่ยวใน Akihabara

กินซ่า

กินซ่า (銀座 / Ginza ภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า กินสะ) เป็นเมืองที่คุณสามารถสัมผัสถึงด้านทั้งสองได้ทั้งความเก่าแก่และความสมัยใหม่ "ถนนกินซ่า" (銀座通り / Ginza Dōri) ซึ่งเป็นถนนสายหลักเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มีร้านค้าแบรนด์ระดับไฮเอนด์และอาคารแฟชั่นกระจุกตัวกันอยู่ค่ะ

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารมากมายเป็นพิเศษและมีให้เลือกหลายประเภท เช่น อาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก และอาหารจีนเป็นต้น มีร้านค้าชื่อดังมากมายที่ได้รับดาวมิชลินค่ะ

กินซ่า แหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโตเกียวที่มีทั้งจุดท่องเที่ยวแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัยผสานเข้าด้วยกัน

ชิบูย่า

ชิบูย่า หรือ ชิบุยะ (渋谷 / Shibuya ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า ฉิบุยะ) เป็นเมืองที่ล้ำสมัยทั้งเรื่องแฟชั่นและของกิน มีสาธารณูปการมากมายที่ได้รับความนิยมในหมู่คนหนุ่มสาว โดยเฉพาะ "109" นั้นมีชื่อเสียงในฐานะสัญลักษณ์ของชิบูย่าค่ะ

นอกจากนี้ "แยกสแครมเบิ้ล" มีชื่อเสียงในฐานะสัญลักษณ์ที่แสดงถึงโตเกียวที่มีจำนวนประชากรมหาศาล ภาพของผู้คนที่กำลังเดินกันเต็มสี่แยกแม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงงานเทศกาลนั้นจะทำให้ชาวต่างชาติที่ได้ชมเป็นครั้งแรกต้องตะลึงกันเลยค่ะ

5 สิ่งน่าทำในชิบุยะที่ไม่ควรพลาด

ยานากะ - เนซุ

ยานากะ (谷中 / Yanaka) และ เนซุ (根津 / Nezu) เป็นเมืองที่มีภาพในวันวานของโตเกียวในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 วิธีการไปเที่ยวยอดนิยมก็คือการเดินกินที่ย่านช้อปปิ้งยานากะกินซ่า (谷中ぎんざ商店街 / Yanaka Ginza Shopping Street) ซึ่งมีเสน่ห์ที่ราคาอันแสนถูกค่ะ

นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และพิพิธภัณฑ์ศิลปะมากมาย จึงแนะนำสำหรับการเที่ยวเพื่อชมศิลปะเช่นกันค่ะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่เก่าแก่อย่างเช่นสุสานและศาลเจ้าอีกด้วยค่ะ

เดินเล่นรำลึกถึงวันวานที่ยานากะ
เนซุ ย้อนอดีตกับย่านใจกลางเมืองของญี่ปุ่น

โอไดบะ

โอไดบะ (お台場 / Odaiba) เป็นเมืองริมน้ำที่อยู่ติดกับอ่าวโตเกียว มีสาธารณูปการเพื่อความบันเทิงหลายแห่ง เช่น แหล่งช้อปปิ้ง สวนสนุก น้ำพุร้อนและโรงแรมเป็นต้นค่ะ

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุณสามารถใช้เวลาอันน่าประทับใจได้ทั้งวัน เช่น การล่องเรือชมทิวทัศน์และการชมวิวยามค่ำคืนค่ะ

วิธีใช้เวลาให้แสนสุขที่โอไดบะ โตเกียว

ซึกิชิมะ

ซึกิชิมะ (月島 / Tsukishima) เป็นแหล่งกำเนิดของอาหารญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า “มอนจา” มีร้านมอนจายากิประมาณ 50 แห่งในถนนพาณิชย์ที่มีชื่อว่า "Monja Street” ค่ะ

ซึกิชิมะยังมีจุดที่คุณสามารถชื่นชมทัศนียภาพของอ่าวโตเกียวและแม่น้ำสุมิดะได้ด้วยค่ะ ในฤดูใบไม้ผลิแถวต้นซากุระจะบานเรียงเป็นแถว และคุณสามารถเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติที่สานทอขึ้นด้วยสายน้ำและดอกไม้ได้ค่ะ

กิจกรรมน่าทำในซึกิชิมะ: มอนจายากิและนกฮูก!

ช้อปปิ้งในโตเกียว

เมื่อมาถึงโตเกียวก็ควรเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งด้วยค่ะ ในที่นี้เราจะมารู้จักกับแหล่งช็อปปิ้งที่แนะนำของโตเกียวโดยแบ่งออกเป็นสามประเภทดังต่อไปนี้ค่ะ

• แฟชั่น
• เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
• ของฝาก-ของที่ระลึก

แฟชั่น

ในโตเกียวนั้นมีร้านค้าแบรนด์แฟชั่นต่าง ๆ มากมายค่ะ หากคุณต้องการซื้อเสื้อผ้าในโตเกียว เราขอแนะนำสาธารณ๔ปการขนาดใหญ่เช่นเอาท์เล็ตและศูนย์การค้าค่ะ

เอาท์เล็ตนั้นเป็นร้านที่มีช่วงราคาต่ำกว่าร้านค้าทั่วไป ตัวอย่างเช่น "Venus Fort" และ "Mitsui Outlet Park" ในโอไดบะเป็นต้นค่ะ

ส่วนศูนย์การค้านั้น นอกจากแฟชั่นแล้วก็ยังรวบรวมสินค้าเบ็ดเตล็ดและร้านขายผลิตภัณฑ์อาหารด้วยค่ะ แนะนำ “Tokyo Midtown” และ “LaLaport” ในรปปงงิค่ะ

เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

หากคุณคิดจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่โตเกียว เราแนะนำผู้ค้าปลีกซึ่งมีมากมายค่ะ มีสินค้าให้เลือกมากมายและราคาถูกด้วย หากให้ยกตัวอย่างแล้วละก็ เราแนะนำร้าน "Yodobashi Camera” ร้าน “Yamada Denki” และ "Bic Camera” ค่ะ

มีร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจำนวนมากในแต่ละพื้นที่ของโตเกียว แต่ที่แนะนำเป็นพิเศษก็คือย่านอากิฮาบาระ ชินจูกุ และกินซ่าค่ะ ไม่ว่าพื้นที่ใดก็มีร้านค้าอยู่หน้าสถานี และสามารถเปรียบเทียบราคาระหว่างร้านค้าได้ด้วยค่ะ

ของฝาก-ของที่ระลึก

หากคุณต้องการซื้อของที่ระลึกของโตเกียว ก็ต้องไปแวะตามถนนช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า และอาคารสถานีเป็นต้นค่ะ ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นถนนช้อปปิ้งก็แนะนำที่ “นากามิเสะ” ในอาซากุสะ และ “ถนนเด็มโปอิน” (伝法院 / Denpoin Street) เป็นต้นค่ะ ซึ่งมีร้านขนมที่มีชื่อเสียงและร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดงเรียงรายค่ะ

ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แบบเฮียคกะเต็นยังตั้งอยู่ในใจกลางกรุงโตเกียวด้วยค่ะ “Mitsukoshi” เอย ”Isetan” เอย “Takashimaya” เอยต่างก็มีชื่อเสียงมากค่ะ ที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แต่ละแห่งคุณสามารถซื้อขนมขึ้นชื่อและสินค้าเบ็ดเตล็ดแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้ค่ะ

อาหารและร้านอาหารในโตเกียว

โตเกียวมีอาหารหลากหลายประเภท ตั้งแต่อาหารญี่ปุ่นไปจนถึงอาหารตะวันตก จีน ฝรั่งเศส และอิตาลีค่ะ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่แปลกตาเช่นร้านอาหารนินจาและร้านอาหารหุ่นยนต์ค่ะ

ร้านอาหารในโตเกียว วิธีตามหาสุดยอดร้านอาหาร!

ในส่วนนี้เราจะแนะนำอาหารและร้านอาหารตาม 5 ประเภทดังต่อไปนี้ค่ะ

• ซูชิ
• ราเมน
• อาหารญี่ปุ่น
• เนื้อย่างยากินิขุ
• ของหวาน

อนึ่ง ร้านอาหารนั้นก็มีมากมายในแต่ละพื้นที่ค่ะ แต่ที่มีหนาแน่นมากที่สุดก็คือในใจกลางกรุงโตเกียวเช่นย่านชินจูกุ ชิบูย่า และกินซ่าค่ะ

ซูชิ

ร้านซูชิต่าง ๆ ในโตเกียวมีความหลากหลายทั้งเรื่องราคาและรสชาติค่ะ ร้านค้านั้นก็มีกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ในโตเกียว แต่ร้านค้าที่มีชื่อเสียงจะตั้งอยู่ในใจกลางเมือง นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากมายใกล้ตลาดเนื่องจากสามารถได้รับวัตถุดิบสดใหม่ได้ค่ะ

ถ้าให้ยกตัวอย่าง เราก็แนะนำร้าน "Tsukiji Kagura Sushi” (つきぢ神楽寿司) ในตลาดนอกของสึคิจิ ร้าน “Kyubey Ginza” (銀座久兵衛) และ "Bentenyama Miyako Sushi” (弁天山美家古寿司) ในอาซากุสะค่ะ ช่วงราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000 เยนสำหรับซูชิแบบปั้น (นิกิริ) และประมาณ 3,500 เยนสำหรับข้าวหน้าปลาดิบดงบุริค่ะ

หากคุณต้องการทานซูชิในราคาที่ถูกพอสมเหตุสมผล คุณอาจต้องไปหาทานที่ร้านซูชิสายพานค่ะ ตัวอย่างเช่น ร้าน "Kura Sushi” (くら寿司) สนนราคาต่ำสุดตั้งแต่ 100 เยนสำหรับซูชิ 2 ชิ้นขึ้นไปค่ะ (ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

ราเมน

ในโตเกียวมีร้านราเมนมากมาย ราเมนเองก็มีหลากหลายประเภท แต่ลักษณะเด่นของราเมนในโตเกียวคือราเมนแบบซุปโชยุที่ทำจากน้ำซุปสีใสค่ะ

มีร้านราเมนมากมายบริเวณรอบ ๆ สถานีในแต่ละพื้นที่ค่ะ ในนั้นก็ยังมี 8 "ร้านที่ต้องตรงไปทานก่อนในโตเกียว" ที่ Tokyo Ramen Street (東京ラーメンストリート) ที่สถานีโตเกียวค่ะ ที่แนะนำอีกร้านก็คือ “Ichiran” (一蘭) ร้านราเมนแบบแฟรนไชส์ที่เฉพาะในโตเกียวก็มีเกือบ 20 สาขาค่ะ

ช่วงราคานั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรสชาติและท็อปปิ้งวางหน้าค่ะ แต่ก็เป็นการดีที่จะกะงบไว้สักประมาณ 800 ถึง 1,300 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

อาหารญี่ปุ่น

มีร้านอาหารญี่ปุ่นมากมายในโตเกียว อาหารญี่ปุ่นนั้นก็มีหลากหลายชนิด เช่น เทมปุระ อาหารคอร์สแบบไคเซกิ ไก่ปิ้งยากิโทริ อาหารแบบที่ทำทานกันตามบ้าน และอุด้งเป็นต้น แต่อาหารเหล่านี้สามารถรับประทานได้ทุกพื้นที่ในโตเกียวเลยค่ะ

ในทางกลับกัน กินซ่าและรปปงหงิมีร้านค้าชื่อดังมากมายที่ได้รับดาวจากมิชลินค่ะ

ช่วงราคาก็แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอาหารที่ทาน แต่ก็เป็นการดีที่จะกะงบไว้สักประมาณหลายพันถึงหลายหมื่นเยนถ้าไปร้านหรู ๆ ค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

เนื้อย่างยากินิขุ

ในโตเกียวมีร้านเนื้อย่างยากินิขุมากมาย หากคุณต้องการลิ้มรสยากินิขุแบบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เราขอแนะนำร้านแฟรนไชส์อย่างร้าน “Gyukaku” (牛角) และ “Jojoen” (叙々苑) ซึ่งมักจะตั้งอยู่ด้านหน้าสถานีและง่ายต่อการแวะไปทานค่ะ

นอกจากนี้ หากคุณต้องการที่จะทานไม่เพียงแค่เนื้อย่างยากินิขุเท่านั้น แต่ยังต้องการทานอาหารอื่น ๆ ไปพร้อมหรือลองลิ้มชิมรสเนื้อที่คัดสรรกันมาเป็นพิเศษให้ไปที่ร้านค้าตามริมถนนค่ะ ถ้าให้ยกตัวอย่างก็ขอแนะนำร้าน “Nihon Yakiniku Hasegawa” (日本焼肉はせ川) ซึ่งมีสาขาในกินซ่าและโอโมเตะซานโด ร้าน “Yoyogi Meatbar Nikutarashi” ในโยโยงิ และ "yakiniku HONMA” (炭火焼ホンマ) ในอะคาซากะค่ะ

ช่วงราคาก็แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้านค้า โดยอยู่ที่ประมาณ 500-2,000 เยนต่อจานสำหรับการสั่งแบบทีละจาน และประมาณ 3,000-15,000 เยนสำหรับแบบคอร์ส (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

ของหวาน

ของหวานในโตเกียวนั้นมีตั้งแต่ขนมญี่ปุ่นไปจนถึงขนมตะวันตกค่ะ ตัวอย่างเช่นขนมญี่ปุ่นรวมถึงวุ้นโยกัง ลูกชิ้นแป้งดังโงะ ของหวานรวมในน้ำเชื่อมอันมิสึ และขนมสอดไส้รูปปลาไท้ที่เรียกว่าไทยากิเป็นต้นค่ะ ในบรรดาร้านขนมญี่ปุ่นเราแนะนำร้าน "Funawa” (舟和) ในอุเอโนะ และร้าน "Kinozen” (紀の善) ในชินจูกุค่ะ

นอกจากนี้ ขนมตะวันตกจำนวนมากยังมีจุดเด่นเป็นการเน้นรูปลักษณ์น่าถ่ายรูปไปลงในสื่อ SNS ค่ะ ในนั้นที่ดัง ๆ ก็ได้แก่ร้าน "Takano Fruit Parlour” (タカノフルーツパーラー) และ "Glasciel Omotesando” (グラッシェル表参道店) ค่ะ ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

โรงแรมในโตเกียว

ที่พักในโตเกียวนั้นมีหลากหลายประเภท เช่น โรงแรม เรียวกัง และเกสต์เฮาส์ค่ะ ในส่วนนี้เราจะมาแนะนำพื้นที่ที่มีที่พักมากและช่วงราคาของที่พักโดยแบ่งตามประเภทค่ะ

โรงแรมระดับ 5 ดาวในโตเกียว

มีโรงแรมในโตเกียวระดับ 5 ดาวมากมายในย่านใจกลางเมืองค่ะ คุณสามารถไปผ่อนคลายราวกับอยู่รีสอร์ทในใจกลางเมืองใหญ่ได้เลยค่ะ มีห้องพักแบบญี่ปุ่นทันสมัยและเลานจ์ ดังนั้นคุณสามารถสัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องไปถึงที่เรียวกังค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น โรงแรมหรูที่มีห้องพักแบบญี่ปุ่นทันสมัยก็ได้แก่ "Grand Hyatt Tokyo”, “Conrad Tokyo” และ "Aman Tokyo” ค่ะ ช่วงราคาอยู่ที่ประมาณ 60,000-100,000 เยนต่อคืนสำหรับห้องแบบ Standard ค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

โรงแรมราคาประหยัดในโตเกียว

มีโรงแรมราคาประหยัดจำนวนมากในโตเกียวตามสถานีปลายทางซึ่งมีรถไฟหลายสายมาบรรจบกัน เช่น รอบ ๆ ชินจูกุ ชิบูย่า โตเกียว และอุเอโนะค่ะ

ในญี่ปุ่นยังเรียกว่า "โรงแรมธุรกิจ" ด้วยค่ะ ด้วยการจำกัดบริการให้เหลือเฉพาะที่พัก จึงสามารถทำราคาค่าเข้าพักให้ถูกถึงประมาณ 5,000 ถึง 15,000 เยนต่อคืนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

อนึ่ง โรงแรมราคาประหยัดจำนวนมากเป็นโรงแรมสาขาในเครือใหญ่ ๆ อย่างเช่น "Richmond", “dormy inn”, “APA Hotel" และ "Tokoyo Inn" เป็นต้นค่ะ

โรงแรมแคปซูลในโตเกียว

โรงแรมแคปซูลในโตเกียวเองก็มีในตัวเมืองหลายแห่งเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะบริเวณใกล้ ๆ สถานีมีโรงแรมหลายแห่งมากเป็นเอกลักษณ์ เป็นสไตล์การนอนในห้องส่วนตัวขนาดเล็กที่เรียกว่าเคบิน และมีห้องอาบน้ำและห้องสุขาที่ต้องใช้ร่วมกัน แต่ช่วงราคานั้นเริ่มต้นที่ประมาณ 3,000 เยนต่อคืนเท่านั้นค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

หากคุณดูแค่ช่วงราคา คุณอาจจินตนาการถึงพื้นที่เรียบง่ายพร้อมเตียงเท่านั้น แต่ช่วงหลังมานี้มีโรงแรมแคปซูลจำนวนมากที่ดูมีสไตล์และให้บริการเครื่องใช้อำนวยความสะดวกมากมายเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีความโดดเด่นค่ะ

โรงแรมแคปซูลที่แนะนำ ได้แก่ “Ueno Station Hostel Oriental 1”,”An/other TOKYO” ใกล้กับสถานีโตเกียว และ “Tokyo Ariake BAY HOTEL” ในเขตโคโต หากสนใจที่ไหนก็ลองไปตรวจสอบดูนะคะ

5 โรงแรมแคปซูลที่แนะนำในโตเกียว

เรียวกังในโตเกียว

ในโตเกียวมีเรียวกังเพียงไม่กี่แห่ง แต่ก็มีที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้และที่พักแบบดั้งเดิมที่จะทำให้ลืมไปเลยว่ายังอยู่ในใจกลางเมืองค่ะ

ตัวอย่างเช่น เราแนะนำ “Homeikan Honkan”, “Hoshinoya Tokyo” และ “Grand Prince Hotel Takanawa Hanakoro” เป็นต้นค่ะ ราคาตกประมาณ 9,000 ต่อคืนสำหรับที่ Homeikan ส่วนที่อื่น ๆ นั้นตกประมาณ 65,000 เยนต่อคืนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

เกสต์เฮาส์ในโตเกียว

เกสต์เฮาส์หลายแห่งในโตเกียวนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีบ้านเรือนและอาคารเก่าแก่หลายแห่งอยู่รวมกันซึ่งเรียกว่า "ชิตะมาจิ” (下町 / Shitamachi ใจกลางเมืองเก่า) ตัวอย่างเช่น พื้นที่นิฮอมบาชิ อาซากุคะ คันดะ เป็นต้นค่ะ

ในบรรดาเกสต์เฮาส์นั้นมีที่พักที่สร้างตามคอนเซปต์ต่าง ๆ อยู่หลายที่ ซึ่งที่ดัง ๆ ก็ได้แก่ "toco” ในอุเอโนะ "UNPLAN Kagurazaka” ในชินจูกุ "Nui. HOSTEL & BAR LOUNGE” ในอาซากุสะเป็น้ตนค่ะ

อัตราที่พักแตกต่างกันไปค่ะ โดยที่พักบางแห่งเริ่มต้นเพียงประมาณ 3,000 เยนต่อคืน ส่วนที่พักที่ราคาแพงจะเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 เยนต่อคืนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2019)

แล้วประตูสู่ญี่ปุ่น สนามบินต่างๆในโตเกียวหล่ะ?

ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะและท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สนามบินฮาเนดะ) ก็จะเป็นประตูเข้าสู่โตเกียวที่ใกล้ที่สุดจากประเทศของคุณ ในช่วงหลายปีให้หลังมานี้ โตเกียวก็เหมือนจะใกล้ขึ้นไปอีกจากการที่มีสายการบินราคาถูกโผล่ขึ้นมามากมายให้เลือกใช้บริการได้ในราคาประหยัด

เกี่ยวกับสนามบินนาริตะ

มีเที่ยวบินตรงจากเมืองใหญ่ๆเกือบทุกประเทศให้บริการเชื่อมตรงลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ นอกจากการออกจากนครโตเกียวหลังมาถึงท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะแล้ว ที่อาคารผู้โดยสาร 3 ยังมีเที่ยวบินที่บินไปยังเมืองต่างๆในญี่ปุ่นคอยให้บริการด้วย ซึ่งจริงๆแล้วคุณยังสามารถบินต่อไปยังเมืองอื่นๆในญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสนามบินฮาเนดะเลยสักนิด สำหรับใครที่รอต่อเครื่องที่สนามบิน ยังมีบริการพาทัวร์วัดนาริตะซัน ชินโซจิ มีไกด์นำเที่ยวไปพบกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นรอบๆสนามบิน พร้อมทัวร์ช้อปปิ้งไปยังอีอ้อนมอลล์นาริตะ (Aeon Mall Narita) อีกด้วย

• ไกล?ยุ่งยากซับซ้อน?เดินผิดหาทางไม่เจอ!สนามบินนานาชาตินาริตะจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นครั้งต่อไปของคุณ
  
• สินค้ายอดฮิต 12 อย่างที่ทุกคนต้องซื้อจากร้านสินค้าปลอดภาษี AKIHABARA ก่อนออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ
  
• วิธีเดินทางระหว่างสนามบินนาริตะกับโตเกียวด้วยเงินเพียง 1,000 เยน

ข้อมูลสถานที่แนะนำ

• ชื่อสถานที่: ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (成田国際空港 / Narita International Airport)
• ที่ตั้ง: 1-1 Furugome, Narita-shi, Chiba 〒282-0004
• การเดินทาง: มีเที่ยวบินตรงจากไต้หวัน สิงค์โปร์ ฮ่องกง กรุงโซล เซี่ยงไฮ้ และกรุงเทพฯเป็นต้น
• Wi-Fi: มีให้บริการ
• ภาษา: อังกฤษ, จีน, เกาหลี
• เครดิต: VISA, Master Card, JCB, AMERICAN EXPRESS, Diners Club International

เกี่ยวกับสนามบินฮาเนดะ

เที่ยวบินตรงที่เชื่อมต่อกับสนามบินฮาเนดะมีน้อยกว่าแต่สนามบินก็ใกล้กับตัวเมืองโตเกียว เพราะฉะนั้น หากจุดหมายหลักของคุณในการเดินทางมาญี่ปุ่นคือโตเกียว สนามบินนี้ก็เป็นจุดที่เหมาะที่สุดในเรื่องระยะทาง นอกจากนี้ เมื่อมาถึงอาคารผู้โดยสารขาเข้านานาชาติ ภายในอาคารก็มีวัฒนธรรมญี่ปุ่นพื้นเมืองมากมายแสดง ทั้งร้านอาหารเครื่องดื่มและร้านขายของที่ระลึก จนสามารถใช้เวลากว่าครึ่งวันในสนามบินได้ไม่เบื่อเลยทีเดียว! จริงๆแล้วยังสามารถสนุกกับการเดินทางแบบญี่ปุ่นได้ที่นี่เลยด้วยซ้ำค่ะ!

• การเดินทางจากสนามบินฮาเนดะไปโตเกียว

ข้อมูลสถานที่แนะนำ

• ชื่อสถานที่: ท่าอากาศยานฮาเนดะ (羽田空港 / Haneda Airport)
• ที่ตั้ง: Hanedakuko, Ota-ku, Tokyo 144-0041
• การเดินทาง: มีเที่ยวบินตรงจากไต้หวัน สิงค์โปร์ ฮ่องกง กรุงโซล เซี่ยงไฮ้ และกรุงเทพฯเป็นต้น
• Wi-Fi: มีให้บริการ
• ภาษา: อังกฤษ, จีน, เกาหลี
• เครดิต: VISA, Master Card, JCB, AMERICAN EXPRESS, Diners Club International

ไม่ต้องยุ่งยากกับการจราจร ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้าของ JR

การคมนาคมในโตเกียวก็ยอดเยี่ยม รถไฟขบวนแรกเริ่มวิ่งตั้งแต่ 5.00 น. และรถไฟขบวนสุดท้ายวิ่งตอน 0.00 น. ซึ่งก็มีเวลาให้คุณทำงานหรือเที่ยวเล่นได้เหลือเฟือในโตเกียว เหนือสิ่งอื่นใด นักท่องเที่ยวคงถูกใจมากหากได้รู้ว่าการซื้อบัตร IC จะช่วยให้คุณใช้บริการรถไฟฟ้าของ JR หรือรถไฟใต้ดินได้อย่างจุใจ ในช่วงหลายปีมานี้ ทั้งสถานีรถไฟใต้ดินและสถานีรถไฟฟ้าของ JR ก็เริ่มมีผ้ายแสดงข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษและจีน มีบริการอินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ฟรี ฯลฯ ให้นักท่องเที่ยวที่มาญี่ปุ่นรู้สึกสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

การใช้บริการรถไฟใต้ดิน

รถไฟใต้ดินของบริษัท "Tokyo Metro” และ "Toei” ตัดผ่านส่วนต่างๆของโตเกียวราวกันสานกันเป็นใยผ้า ซึ่งก็แล้วแต่สถานี บางสายก็เชื่อมต่อไปยังทางเข้าโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และอื่นๆอีกมากมาย วันฝนตกก็ไม่จำเป็นต้องเปียกเลยทีเดียว แถมยังมีหมายเลข ป้ายบอกทาง และแผนที่เรียงรายอยู่บริเวณทางออกของสถานี ทำให้คุณแทบจะไม่มีวันหลงทางระวห่างการไปจุดหมายจากสถานีเลยเชียว ในบางพื้นที่อย่างสถานีกินซ่าและสถานีชินจูกุยังมีช้อปปิ้งมอลล์ใต้ดินอีกด้วย อาจจะได้ช้อปอะไรติดไม้ติดมือระหว่างการเดินทางเอาก็เป็นได้

การใช้บริการรถไฟฟ้า JR (บริษัทการรถไฟญี่ปุ่น หรือ Japan Railways)

สำหรับรถไฟฟ้าของ JR มีมากกว่า 10 สาย รวมไปถึงสาย Yamanote ในสายรถไฟของ JR ที่วิ่งเหนือพื้นดิน สาย Yamanote ซึ่งวิ่งวนรอบตัวเมืองในเวลาหนึ่งชั่วโมง เป็นสายรถไฟที่สะดวกสบายมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาญี่ปุ่น หากนั่งรถไฟรางเดี่ยวจากสนามบินฮาเนดะมา คุณก็จะมาลงที่สถานี Hamamatsucho ซึ่งก็อยู่บนสาย Yamanote ด้วย ส่วนใครที่นั่ง Narita Express (NEX) มาก็มีเส้นทางหลายสายให้เชื่อมต่อไปยังสถานีบนสาย Yamanote ตั้งแต่ชานเมือง อย่างสถานีโตเกียว สถานี Shinagawa สถานี Ikebukuro และรถไฟขบวน Keisei Skyliner สถานที่ยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่นอย่างชิบูย่า ชินจูกุ อิเกะบุคุโร่ ยูราคุโจ (เดินไม่ไกลจากกินซ่า) ก็อยู่บนสาย Yamanote เช่นกัน

การเดินทางไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ในญี่ปุ่น

โตเกียวนั้นสะดวกแก่การเดินทางไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ต่าง ๆ ในญี่ปุ่นค่ะ ในที่นี้เราจะมาแนะนำวิธีการเข้าถึงเจ็ดพื้นที่ดังต่อไปนี้ค่ะ