สวัสดีค่ะทุกคน!
เมื่อสับดาห์ก่อนได้อ่านบทความ
partแรกไปหรือยังคะ?
คอร์สการเดินทางที่เราจะแนะนำกันในวันนี้จะเดินทางโดยรถบัสขึ้นได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดช่วงเวลา 3 คืน 4 วัน♪
ใครที่ต้องการตามรอยแพลนเที่ยวนี้ก็สามารถจองได้เลยนะคะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
JAPANiCAN!แพ็คเกจทัวร์นี้รวมที่พักและตั๋วรถบัสขึ้นได้ไม่จำกัดครั้ง หรือจะลองปรับแพลนดูเองก็ได้เช่นกัน
แล้วเราไปเที่ยวต่อกันเลยค่ะ!
วันที่ 3 เราจะเดินทางขึ้นไปทางเหนือมุ่งสู่จังหวัดอาโอโมริ!
เมื่อทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้วเราก็จะเดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียง นั่นก็คือ
“วัดจูซอนจิ” ในเมืองฮิราอิสุมิการเดินทางเริ่มจากสถานีโมริโอกะโดยรถไฟเจอาร์ไปลงที่สถานีฮิราอิสุมิใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง นอกจากวัดจูซอนจิแล้วในเมืองฮิราอิสุมิก็ยังมีสถานที่ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกอีกหลายแห่ง
หนึ่งในนั้นที่อยากแนะนำให้รู้จักก็คือวิหารทองของวัดจูซอนจิ วิหารแห่งนี้เป็นที่แรกที่ได้รับเลือกให้เป็นมรดกแห่งชาติ ด้านนอกของวิหารประดับด้วยแผ่นทองคำมีความสวยงามมาก และยังมีความสวยงามของธรรมชาติแต่ละฤดูแต่งแต้มที่นี่ดึงดูดผู้คนให้มาเยือนตลอดเวลา
หลังจากเดินชมภายในวัดจูซอนจิแล้วเราก็ไปทานอาหารชื่อดัง “วังโกะโซบะ” กัน!
บริเวณรอบๆ วัดก็มีร้านวังโกะโซบะให้เลือกมากมาย ลองแข่งกันดูนะคะว่าใครทานได้จำนวนชามมากกว่ากัน
เมื่ออิ่มท้องแล้วเราจะกลับไปที่โมริโอกะกันอีกครั้ง จากนั้นเราจะขึ้น
รถบัสไฮเวย์ไปยังเมืองฮิโรซากิพอถึงสถานีฮิโรซากิแล้วก็เดินต่อไปอีก 15 นาทีก็จะถึง
ปราสาทฮิโรซากิที่หน้าสวนสาธารณะฮิโรซากิมีร้านสตาร์บัคส์ตั้งอยู่ในอาคารทรงยุโรปที่ดูหรูหราแตกแต่งจากสตาร์บัคส์ที่อื่นๆ ลองแวะมาถ่ายรูปสวยๆ กันนะคะ
หลังจากนั้นเราจะไปยัง
ที่เมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ มีงานเทศกาลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดงานหนึ่งของญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมของทุกปี
เทศกาลเนปุตะจะแสดงโคมไฟขนาดยักษ์ซึ่งเป็นรูปต่างๆ ตามภาพด้านล่าง ถึงแม้จะไม่ได้ชมงานเทศกาลเราก็สามารถแวะมาชมของจริงได้ที่นี่ และยังสามารถฟังการแสดงเครื่องดนตรีญี่ปุ่นชามิเซ็นได้ นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมให้เราวาดภาพเนปุตะด้วย
อาหารเย็นทานสึการุราเมนกันไหมคะ ที่จริงแล้วฮิโรซากิเป็นเมืองที่มีร้านราเมนเปิดแข่งกันเยอะมาก สึการุราเมนใช้น้ำซุปที่ทำจากปลาตัวเล็ก มีร้านดังหลายร้านที่คนยืนต่อแถวยันยาวเหยียด
วันนี้เราจะพักกันที่
ซึ่งอยู่ระหว่างสถานีฮิโรซากิและสวนสาธารณะ
และแล้วก็มาถึงการเดินทางวันสุดท้ายแล้ว เราจะพาไปพบกับประสบการณ์ที่ทำได้เฉพาะหน้าหนาว
Aพอเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแล้วเราก็ขึ้น
รถไฟเจอาร์ไปยังสถานีโกะโชงาวาระที่แรกเราจะแวะไปที่
พิพิธภัณฑ์ทาจิเนปุตะที่นี่ก็เช่นเดียวกันในเดือนสิงหาคมจะมีเทศกาลเนปุตะ เราสามารถชมโคมไฟเนปุตะของจริงได้อย่างใกล้ชิด
พอได้เห็นของจริงก็รู้สึกตะลึงถึงความยิ่งใหญ่!
เราจะไปที่สถานีสึการุโกโชงาวาระเพื่อขึ้นรถไฟ “สึการุเท็ตสึโดโนะสุโตบุ” หรือรถไฟที่มีเตาผิงซึ่งให้บริการเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น รถไฟนี้วิ่งให้บริการมาเก้าสิบกว่าปีแล้วเป็นรถไฟหน้าหนาวที่มีชื่อเสียงมากทีเดียว ภายในรถไฟมีเตาผิงที่ใช้ถ่านหินให้ความอบอุ่น พนักงานรถไฟจะคอยเติมถ่านหินตลอดเวลา ทำให้ฤดูหนาวที่อาโอโมริอบอุ่นและชมวิวสวยๆ ได้ตลอดเวลา
รถไฟขบวนนี้เมื่อถึงหน้าร้อน ภายในขบวนรถไฟก็จะประดับด้วยกระดิ่งลม ส่วนฤดูใบไม้ผลิก็จะมีกล่องจับแมลงวางประดับไว้
Lสุดท้ายเราจะกลับไปที่สถานีฮิโรซากิเพื่อนั่งรถบัสไฮเวย์กลับไปสถานีเซนไดจะกลับไปโตเกียวก็สะดวกมาก
เป็นยังไงกันบ้างคะกับคอร์สการเดินทางในภูมิภาคโทโฮคุ 4 วันเต็ม รู้สึกอยากจะแพ็คกระเป๋าเดินทางขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะคะ
ครั้งนี้เราแนะนำแพลนสำหรับการท่องเที่ยวฤดูหนาว แต่จริงๆ แล้วภูมิภาคโทโฮคุมีเสน่ห์ที่สวยงามต่างกันไปสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู
ใครที่ต้องการตามรอยแพลนเที่ยวนี้ก็สามารถจองได้เลยนะคะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่!
โดยสามารถจองการเดินทางสำหรับวันที่ 24 ธันวาคม เป็นต้นไป รีบจองก่อนที่นั่งจะหมดนะคะ!
Comments