“อามาซาเคะ” ก็คือเหล้าหวานนั่นเองล่ะค่ะ ถึงจะบอกว่าเหล้าแต่มันก็มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์น้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ปัจจุบันนี้สาวๆ ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพก็มักจะดื่มอามาซาเคะเป็นประจำทุกวันเพื่อสุขภาพและความงาม ในช่วงสมัยเอโดะนิยมดื่มกันในวันที่อากาศร้อนจัด แต่ปัจจุบันผู้คนมักดื่มกันในวันที่อากาศหนาวเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
จู่ๆ อามาซาเคะมาเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ ได้ยังไง เป็นเพราะว่ามีนักแสดงสาวได้แชร์ลงในโซเชียลถึงเคล็ดลับผิวสวยแลดูอ่อนเยาว์ของเธอว่าดื่มอามาซาเคะเป็นประจำ มีเหล้าหวานอีกแบบหวานน้อยจะเรียกกว่า “โคจิอามาซาเคะ” ซึ่งทำมาจากข้าวโคจิ หลังๆ มานี้โคจิอามาซาเคะได้รับความนิยมมาก เพราะไม่มีการเติมน้ำตาลลงไปเพิ่ม เพราะในข้าวโคจินั้นมีน้ำตาลคลูโคสอยู่แล้ว
ใครที่อยากจะลองดื่มอามาซาเคะดูบ้างก็หาซื้อไม่ยากเลยค่ะ ตามซูเปอร์มาร์เก็ตก็มีขายหลากหลายยี่ห้อ ลองเปรียบเทียบส่วนผสมของแต่ละยี่ห้อดูนะคะ ส่วนโคจิอามาซาเคะนั้นมีวิตามินบีที่จะช่วยปกป้องผิวให้ชุ่มชื้น น้ำตาลกลูโคสและกรดอมิโนช่วยฟื้นฟูร่างกายเวลาเราเหนื่อยๆ ได้
หรือใครอยากจะลองทำโคจิอามาซาเคะด้วยตัวเองก็ไม่ยากเลย เพียงแค่มีโคจิก็ทำได้แล้ว
1. เริ่มด้วยการทำโจ๊กในหม้อหุงข้าวก่อน
2. ปล่อยไว้ให้เย็นลงที่ประมาณ 50-60 องศาเซลเซียส
3. ใส่ข้าวโคจิผสมลงไป
4. ตั้งความร้อนให้อยู่ที่ 50-60 องศาเซลเซียส ทิ้งไว้ 8-10 ชั่วโมง แรกๆ มันจะไม่มีความหวานเลย พอเราปล่อยมันไว้ก็จะหวานขึ้นเองค่ะ
อามาซาเคะไม่จำเป็นจะต้องทำจากข้าวเท่านั้น คุณสามารถใช้ธัญพืชต่างๆ เช่นถั่ว หรือผักอื่นๆ ที่มีน้ำตาลกลูโคสก็ได้ ที่ฉันชอบทำก็คือ “อามาซาเคะธัญพืช” ใส่ข้าวชนิดต่างๆ ถั่วดำ งา และอื่นๆ พอทานก็เหนียวหนึบหนับอร่อยกว่าอามาซาเคะธรรมดาค่ะ
บางคนอาจจะไม่ค่อยชอบรสชาติของอามาซาเคะสักเท่าไหร่ แต่ไม่จะเป็นต้องดื่มโดยตรงก็ได้ สามารถนำไปใส่เป็นเครื่องปรุงแทนน้ำตาล หรือนำไปผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่มอย่างอื่นก็จะได้รสชาติที่ดีขึ้น ผสมกับน้ำเต้าหู้หรือโยเกิร์ตอย่างทำฉันทำประจำก็อร่อยดีนะคะ ได้ประโยชน์คูณสองอีกนะคะ ฉันทำทานเป็นประจำทุกเช้า ตอนนี้ก็รู้สึกว่าผิวดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยค่ะ
Comments