จังหวัดกิฟุตั้งอยู่บนเกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น บนเกาะนี้ก็มีแหล่งเพาะปลูกทำการเกษตรมากมาย ใครที่มองหาที่เที่ยวที่ไม่ใช่เมืองใหญ่ จังหวัดกิฟุก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ค้นหามากมาย
เมืองหลักของจังหวัดกิฟุก็มีชื่อเดียวกันนั่นก็คือเมืองกิฟุ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคคุณสามารถเดินทางไปเที่ยวยังจังหวัดใกล้เคียงโดยขึ้นรถจากกิฟุได้สะดวก
จังหวัดกิฟุมีชื่อเสียงในด้านของสถานที่ตั้ง ได้รับสมญานามว่า “Japanese Alps” ด้วยเหตุผลนี้ที่นี่จึงเป็นที่นิยมในการปีนเขา และเป็นสถานที่เล่นสกียอดนิยมในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงด้านออนเซ็นอีกด้วย วันนี้จึงอยากแนะนำเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาที่ท่องเที่ยวอื่นนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
การเดินทางไปจังหวัดกิฟุ:
โดยเครื่องบิน:
ที่เมืองกิฟุไม่มีสนามบิน คุณต้องเดินทางจากเมืองกิฟุไปยังสนามบิน Chubu International Airport ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ค่าโดยสาร 1,310เยน
โดยรถไฟ:
หากคุณเดินทางจากโตเกียวจะไม่มีรถไฟวิ่งตรงไปยังเมืองกิฟุ คุณต้องนั่งรถไฟชินคันเซ็น สาย Tokaido Shinkansen ไปลงที่นาโงย่าก่อน จากนั้นจึงเปลี่ยนสายรถไฟต่อไปยังกิฟุ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 11,000เยน
หรือหากคุณมาจากทางโอซาก้าหรือเกียวโตก็นั่งรถไฟชินคันเซ็นมาลงที่นาโงย่า และต่อรถไฟสายอื่นเช่นเดียวกัน
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ:
เมืองกิฟุ:
เมืองกิฟุเป็นเมืองหลักของจังหวัดกิฟุ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย บรรยากาศความเป็นเมืองญี่ปุ่นแบบสมัยก่อนผสมผสานกับเมืองใหม่ได้อย่างลงตัว สำหรับผู้ชอบการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติแนะนำว่าลองไปที่สวนสาธารณะกิฟุ หรือภูเขา Kinka ซึ่งอยู่ใกล้ตัวเมืองมาก และยังมีงานเทศกาลจับปลาด้วยนกกาน้ำที่แม่น้ำนาการะซึ่งเป็นงานเทศกาลเก่าแก่จัดมานานกว่า 1300 ปีแล้ว
ทาคายาม่า:
เมืองทาคายาม่าเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเป็นด่านทางเข้าสู่ Japanese Alps และยังมีบรรยากาศตัวเมืองบ้านเรือนที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณ มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จุดที่ควรจะแวะก็คือ Hida Folk Art Museum และหมู่บ้านพื้นเมือง the neighboring Hida Folk Village
ชิราคาวาโกะ:
ที่ชิราคาวาโกะน่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในจังหวัดกิฟุก็ว่าได้ หมู่บ้านเล็กๆ ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลก คงความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไว้ แม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งโรงอาบน้ำ ศูนย์การแพทย์ และมีจุดชมวิวให้เราได้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้ได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของชิราคาวาโกะ เป็นหนึ่งสถานที่ที่ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ
เกโระออนเซ็น:
เกโระออนเซ็นเป็นอีกหนึ่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากในประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มีน้ำพุร้อนมีชื่อติดอันดับหนึ่งในสามของญี่ปุ่น มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคเอนกิ หรือประมาณปี 901 การแช่ออนเซ็นไม่เพียงแต่จะช่วยผ่อนคลายเท่านั้น เพราะยังช่วยในการรักษาด้วย เกโระออนเซ็นตั้งอยู่กลางภูเขา เมื่อได้มาแช่ออนเซ็นคุณจะได้ชมธรรมชาติที่สวยงามไปด้วยพร้อมๆ กัน
ช้อปปิ้งและสินค้าปลอดภาษี:
Sakaida Eikichi สาขาใหญ่:
จังหวัดกิฟุมีสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงก็คือ “วากาสะ” หรือร่มญี่ปุ่นซึ่งทำมาจากกระดาษ เหมาะที่จะซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกหรือเป็นของฝากได้ สถานที่ที่สามารถหาซื้อได้ก็คือ Sakaida Eikichi สาขาใหญ่ เพราะอยู่ใกล้กับสถานี JR Gifu งานร่มญี่ปุ่นเป็นงานฝีมือที่ใช้ความประณีตในการสร้างสรรค์ผลงาน ราคาของสินค้าจึงแตกต่างกันออกไปตามลวดลาย
Ozeki Chochin:
สำหรับสินค้าพื้นเมืองของกิฟุนั้นมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในด้านศิลปะและความประณีตอย่างร่มวากาสะ และยังมีกระดาษญี่ปุ่นลวดลายสวยงาม อีกร้านหนึ่งที่คุณสามารถหาซื้องานสินค้าหัตถกรรมได้ก็คือ Ozeki Chochin ซึ่งอยู่ใกล้กับวัด Higashi Betsuin หากไปไหว้พระเสร็จแล้วก็ลองแวะหาซื้อของที่ระลึกสวยๆ กันนะคะ
Asty Gifu:
Asty Gifu เป็นศูนย์การค้าที่มีร้านอาหารและร้านคาเฟ่รวมอยู่มากมาย เราไม่ต้องไปเดินหาร้านให้เหนื่อย เพราะที่นี่รวมไว้หมดทั้งอาหารญี่ปุ่นและอาหารนานาชาติไว้ที่นี่ที่เดียว
เคล็ดลับ:
เมืองกิฟุนั้นเที่ยวทั่วเมืองได้ง่ายมาก จะเดินเท้าหรือปั่นจักรยานก็ได้ จุดเด่นของเมืองนี้นั้นก็คือสามารถเช่าจักรยานได้ในราคาที่ถูกมาก มีจุดให้เช่าจักรยานอยู่ทั่วเมือง ในราคา 100 เยนต่อวันเท่านั้นเองค่ะ
ช่วงเวลาแนะนำในการท่องเที่ยว:
คุณสามารถมาเที่ยวที่กิฟุได้ตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเที่ยวแบบไหน หากต้องการชมดอกซากุระต้องมาช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม ซึ่งมีดอกไม้ให้ชมสวยงามมาก สำหรับฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนอากาศเริ่มหนาวเย็นและไม่ค่อยมีฝนตก ใครอยากจะชมหิมะสวยๆ ปกคลุมหมู่บ้านชิราคาวาโกะแนะนำให้มาช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
Comments