โดดเด่นไม่เหมือนใคร! ประตูหลังเปิดได้ทั้งจากด้านข้างและเปิดขึ้นกับมินิแวนจากฮอนด้า “Step Wagon Hybrid”

  • 16 สิงหาคม 2018
  • FUN! JAPAN Team

超独創的!!縦にも横にも開くバックドアを装備したホンダのミニバン「ステップワゴンハイブリッド」

เมื่อพูดถึงประตูหลังของรถมินิแวนแล้ว ใครๆ ก็คงจะนึกถึงประตูที่เปิดขึ้นด้านบนกัน แต่มีน้อยนักที่จะเป็นประตูเปิดไปทางด้านข้าง ซึ่งแต่ละแบบก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ทางวิศวกรของฮอนด้าจึงมีไอเดีย “ก็ทำให้เปิดได้ทั้งสองแบบเลยสิ” จึงได้เพิ่มความน่าตื่นเต้นโดยการเพิ่มประตูหลังขนาดใหญ่แบบเปิดด้านข้างได้เข้าไปในรถ Step Wagon Hybrid แบบ 7 ที่นั่ง วันนี้เราจะพาทุกคนไปทดสอบสมรรถนะกัน

แม้เป็นที่แคบๆ แต่ก็ใช้เป็นห้องเก็บสัมภาระได้

狭い場所でも荷室が使える!!

รถมินิแวนสเต็ปวากอนได้เริ่มออกจำหน่ายรุ่นแรกเมื่อปีค.ศ.1996 ก็ผ่านมา 22 ปีแล้ว ในสมัยนั้นได้มีการออกแบบผสมผสานกันเพื่อให้ใช้งานได้ทั้งขนของและเป็นรถมินิแวน
ฮอนด้าได้ฉีกกฎความจำเจทั้งหลายสร้างรถมินิแวนเพื่อให้ได้เป็นรถมินิแวนที่นั่งสบายราวกับรถยนต์โดยสาร และจำหน่ายในราคาที่สมเหตุสมผล จึงทำให้เป็นรุ่นหนึ่งที่ขายดีเรื่อยมา จากนั้นได้มีการปรับโฉมใหม่จนปัจจุบันได้เป็นรุ่นที่ 5 โดยเพิ่มประตูหลังเปิดด้านข้างและสีพิเศษ

狭い場所でも荷室が使える!!
狭い場所でも荷室が使える!!
狭い場所でも荷室が使える!!

ลองดูตามรูปนะคะ มองเผินๆ ทั่วไปแล้วก็ดูไม่ต่างอะไรจากรถมินิแวนธรรมดาเลย แต่พอเดินไปด้านหลังรถแล้วจะต้องแปลกใจกับประตูหลังที่ไม่เคยพบเห็นในรถมินิแวนแบบเดียวกันมาก่อน ที่เปิดประตูอยู่ด้านซ้าย เมื่อเปิดออกแล้วก็เหมือนกับเปิดประตูบ้านเลย

พอเราได้ทดสอบการใช้งานจริงของประตูหลังจุดเด่นของรถรุ่นนี้แล้วก็ต้องทึ่งในประสิทธิภาพการใช้งานของมัน เพราะในกรณีที่เป็นประตูเปิดขึ้นปกติเวลาจอดรถแล้วมีพื้นที่ด้านหลังแคบก็ไม่สามารถเปิดได้ แต่ประตูแบบด้านข้างนี้ทำให้การใช้งานนั้นสะดวกมากขึ้น แม้พื้นที่จะแคบอย่างไรก็สามารถเปิดหยิบเอาของหรือใส่ของขึ้นรถได้

ผู้โดยสารก็สามารถขึ้นลงรถได้

สเต็ปวากอนตรงแถวที่นั่งที่ 2 และ 3 สามารถปรับเบาะให้แบนราบเพียงปุ่มเดียว ใช้งานง่ายและสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างง่ายดาย

เราลองเอาสัมภาระชิ้นใหญ่ๆ อย่างฟูกที่นอนและผ้าห่มขนขึ้นรถดู ลองเปิดประตูด้านหลังก็สามารถเอาขึ้นรถได้ง่ายๆ และไม่เพียงแต่สัมภาระชิ้นใหญ่เท่านั้น พวกจักรยานหรือรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กก็ใส่รถได้สบาย หากจำเป็นต้องไปจอดรถในที่จอดแคบๆ จนไม่สามารถเปิดประตูให้ผู้โดยสารลงรถได้ ตอนนั้นเราก็เปิดประตูหลังให้ผู้โดยสารขึ้นลงรถได้เช่นกัน ภายในรถจึงมีปุ่นควบคุมการล็อกและเปิดปิดประตูอยู่ภายในด้วย

นอกจากประตูวิเศษที่น่าตื่นเต้นนี้แล้ว รุ่นที่ออกมาใหม่ก็ยังมีสีพิเศษมาให้เลือก พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า จากรุ่นก่อนที่ใช้เครื่อง 2 ลิตรและผสานกับกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แต่รุ่นใหม่นี้วิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น หรืออยากจะเร่งความเร็วก็สามารถใช้พลังงานน้ำมันควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าได้

การเร่งความเร็วก็ทำได้เยี่ยม ครั้งนี้เราขับไปกว่า 3300 กิโลเมตร แม้ตัวรถที่มีน้ำหนัก 1.8 ตัน แต่ก็ให้อัตราสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ 18 กม./ลิตร นอกจากนี้เป็นข้อดีอีกอย่างของเครื่องยนต์ไฟฟ้าจึงทำให้ภายในห้องโดยสารเงียบมาก

เป็นยังไงกันบ้างคะกับรถสัญชาติญี่ปุ่นประตูหลังเปิดได้ด้านข้างแบบนี้ เพื่อนๆ อยากมีไว้ขับสักคันไหมคะ?

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend