เมืองโยโกฮาม่าอยู่ห่างจากใจกลางเมืองโตเกียวเพียงแค่ 30 นาที ท่าแห่งนี้เป็นเมืองท่าที่เปิดประเทศญี่ปุ่นออกสู่โลกภายนอกในสมัยเอโดะนั่นเอง ในเมืองโยโกฮาม่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างย่านไชน่าทาวน์หรือย่านมินาโตะมิไร หากคุณได้มาเยือนที่แห่งนี้ ฉันรับรองได้ว่าคุณต้องหลงเสน่ห์บรรยากาศของที่นี่แน่นอน และฉันก็อยากให้ลองมองโยโกฮาม่าจากอีกมุม ด้วยการรับประทานอาหารบนเรือสำราญรอยัลวิง
ภายในเรือคุณสามารถขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าของเรือเพื่อชมวิวทิวทัศน์และความงามของท่าเรือโยโกฮาม่าได้ ส่วนชั้นอื่นนั้นจะเข้าได้เฉพาะผู้ที่จองร้านอาหารไว้เท่านั้น สำหรับการรับประทานมื้อกลางวันและมื้อค่ำจะกำหนดไว้ 1 ชั่วโมง 50 นาที ส่วนเวลาทีไทม์จะกำหนดไว้ที่ 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ
เรือสำราญรอยัลวิงจะออกจากท่าโอซังบาชิ คุณสามารถเลือกได้ 3 ตัวเลือก ก็คือ รับประทานมื้อกลางวัน รับประทานมื้อค่ำ หรือดื่มชาทีไทม์ วันนี้ฉันได้ลองคอร์สดื่มชาทีไทม์พร้อมกับเซ็ตติ่มซำราคา 1500 เยน และคุณต้องจ่ายค่าตั๋วสำหรับขึ้นเรือ 1500 เยน ซึ่งรวมกันแล้วก็เท่ากับ 3000 เยนค่ะ
เซ็ตติ่มซำที่ฉันเลือกในวันนี้มีติ่มซำแบบนึ่ง 3 อย่าง แบบทอด 3 อย่าง เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัด เครื่องดื่ม และขนมหวานครบครัน ดูเหมือนว่าเวลาจะสั้นแต่เราก็มีเวลาเหลือเฟือในการรับประทานและชมวิวบนชั้นดาดฟ้าโดยไม่ต้องเร่งรีบเลยค่ะ
วิวจากบนชั้นดาดฟ้า คุณสามารถมองเห็นได้ทั้งโยโกฮาม่า มินาโตะมิไร และโกดังเก่าหลังสีแดง ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัว เรือจะล่องผ่านใต้สะพานโยโกฮาม่าเบย์และผ่านไปยังอ่าวโตเกียว หากโชคดีอากาศแจ่มใสคุณก็จะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย (แต่ฉันกลับไม่เห็น..)
เหตุผลที่ฉันเลือกที่จะแนะนำเรือสำราญโยโกฮาม่าก็เพราะคุณสามารถเลือกเที่ยวได้ทั้งก่อนหรือหลังขึ้นเรือ ที่ท่าโอซังบาชิมีทั้งร้านค้าและร้านอาหาร แต่ยังมีพื้นที่ให้คุณได้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจกับสวนสีเขียว หรือจะแวะไปเที่ยวโกดังเก่าอิฐแดงหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงของโยโกฮาม่า แต่สถานที่โปรดของฉันหลังจากล่องเรือสำราญแล้วก็คือ พิพิธภัณฑ์บะหมี่สำเร็จรูปที่มินาโตะมิไร ค่าเข้าเพียงแค่ 500 เยน คุณสามารถเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของบะหมี่สำเร็จรูป และสามารถทำบะหมี่สำเร็จรูปของคุณได้เพียงแค่ 300 เยน
Comments