อากิฮาบาระ (秋葉原 / Akihabara) เป็นเมืองพาณิชย์ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในเมืองไฟฟ้าชั้นนำของญี่ปุ่นค่ะ มีร้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มากมายเลย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมย่อยอย่างพวกเกมและอนิเมะด้วยค่ะ มีร้านมากมายอย่างร้านขายสินค้างานอดิเรกและเหมดคาเฟ่ค่ะ
เกี่ยวกับอากิฮาบาระ
ถึงแม้แต่เดิมอากิฮาบาระได้พัฒนาเป็นเมืองเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ที่นี่ก็ได้เปลี่ยนแปลงกลายเป็นเมืองคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์ไอที และยังเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับวัฒนธรรมย่อยอีกด้วยค่ะ มีการรวบรวมอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ที่ทันสมัยอยู่เสมอ และยังคงเป็นแหล่งวัฒนธรรมพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แม้แต่ในปัจจุบันค่ะ
อากิฮาบาระยามราตรีปลอดภัยหรือไม่?
จำนวนอาชญากรรมในอากิฮาบาระนั้นลดลงทุกปี อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมที่นาน ๆ จะเกิดขึ้นนั้นก็มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาระหว่าง 18.00 น. ถึง 20.00 น. ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในช่วงหัวค่ำค่ะ ในทางกลับกัน หลังจากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว อัตราอาชญากรรมกลับลดลงอย่างมากดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าความปลอดภัยในเวลากลางคืนนั้นก็ไม่ได้เลวร้ายสักเท่าใดค่ะ
อากิฮาบาระเป็น "เมืองไฟฟ้า" ที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น
อากิฮาบาระเป็นเมืองไฟฟ้าที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น คล้าย ๆ กับห้างพันทิพย์ในสมัยรุ่งเรืองค่ะ จุดเปลี่ยนที่ทำให้กลายมาเป็นสภาพในปัจจุบันของอากิฮาบาระนั้นย้อนไปถึงช่วงการฟื้นฟูประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีจุดเริ่มต้นมาจากในสมัยนั้นนักเรียนหลายคนพากันมาซื้อผลิตภัณฑ์จากแผงขายชิ้นส่วนวิทยุที่นี่ค่ะ ต่อมาด้วยความเจริญรุ่งเรืองของร้านค้าชิ้นส่วนวิทยุ ผู้ค้าส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าและร้านขายเครื่องไฟฟ้าเก่าก็เริ่มตั้งร้านค้าวางรากฐานจนกลายเป็นเมืองไฟฟ้าไปในที่สุดค่ะ
ในปัจจุบันที่นี่มีทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า ไม่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานอย่างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเครื่องใช้ในบ้านขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีการจำหน่ายชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ขายสินค้ามือสองโดยเฉพาะด้วยค่ะ
อากิฮาบาระยังโด่งดังในฐานะแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอนิเมะอีกด้วย
อากิฮาบาระนั้นก็ยังมีชื่อเสียงในฐานะแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอนิเมะด้วยค่ะ เดิมทีได้รุ่งเรืองขึ้นเป็นเมืองไฟฟ้าจนกระทั่งศตวรรษที่ 20 แต่หลังจากนั้นมา เนื่องจากการอิ่มตัวของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและการแพร่หลายของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ความต้องการเกมและซอฟต์แวร์แอนิเมชั่นก็เพิ่มมากขึ้น และจำนวนร้านค้าที่เกี่ยวข้องกับอนิเมะก็เพิ่มขึ้นมากตามค่ะ
ในปัจจุบันมีร้านค้าเฉพาะทางเกี่ยวกับสินค้าอนิเมะ สินค้าของสะสมเช่นโมเดลฟิกเกอร์ และร้านค้าที่ซื้อขายสินค้าอนิเมะมือสอง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟหรือคาเฟ่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอนิเมะด้วยค่ะ
ตู้ล็อคเกอร์ในสถานี Akihabara อยู่ตรงไหน?
มีพื้นที่ตั้งตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญอยู่ 7 แห่งในสถานี Akihabara ตู้ก็มี 3 ขนาด ได้แก่ เล็ก กลาง และใหญ่ และค่าธรรมเนียมการใช้งานอยู่ที่ 300-400 เยนสำหรับขนาดเล็ก 500 เยนสำหรับขนาดกลาง และ 600-700 เยนสำหรับใหญ่ค่ะ
ข้างล่างนี้เป็นตำแหน่งที่ตั้งของตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญภายในสถานี Akihabara ค่ะ
สถานที่ | จำนวนตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ |
สถานี Akihabara ของ JR หลังประตูตรวจตั๋วทางออก Electric Town - ทางขวามือของประตูตรวจตั๋ว | 179 ตู้ |
สถานี Akihabara ของ JR หลังประตูตรวจตั๋ว ชั้น 3 - ผนังฝั่งบันไดเลื่อนชั้น 3 | 437 ตู้ |
สถานี Akihabara ของ JR หน้าประตูตรวจตั๋วทางออก Central - ตรงข้ามกับช่องจำหน่ายตั๋ว | 61 ตู้ |
สถานี Akihabara ของ JR ทางออก Showa-dori - ทั้งสองฝั่งบริเวณทางออก | 120 ตู้ |
สถานี Akihabara ของ JR ข้างร้านสะดวกซื้อบริเวณทางเดินผ่านสถานีแนวตะวันออก-ตะวันตก | 26 ตู้ |
สถานีรถไฟใต้ดิน Akihabara ของ Tokyo Metro หลังประตูตรวจตั๋วทางออก Electric Town - ทางขวามือของประตูตรวจตั๋ว | 179 ตู้ |
สถานีรถไฟใต้ดิน Akihabara ของ Tokyo Metro ประตูตรวจตั๋วฝั่งสถานี Iwamotocho - ฝั่งทางออกหมายเลข 3 | 72 ตู้ |
พื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ในอากิฮาบาระ
พื้นที่ท่องเที่ยวของอากิฮาบาระแบ่งออกเป็นส่วนใหญ่ ๆ ได้ 3 ส่วนดังนี้ค่ะ
พื้นที่ท่องเที่ยว | จุดเด่น |
ถนนชูโอ | ถนนสายหลักที่มีร้านเฉพาะทางขนาดใหญ่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งกันอยู่เรียงราย |
ถนนจังค์ | ถนนเส้นลึกที่มีร้านต่าง ๆ ปะปนกันมากมาย ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าและเหมดคาเฟ่เป็นต้น |
บริเวณทางออก Electric Town ของสถานี Akihabara | ประตูทางเข้าด้านหน้าสู่อากิฮาบาระ |
ถนนสายหลักของอากิฮาบาระ ถนนชูโอ
ถนนชูโอ หรือ ชูโอโดริ (中央通り / Chuo-dori) เป็นถนนสายหลักในย่านอากิฮาบาระ มีร้านค้าเฉพาะทางขนาดใหญ่ที่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งเรียงกันอยู่เป็นจำนวนมาก และหลายแห่งยังรองรับเรื่องการทำเรื่องลดหย่อน-ยกเว้นภาษีด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีร้านแลกเปลี่ยนสกุลเงินและศูนย์บริการข้อมูลมากมาย อนึ่ง ศูนย์ข้อมูลหลายแห่งนั้นตั้งอยู่ทางฝั่งสถานีรถไฟใต้ดิน Suehirocho ของ Tokyo Metro ค่ะ
พื้นที่ด้านหลังของถนนชูโอ ถนนจังค์
ถนนจังค์ หรือ จังค์โดร (ジャンク通り / Junk-dori) เป็นพื้นที่ที่มีร้านค้าปลีกจำนวนมากที่ซื้อขายสินค้าของเก่าซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ถูกถอดประกอบออกจากคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ค่ะ มีร้านค้าจำหน่ายชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์มือสอง สมาร์ทโฟนมือสอง และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เรียงรายอยู่ทั้งสองข้างของถนนค่ะ
นอกจากนี้ยังมีร้านอื่น ๆ ผสมปนเปอยู่ด้วย เช่น ร้านเหมดคาเฟ่ และร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดของโอตาคุ นอกจากนี้คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารตามริมทาง (ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า อาหารเกรด B) อย่างเคบับและแกงกะหรี่เป็นต้นค่ะ
ทางออกหลักของสถานี Akihabara ประตูออก Electric Town
ทางออก Electric Town (電気街口 / Denkigai-guchi) เป็นทางออกที่ใช้สำหรับเดินทางจากสถานี Akihabara ไปยังถนนชูโอและถนนจังค์ เมื่อออกจากประตูตรวจตั๋วและมุ่งขึ้นเหนือไปทางถนนชูโอก็จะพบสำนักงานแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราและศูนย์บริการข้อมูลอยู่ทางด้านขวามือค่ะ ส่วนทางด้านทิศใต้มีร้านค้าปลอดภาษีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตามสองฝั่งของถนนชูโอค่ะ
อาหารและร้านอาหารที่อากิฮาบาระ
อากิฮาบาระเป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร มีร้านอาหารกว่า 800 แห่งตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองพาณิชย์ค่ะ
อาหารและร้านอาหารในอากิฮาบาระทีนักท่องเที่ยวทุกคนต้องลอง!
ร้านราเมนในอากิฮาบาระ
ร้านราเมนในอากิฮาบาระนั้นกระจายอยู่รอบ ๆ สถานีค่ะ ซึ่งในนั้น ร้าน “คิวชูจังการะอากิฮาบาระ ร้านหลัก“ (九州じゃんがら秋葉原本店 / Kyushu Jangara Akihabara Honten) เป็นร้านค้าที่มีชื่อเสียงที่มีมานานแล้ว ในส่วนเมนูให้บริการนั้น นอกเหนือจากราเมนซุปกระดูกหมูแล้วก็ยังมีราเมนสำหรับ vegans ด้วยค่ะ
นอกจากนี้เรายังแนะนำโซบะคลุกสูตรต้นตำหรับจากไต้หวันของ “ร้านราเมนฮารุกะ” (麵屋はるか / Menya Haruka) และราเมนที่เสิร์ฟพร้อมต้นขาไก่แบบติดกระดูกทั้งชิ้นของร้าน “โทริโอ เคสุเกะ” (鶏王けいすけ / Toriou Keisuke” งบที่ควรเตรียมไม่ว่าจะไปร้านใดก็คือประมาณคือ 700 ถึง 1,400 เยน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2019)
ร้านยากินิขุในอากิฮาบาระ
ในอากิฮาบาระมีร้านปิ้งย่างยาคินิขุหลายแห่งตามถนนโชวะ (昭和通り / Showa-dori) ทางด้านตะวันออกของสถานี มีร้านค้าที่คุณสามารถกินเนื้อส่วนที่หาทานได้ยากและร้านอาหารระดับหรูอันขึ้นชื่อค่ะ
หากคุณต้องการที่จะกินเนื้อส่วนที่หายาก ขอแนะนำร้าน "Yamano” (やまの) นอกจากเนื้อย่างแล้วก็ยังขึ้นชื่อเรื่อง Chiritori Yaki (チリトリ焼き) ซึ่งเป็นเนื้อวางบนผักย่าง ซึ่งสามารถทานได้ตั้งแต่ประมาณ 1,700 เยนขึ้นไป ส่วนถ้าหากคุณต้องการไปที่ร้านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง เราขอแนะนำร้าน "Miku no Mansei” (肉の万世) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1949 คุณสามารถลิ้มรสเนื้อย่างหั่นชิ้นหนา ๆ คุณภาพสูงที่จะละลายในปากของคุณเลยได้ค่ะ ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000 เยนสำหรับเนื้อแบบชุดผสมหลากหลายชนิด (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2019)
ร้านไก่ปิ้งยากิโทริ
มีร้านไก่ปิ้งเสียบไม้ยากิโทริในอากิฮาบาระเป็นจำนวนมากรอบ ๆ สถานีค่ะ จุดเด่นก็คือหลายร้านพิถีพิถันในเรื่องวัตถุดิบค่ะ โดยเฉพาะ “ร้านยากิโทริ สุมิเระ สาขาอากิฮาบาระทางออก Electric Town” (やきとり家 すみれ 秋葉原電気街口店 / Yakitoriya Sumire Akihabara Denkigaiguchiten” เป็นไก่ปิ้งเสียบไม้เนื้อฉ่ำเต็มไปด้วยรสอูมามิ นอกจากนี้ ร้าน “ Aburidori Bali-to Akihabara” (あぶりどり バリ鳥 秋葉原) ใช้วัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีที่โดยซื้อมาจากพื้นที่ต่าง ๆ ในญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 200 เยนต่อไม้ (ณ เดือนธันวาคม 2019)
ของหวานในอากิฮาบาระ
ร้านของหวานในอากิฮาบาระส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าค่ะ ตัวอย่างเช่น ร้าน "Patisserie E Cafe A La Campagne” บนชั้น 4 ของ Atre Akihabara 1 ให้บริการทาร์ตพร้อมผลไม้มากมายจากราคาประมาณ 700 เยน นอกจากนี้ ร้าน "Cafe ASAN" ของ 2k540 AKI-OKA ARTISAN ยังเป็นร้านที่แปลกใหม่พร้อมที่นั่งแบบเปลญวนและโด่งดังในเรื่องเค้ก Souffle แบบร้อน สำหรับร้านนี้เค้กขนาดเล็กราคาประมาณ 1,400 เยน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2019)
บาร์ในอากิฮาบาระ
บาร์ทุกแห่งในอากิฮาบาระนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ ตัวอย่างเช่น "Gauge” เป็นบาร์ของผู้ผลิตเครื่องมือสำหรับการวัดที่มีเครื่องมือวัดแบบโบราณให้ชม ส่วนที่ “ AKIBA★BASE” เป็นคาเฟ่บาร์ที่มีสนามยิงปืนในตัว ทางด้าน "Alchemist" เป็นบาร์ดีเจเพลงอนิเมะ (アニソン / Anime-song) ที่จัดงานอนิเมะและเกมเป็นประจำ แต่ละร้านราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 700 เยนต่อเครื่องดื่มหนึ่งอย่าง แต่จะมีการคิดค่าธรรมเนียมแยกต่างหากยกเว้นที่ร้าน Gauge ค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2019)
ศูนย์อาหารในอากิฮาบาระ
หากคุณต้องการดูร้านค้ามากมายพร้อมกันภายในครั้งเดียว ขอแนะนำให้ไปที่ศูนย์อาหารค่ะ ในอากิฮาบาระมีศูนย์อาหารอยู่สองแห่ง แห่งแรกก็คือ “Tokyo Food Bar Akihabara” (Tokyo Food Bar秋葉原店) ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นหนึ่งของสถานี JR Akihabara มีร้านอาหารอยู่ 4 ร้านรวมถึงโซบะและทงคัตสึ งบควรมีไว้ประมาณ 1,000 เยนและราคาสมเหตุสมผลทุกร้านค่ะ
อีกแห่งก็คือ “โรงละครราเมนอากิฮาบาระ” (秋葉原拉麺劇場 / Akihabara Ramen Gekijo) ซึ่งตั้งอยู่ในอาคาร Akihabara UDX สำหรับศูนย์อาหารนี้มีร้านอยู่ 2 ร้าน ราคาเริ่มต้นจากประมาณ 800 เยนในเวลากลางวันและจากประมาณ 2,000 เยนในเวลากลางคืนเนื่องจากศูนย์อาหารทั้งศูนย์จะกลายเป็นร้านสไตล์อิซากายะค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2019)
โรงแรมในอากิฮาบาระ
โรงแรมในอากิฮาบาระนั้นมีจุดเด่นที่ว่าตั้งอยู่ใกล้กับสถานีและราคาไม่แพงค่ะ ในที่นี้เราจะไปรู้จักกับโรงแรมที่แนะนำแบ่งตามประเภทกันค่ะ
โรงแรมใกล้สถานี Akihabara
รอบ ๆ สถานี Akihabara นั้นก็มีโรงแรมที่ราคาค่อนข้างสมเหตุสมผลค่ะ ตัวอย่างเช่น "Akihabara Washington Hotel” และ "APA Hotel 〈Akihabara Ekimae〉” ต่างก็ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก เดินเพียงหนึ่งนาทีจากสถานี JR Akihabara ก็ถึงค่ะ
ส่วน Via Inn Akihabara ที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยก็ให้บริการห้องพักบรรยากาศเปิดโล่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ถึงแม้จะมีขนาดที่กะทัดรัด ราคาขั้นต่ำตั้งแต่ 7,000 เยนถึง 10,000 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2019)
โรงแรมระดับ 4 ดาวและ 5 ดาวในอากิฮาบาระ
ในอากิฮาบาระไม่มีโรงแรมระดับ 4 หรือ 5 ดาวเลยค่ะ ถ้าหากคุณกำลังมองหาโรงแรมระดับหรู คุณสามารถค้นหาได้ที่สถานีโตเกียวซึ่งอยู่ไม่ไกลค่ะ
ตัวอย่างเช่น "Palace Hotel Tokyo” เป็นโรงแรมสงบที่ล้อมรอบด้วยพืชพรรณสีเขียวและน้ำตามแบบภูมิทัศน์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น โรงแรม “Four Seasons Hotel Marunouchi Tokyo” เป็นโรงแรมที่มีการตกแต่งภายในที่สดใสโดยใช้ลายไม้กับทิวทัศน์ของสถานีโตเกียวที่สามารถมองเห็นได้จากภายในโรงแรม ราคาตั้งแต่ 60,000 ถึง 150,000 เยนต่อคืนในห้องแบบ Standard ค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2019)
โรงแรมแคปซูลในอากิฮาบาระ
โรงแรมแคปซูลในอากิฮาบาระมีบรรยากาศที่น่าพิสมัย โรงแรมบางแห่งยังมีความพิถีพิถันในเรื่องเตียงที่ใช้ด้วยค่ะ
ที่ที่พิถีพิถันเรื่องเตียงก็มี “Anshin Oyado” โรงแรมเฉพาะสำหรับผู้ชายที่ใช้เตียงของซิมมอนส์ และ “Glansit” ซึ่งใช้ที่นอนสูตรเฉพาะของทางโรงแรมค่ะ นอกจากนี้ เรายังขอแนะนำ “First Cabin Akihabara Showa Dori” และ “BAY HOTEL Akihabara” ซึ่งเป็นโรงแรมเฉพาะสำหรับผู้หญิงค่ะ ราคาต่ำสุดก็มีช่วงต่างที่ค่อนข้างกว้าง โดยอยู่ที่ประมาณ 3,500-6,000 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2019)
โฮสเท็ลในอากิฮาบาระ
ในอากิฮาบาระมีโฮสเทล 2 แห่ง ทางด้านตะวันออกของสถานี ทั้งสองเข้าถึงสะดวกเพียงเดินจากสถานี JR Akihabara ประมาณ 5 นาที “Akihabara Hotel 3000” มีหอพักสำหรับชายและหญิงและห้องพักสำหรับครอบครัวที่สามารถรองรับแขกได้ตั้งแต่ 2 ถึง 8 คน ราคาค่าเข้าอยู่ในหอพักประมาณ 3,000 เยนค่ะ
ที่ “And Hostel Akihabara” นอกจากหอพักสำหรับผู้ชายแล้ว ก็ยังมีห้องเตียงคู่ IoT ซึ่งเป็นห้องส่วนตัวที่คุณสามารถทำอะไรทางเน็ตได้ตามใจชอบ ราคาค่าเข้าอยู่ในหอพักเริ่มต้นจากประมาณ 3,600 เยนขึ้นไปค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2019)
การเดินทางจากสถานีโตเกียวไปยังสถานีอากิฮาบาระ
ในการไปยังสถานี Akihabara จากสถานี Tokyo ให้ใช้รถไฟ JR สาย Yamanote หรือสาย Keihin Tohoku ค่ะ สาย Yamanote ออกจากชานชลาที่ 3 ส่วนสาย Keihin Tohoku ออกจากชานชลาที่ 4 การเดินทางใช้เวลาประมาณ 4 นาทีค่ะ
การเดินทางจากสถานีอากิฮาบาระไปยังสถานีหลักอื่น ๆ ภายในกรุงโตเกียว
หากคุณเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมอากิฮาบาระแล้ว อย่าลืมแวะชมสถานที่ใกล้เคียงกันด้วยนะคะ การเข้าถึงจากอากิฮาบาระไปยังสถานีหลักในโตเกียวมีดังนี้ค่ะ
ชื่อสถานีหลัก | วิธีการเดินทาง | เวลาเดินทาง |
สถานีชินจูกุ (Shinjuku) | สถานี Akihabara→[รถไฟ JR สาย Chuo และสาย Sobu]→สถานี Shinjuku | ประมาณ 22 นาที |
สถานีชิบูย่า (Shibuya) | สถานี Akihabara→[รถไฟ JR สาย Chuo และ Sob]→สถานี Yoyogi→[รถไฟ JR สาย Yamanote]→สถานี Shibuya | ประมาณ 20 นาที |
สถานีฮาราจูกุ (Harajuku) | สถานี Akihabara→[รถไฟ JR สาย Chuo และ Sob]→สถานี Yoyogi→[รถไฟ JR สาย Yamanote]→สถานี Harajuku | ประมาณ 23 นาที |
สถานีอาซากุสะ (Asakusa) | สถานี Akihabara→[รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hibiya]→สถานี Ueno→[สาย Ginza]→สถานี Asakusa | ประมาณ 12 นาที |
สถานีกินซ่า (Ginza) | สถานี Akihabara→[รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hibiya]→สถานี Ginza | ประมาณ 15 นาที |
สถานีโอไดบะ (Odaiba) | สถานี Akihabara→[รถไฟ JR สาย Yamanote]→สถานี Shimbashi→[รถไฟสาย Yurikamome]→สถานี Odaiba | ประมาณ 35 นาที |
สนามบินฮาเนดะ (Haneda) | สถานี Akihabara→[รถไฟ JR สาย Yamanote]→สถานี Hamamatsucho→[รถไฟสาย Tokyo Monorail]→สนามบินฮาเนดะ | ประมาณ 32 นาที |
สนามบินนาริตะ (Narita) | สถานี Akihabara→[รถไฟ JR สาย Yamanote]→สถานี Tokyo→[รถไฟ JR สาย Sobu สายหลัก] →สนามบินนาริตะ | ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที |
Comments