จังหวัดคาโกชิม่า (鹿児島 / Kagoshima) ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของเกาะคิวชู และยังรวมถึงเกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่ทางใต้ของเกาะคิวชูอีกด้วย จังหวัดนี้เป็นดินแดนแห่งภูเขาไฟทั้งที่สงบแล้วและภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ อีกทั้งยังมีอุทยานแห่งชาติที่มีธรรมชาติอันสวยงาม หากอยากสัมผัสกับคาโกชิม่าให้ครบครันก็ขอเชิญให้เดินทางออกจากตัวเมืองไปพบความมหัศจรรย์อื่นๆของจังหวัดนี้กันดูค่ะ
ตอนที่พวกเราไปเยือนคาโกชิม่ากันนั้น เราเริ่มต้นการเดินทางกันด้วยการไปสำรวจคาบสมุทรซัตสึมะ (薩摩半島 / Satsuma Peninsula) ที่ยื่นออกไปในทะเลทางตอนใต้ของอำเภอเมืองคาโกชิม่ากว่า 50 กิโลเมตรค่ะ
จุดหมายปลายทางแรกของพวกเราก็คือเมืองชิรัน (知覧町 / Chiran-cho) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ใจกลางคาบสมุทรแห่งนี้ค่ะ ในปี 2007 เมืองเล็กๆนี้ได้รวมตัวกับเมืองต่างๆที่อยู่ข้างเคียงเป็นอำเภอมินามิคิวชู (南九州市 / Minamikyushu-shi) คุณสามารถท่องเที่ยวไปรอบๆตัวเมืองชิรันได้โดยการเดินหรือจะเช่าจักรยานปั่นก็สนุกไม่แพ้กันเลยหละค่ะ
7 สิ่งน่าชมในคาโกชิม่า
ต่อไปนี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในคาโกชิม่าค่ะ
1. เกาะภูเขาไฟซากุระจิมะ (桜島)
หากไม่ได้ไปที่ซากุระจิมะก็ถือว่ายังไปไม่ถึงคาโกชิม่าค่ะ ภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของคาโกชิม่า และเป็นจุดแวะเที่ยวสุดท้ายตอนที่พวกเราไปเยือนคาโกชิม่ากันมาค่ะ
เกาะภูเขาไฟซากุระจิมะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นเลยหละค่ะ ภูเขาไฟลูกนี้มีความสูง 1117 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่เชิงของภูเขาจะมีข้อมูลเส้นทางเดินขึ้นเขาและการประกาศเตือนเรื่องความปลอดภัยในการปีนเขาล่าสุดค่ะ ภูเขาลูกนี้มียอดเขา 3 ยอดหลัก อันได้แก่ คิตะดาเกะ (北岳 / Kita-dake) นากะดาเกะ (中岳 / Naka-dake) และมินามิดาเกะ (南岳 / Minani-dake) ซึ่งแต่ละยอดจะมีจุดชมวิวที่สามารถศึกษาปล่องภูเขาไฟการปะทุได้ค่ะ
2. ย่านซามูไรในเมืองชิรัน (知覧武家町)
สถานที่แรกที่พวกเราได้ไปแวะกันมาในเมืองนี้ก็คือย่านซามูไรที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ซึ่งมีสวนและสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่เก่าแก่กว่า 250 ปีค่ะ ภายในย่านนี้ประกอบไปด้วยถนนโบราณความยาวกว่า 700 เมตรที่ถูกอนุรักษ์ให้ไม่มีสายไฟและเสาโทรศัพท์ แถมยังไม่มีรถจอดเกะกะด้วยค่ะ จึงสามารถถ่ายรูปแบบย้อนยุคได้อย่างสมจริงเลยค่ะ นักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อตั๋วผ่านในราคา 500 เยนเพื่อเข้าชมภายในสวนโบราณ 7 แห่งในย่านนี้ได้ค่ะ
3. พิพิธภัณฑ์สันติภาพชิรัน (知覧特攻平和会館 / Chiran Peace Museum) ที่สร้างเพื่อนักบินคามิคาเซ่
พิพิธภัณฑ์สันติภาพชิรัน ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงหน่วยรบทางอากาศพิเศษ หรือที่รู้จักกันว่า นักบินคามิคาเซ่ ซึ่งเป็นผู้ที่ขับเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบพลีชีพของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในพื้นที่ลานบินซึ่งเป็นที่เดียวกันกับที่นักบินเหล่านั้นได้นำเครื่องบินขึ้นเพื่อไปปฏิบัติภารกิจค่ะ
ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของนักบินอย่างลึกซึ้ง รวมไปถึงการจัดแสดงจดหมายที่นักบินเขียนไว้ก่อนจะไปปฏิบัตภารกิจจนสิ้นชีพค่ะ นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงรูปภาพของนักบินตามลำดับการเสียชีวิต การจัดแสดงยังรวมถึงเครื่องบิน 4 ลำที่เก็บกู้ขึ้นมาจากใต้ทะเลในสมัยสงครามอีกด้วยค่ะ พิพิธภัณฑ์เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 9.00 - 17.00 น. ซึ่งจะปิดรับการเข้าชม 30 นาทีก่อนเวลาปิดจริงค่ะ
ข้อมูลสถานที่แนะนำ
- ชื่อสถานที่: พิพิธภัณฑ์สันติภาพชิรัน (知覧特攻平和会館 / Chiran Peace Museum)
- ที่ตั้ง: 17881 Kori, Chiran-cho, Minamikyushu-shi, Kagoshima 897-0302
- เวลาทำการ: 9.00 น. - 17.00 น
- ค่าเข้าชม: นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป: 500 เยน (อัตรากลุ่ม 400 เยนต่อคน) นักเรียนประถม / มัธยมต้น: 300 เยน (อัตรากลุ่ม 240 เยนต่อคน)
- ต้องจองล่วงหน้าสำหรับการทัวร์ทัศนศึกษา
- การเดินทาง:
- จากอำเภอเมืองคาโกชิม่า ขับรถไปตามถนนเก็บค่าผ่านทาง Ibusuki Skyline ไปยังอำเภอมินามิคิวชู ประมาณหนึ่งชั่วโมง
- สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ มีรถประจำทางออกจากสถานี Kagoshima-Cho และสถานีขนส่ง Yamagataya Bus Center ทุกชั่วโมงและจะไปจอดที่ใจกลางเมือง หากต้องการไปยังพิพิธภัณฑ์สันติภาพโดยรถบัส ให้ลงที่ป้าย Tokko-kannon-iriguchi ค่ะ
4. มรดกซามูไรแห่งคาโกชิม่า
คาโกชิม่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในญี่ปุ่น นั่นก็เพราะเป็นบ้านของ ไซโก ทาคาโมริ (西郷隆盛 / Saigō Takamori) ผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็น "ซามูไรคนสุดท้าย" ของญี่ปุ่น คาโกชิม่าเองยังมีบทบาทสำคัญในการก่อกบฏซัตสึมะ ซึ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่นำมาซึ่งการฟื้นฟูสมัยเมจิ และยุติการปกครองอำนาจโดยแม่ทัพโชกุน ผู้ที่รักประวัติศาสตร์หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับซามูไรจะพบว่าคาโกชิม่าเป็นจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าการไปเยือนอย่างยิ่งค่ะ มีหลายจุดที่เกี่ยวข้องกับไซโก ทาคาโมริ แต่ในทุกวันก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาเยี่ยมชมรูปปั้นของ"ซโก ทาคาโมริกันค่ะ
ข้อมูลสถานที่แนะนำ
- ชื่อสถานที่: รูปปั้นสำริด ไซโก ทาคาโมริ (西郷隆盛銅像 / Saigō Takamori Statue)
- ที่ตั้ง: 4-36 Shiroyamachō, Kagoshima 892-0853
- การเดินทาง: เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานี "Asahi-dori" บนสายรถราง Kashoshima City Tramway
5. ศูนย์รวบรวมวัตถุทางประวัติศาสตร์จังหวัดคาโกชิม่า เรเมคัง (黎明館)
ศูนย์รวบรวมวัตถุทางประวัติศาสตร์จังหวัดคาโกชิม่า เรเมคัง (鹿児島県歴史資料センター黎明館 / Reimei-kan, Kagoshima Prefectural Center for Historical Material) เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางจากการจัดแสดงที่บอกเล่าเรื่องราวของการก่อกบฏซัตสึมะในคาโกชิม่า และเป็นสถานที่ที่ควรมาหากคุณต้องการทราบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับศิลปะและงานฝีมือของญี่ปุ่นโบราณเช่นการตีดาบเป็นต้นค่ะ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1968 เพื่อฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีแห่งการฟื้นฟูสมัยเมจิและเปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ในปี 1983 ค่ะ
เรเมคังนั้นล้อมรอบไปด้วยซากปราสาทสุรุมารุ (鶴丸城 / Tsurumaru-jo) ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของสกุลชิมาสุ (島津氏 / Shimazu-shi) ผู้ครองแคว้นซัตสึมะในสมัยเอโดะ ตัวคูเมือง กำแพงหิน และสะพานหินยังคงสภาพให้เห็นได้ในปัจจุบัน และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโบราณสถานของจังหวัดค่ะ
ข้อมูลสถานที่แนะนำ
- ชื่อสถานที่: ศูนย์รวบรวมวัตถุทางประวัติศาสตร์จังหวัดคาโกชิม่า เรเมคัง (鹿児島県歴史資料センター黎明館 / Reimei-kan, Kagoshima Prefectural Center for Historical Material)
- ที่ตั้ง: 7-2, Shiroyamachō, Kagoshima-shi, Kagoshima 892-0853
- เวลาทำการ: 09.00 - 18.00 น. (ปิดรับการเข้าชมหลัง 17.30 น.)
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 310 เยน นักเรียนมัธยมปลาย 190 เยน และเด็ก 120 เยน
- การเดินทาง: เรเมคังใช้เวลาเดินเพียง 5 นาทีจากป้ายรถราง Shiyakusho-mae (ค่าโดยสาร ครั้งละ 170 เยน) นอกจากนี้ยังมีรถประจำทาง City View Bus (35 นาทีจากสถานี Kagoshima Chuo) และรถบัส Machimeguri (20 นาทีจากสถานี Kagoshima Chuo) วิ่งผ่าน ซึ่งมีป้ายหยุดรถใกล้กับรูปปั้นของไซโด ทาคาโมริ ด้วยค่ะ
6. ศาลเจ้าเทรุคุนิ (照国神社)
ศาลเจ้าเทรุคุนิ (照国神社 / Terukuni Jinja) นั้นไม่ได้เก่าแก่มากมายเมื่อเทียบกับศาลเจ้าที่อื่นๆ ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1862 เพื่อบูชา ชิมาสุ นาริอากิระ (島津齊彬 / Shimazu Nariakira) ผู้ครองแคว้นแห่งสมัยเอโดะ ซึ่งทางศาลเจ้าก็บ่งบอกไว้อย่างชัดเจนมากเพราะเมื่อคุณเดินผ่านประตูโทริอิสีขาวขนาดใหญ่ที่สวยงาม คุณก็จะพบกับรูปปั้นขนาดใหญ่ของนาริอากิระทันทีค่ะ เขาเป็นหัวหน้าตระกูลรุ่นที่ 28 แห่งสกุลชิมาสุ และผู้ครองแคว้นซัตสึมะรุ่นที่ 11 เขาได้รับความชื่นชมอย่างมากในเรื่องสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดและความสนใจในแนวคิดและเทคโนโลยีของชาติตะวันตก หลังจากที่เขาเสียชีวิตในปีค.ศ. 1863 ร่างของนาริอากิระถูกนำไปบูชาในศาลเจ้าเทรุคุนิ ซึ่งถือเป็นวัตถุที่ดวงวิญญาณของนาริอากิระในฐานะเทพ เทรุคุนิไดเมียวจิน (照国大明神 / Terukuni Daimyoujin) สถิตอยู่ (ที่สถิตของเทพนั้นเรียกกันว่า โกะชินไต 御神体)
หนึ่งในลักษณะพิเศษที่น่าสนใจที่สุดของศาลเจ้าก็คือต้นไม้ที่ถูกตัดแต่งกิ่งให้ดูเหมือนนกที่กำลังโบยบินอยู่ ทำให้เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ซักแป๊บค่ะ ที่ศาลเจ้ายังจัดแสดงหนึ่งในสมบัติชาติของญี่ปุ่น ซึ่งก็คือดาบที่สร้างขึ้นโดยช่างทำดาบในตำนาน คุนิมุเนะ (国宗 / Kunimune) ดาบนี้มอบให้ทางศาลเมื่อปี 1927โดย ชิมาสุ ทาดาชิเกะ (島津忠重 / Shimazu Tadashige) หัวหน้าตระกูลรุ่นที่ 30 แห่งสกุลชิมาสุค่ะ
เช่นเดียวกับศาลเจ้าและวัดอื่นๆ คุณสามารถซื้อเครื่องรางและเครื่องประดับเพื่อคุ้มครองหรือช่วยให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริง วิธีที่ง่ายที่สุดในการเดินทางไปศาลเจ้าเทรุคุนิคือการเดินค่ะ รถไฟและรถรางนั้นช่วยประหยัดเวลาให้คุณได้แค่เพียง 8 นาทีเท่านั้น ดังนั้นลองเหยียดขาเดินไปเองจะคุ้มกว่าค่ะ ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาทีจากสถานี Kagoshima Chuo ไปยังศาลเจ้าเทรุคุนิค่ะ
ข้อมูลสถานที่แนะนำ
- ชื่อสถานที่: ศาลเจ้าเทรุคุนิ (照国神社 / Terukuni Jinja)
- ที่ตั้ง: 19-35 Terukunichō, Kagoshima 892-0841
- เวลาทำการ: 08.30 - 17.00 น.
- การเดินทาง: จากสถานี Kagoshima Chuo
- เดิน 20 นาที
- นั่งรถบัส 10 นาทีไปยังป้ายรถเมล์ Tenmonkan จากนั้นเดิน 5 นาที
- นั่งรถราง 10 นาทีไปยังป้ายรถราง Tenmonkan จากนั้นเดิน 5 นาที
7. เกาะยาคุชิมะ (屋久島)
ยาคุชิมะ (屋久島 / Yakushima) เป็นเกาะสำหรับคนรักธรรมชาติและเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบค่ะ มีความงดงามตามธรรมชาติมากมายที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปได้ตามอัธยาศัยซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและกระปรี้กระเปร่า ผู้กำกับอนิเมชั่นชาวญี่ปุ่นผู้โด่งดังเคยมาเยี่ยมที่นี่ในปี 1995 และได้รับแรงบันดาลใจจากหลายๆทิวทัศน์ของที่นี่จนเขานำไปใช้ทำในภาพยนตร์อนิเมชั่นในปี 1997 เรื่อง "เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร" (もののけ姫 / Princess Mononoke) ค่ะ
ข้อมูลสถานที่แนะนำ
- ชื่อสถานที่: เกาะยาคุชิมะ (屋久島 / Yakushima)
- ที่ตั้ง: Miyanoura, Yakushima-cho, Kumage-gun, Kagoshima
- การเดินทาง: โดยสารรถบัส "Miyanoura Harbour Bus" ที่ป้ายรถเมล์ Miyanoura ตรงบริเวณทางเข้าท่าเรือ Miyanoura ไปลงที่ป้ายสุดท้าย "Shirarani Unsuikyo" ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
- ค่าเข้าชม: 300 เยน (นักเรียนมัธยมปลายข้นไป) เพื่อเป็นการสมทบทุนการจัดการดูแลสิ่งแวดล้อม และค่าโดยสารรถบัส 550 เยน
- เครดิต: ไม่รับชำระด้วยบัตรเครดิต
3 เรื่องน่าลองในคาโกชิม่า
1. แช่น้ำพุร้อน ณ อิบุซึกิออนเซ็น (指宿温泉)
หลังจากที่เสียเหงือจากการเดินขึ้นลงภูเขาไฟแล้ว จะมีอะไรดีไปกว่าการได้แช่ร่างกายผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็น จริงไหมหละคะ อิบุซึกิออนเซ็นตั้งอยู่ริมทะเลติดกับอ่าวคาโกชิม่าค่ะ ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องสปาทราย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนอนลงบนบริเวณที่เตรียมไว้และจะมีพนักงานโกยทรายร้อนๆมากลบค่ะ โดยจะมีสองที่ที่ให้บริการสปาทราย นั่นก็คือ โรงสปาทรายซาราคุ (砂むし会館砂楽 / Sand Bath Hall Saraku) และ Healthy Land สองที่นี่ยังมีบริการออนเซ็นในร่ม สำหรับที่ Healthy Land จะมีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งที่เรียกว่าโรเท็มบุโระ (露天風呂 / Rotenburo) ที่ผู้ใช้บริการจะได้อาบน้ำไปพลางชมวิวชายฝั่งที่สวยงามไปพลางด้วยค่ะ
ข้อมูลสถานที่แนะนำ
- ชื่อสถานที่: อิบุซึกิออนเซ็น (指宿温泉 / Ibusuki Onsen)
- ที่ตั้ง: Junichō, Ibusuki, Kagoshima 891-0403
- การเดินทาง:
- จากชิรัน อิบุซึกิค่อนข้างใกล้และสามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้สะดวก ในการไปอิบุซึกิจากคาโกชิม่าให้นั่งรถไฟด่วนพิเศษ Limited Express Train จากสถานี Kagoshima Chuo ไปยังสถานี Ibusuki
- ทั้งโรงสปาซาราคุและ Healthy Land สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถบัสจากสถานี Ibusuki ค่ะ
2. เดินทางไกล ณ เส้นทางหินภูเขาไฟนากิสะ (溶岩なぎさ遊歩道)
ภูเขาไฟซากุระจิมะเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ อันที่จริงแล้ว เส้นทางหินภูเขาไฟนากิสะนั้นก็มีตัวตนได้เพราะการประทุครั้งล่าสุดค่ะ ทางเดินนี้มีระยะทาง 3 กิโลเมตรเลียบไปตามชายฝั่งทะเลใกล้ๆกับท่าเรือข้ามฟากซากุระจิมะ และยังทอดยาวเลียบไปตามร่องรอยหินภูเขาไฟที่เกิดขึ้นจากการปะทุเมื่อปี 1914 ซึ่งช่วยสร้างทางเชื่อมเกาะซากุระจิมะเข้ากับแผ่นดินใหญ่ของคิวชูค่ะ ปัจจุบันบริเวณรอบๆทางเดินอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดค่ะ
การเดินทางมาที่นี่
จากอำเภอคาโกชิม่า คุณสามารถไปยังเกาะภูเขาไฟได้โดยการใช้บริการเรือข้ามฟากจากท่าเรือคาโกชิม่าค่ะ หากคุณมีรถยนต์ คุณสามารถนำรถขึ้นเรือข้ามฟากได้ด้วยโดยมีค่าบริการอยู่ที่ 1150 เยนค่ะ รอบๆท่าเรือซากุระจิมะ จะมีศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ ออนเซ็น และทางเข้าเส้นทางหินภูเขาไฟเปิดให้บริการอยู่ค่ะ
3. ชมภูมิทัศน์ที่สวยงาม ณ แหลมนางาซากิบานะ (長崎鼻)
แหลมนางาซากิบานะนั้นขับรถไม่ไกลไปยังทางตอนใต้ของคาบสมุทรซัตสึมะค่ะ แถมยังมีประภาคารสีขาวสวยตะหง่านอยู่ที่ส่วนปลายสุดของแหลมและมีฉากด้านหลังเป็นภูเขาไคมงดาเกะ (開聞岳 / Kaimondake) หรือที่รู้จักกันในนาม ภูเขาฟูจิแห่งซัตสึมะ ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจินั่นเอง แต่ก็มีความสูงเพียงแค่ 924 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลเท่านั้น ภูเขาลูกนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่ชื่นชอบการปีนเขา เพราะทัศนียภาพของที่นี่ก็สวยไม่เป็นรองใครเช่นกัน แหลมนางาซากิบานะเป็นจุดที่เหมาะแก่การแวะเก็บภาพสวยๆไว้เป็นที่ระลึกยิ่งนักเลยเชียวค่ะ
ข้อมูลสถานที่แนะนำ
- ชื่อสถานที่: แหลมนางาซากิบานะ (長崎鼻 / Cape Nagasakibana)
- ที่ตั้ง: Nagasakibana, Yamagawa-Okachogamizu, Ibusuki-shi, Kagoshima
- เวลาทำการ: 8.00 - 17.00 น
- ค่าเข้าชม: 1,200 เยน
- การเดินทาง: 15 นาทีโดยรถยนต์จากสถานี Yamakawa
3 ของน่าทานในคาโกชิม่า
มีอาหารอะไรให้ทานบ้างที่จังหวัดทางใต้สุดในเกาะฮอนชู? เราจะมาแนะนำอาหารแนะนำ 3 อย่างที่สามารถหาทานได้ในจังหวัดคาโกชิม่าเท่านั้นกันค่ะ
1. ของดังประจำคาโกชิม่า! อาหารที่ทำจากหมูดำคุโรบุตะ (黒豚)
เนื้อหมูเป็นเนื้อสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่นมานานแล้ว ในช่วงสมัยเอโดะ เนื้อหมูเคยถูกขายเป็นยาและเชื่อว่าจะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นรวมทั้งสร้างกำลังวังชาให้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการกล่าวว่าโชกุนตระกูลโทคุงาวะคนสุดท้าย โยชิโนะบุ (徳川慶喜) ชอบเนื้อหมูมากจนเขาได้รับฉายาว่า ปรมาจารย์แห่งเนื้อหมูอันดับ 1 (豚一様 / Buta-ichi Sama)
คุโรบุตะ (黒豚 / Kurobuta หมูดำ) เป็นเนื้อหมูพันธุ์ Berkshire ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีขนสีดำ ถูกนำเข้ามายังญี่ปุ่นจากสหราชอาณาจักรผ่านหมู่เกาะโอกินาว่า ที่น่าสนใจก็คือ หมูเหล่านี้เลี้ยงด้วยมันเทศและน้ำสะอาดเพื่อเพิ่มรสชาติของเนื้อนั่นเองค่ะ
2. คิบินาโกะซาชิมิ (キビナゴの刺身)
ปลาคิบินาโกะ (キビナゴ / Kibinago) คือปลา silver-stripe round herring ที่จับขึ้นฝั่งได้ตลอดทั้งปีที่แผ่นดินใหญ่ของจังหวัดคาโกชิม่าและตามบริเวณริมทะเล ช่วงฤดูกาลนิยมทานเริ่มตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อน แต่จากฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวนั้น ปลาคิบินาโกะมีเนื้อแน่นกว่า ดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันตามช่วงเวลาในรอบปีได้ค่ะ มันเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ตามโต๊ะอาหารในคาโกชิม่าค่ะ
3. น้ำแข็งไส ชิโรคุมะ (白くま)
โดยปกติ ถ้าคุณราดนมข้นบนน้ำแข็งไส (ปกติที่ญี่ปุ่นจะราดแค่น้ำหวานสี) โรยถั่วและผลไม้บางชนิดลงไป มันจะกลายเป็นน้ำแข็งไสชิโรคุมะ (白くま / Shiro Kuma หมีขั้วโลก) มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของชื่อ เนื่องจากสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นก็ยังไม่เป็นที่ไม่ชัดเจน บ้างก็ว่า "ตอนที่ทำมีรูปหมีขั้วโลกอยู่บนฉลากกระป๋องนมข้น" บ้าง "เพราะมันดูเหมือนหมีขั้วโลกตอนที่ทำเสร็จ" บ้างค่ะ แต่ไม่ว่าทฤษฎีไหนจะจริงแท้ ความอร่อยก็ไม่แพ้รูปร่างหน้าตาเลยค่ะ
ที่พักที่น่าไปพัก
ในอำเภอเมืองคาโกชิม่ามีโรงแรมและเรียวกังให้เลือกมากมาย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่พักที่สงบและห่างจากตัวเมืองพอสมควร ก็มีที่พักดีๆให้เลือกที่เมืองชิรันและอิบุซึกิค่ะ นอกจากนั้นยังมีที่พักบริเวณเชิงภูเขาซากุระจิมะด้วยเช่นกันค่ะ
Green Hotel Chiran Fukuzumi
- ที่ตั้ง: 4810-24, Kori, Chiran-cho, Minamikyushu-shi, Kagoshima 897-0302
Ibusuki Seaside Hotel
- ที่ตั้ง: 1912, Jitcho, Ibusuki-shi, Kagoshima 891-0402
Rainbow Sakurajima
- ที่ตั้ง: 1722-16, Yokoyama-cho, Sakurajima-shi, Kagoshima 891-1419
การคมนาคมขนส่งในคาโกชิม่า
รถบัสแบบรถโคชเป็นทางเลือกที่ถูกที่สุดที่จะไปถึงเมืองคาโกชิม่าจากฟุกุโอกะ ตั๋วมีขายที่สถานีขนส่ง Hakata ราคาอยู่ระหว่าง 4,000-6,000 เยนสำหรับตั๋วไปกลับ มีทั้งรอบวิ่งกลางวันและกลางคืนให้บริการ รถบัสดำเนินการโดย บริษัท Nishitetsu Bus และใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงจากสถานีขนส่ง Hakata ไปยังสถานี Kagoshima สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเวลากว่า การรถไฟญี่ปุ่น (JR) มีบริการชินคันเซ็นจากสถานี Hakata ไปยังสถานี Kagoshima ใช้เวลาประมาณ 80 นาทีและราคา 21,000 เยนสำหรับตั๋วไปกลับค่ะ
Comments