
จัดบทความในซีรี่ย์นี้มากันถึงสิบตอนแล้วนะครับ เพื่อเป็นการขอบคุณที่คอยติดตาม รอบนี้จะไม่ขอบรรยายลงรายละเอียดเบื้องลึกใดๆ (นอกจากเกริ่นนำ) แต่จะให้คุณๆได้อ่านเรื่องเล่าโบราณของญี่ปุ่นอันเลื่องชื่อ ซารายาชิกิ (皿屋敷 คฤหาสน์จาน) กันแบบเต็มอิ่มไปเลยครับ
โอคิคุ จานสมบัติ 10 ใบ และบ่อน้ำ
เรื่องราวเกี่ยวกับคฤหาสน์จานในชื่อ ซารายาชิกิ (皿屋敷) มีหลายแบบหลากเวอร์ชั่นครับ แต่ที่ทุกๆเรื่องเล่ามีตรงกันก็คือ ตัวเอกที่ชื่อโอคิคุ (お菊 ชื่อผู้หญิงในสมัยมุโรมาจิ-เอโดะจะเป็นชื่อสองพยางค์ นิยมเติม โอ- เพื่อเป็นการให้เกียรติ) จานสมบัติอันล้ำค่า และคฤหาสน์แบบญี่ปุ่นที่มีบ่อน้ำลึก ในปัจจุบันเรื่องที่เป็นที่นิยมกันมากก็คือ เรื่องตามแบบแผนการดำเนินเรื่องทางเอโดะ-โตเกียว บันโจซารายาชิกิ (番町皿屋敷) เรื่องตามแบบแผนการดำเนินเรื่องทางปราสาทฮิเมจิ-จังหวัดเฮียวโงะ บันชูซารายาชิกิ (播州皿屋敷) ซึ่งในแต่ละแบบแผนการดำเนินเรื่องก็ยังมีเวอร์ชั่นแยกย่อย แบบกระชับหรือแบบนวนิยาย เปลี่ยนแปลงเนื้อหาภายในไปบ้าง ที่เห็นได้ชัดก็คือต้นเหตุของเรื่อง ไม่ว่าจะเกิดจากกฎระเบียบอันเข้มงวดบ้าง รักที่ไม่สมหวังบ้าง การลอบสังหารทางการเมืองบ้าง การทดสอบรักแท้บ้าง หรือแม้แต่นายหญิงจอมอิจฉาบ้าง
ถ้าใครยังไม่เคยได้ยินได้อ่านเรื่องนี้เลยสักเวอร์ชั่นแล้วละก็ เราก็ไม่ขอสปอยล์เรื่องนะครับ มาอ่านติดตามเรื่องราวเองเลยดีกว่าครับ!
แบบบันโจ: เรื่องราวของความริษยา ความโหดเหี้ยม และการล้างแค้น

นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานนับ 370 กว่าปีก่อน สถานที่นั้นก็คือ เมืองเอโดะ เขตอุชิโกเมะ ย่านโกะมงไน หมู่บ้านที่ห้า (โกะ-บันโจ) ที่คฤหาสน์แห่งหนึ่งที่มั่งคั่งที่มีบ่อน้ำลึก เชื่อกันว่า คฤหาสน์แห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของนายหญิงประจำตระกูลโทโยโทมิ นายหญิงเท็นจูอิน ในตอนที่เกิดเรื่อง คฤหาสน์นี้เป็นที่อยู่อาศัยของ อาโอยามะ “ฮาริมะโนะคามิ” ชุเซ็น ซึ่งอาศัยอยู่กับภริยาและบรรดาข้ารับใช้หญิงจำนวนมาก ชุเซ็นทำงานเป็นผู้ดูแลป้องกันการขโมยและวางเพลิงต่างๆ แต่แท้จริงนั้น งานที่ว่าเป็นเพียงฉากหน้าเท่านั้น ในใจเขาไม่เคยใส่ใจเพื่อนมนุษย์ ไม่เคยได้ป้องกันอาชญากรรมใดๆ เป็นเพียงบุรุษผู้มีจิตใจอันโหดเหี้ยมอำหิตเท่านั้น ซึ่งภรรยาของเขาเองก็มิได้ต่างกันสักเท่าใด ชอบแกล้งผู้อื่นไปเรื่อย
ในช่วงสิ้นปีของปีหนึ่ง ชุเซ็นได้เรียกข้ารับใช้ทุกนางให้มารวมตัวกันที่คฤหาสน์และกล่าว
“พอขึ้นปีใหม่ ทางเรานี้จะเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติ สภาผู้เฒ่าและคณะมาเยี่ยมเยือน จึงจะมีการเปิดคฤหาสน์ เพื่อการนี้ เราจะใช้จานล้ำค่าทั้งสิบใบนี้รับแขก จานเหล่านี้ได้รับการมอบหมายมาจากองค์โทโชกู ถือเป็นสมบัติล้ำค่าประจำคฤหาสน์ เพียงได้รับการมองและชมจากแขกก็นับเป็นเกียรติยิ่งแล้ว ดังนั้น ข้าขอให้พวกเอ็งอุทิตชีวิต ดูแลจานชามเหล่านี้ให้ดียิ่งกว่าชีวิตของเจ้าเสีย”
“นายท่าน หากจานชามเกิดหายหรือแตกขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกชั้นฤๅเจ้าคะ”
“เอ็งว่ากระไรนะ!”
ข้ารับใช้ผู้อาวุโสที่สุด โออุเมะ ได้กล่าวถามขึ้น ชุเซ็นจึงเดินไปหานางด้วยสายตาอันเยือกเย็นอำหิต นำดาบพกมากชี้ที่ใบหน้าของนาง
“กล้าดีนักนะ!”
ฉับ!
ดาบได้ฟันฉับเข้าที่ใบหน้าของโออุเมะ
เสียงกรีดร้องของเหล่านางบริวารดังไปทั่ว ทั้งด้วยความหวาดกลัว และความเจ็บทุรนทุรายชองอาเมะ
ใบหน้าของอาอุเมะฉีกขาดจากมุมปากเป็นทางยาวในแนวนอน เลือดกระเด็นไปทั่ว สร้างความหวาดกลัวให้กับนางบริวารทุกคน
“อ๊าฮะฮะฮะฮะฮะฮ่า” เสียงนายหญิงหัวเราะขบขันราวกับเป็นเรื่องสนุกแทรกขึ้นมา
“เหตุใดท่านจึงทำเยี่ยงนี้” นางบริวารไต่ถาม
“เจ้าโง่! เอ็งรู้มั้ย นายสภา นายท่านซากาอิได้เดินทางมาที่คฤหาสน์แห่งนี้เป็นประจำในทุกช่วงขึ้นปีเพื่อมาดูว่าจานเหล่านี้ยังอยู่ดีหรือไม่ หากเกิดมีรอยขีดข่วนอันใดขึ้นมาแม้แต่เพียงใบเดียว จะให้ข้าบากหน้าไปขอขมาโดยไม่เสียเลือดคว้านท้องชดใช้ได้หรือกระไร? แต่เอ็งกลับเอาเรื่องพล่อยๆมาพูดออกปากง่ายๆเยี่ยงนี้ ไปเปลี่ยนนิสัยเอ็งซะ!”
“แต่นายท่าน สำหรับชีวิตลูกผู้หญิงแล้ว ใบหน้าก็สำคัญเท่าชีวิตเลยนะเจ้าคะ ท่านทำเกินกว่าเหตไปนะเจ้าคะ”
“จริงอย่างที่เจ้าว่า” นายหญิงแทรกขึ้นมา “หากเจ้ามีแผลบนใบหน้าเยี่ยงนี้แล้ว คงไม่อาจมีชีวิตต่อไปได้ เช่นนั้นเราควรช่วยสงเคราะห์นางเสียหน่อยจะดีไหมคะ”
“ฟังดูเข้าท่าดี ไปลงนรกเลยไป!”
ฉัวะ!
โออุเมะส่งเสียงร้องสุดท้ายก่อนสิ้นลม
ชุเซ็นได้ใช้ดาบคาตานะฟันปลิดชีพโออุเมะ ผู้ที่จ้องมองชุเซ็นด้วยสายตาอันเคียดแค้นจนถึงวาระสุดท้าย
“เอาตัวอีผู้หญิงรกตานี้ไปทิ้งที่แม่น้ำให้เร็วเลยไป เหะ เหะ”
เหล่านางบริวารต่างก็ตัวสั่นยามมองไปที่ร่างอันไร้วิญญาณนั้น
“อ๊าฮะฮะฮะฮะฮะฮ่า”
หลังเกิดเรื่อง โอคิคุกล่าวทักโออิเนะที่ร้องไห้อยู่เพียงลำพัง
“โออิเนะจัง...”
“นางเป็นพี่สาวข้า...” โออิเนะสะอึกสะอื้นร้องไห้ต่อ
“คฤหาสน์แห่งนี้น่ากลัว นายท่านก็น่ากลัว ถ้าสักวันพวกข้าเกิดทำอะไรผิดพลาดขึ้นมา พวกข้ามิถูกสังหารทิ้งเหมือนพี่สาวข้าฤๅ”
โอคุคิหมดคำพูดจะปลอบ ได้เพียงแค่ร้องไห้เป็นเพื่อนโออิเนะ

ในวันหนึ่ง โอคิคุถูกชุเซ็นเรียกตัว เธอพยายามระงับความกลัว ใจดีสู้เสือ ไปที่หน้าห้องของชุเซ็นแล้วกล่าว
“คิคุเองเจ้าค่ะนายท่าน”
“เออ มาแล้วฤ? เข้ามาสิ อย่าได้รีรอ”
“มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ”
“นายท่าน?”
“นี่เป็นกุญแจห้องเก็บของ ข้าอยากให้เจ้าเก็บไว้” ชุเซ็นกล่าวพร้อมโยนกุญแจให้โอคิคุ
"ในคฤหาสน์แห่งนี้ หาได้มีสตรีนางใดกุมหัวใจของข้า แม้แต่ภริยาของข้าเองก็ด้วย ช่างน่าเสียดายเสียยิ่งกระไร แต่เจ้า โอคิคุ เจ้ามีจิตใจงดงามบริสุทธิ์ กริยามารยาทก็งามไม่มีที่ติ ห้องเก็บของนั้นมีจานชามจากหนานจิงอันล้ำค่าเหล่านั้น เจ้าพึงดูแลให้ดีอย่าได้ถูกขโมยไปได้เสีย”
“จะ- เจ้าค่ะ นายท่าน”
เมื่อพูดจบ ชุเซ็นก็โอบกอดโอคิคุอย่างนุ่มนวล
“มะ- มิได้นะเจ้าคะนายท่าน จักทำเยี่ยงนี้... อีกประเดี๋ยวนายหญิงท่านก็จะมาที่นี่แล้ว หากถูกพบเห็นเข้า... อา”
ชุเซ็นยิ่งโอบกอดโอคิคุให้แน่นยิ่งขึ้นและลิ้มรสริมฝีปากอันอ่อนนุ่มอันนั้น นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของโอคิคุที่รู้สึกหัวใจเต้นแรง ในหัวคิดอะไรไม่ออกจนเหมือนว่างเปล่า กาดโอบกอดยังคงดำเนินต่อไปจนกิโมโนของโอคิคุเริ่มคลาย

แต่นายหญิงที่ได้เดินมาพร้อมกับโออิเนะผ่านมาทางนี้ เมื่อได้ยินเสียงแปลกๆดังกล่าวก็รีบเลื่อนบานประตูออกอย่างเร็ว
“ดูท่ากำลังถึงตอนสนุกเลยเชียวนะ ขออภัยที่รบกวน”
นายหญิงกล่าวเพียงแค่นั้นแล้วก็เดินออกจากห้องหายไปโดยไม่เอ่ยอะไรอีก
“ขอ- ขออภัยเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ!”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษดอก” ชุเซ็นกล่าว แล้วก็เดินออกจากห้องตามนายหญิงไปโดยพลัน
โอคิคุก็รีบจะเดินออกจากห้อง แต่ก็ถูกโออิเนะที่ยืนดูอยู่ขวางไว้ก่อน
“ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจักกล้าดีเช่นนี้”
“มิใช่นะ เชื่อข้าเถิดโออิเนะจัง นายท่านชุเซ็นท่านเป็นคน-“
“ไม่ว่าใครจะเป็นคนเริ่มก็เหมือนกันทั้งหมดนั่นแหล่ะ! ข้าไม่มีวันยกโทษให้เจ้าโดยเด็ดขาด!” โออิเนะกล่าวพร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธราวกับเป็นยักษี
โอคิคุใช้เวลาผ่านไปด้วยความรู้สึกผิดปนความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเต็มอก
และแล้ว ปีใหม่ก็มาถึง คฤหาสน์เปิดเตรียมรับแขก ในวันที่สอง ข่าวลือเรื่องโอคิคุและนายท่านชุเซ็นก็แพร่ไปทั่วคฤหาสน์ราวกับเป็นไฟลามทุ่ง โอคิคุถูกโกรธและเกลียดจากนางบริวารคนอื่นๆ งานก็เริ่มทำยากมากขึ้น โดนกลั่นแกล้งอีกหลายต่อหลายครั้ง ทั้งมีอะไรผิดพลาดก็โยนความผิดให้โอคิคุบ้าง เอาเครื่องมือเครื่องใช้ไปซ่อนบ้าง แต่โอคิคุทำได้เพียงแอบร้องไห้ในมุมมืดเพียงลำพัง
เสียงสะอื้น
“ฮือๆ นายท่าน... อิชั้น... อา... ท่านชุเซ็น... อา”
แต่นายหญิงก็แอบเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในมุมมืดนั้น นับแต่นั้นมา โอคิคุก็ถูกกลั่นแกล้งจากนายหญิงด้วย แต่เรื่องก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้
...โปรดติดตามตอนต่อไป... ในสัปดาห์หน้า!
Comments