เรื่องจริงของซามูไรที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

หากพูดถึงประเทศญี่ปุ่น หลาย ๆ คนคงนึกถึงภาพของนักรบที่เก่าแก่หรือไม่ก็ซามูไรผู้น่าเกรงขาม

ทว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ถึงเรื่องราวของพวกเขาอย่างแท้จริง อย่างเช่นเรื่องราวของชุดเกราะ ระดับการศึกษาของซามูไร เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจทั้งหมดที่คุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ

1. ดาบซามูไรไม่ได้มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น

ใช่แล้ว ถึงแม้ดาบซามูไร ที่รู้จักกันนามของ "คาตานะ" (刀 / Katana) จะเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก ทว่าแท้จริงแล้ว ในช่วงแรกประเทศญี่ปุ่นนำเข้า “คาตานะ” จากประเทศเกาหลีและจีน จากนั้นก็ถูกพัฒนาให้คมดาบมีลักษณะเป็นสันตรงในช่วงที่ซามูไรเริ่มขี่ม้า ซึ่งต่างจากเดิมที่มีลักษณะดาบเป็นแนวโค้งค่ะ

2. ซามูไรมีจำนวนมากกว่าที่คุณคิด

บางท่านอาจคิดว่าซามูไรมีจำนวนน้อย และเป็นเพียงกลุ่มนักรบเล็ก ๆ ทว่าซามูไรมีจำนวนมากในอดีต จากการบันทึกซามูไรเคยมีจำนวนมากถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรในประเทศญี่ปุ่น นั่นหมายความว่าบรรพบุรุษของแต่ละครอบครัวต้องมีอย่างน้อย 1 คนที่เป็นซามูไร

3. ซามูไรเป็นมากกว่าทหาร

ซามูไรมักถูกมองในภาพของนักรบที่ทำหน้าที่ต่อสู้เพียงอย่างเดียว ทว่าแท้จริงแล้วซามูไรได้รับการศึกษาที่สูง ซามูไรถูกจัดให้เป็นชนชั้นสูงของประเทศญี่ปุ่นและได้รับการศึกษาทั้งการอ่านเขียน คณิตศาสตร์ การเขียนพู่กัน บทกวี นอกจากนี้ซามูไรยังต้องเรียนรู้พิธีชงชาอีกด้วย ที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นวิชาการจัดดอกไม้ที่ดูจะขัดกับภาพของนักรบผู้น่าเกรงขาม

4. มีซามูไรชาวต่างชาติ

ในเรื่อง The Last Samurai ทอม ครูซ อาจถูกมองอย่างตลกที่มีชาวตะวันตกเป็นซามูไร ทว่าเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นจริงในอดีตของญี่ปุ่น ซามูไรไมได้จำกัดอยู่แค่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้น ผู้ที่เป็นชาวต่างชาติก็สามารถเป็นซามูไรด้วยเช่นกัน บางครั้งพวกเขาได้ต่อสู้เพื่อซามูไรและได้รับมอบดาบ รวมถึงชื่อญี่ปุ่นด้วย ซามูไรชาวตะวันตกที่ชื่อเสียงหลายคนมีอาชีพการงานที่หลากหลายทั้งทหารเรือ คนค้าอาวุธ รวมถึงนักเดินทาง

5. ซามูไรไม่ได้พบดาบตลอดเวลา

ในปัจจุบันมีความเชื่อที่ว่าซามูไรต้องพกดาบติดตัวอยู่เสมอ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ทว่าในอดีตซามูไรไม่ได้ถือดาบเลยด้วยซ้ำ ในอดีตซามูไรใช้ธนูและคันธนู จากนั้นค่อยพัฒนามาเป็นดาบ เหตุผลที่ซามูไรเปลี่ยนมาใช้ดาบเพราะเริ่มมีการใช้ม้าในการรบมากขึ้น ซึ่งดาบจะใช้ง่ายกว่าธนูเมื่ออยู่บนม้าค่ะ

6. มีซามูไรผู้หญิง

ซามูไรไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพศชายเท่านั้น แต่ผู้หญิงก็สามารถเป็นซามูไรได้เช่นกัน ซามูไรหญิงถูกรู้จักในนามของ "ออนนะ-บุเกอิชา" (女武芸者 / Onna Bugeisha สตรีนักศิลปะการรบ) และมีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15 บางศึกซามูไรหญิงมีจำนวนมากถึง 3 ใน 4 ของนักรบทั้งหมด

7. ซามูไรจะตั้งชื่อให้กับดาบของตน

ซามูไรมักตั้งชื่อให้ดาบที่ตนเองใช้เพราะซามูไรถือว่าดาบของตนเองมีค่าควรแก่การให้ความเคารพ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะตั้งชื่อให้

8. ซามูไรเป็นผู้รักสันติ

ผู้คนมักคิดว่าซามูไรมีความชื่นชอบในการต่อสู้และเป็นกลุ่มนักรบที่ไม่อาจควบคุมได้ แต่ในความเป็นจริงซามูไรเป็นชนชั้นสูงที่ถูกอบรมว่าจะไม่ใช่กำลังจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย ทั้งนี้เป็นเพราะดาบซามูไรถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ควรให้ความเคารพ ซามูไรจึงจะใช้ดาบเพื่อการต่อสู้ในศึกสงครามเท่านั้น

9. เกราะซามูไรถูกสวมใส่โดยทหารสหรัฐ

เกราะซามูไรถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเพื่อเพิ่มทำให้การขยับเขยื้อนร่างกายง่ายขึ้น เกราะของซามูไรทำจากเหล็กกล้าแผ่นบาง ๆ เคลือบด้วยแลคเกอร์ และร้อยด้วยเชือกหรือเส้นไหมเข้าด้วยกัน ซึ่งต่างจากเกาะของอัศวินตะวันตก เกราะซามูไรเป็นเกราะที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยเมื่อเทียบกับเกราะของชาติอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน เกราะซามูไรนี้ถูกดัดแปลงโดยกองทัพสหรัฐกลายเป็นเสื้อเกราะกันกระสุนนั่นเอง 

10. ดาบคือจิตวิญญาณของซามูไร

ดาบซามูไรหรือ คาตานะ ถือเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของซามูไร จึงนับว่ามีจิตวิญญาณหลอมรวมกับเจ้าของ หากผู้ที่ไม่ใช่ซามูไรพกคาตานะติดตัวจะถูกลงโทษด้วยการประหารชีวิต