ในยุคสมัยนี้ “รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า” กำลังเป็นที่จับตามอง โดยในปี 2010 ค่ายนิสสันก็ได้จำหน่าย LEAF ออกสู่ตลาด โดยในเดือนตุลาคมจะมีการปรับโฉมครั้งใหญ่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 จากรุ่นเดิมแบตเตอรี่ 30kWh เพิ่มเป็น 40kWh สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าจากเดิม 80kW(109ps) ได้เพิ่มเป็น 110kW(150ps) วันนี้เราได้ไปทดลองขับแล้วจะมารายงานความเจ๋งของเจ้าคันนี้ให้ได้ทราบกัน
จุดชาร์จไฟ NISSAN LEAF
NISSAN LEAF เจเนอเรชั่นที่ 2 จุดเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือ “ความเร็ว”
เมื่อรับรถมาเราก็ไปขับบนถนนกันเลย ตอนสตาร์ทก็ไม่ต้องรออุ่นเครื่องก่อน เมื่อกดสวิตช์ ON ก็พาเราออกเดินทางได้ทันที แถมเสียงยังเงียบและวิ่งได้แรงไม่มีตกด้วย การทดสอบครั้งนี้เราได้มาลองในระยะทางสั้นๆ จึงไม่สามารถวัดได้ว่าการชาร์จไฟหนึ่งครั้งจะวิ่งได้สูงสุดกี่กิโลเมตร แต่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ให้มาในรุ่นใหม่ 110kW ก็รู้สึกว่าเพียงพอ และเพียงแค่เหยีบคันเร่งเพียงเล็กน้อยก็เร่งสปีดได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยเครื่อง 2.0L Turbo จากตรงทางเข้าทางด่วน แป๊บเดียวก็เร่งได้ถึง 100km/h แล้ว
คอนโซลกลาง
วิวสวยๆ ของเมืองโยโกฮามา่าจากระหว่างการขับ LEAF
แค่แป้นคันเร่งก็ช่วยเบรกรถได้
NISSAN LEAF ใหม่ มาพร้อมกับ e-Pedal นวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขับขี่ได้อย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้ขับขี่เริ่มขับเคลื่อนรถยนต์ เร่งความเร็ว ลดความเร็ว และหยุดนิ่ง ด้วยการเพิ่มหรือลดแรงกดดันที่ใช้กับคันเร่ง เมื่อปล่อยคันเร่ง ระบบเบรกทั้งสองคือ ระบบเบรกจ่ายพลังงานคืน และระบบเบรกปกติ จะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อทำให้รถหยุดนิ่งถยนต์จะอยู่นิ่งอยู่กับที่แม้จะอยู่บนเนินที่ลาดชันจนกว่าคันเร่งจะถูกกดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยการถอยจอดอัตโนมัติ และระบบช่วยคอนโทรลรถให้อยู่ในเลนที่ขับได้อีกด้วย
เครื่องเงียบ ช่วยประหยัดพลังงาน ล้วนเป็นข้อดีของรถพลังงานไฟฟ้า และอีกอย่างก็ยังช่วยลดมลภาวะที่ทำให้อากาศสกปรก ผู้อ่านชื่นชอบสมรรถนะของรถ NISSAN LEAF กันไหมคะ?
Comments