เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 5: เรื่องสยองแห่งป่าอาโอคิกาฮาระ บทที่ 1

  • 11 มิถุนายน 2020
  • 12 กรกฎาคม 2018
  • Mon
  • Mon

เรื่องราวลี้ลับและสยองขวัญ ตอนที่ 5: เรื่องสยองแห่งป่าอาโอคิกาฮาระ บทที่ 1

ตามที่ได้สัญญากันไว้ในคราวที่แล้ว เราได้ไปตรวจสอบเรื่องราวอันน่าสะพรึงของ”ทะเลต้นไม้”มาเล่าสู่กันฟังครับ ปัจจุบันมีเรื่องเล่ามากมายหาอ่านได้จากในอินเตอร์เน็ต และครั้งนี้ เรานำเรื่องที่น่าสนใจที่สุดมาฝากกันก่อนในบทแรกของ “เรื่องสยองแห่งป่าอาโอคิกาฮาระ” ครับ ขอแนะนำว่าอย่าอ่านคนเดียวครับ หึหึหึ

บทความก่อนๆ

อย่าได้เดินออกนอกเส้นทางเป็นอันขาด

ก่อนจะเข้าสู่เรื่องสยองเรื่องนี้ ขอเกริ่นนำกันสักหน่อยนะครับ เรื่องเล่าเรื่องนี้ถูกนำมาเล่าในเว็บไซต์ต่างกันสองที่ บางอันใส่ข้อมูลละเอียดบ้างตกหล่นไปบ้าง แต่โดยสรุปแล้ว ก็เป็นเรื่องเดียวกัน เราจึงนำเรื่องมาเล่ารวมกันโดยดึงส่วนที่น่าสนใจในทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน ผนวกเป็นเรื่องสยองให้คุณอ่านโดยเฉพาะ เช่นนั้นอย่าได้รอรี รีบรี่เข้ามาอ่าน ถ้าคุณกล้าพอ!

อย่าได้เดินออกนอกเส้นทางเป็นอันขาด

ในฤดูร้อนเมื่อปี ค.ศ. 1995 มีกลุ่มนักศึกษาชายสามคนที่เป็นสมาชิกชมรมปีนเขาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เกิดอยากจะไปลองสำรวจป่าอาโอคิกาฮาระกัน ทั้งสามวางแผนที่จะเดินสำรวจออกนอกเส้นทางเดินปกติของป่า ไปสำรวจส่วนลึกของทะเลต้นไม้ด้วยกำลังของตัวเองเป็นเวลา 3 วัน

อย่างไรก็ดี หนึ่งในสามนั้นมีเพื่อนที่ไว้ใจได้อยู่ไม่ไกลที่แถบทะเลสาบคาวากุจิโกะ (河口湖) ทั้งสามจึงบอกเล่าเรื่องแผนการเดินป่าของพวกเขาให้เพื่อนคนนั้นฟัง

“ถ้าถึงวันที่สี่แล้วพวกเรายังไม่กลับออกมา ช่วยไปแจ้งตำรวจให้มาตามหาหน่อยได้ป่าว?” ทั้งสามไว้วานเพื่อนคนนี้ไว้

จากนั้น ทั้งสามก็มุ่งหน้าเข้าสู่เบื้องลึกของทะเลต้นไม้แห่งนี้

ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะการฝืนทำอะไรโดยไม่ฟังคำเตือนของชาวบ้านหรือจะเป็นเพราะการเดินออกนอกเส้นทางก็ดี ย่างเข้าถึงวันที่สี่แล้ว ทั้งสามก็ไม่กลับออกมา
นักศึกษาคนที่ถูกไว้วานก็ทำตามที่ได้สัญญาไว้ นำเรื่องไปแจ้งตำรวจ แล้วไม่นานทางตำรวจก็จัดทีมค้นหากู้ภัย ไปตามหานักศึกษาที่หายไปทั้งสามคน

First student was found by the tree

ในการค้นหาวันที่สอง ทีมค้นหาพบตัวหนึ่งในสามนักศึกษาที่หายตัวไป

แต่”คนที่ถูกพบ” ไม่ได้นอนรอความช่วยเหลืออยู่แต่อย่างใด...
เขาถูกพบในสภาพเปลือยเปล่า กำลังกอดต้นไม้อยู่ เป็นภาพที่ผู้พบเห็นต่างก็ต้องฉงนสนเท่กันเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อลองดูดีๆ พวกเขาก็สังเกตเห็นว่า นักศึกษาคนนั้นขยับเอวเข้าๆออกๆ ทีมค้นหาเริ่มจะจินตนาการออกว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

แต่แม้จะส่งเสียงพูดคุยกับนักศึกษาคนนั้น เขาก็ยังไม่รู้สึกตัว ยังคงกระเด้าต้นไม้ต่อไปด้วยสายตาเหม่อลอยและน้ำลายไหลย้อยจากปาก
จนเมื่อทีมค้นหาเข้าไปแตะที่ไหล่ เขาจึงรู้สึกตัว กลับมาพูดคุยสนทนากับทางทีมค้นหาได้เป็นปกติ จากปากคำให้การของนักศึกษาชายคนนี้ เขาบอกว่า เขาได้เจอสาวงามผมยาวคนหนึ่ง แล้วได้ใช้เวลาร่วมกับเธอตลอดสามวัน

ตอนที่ทีมค้นหาพบตัวเขา เขากำลังทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายกับสาวงามคนดังกล่าวอยู่ก็เป็นได้...

Second student was found by the grass

ถัดมาไม่นาน ทีมค้นหาก็พบตัวนักศึกษาที่หายตัวไปอีกคน สภาพในขณะที่พบก็คือนอนอยู่ในพงหญ้าแห้ง

เมื่อลองสอบถาม นักศึกษารายนี้ก็บอกว่า ได้พบสาวงามผมยาว และได้ร่วมหลับนอนกับสาวคนดังกล่าวมาโดยตลอด คาดว่าในกรณีนี้ ตอนที่ถูกพบตัว เขาคงอยู่ระหว่างการนอนกับเธอในผ้าห่มกระมั้ง?

และนักศึกษาคนสุดท้ายก็ถูกพบตัว แต่หาได้มีชีวิตไม่ ดูเหมือนเขาจะใช้เชือกผูกบ่วงจากกิ่งไม้ใหญ่แล้วแขวนคอตาย ไม่มีใครรู้ว่าเขาได้พบสาวงามผมยาวหรือไม่

นักศึกษาที่รอดชีวิตกลับมาทั้งสองคนก็กลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ แต่บางที่ก็มีเรื่องเล่ามาว่า ทั้งสองมีปัญหาทางจิต เข้าๆออกๆโรงพยาบาลเป็นประจำ

She comes to visit...

ว่ากันว่า หลังกลับมาจากทะเลต้นไม้แล้ว ทั้งสองคน บางครั้งก็พูดลอยขึ้นว่า...

“นัตจัง มาหาผมเหรอ?” (なっちゃん、来てくれたの?)

...โดยหันไปยังที่ที่ไม่มีคนแล้วก็พูดคุย ราวกับจะคุยกับใครสักคนที่คนอื่นมองไม่เห็น

จากคำบอกเล่าของชาวบ้านในท้องที่ที่รู้จักทะเลต้นไม้แห่งนี้เป็นอย่างดี ดูเหมือนว่าจะมีอีกหลายรายที่เดินเข้าป่าไปแล้วเกิดอะไรผิดปกติในหัวกลับออกมา ชาวบ้านเขาบอกกันว่า ทางที่ดีอย่าได้ริออกนอกเส้นทางเดินของป่าเป็นอันขาด และถ้าเกิดบังเอิญไปพบเจอใครที่ห่างจากเส้นทางเดินลึกเข้าไปในป่า ให้คิดไว้เสียว่า คนที่คุณเจอนั้น เป็นผี จะดีกว่า

จากบล็อก Chokowabanasi (超怖い話 เรื่องโคตรสยอง) ของเว็บ FC2 และบล็อกส่วนตัวบนเว็บ Tiki.ne.jp

---------------------------------

ทิ้งท้าย

ไม่มีใครรู้ว่าสาวงามรูปนั้นเป็นวิญญาณที่ต้องการคนไปอยู่ด้วย ภูตผีที่เสพพลังชีวิตหรือดวงวิญญาณของคนอื่น หรือแม่มดที่นำคนไปสังเวยเพื่อยืดชีวิตคงความอ่อนเยาว์ของตนเองกันแน่... มีตำนานมากมายเกี่ยวข้องกับที่นี่ก่อนยุคอินเตอร์เน็ต หนึ่งในผู้สูงอายุที่ถูกทิ้งให้ตายจาก อุบะสึเตะ (姥捨て อ่านได้ในบทความตอนที่แล้ว) อาจจะเป็นแม่มดหมอผีที่ฝึกมนต์ดำก็เป็นได้?

มีบางรายงานกล่าวว่าศพที่พบเจอในอาโอคิกาฮาระถูกจัดให้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย แต่กว่าศพจะถูกพบ หลักฐานต่างๆที่ใช้ชี้ตัวคนร้ายได้ก็สูญหายหรือคลาดเคลื่อนจากการแทะกินของสัตว์กินซากหรือเหล่านักผจญภัยหาสมบัติที่ขโมยของของผู้ตาย ถ้าจะไปป่าอาโอคิกาฮาระ อย่าได้ไปคนเดียว และ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด อย่าได้เดินออกนอกเส้นทางที่มีโดยเด็ดขาด และถ้าเป็นไปได้ รีบกลับก่อนมืด มิเช่นนั้นอาจจะเจอเหตุการณ์อย่างเรื่องเล่าในตอนต่อไป!

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเรื่องในวันนี้? เรื่องค่อนข้างยาว เราจึงขอพักกันสักหน่อยก่อนจะมาต่อเรื่องอื่นๆกันในสัปดาห์หน้า แต่ถ้ามีรีเควสอย่างฟังเรื่องราว เรื่องลี้ลับ เรื่องสยอง หรือสถานที่ต้องสาปอะไร ขอเข้ามาได้เลยครับ! รับรองเราจะนำข้อมูลเบื้องลึกหรือเรื่องสยองชวนขนหัวลุกมาเล่าให้ฟังกันอย่างแน่นอน สำหรับวันนี้ ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

หัวข้อเรื่อง

Survey[แบบสอบถาม] กรุณาบอกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น







Recommend