
หลังจากมื้อเช้าแสนอร่อย เราก็เดินจากโรงแรมอีกประมาณ 5นาทีเพื่อไปที่ Hakata Bus Terminal ชั้น 3 เรานั่งรอกันที่หน้าทางเข้าของบัสที่จะขึ้น บัสจะออกทุก 5-10นาที ดังนั้นต้องฟังประกาศให้ดีเลยหละค่ะ ไม่งั้นตกรถแน่ๆ
ข้อดีของการขึ้นรถบัส คือ บนรถจะมีช่อง USB ซึ่งเราสามารถชาร์จแบตโทรศัพท์ได้

เราใช้เวลาบนรถประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เดินทางมาถึง Nishitetsu Resort Inn, Beppu ซึ่งมีจุดจอดรถใกล้ๆกับโรงแรมพอดีเลย พวกเราเช็คอินและก็ขอฝากสัมภาระไว้ที่นี่ จากนั้นก็รีบไปขึ้นรถบัสที่อยู่ตรงข้ามโรงแรม เพื่อเดินทางไปทัวร์น้ำพุร้อนกันค่ะ

เราลงรถที่ท่ารถ Umijigoku ที่เราจะได้ดูบ่อน้ำพุร้อนหลายๆบ่อ สำหรับที่นี่จะมีค่าเข้าชม 400เยนต่อ 1ออนเซ็น และจะมีตั๋วแบบเหมาจ่ายคือ 2000เยน ซึ่งจะสามารถเข้าได้ทุกออนเซ็น สมาชิกก็ปรึกษากันนิดหน่อย และลงความเห็นว่าเราจะดูกันแค่ออนเซ็นที่น่าสนใจ 2 ที่เท่านั้น แล้วจะไป sunayu ออนเซ็นที่อยู่สถานีถัดไป

ณ ตอนนั้นก็ถึงเวลามื้อกลางวันพอดี พวกเราเลยแวะเติมพลังกันด้วยอาหารเบาๆ เพื่อจะได้ง่ายต่อการเดินทางต่อ ทางเดินที่จะพาเราไปสู่ Oniishibozu Jigoku นั้นเต็มไปด้วยซากุระสีชมพู๊ชมพู สวยงามประทับใจ โชคดีจริงๆที่เรามาในช่วงซากุระบานพอดี

Jigoku Yu ออนเซ็นร้อนมากเกินไป จึงไม่อนุญาตให้คนเข้าไปใกล้ได้ แต่เราสามารถแช่เท้าใน Oniishibozu Jigoku ออนเซ็นได้ ที่นี่ก็จะมีบริการผ้าขนหนูและกระดาษให้เราได้เช็ดเท้า เช็ดขาหลังจากขึ้นมาจากน้ำด้วย

ถัดมาคือ Umi Jigoku เราว่าที่นี่น่าจะเป็นจุดฮอตฮิตที่สุด เพราะที่นี่นี้สวยสุดยอดมาก เต็มไปด้วยต้นไม้แบบญี่ปุ่นทั้งเล็กทั้งใหญ่ มีดอกไม้สีสันสดใสตัดกับสีเขียวของใบไม้


สถานีต่อไปคือ Beppu Kaihin Sunayu ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละท่ารถ แต่ด้วยเสียงเรียกร้องของสาวๆ ทุกคนก็มาที่นี่กัน บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเล ที่มีชายหาด และวิวของมหาสมุทรกว้าง ไฮไลท์คือกิจกรรมนอนอาบทราย โดยแขกจะสวมชุดยูกาตะ แล้วนอนลง สตาฟจะตักทรายร้อนมาถมร่างแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15นาที
ที่นี่จะเปิดให้บริการในเวลา 8.30น.จนถึง 18.00น. พวกเรามาถึงที่นี่ตอนบ่าย 3 แต่ก็ไม่ทัน มีลูกค้ารอใช้บริการเต็มหมดแล้ว ถือว่าครั้งนี้พลาด ไม่มีใครได้ลองอาบทรายเลยค่ะ แต่อย่างได้ก็ได้เห็นละว่าการอาบทรายเป็นยังไง
ผู้หญิงและผู้ชายสามารถใช้สถานที่อาบทรายร่วมกันได้ โดยจะมีค่าบริการ 1000เยน ซึ่งรวมค่าออนเซ็นหลังอาบทรายแล้วด้วย ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ลองอาบทราย แต่ที่ใกล้ๆกันก็มีบริการ footbath แบบฟรีๆแถมวิวริมทะเลที่ง๊ามงาม

อีกสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือการรับประทานอาหารดังประจำพื้นที่ ซึ่งก็คือ ToriTen(ไก่ทอด) และ Reimen(หมี่เย็น) หลังจากที่ปรึกษาหารือกันกับสมาชิกแล้ว ทุกคนตกลงปลงใจกันที่ ToriTen พวกเราจึงเดินทางไปที่สถานี Beppu ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10นาทีจากโรงแรม

Comments