คามาคุระ เดินเล่นชิลล์ๆ ในหนึ่งวัน

คามาคุระชื่อนี้หลายคนคงคุ้นหูอยู่ไม่น้อย  คามาคุระตั้งอยู่ในจังหวัดคานากาว่า ถ้าอยู่ที่โตเกียวสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายมาก นั่งรถไฟเพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึงแล้วล่ะค่ะ  หากคุณเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน มาเรียนต่อ หรือทำงานในโตเกียวแล้วรู้สึกเบื่อหน่ายกับความวุ่นวายในโตเกียวก็แวะมาเปลี่ยนบรรยากาศที่คามาคุระได้ ในวันนี้เราก็มีสถานที่แนะนำในคามาคุระมาให้รู้จักกันค่ะ

การเดินทาง

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วที่ได้มาคามาคุระ วันนี้ฉันพาเพื่อนมาด้วย เราได้นัดเจอกันที่สถานี JR Shinbashi (JR新橋駅) ตอนสิบโมงครึ่ง แล้วขึ้นรถไฟสาย Yokosuka (横須賀線) นั่งตรงไปยังสถานีคามาคุระได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถค่ะ ใช้เวลา 53 นาที  ค่าโดยสาร 799 เยน  เมื่อถึงสถานีคามาคุระแล้วฉันก็ซื้อตั๋ว 1 day pass ราคา 700 เยน สำหรับเที่ยวในคามาคุระและบริเวณรอบๆ ถามว่าจำเป็นมั้ย แนะนำว่าควรซื้อค่ะ เพราะมาถึงคามาคุระแล้ว การเดินทางในที่นี้จะให้บริการโดยรถไฟของ Enoshima Electric Railway ที่เรียกกันย่อๆ ว่า enoden



Komachi Street (小町通り)

เมื่อเดินออกจากสถานีคามาคุระ คุณจะเห็นประตูสีแดงขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า “โทริอิ” เมื่อเดินผ่านประตูนี้เข้าไปก็จะเจอกับถนนโคะมาจิ ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านขายของฝาก และขนมหวานต่างๆ



GRAM

ในถนนโคะมาจิมีร้านค้าเยอะแยะมากมาย ฉันเจอร้านหนึ่งที่น่าสนใจร้านหนึ่งชื่อว่า “GRAM” ร้านนี้เป็นร้านที่รับทำแหวนออเดอร์เมด ลูกค้าสามารถเลือกแบบที่ชอบแล้วช่างจะทำแหวนที่มีเพียงวงเดียวในโลกนี้ให้คุณได้ค่ะ ฉันไปถึงร้านประมาณเที่ยงตอนนั้นคิวยาวมากค่ะ ทางร้านก็ให้ตั๋วมาหนึ่งใบให้เรากลับมาอีกครั้งตอนบ่ายสองโมงครึ่ง แนะนำว่าให้มาเร็วกว่านี้จะดีกว่าค่ะ



สถานี Kamakura High School  (鎌倉高校前駅)

เรามีเวลาว่างถึงบ่ายสองครึ่ง ฉันก็เลยแวะไปที่อื่นก่อน เรานั่งรถเอโนเด็นไปยังสถานี Kamakura High School ที่นี่มีชื่อเสียงเพราะว่าได้เป็นฉากในเพลงเปิดของการ์ตูนสแลมดังค์ แม้จะไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้ก็ต้องลองแวะดูนะคะ เพราะวิวสวยและอากาศก็ดีมาก

Iori (伊織)

เมื่อกลับมาที่ถนนโคะมาจิแล้ว เราได้แวะร้านอิโอริ ซึ่งเป็นร้านผ้าขนหนูที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ภายในร้านตกแต่งสวยงามและสะอาดตา



Melting Pot

แถวนี้มีร้านขายของเยอะมาก บรรยากาศก็แตกต่างกันไป ร้านต่อมาก็จะตกแต่งสไตล์ตะวังตก มีสินค้ามากมายเพลิดเพลินดีค่ะ



Yumemiya (夢見屋)

เดินเที่ยวกันเยอะแล้วก็หาขนมกินกันดีกว่าค่ะ อย่างแรกที่ซื้อก็เป็นขนมดังโกะค่ะ จะเป็นแป้งกลมๆ เสียบไม้และมีซอสราด ดังโกะเป็นขนมญี่ปุ่นโบราณ ใครมาญี่ปุ่นต้องลองทานดูนะคะ (ราคาประมาณ 160-180  เยนต่อไม้)

สถานที่อื่นๆ !!



Tsurugaoka Hachimangu (鶴岡八幡宮)

ศาลเจ้าชื่อดังที่คามาคุระที่ต้องแวะสักการะ สร้างขึ้นโดย  Minamoto Yoritomo ในปี 1180 มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบพันปีเลยค่ะ



Whitebait Taiyaki Pie (しらす鯛焼き)

เมื่อไหว้พระที่ศาลเจ้าเสร็จแล้ว ก็เดินกลับมาที่ถนนโคะมาจิอีกครั้ง เมื่อกี้กินดังโกะไม่อิ่ม ตอนนี้หิวอีกแล้วล่ะค่ะ ได้กลิ่นหอมมาแต่ไกล ก็ว่ากลิ่นอะไร ขนมไทยากินั่นเองค่ะ ขนมไทยากินั้นเป็นแป้งรูปปลาสอดไส้ด้วยถั่วแดงบดค่ะ แต่ของร้านนี้จะเป็นแป้งพายซึ่งต่างจากปกติ ราคาชิ้นละ 400 เยน



Cacao

กินขนมญี่ปุ่นกันไปสองอย่างแล้ว  ที่คามาคุระไม่ได้มีแต่ขนมญี่ปุ่นนะคะ ขนมสไตล์ฝรั่งอย่างที่เราแวะร้านนี้ก็มีค่ะ ฉันได้ลองซื้อฟองดูว์ทาร์ต ราคาชิ้นละ 270 เยน  ช็อกโกแลตฟองดูว์หวานนุ่ม ต้องแวะมาลองให้ได้นะคะ



Back to GRAM

เรากลับมาที่ร้านตอนบ่ายสองโมงครึ่ง แต่กว่าจะถึงคิวจริงๆ ก็ปาเข้าไปตอนสี่โมงครึ่งค่ะ  คนรอคิวจำนวนมาก เมื่อถึงคิวเขาก็จะวัดขนาดนิ้วเราแล้วก็จะทำแหวนให้เรา ราคานั้นก็ไม่แพงเลยค่ะ เพียงแค่ 990 เยน (ไม่รวมภาษี) เท่านั้นเอง ไหนๆ ก็มาแล้ว เพื่อนฉันสั่งทำไปสี่วงเลย หากใครจะมาแนะนำว่ามาเช้าๆ ดีกว่านะคะ  นี่ขนาดไปวันอังคารคนยังเยอะขนาดนี้เลยค่ะ  ลูกค้าที่มาสั่งทำแหวนส่วนมากจะเป็นคู่รักมาทำแหวนคู่ค่ะ



Enoshima (江ノ島)

หลังจากทำแหวนเสร็จเราก็ไปกันต่อที่เอะโนะชิม่าโดยใช้บัตร 1 day ที่ซื้อไว้ไปเที่ยวที่เกาะเอะโนะชิม่าค่ะ



ของเด็ดที่ต้องแวะชิมที่เอะโนะชิม่าก็ต้องเป็นข้าวเกรียบกุ้งยักษ์เลยค่ะ หาทานที่อื่นได้ยากและอร่อยมากค่ะ (600 เยน)

ตอนไปถึงก็ค่ำแล้ว เราจึงซื้อตั๋วลิฟต์เพื่อขึ้นไปจุดชมวิวของเกาะ ตั๋วนั้นรวมค่าเข้า Enoshima Samuel Cocking Garden ด้วยแล้ว ค่าตั๋ว  560 เยนค่ะ  หากมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะมีการประดับไฟในสวนเหมาะแก่การมาเดทกับแฟนเป็นอย่างยิ่งค่ะ

เที่ยววันเดียวในคามาคุระและยังได้ชมการประดับไฟสวยๆ แบบนี้ด้วย  ที่เที่ยวในคามาคุระนั้นมีหลายแห่งมาก เที่ยวครั้งเดียวไม่พอค่ะ ใครได้มาเที่ยวโตเกียวก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่คามาคุระด้วยนะคะ