※บทความนี้เคยลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2015※
ศาลเจ้าอิเสะจิงงู ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ในเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ มีผู้เดินทางมาสักการะปีละกว่าแปดล้านคนภายในบริเวณศาลเจ้าอิเสะจิงกูแบ่งออกเป็นสองส่วนนั่นก็คือ ศาลเจ้าด้านนอก (เกะคู) และศาลเจ้าด้านใน (ไนคู)
ซึ่งจะห่างกันประมาณ 6 กิโลเมตร อาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยสำหรับการเยี่ยมชมทั้งสองที่ภายในวันเดียว
ที่ศาลเจ้าด้านนอกเราจะเข้าไปบูชาเทพเจ้าแห่งพืชพรรณธัญญาหารและอุตสาหกรรม ส่วนศาลเจ้าด้านในจะเป็นส่วนของศาลเจ้าเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งเชื่อว่าราชวงศ์ญี่ปุ่นนั้นสืบทอดเชื้อสายมาจากเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์โดยตรง
เมื่อเดินผ่านเข้ามาในส่วนศาลเจ้าด้านนอกก็จะเห็นสะพานไม้เล็กๆ
สะพานเล็กๆ จะพาเราข้ามไปเจอกับพิพิธภัณฑ์ทางด้านซ้าย และเดินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นศาลเจ้า
จากตรงนี้ไปในโซนพิพิธภัณฑ์ห้ามถ่ายรูปแล้วล่ะค่ะ ด้านในเราสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของศาลเจ้า เมื่อเราเห็นประตูโทริอินั่นหมายถึงสัญลักษณ์ของประตูทางเข้าที่แบ่งกั้นระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับโลกมนุษย์
เคยสังเกตกันไหมคะว่าส่วนมากเราจะเห็นประตูโทริอิเป็นสีแดง แต่นั่นเป็นสีที่ทาลงบนไม้สีขาว ที่จริงแล้วสีของโทริอิไม่ได้มีความหมายอะไร แต่รูปทรงของประตูโทริอิที่ศาลเจ้าอิเสะจิงงูแห่งนี้ดูงามสง่ามากที่สุด
ด้านในสุดของพิพิธภัณฑ์จะมีศาลเจ้าขนาดจำลอง เนื่องจากศาสนาชินโตมีความเกี่ยวข้องกับการเกษตรกรรม แบบสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าจึงดูคล้ายกับยุ้งฉางข้าวในสมัยโบราณ
ไม้ที่นำมาสร้างศาลเจ้าได้ใช้ไม้ไซเปรสแข็ง(จำพวกเดียวกับไม้สน) ซึ่งมีความแข็งแรงมาก หาได้ทั่วไปในป่าจังหวัดมิเอะ ยังมีสิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างของฝีมือช่างไม้ญี่ปุ่นก็คือการก่อสร้างตัวศาลเจ้านั้นพวกเขาไม่ได้ใช้ตะปูเลยสักตัวและไม่ได้ใช้เชือกยึดเข้าไว้ด้วยกัน แต่ได้ใช้เทคนิคของช่างไม้ที่ไสไม้ให้ได้รูปทรงขัดเข้ากันพอดี
เมื่อเวลาผ่านไปไม้ก็เสื่อมไปตามกาลเวลา ดังนั้นในทุกๆ 20 ปี จะมีการสร้างตัวศาลเจ้าขึ้นมาใหม่และทุกสิ่งจะถูกย้ายจากตำแหน่งเดิม พิธีการเหล่านี้จะมีการเคลื่อนย้ายกระจกศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกกันว่า Yata no Kagami ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของสมบัติแห่งชาติที่มีความศักดิ์สิทธิ์และได้เก็บรักษาไว้ที่ศาลเจ้า และเชื่อกันว่าพิธีการนี้จะช่วยคุ้มครองให้การก่อสร้างศาลเจ้าใหม่ผ่านไปได้ด้วยดี
เมื่อคุณได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของศาลเจ้าอิเสะจิงงูแล้ว เราก็เดินกันต่อเข้าไปยังด้านในของศาลเจ้าด้านนอก แต่ก่อนที่จะเข้าไปเราต้องชำระล้างร่างกายก่อนด้วยบ่อน้ำเล็กๆ ใกล้สะพาน
วิธีนั้นไม่ยากอะไรเลยค่ะ
ก่อนอื่นเราก็ใช้กระบวยตักน้ำขึ้นมาด้วยมือขวา แล้วค่อยๆ รินน้ำใส่มือซ้ายแล้วใช้น้ำนั้นบ้วนปาก หลังจากนั้นก็ล้างมือซ้ายและล้างมือขวาต่อตามลำดับ
แล้วเราก็เข้าไปสำรวจข้างในของศาลเจ้าด้านในกันได้เลยค่ะ สำหรับประตูทางเข้าอยู่ใกล้กับถนนจึงมองหาได้ง่ายไม่หลงแน่นอน
เราจะเข้าไปต่อกันที่ศาลเจ้าด้านใน ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างกว่าศาลเจ้าด้านนอกมาก
ดูประตูโทริอินั่นสิคะ!
ก่อนเดินผ่านประตูเราต้องคำนับเพื่อแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยค่ะ
เมื่อเราเดินผ่านเข้ามาแล้ว ข้ามสะพานเหนือแม่น้ำอิสุซุกาว่าแล้วเดินเข้าไปยังศาลเจ้าด้านใน คุณจะสัมผัสได้ถึงมนต์เสน่ห์ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของที่แห่งนี้
เมื่อได้เดินภายในบริเวณศาลเจ้าจิตใจจะรู้สึกสงบเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะเข้าไปยังศาลเจ้าด้านในก็อย่าลืมล้างมือและบ้วนปากอีกครั้งนะคะ
ที่นี่เราจะได้สัมผัสธรรมชาติอันงดงาม ทั้งต้นไม้ ทางเดินหิน แม่น้ำ ประตูไม้โทริอิ และศาลเจ้า
มาถึงกันที่นี่แล้วก็อย่าลืมขอพรกับเทพเจ้ากันนะคะ วิธีการก็ไม่ยากเลย
เริ่มแรกเราก็ใส่เงินทำบุญบริจาคในกล่องด้านหน้าศาลเจ้า (ไม่บังคับ หากไม่ต้องการบริจาค)
จากนั้นก็ปรบมือสองครั้งแล้วก็ภาวนาขอพรเสร็จแล้วก็โค้งคำนับหนึ่งครั้งเป็นอันเสร็จขั้นตอนการไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าอิเสะจิงงูค่ะ
การเดินทางไปยังศาลเจ้าอิเสะจิงงู สามารถเดินทางด้วยรถไฟได้สะดวกทั้งจากโอซาก้า เกียวโต และนาโงย่า
Google Map
Ise Grand Shrine
1 Ujitachicho, Ise, Mie Prefecture 516-0023
Phone : 0596-24-1111
Comments