FUN! JAPAN PR

[โอซาก้า] สนุกกับการเที่ยว อาหาร และการช้อปปิ้งไปพร้อมๆ กันด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของ "LUUP" !

  • 8 กรกฎาคม 2024
  • Bé Vi

โอซาก้า

นอกเหนือจากรถไฟ แท็กซี่ และรถบัสแล้ว ตอนนี้คุณยังสามารถเดินทางในประเทศญี่ปุ่นด้วยบริการแชร์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหรือจักรยานไฟฟ้า "LUUP" ได้อีกด้วยค่ะ เนื่องจากไม่ต้องใช้ใบขับขี่ และสามารถเช่าได้ทันทีเพียงแค่มีสมาร์ทโฟน ทำให้เหมาะสำหรับเวลาที่ไม่อยากเดินถึงแม้ว่าระยะทางจะไม่ได้ไกลขนาดนั้น

และในปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถใช้บริการได้ด้วยค่ะ ครั้งนี้เราจะขอแนะนำวิธีการสนุกไปกับการตะลอนกินอาหารสไตล์โอซาก้าและการช้อปปิ้งรอบๆ อาเบะโนะฮารุคัสค่ะ

LUUP คืออะไร? ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบริการ

LUUP
LUUP

ในปัจจุบัน (มิถุยายน 2024) บริการแชร์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและจักรยานไฟฟ้า "LUUP" มีสถานีให้บริการทั่วประเทศถึง 7,900 แห่ง นอกจากคุณจะสามารถเช่าสกู๊ตเตอร์หรือจักรยานในเวลาที่ต้องการใช้ได้แล้ว ยังสามารถนำไปคืนที่สถานีไหนก็ได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ เพียงแค่ใช้แอปพลิเคชันก็สามารถใช้บริการและชำระเงินได้เลยค่ะ สะดวกมากๆ ค่ะ ผู้ใช้บริการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะต้องมีอายุมากกว่า 16 ปี และตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2023 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็สามารถใช้บริการได้แล้วค่ะ

[เส้นทางตัวอย่าง] สนุกไปกับการช้อปปิ้ง อาหารรสเด็ดของโอซาก้า และจุดชมวิวที่อาเบะโนะฮารุคัสด้วย LUUP

LUUP

เส้นทางแนะนำ:

สถานีนิปปอนบาชิ สายคินเท็ตสึ → เดินประมาณ 3 นาที → ตลาดคุโระมง → เดินทางด้วย LUUP ประมาณ 7 นาที → ชินเซไค → เดินทางด้วย LUUP ประมาณ 5 นาที → อาเบะโนะฮารุคัส

ถ้าหากเดินทางด้วย LUUP คุณจะใช้เวลาเพียง 5 นาทีจากชินเซไคไปถึงอาเบะโนะฮารุคัส เราขอแนะนำ LUUP สำหรับท่านที่ต้องการไปเที่ยวโอซาก้าพร้อมชมวิวทิวทัศน์ของเมืองค่ะ!

เพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งและลิ้มรสอาหารทะเลอย่างเต็มที่ที่ "ตลาดคุโระมง"

ตลาดคุโระมง
©Osaka Convention & Tourism Bureau
ตลาดคุโระมง
©Osaka Convention & Tourism Bureau

มาเริ่มทริปเที่ยวโอซาก้าที่ "ตลาดคุโระมง" ซึ่งมีการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมค่ะ
ตลาดคุโระมงมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ปลายสมัยเอโดะ ทำให้มีอาหารและของตกแต่งที่ทำให้รู้สึกย้อนสมัยเรียงรายอยู่มากมาย และเนื่องจากที่นี่ยังมีวัตถุดิบสดใหม่ที่ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากทั่วประเทศ ทำให้คุณสามารถลิ้มรสปลาดิบ ข้าวหน้าปลาดิบ หรือหอยเชลล์ย่างได้อย่างเต็มที่อีกด้วย มาสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคไปพร้อมกับอาหารอร่อยของโอซาก้ากันเถอะ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านขายยาและร้านขายขนม เพราะฉะนั้นถ้าจะซื้อของฝากอย่าลืมแวะมาดูที่นี่ด้วยนะคะ

ตะลอนกินอาหารอร่อยของโอซาก้าที่ "ชินเซไค" ! อร่อยเต็มที่กับคุชิคัตสึ ทาโกะยากิ และเฮเลคัตสึแซนด์วิช

ชินเซไค
©Osaka Convention & Tourism Bureau
ชินเซไค
©Osaka Convention & Tourism Bureau

ต่อไปเราก็จะเดินทางไปยัง "ชินเซไค" ด้วย LUUP กันค่ะ
ป้ายสีสันสดใสและมีเอกลักษณ์ของ "ชินเซไค" ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาโอซาก้า เนื่องจากที่นี่มีร้านค้าต่างๆ ตั้งแต่คาเฟ่ ร้านขายของฝาก ร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ไปจนถึงเกมเซ็นเตอร์ ทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่ นักท่องเที่ยวจำนวนมากจะแวะไปถ่ายรูปและวีดีโอเป็นที่ระลึก โดยให้พื้นหลังเป็นป้ายสีสันสะดุดตา และ "หอคอยซึเทนคาคุ" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้าค่ะ

ชินเซไค
ชินเซไค

อีกหนึ่งวิธีการสนุกก็คือการตะลอนกินอาหารอร่อยของโอซาก้า! เมนูอย่าง "คุชิคัตสึ" กรอบๆ "เฮเลคัตสึแซนด์วิช" แซนด์วิชเนื้อวัวชุปแป้งทอดเนื้อชุ่มฉ่ำ และ "ทาโกะยากิ" ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถรับประทานได้ง่ายๆ ค่ะ เหมือนขนม เราจึงขอแนะนำให้คุณลองกินเปรียบเทียบรสชาติของแต่ละร้านดูด้วยนะคะ

ตึกระฟ้าของโอซาก้า! สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่จุดชมวิวของ "อาเบะโนะฮารุคัส"

อาเบะโนะฮารุคัส
อาเบะโนะฮารุคัส

"อาเบะโนะฮารุคัส" ซึ่งได้ฉลองครบรอบ 10 ปี เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมานั้นเป็นอาคารพาณิชย์ที่มีสถานที่ต่างๆ ตั้งอยู่ภายใน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า "อาเบะโนะฮารุคัสคินเท็ตสึ สาขาใหญ่", จุดชมวิว "ฮารุคัส 300", โรงแรมโอซาก้า แมริออท มิยาโกะ ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะและออฟฟิศค่ะ อาเบะโนะฮารุคัสคินเท็ตสึ สาขาใหญ่ประกอบด้วย 2 อาคาร ได้แก่ "อาคารทาวเวอร์" ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น B2-ชั้น 14 และ "อาคารวิงก์" ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น B2-ชั้น 10 ของอาเบะโนะฮารุคัส ชั้น B1-B2 ของ "อาคารทาวเวอร์" เป็นโซนอาหารชั้นใต้ดิน (เดปาจิกะ) โดยมีตั้งแต่ขนมหวาน กับข้าว ไปจนถึงของฝากค่ะ ส่วนชั้น 2-11 จะเต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง สินค้าเบ็ดเตล็ด และจิวเวลรี่ ชั้น 12-14 เป็นโซนร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยมีทั้งหมด 3 ชั้นเลย
ชั้น 58-60 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคารก็จะเป็นจุดชมวิวค่ะ นอกจากการช้อปปิ้งแล้ว คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษได้อีกด้วยนะคะ

อาเบะโนะฮารุคัส
อาเบะโนะฮารุคัส
การแสดงน้ำพุพิเศษเฉพาะช่วง
อาเบะโนะฮารุคัส
อาเบะโนะฮารุคัส

จุดชมวิว "ฮารุคัส 300" ซึ่งอยู่เหนือพื้นดินประมาณ 300 เมตร ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากบรรดานักท่องเที่ยวค่ะ นอกจากจะสามารถชมวิวสวย 360 องศาของโอซาก้าได้แล้ว ที่นี่ยังมีการจัดอีเว้นท์เป็นประจำที่ "สวนลอยฟ้า" ซึ่งสามารถเพลิดเพลินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสปอตต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น "จุดถ่ายรูปสำหรับคู่รัก" ที่คู่รักสามารถเขียนชื่อลงบนกุญแจรักและถ่ายรูปที่ระลึกได้ หรือห้องน้ำที่เป็นผนังกระจกที่ทำให้รู้สึกเหมือนลอยอยู่บนฟ้าเลยค่ะ

อาเบะโนะฮารุคัส
อาเบะโนะฮารุคัส

นอกจากนี้ยังห้ามพลาดประสบการณ์น่าตื่นเต้นต่างๆ เช่น ทัวร์พิเศษที่ให้คุณขึ้นไปชมลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนดาดฟ้าของอาคาร หรือ เครื่องเล่น "Edge the Harukas" ซึ่งจัดขึ้นเฉพาะระยะเวลาจำกัด โดยคุณจะสามารถมองลงไปยังพื้นดินจากตึกระฟ้าได้ค่ะ

อิชชินโด
"อิชชินโด" ตั้งอยู่ที่ชั้น B1 ของอาคารทาวเวอร์
551HORAI
"551 โฮไร" ตั้งอยู่ที่ชั้น B2 ของอาคารวิงก์

คุณสามารถหาซื้ออาหารชื่อดังของโอซาก้าและขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมได้ที่โซนอาหารที่ชั้น B1-B2 ที่นี่มีร้านค้าชื่อดังต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น "อิชชินโด" ที่ขึ้นชื่อเรื่องขนมไดฟุคุซึ่งทำมาจากผลไม้ญี่ปุ่นสดใหม่ทุกวัน เช่น สตรอเบอร์รี่และส้ม ไปจนถึง "551 โฮไร" ที่ขึ้นชื่อเรื่องซาลาเปาหมูทำมือสดใหม่ค่ะ รับรองว่าจะไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องการหาซื้อของฝากหรืออาหารว่างแน่นอนค่ะ

ข้อมูลพื้นฐาน

  • ชื่อสถานที่: อาเบะโนะฮารุคัส
  • ที่อยู่: 1-1-43 Abenosuji, Abeno-ku, Osaka
  • การเดินทาง: เชื่อมตรงกับสถานี "โอซาก้าอาเบะโนะบาชิ" สายคินเท็ตสึมินามิโอซาก้า, เดินประมาณ 1 นาทีจากสถานี JR "เทนโนจิ", นั่งรถบัสสนามบินจาก "สนามบินนานาชาติโอซาก้า" ประมาณ 30 นาที
    *กรุณาตรวจสอบเว็บไซต์สำหรับข้อมูลการจำหน่ายตั๋วจุดชมวิวและเวลาทำการของแต่ละชั้น
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ:https://www.abenoharukas-300.jp/en/

แนะนำวิธีการใช้และค่าใช้บริการ LUUP

วิธีการใช้บริการ LUUP ซึ่งจะทำให้การเดินทางไปในแต่ละจุดของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นนั้นมีทั้งหมดหลักๆ 4 ขั้นตอน (ภาพตัวอย่าง)

LUUP
ขั้นตอนที่ 1: สแกนรหัส QR ของรถ และปลดล็อค
LUUP
ขั้นตอนที่ 2: เลือกสถานีที่จะคืนรถ
LUUP
ขั้นตอนที่ 3: ปฏิบัติตามกฎจราจรและสนุกไปกับการขับขี่อย่างปลอดภัย
LUUP
ขั้นตอนที่ 4: คืนรถที่สถานีที่จองด้วยแอปพลิเคชันไว้

ถึงแม้ว่าค่าใช้บริการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบริเวณ แต่โดยปกติแล้วจะมีค่าธรรมเนียมพื้นฐาน 50 เยน (รวมภาษี) + ค่าใช้บริการตามเวลา: 15 เยน ต่อ 1 นาที (รวมภาษี) โดยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหรือจักรยานไฟฟ้ามีค่าใช้บริการเท่ากัน

คุณจะต้องลงทะเบียนบัตรประจำตัว (เช่น หนังสือเดินทาง) และข้อมูลบัตรเครดิตบนแอพลิเคชั่นก่อนเริ่มการใช้งาน นอกจากนี้ คุณจะต้องทำข้อสอบเกี่ยวกับกฎจราจรของญี่ปุ่นทั้งหมด 11 ข้อ (รองรับเฉพาะภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษเท่านั้น) หากคุณตอบถูกทุกข้อก็จะสามารถเริ่มใช้บริการได้ กรุณาตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมในเว็บไซต์ เช่น ข้อควรระวังอื่นๆ ในการใช้งาน หรือค่าธรรมเนียม และวิธีการชำระเงินในแต่ละพื้นที่ค่ะ!

หัวข้อเรื่อง

Recommend