รอบนอกของเมืองโตเกียว มีเมืองอารมณ์เหงาๆแห่งหนึ่งซึ่งได้รับการทำนุบำรุงมาตั้งแต่สมัยโชวะ ทุกคนรู้จักเมืองนี้กันในชื่อ Shibamata
Shibamata เป็นเมืองเล็กๆที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ออกมาหาความสงบ หากคุณชอบ Asakusa มั่นใจว่าคุณจะหลงรักที่นี่ด้วยเช่นกัน เพราะที่นี่มีวัดชื่อดัง อย่างวัด Taishakuten Daikyoji และถนนชอปปิ้งหน้าวัด รวมถึงที่นี่อบอวลไปด้วยบรรยากาศของความวินเทจ และอยู่ห่างออกไปเพียง 40 นาทีจากสถานีโตเกียวเท่านั้นเอง
Shibamata เป็นเมืองที่ใช้ถ่ายทำซีรี่ย์ที่ถูกบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊คว่าเป็นซีรี่ย์ที่ยาวที่สุดในโลก ซีรี่ย์เรื่องนี้มีชื่อว่า “Otako Wa Tsurai Yo (It’s Tough Being a Man)” ซึ่งมีทั้งหมด 48 ตอน ใช้เวลาฉายตั้งแต่ค.ศ. 1969 ไปจนถึง ค.ศ.1995 เรียกได้ว่าฉายข้ามยุคโชวะกันเลยทีเดียว จึงมีการสร้างรูปปั้นของ Tora-san ตัวเอกของเรื่องไว้หน้าสถานีรถไฟ
เมื่อเดินออกจากสถานี Shibamata ให้มองหา old street ซึ่งหาเจอไม่ยากนัก ถนนเส้นนี้จะนำคุณไปสู่วัด ระหว่างทางสิ่งแรกที่สะดุดตาจะเป็นร้านขายของเล่นแบบเก่าๆและร้านขายขนม ซึ่งร้านนี้ถูกตกแต่งให้หมือนในสมัยโชวะเลยทีเดียว ด้านในมีขนมและลูกอมมากมายหลากหลายชนิด ซึ่งบางอย่างเป็นของโบราณจริงๆ อีกทั้งยังมีขนมและลูกอมที่เคยเป็นที่นิยมในสมัยก่อน ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบันอีกด้วย ที่แปลกใจที่สุดคือ เราเจอตู้หยอดเหรียญโบราณที่ยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีและยังใช้งานได้อยู่ ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่ได้เล่นเกมที่ตอนนี้หายไปแล้วบนเครื่องนั้นด้วย
เมื่อเดินตามทางมาเรื่อยๆ คุณจะเห็นร้านขนมญี่ปุ่นโบราณเต็มไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะขายขนมโบราณที่เป็นขนมขึ้นชื่อประจำ Shibamata นั่นคือ Kusa Dango หรือถ้าให้อธิบายง่ายคือขนมจิงจูฉ่าย รสของจิงจูฉ่ายเข้ากันได้ดีกับไส้ถั่วแดง ที่มีรสหวานชุ่มคอ ที่ร้านจะเสิร์ฟ Kusa Dango พร้อมกับน้ำชา ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เข้ากันดีอย่าบอกใครเชียว
สถาปัตยกรรมที่เหนส่วนใหญ่บนถนนเส้นนี้จะเป็นแบบญี่ปุ่นโบราณ สีของไม้ทำให้รู้สึกอบอุ่น ตอนที่เดินอยู่บนถนนรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปอยู่ในช่วงถ่ายทำหนังเลย
เมื่อเดินไปจนสุดทางจะเห็นวัด Taishakuten Daikyoji ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Shibamata อีกทั้งยังปรากฏในหนังเรื่อง Otoko Wa Tsurai Yoอีกด้วย วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1629 ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานปรากฏผ่านบนเนื้อไม้ของตัววัด ด้านในของวัดมีแกลอรี่รูปปั้นและสวนกว้าง ที่ประทับใจเราที่สุดคือต้นสน Zuiryu-no-matsu ที่แผ่กิ่งก้านสาขาไปด้านข้าง ให้ความรุ้สึกเหมือนต้นไม้ต้นนี้กำลังปกป้องคุ้มครองวัดอยู่
Shibamata เป็นที่ๆเหมาะอย่างยิ่งในการใช้เวลาช่วงบ่ายๆแบบสโลว์ไลฟ์ ที่นี่คุณจะได้ดื่มด่ำกับความงามสุดโรแมนติคของญี่ปุ่นแบบโบราณๆ ซึ่งแตกต่างจากวัด Asakusa หรือ เกียวโต ถึงแม้ว่าจะไม่หรูหราอลังกาลเท่า แต่ก็เป็นที่ๆคุณจะได้อยู่กับตัวเองอย่างเต็มที่ ขอรับรองว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ Shibamata
สถานีที่ใกล้ที่สุด: สถานี Shibamata (รถไฟสาย Keisei Kanamachi)
แผนที่ :
Comments