【การดูแลโดยนักโภชนาการ】ฤดูกาลทำเหล้าบ๊วยมาถึงแล้ว! ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับทุกสิ่งตั้งแต่วิธีการเลือกส่วนผสมไปจนถึงวิธีเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแสนอร่อย

เหล้าบ๊วยเป็นหนึ่งในสุราผลไม้ที่เป็นตัวแทนมากที่สุดของญี่ปุ่น รสชาติที่สมดุลระหว่างความเปรี้ยวและความหวานเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย เหล้าบ๊วยไม่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังรวมถึงต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอีกด้วย และจริงๆ แล้วไวน์บ๊วยนั้นทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน

ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำประวัติความเป็นมา ประสิทธิภาพ และแนะนำวิธีการดื่มเหล้าบ๊วย และเราจะสอนวิธีทำเหล้าบ๊วยที่เหมาะกับรสนิยมของคุณด้วย ดังนั้นหากคุณชอบเหล้าบ๊วยต้องไม่พลาดกับบทความนี้นะคะ!

※บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำเหล้าบ๊วย ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการดื่มสุราหรือการขายสุรา
※การจำหน่ายหรือขายนั้นต้องจำหน่ายให้บุคคลอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
※การดื่มสุราในระหว่างการตั้งครรภ์และในช่วงการให้นมอาจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกและเด็กเล็ก

สุราผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น! ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเหล้าบ๊วย

ประวัติของเหล้าบ๊วย

ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับที่มาของเหล้าบ๊วย และไม่ทราบว่ามันเริ่มถูกดื่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ในยุค Edo มีการเขียนเรื่อง "Bencho Shokkan" ซึ่งเป็นการแนะนำประโยชน์และวิธีการทำเหล้าบ๊วย ในขณะนั้นน้ำตาลเป็นสิ่งที่มีค่าและราคาสูง ดังนั้นเหล้าบ๊วยถือว่าเป็นสินค้าที่รับประทานโดยกลุ่มคนที่จำกัด ไม่ใช่ประชาชนทั่วไป

ในช่วงปลายยุค Edo การปลูกพลัมในฟาร์มเริ่มเป็นที่นิยม และการทำเหล้าบ๊วยก็เริ่มมากขึ้น แต่ในปี 1899 การผลิตสุราสำหรับการใช้งานภายในบ้านถูกห้ามอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม การผลิตลักลอบมีมากขึ้น และกฎหมายไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง จึงทำให้ในปี 1962 กฎหมายภาษีสุราถูกแก้ไข การทำเหล้าบ๊วยในบ้านได้รับการยอมรับ และเหล้าบ๊วยกลายเป็นเครื่องดื่มที่ใกล้ตัวมากขึ้น

ประโยชน์ของเหล้าบ๊วย

ไม่ใช่แค่อร่อยเท่านั้น แต่เหล้าบ๊วยยังมีผลต่อการรักษาสุขภาพในหลายๆ ด้านด้วย

①การฟื้นฟูความเหนื่อยล้า: กรดซิตริก

มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน มีความสัมพันธ์กับการฟื้นฟูความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวันและความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกายเบาๆ

②การปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด: Mumefural

Mumefural ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่มีอยู่ในสารสกัดจากพลัม มีผลต่อการปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด
（หมายเหตุ: Mumefuralเกิดขึ้นในกระบวนการต้มพลัม แต่ไม่ทราบว่ามีอยู่ในเหล้าบ๊วยมากน้อยเพียงใด）

③การแก้ปัญหาท้องผูก: Picric Acid

แม้จะมีอยู่เพียงเล็กน้อย แต่มีผลต่อการกระตุ้นการทำงานของลำไส้

④ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ: Plum polyphenols

ช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ ส่วนใหญ่จะมีผลต่อสุขภาพผิวหนัง แต่ยังมีผลต่อสภาพแวดล้อมภายในลำไส้และมีความสัมพันธ์กับสุขภาพด้วย

⑤การปรับสมดุลของน้ำในร่างกาย: โพแทสเซียม

มีฤทธิ์ในการขับโซเดียม และมีบทบาทในการปรับปรุงอาการบวมที่เกิดจากเกลือส่วนเกิน และรักษาความดันโลหิตให้เป็นปกติ

【คำแนะนำจากนักโภชนาการ】

เหล้าบ๊วยเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายและเป็นที่นิยมในหมู่คนทุกวัย ทั้งชายและหญิง แต่ปริมาณแอลกอฮอล์จะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับว่าคุณดื่มอย่างไร และสุดท้ายคุณอาจดื่มมากเกินไปได้

มันมีส่วนผสมบางอย่างที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ และมันมีข้อดีคือสามารถดื่มได้โดยไม่รู้สึกผิด แต่ความสามารถของร่างกายในการเผาผลาญแอลกอฮอล์นั้นแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละคน และแน่นอนว่ามี คนที่เมาง่ายระวังอย่าดื่มมากเกินไป คงจะดีไม่น้อยหากคุณได้เพลิดเพลินกับเหล้าบ๊วยที่สามารถทำเองที่บ้านได้อย่างง่ายดายในปริมาณที่พอเหมาะและรูปแบบการดื่มที่เหมาะกับคุณ

【โปรไฟล์】 มิกิ ทาคาคุระ(Miki Takakura)

นักโภชนาการ นักโภชนาการกีฬาที่ได้รับการรับรอง
หลังจากจบการศึกษาจากคณะโภชนาการและอาหารของมหาวิทยาลัยMukogawa Women's University ทำงานเป็นนักโภชนาการในโรงพยาบาล
หลังจากทำงานด้านการจัดการอาหาร การแนะนำโภชนาการรวมและเฉพาะบุคคล และการจัดการโภชนาการ ทำงานเป็นผู้สนับสนุนโภชนาการของนักกีฬาที่ Training Lab ของ Morinaga & Co., Ltd.

จากคลาสสิกไปยังแปลกใหม่! วิธีการดื่มที่อร่อย

เหล้าบ๊วยที่อร่อยแม้จะดื่มเพียวๆ แต่ถ้าคุณไม่ค่อยทนแอลกอฮอล์หรืออยากลองวิธีดื่มที่แตกต่าง ลองทดลองวิธีผสมด้านล่างนี้ดูสิ!

• ร็อค: ใส่น้ำแข็งขนาดใหญ่ลงในแก้ว แล้วเทเหล้าบ๊วยเข้าไป ก็เสร็จสิ้นแล้ว คุณจะสามารถรับรู้รสชาติอร่อยของเหล้าบ๊วยได้โดยตรง
• ผสมน้ำอัดลม: ความฟูของน้ำอัดลมจะเป็นการกระตุ้นที่เหมาะสม และเป็นรสชาติที่เหมาะสมสำหรับฤดูร้อน
• ผสมน้ำผลไม้: เหล้าบ๊วยเป็นไวน์ผลไม้ ดังนั้นจึงเข้ากันได้ดีกับน้ำส้มหรือน้ำแอปเปิ้ล
• ผสมชา: กลิ่นหอมและความขมของชาเขียวหรือชามะลิจะช่วยลดความหวานและความเปรี้ยวของเหล้าบ๊วย
• ผสมนม: คุณจะสามารถสนุกกับรสชาติที่ครีมมี่และนุ่มนวล
• ผสมน้ำขิงร้อน: วิธีดื่มที่แนะนำสำหรับวันที่หนาว ที่จะทำให้ร่างกายที่หนาวเย็นอบอุ่น

การผสมมีได้ไม่จำกัด คัดเลือกวัตถุดิบอย่างรอบคอบและลองทำเหล้าบ๊วยตามความชอบของคุณเอง

วัตถุดิบที่จำเป็นในการทำเหล้าบ๊วยคือ "ผลบ๊วย, แอลกอฮอล์, น้ำตาล" มีหลากหลายประเภทและสามารถผสมผสานได้ตามความต้องการ ควรทราบลักษณะเฉพาะของแต่ละอย่างและลองปรับแต่งตามความชอบของคุณเอง

ประเภทและลักษณะของบ๊วยที่ใช้ในการทำเหล้าบ๊วย

ประเภทและลักษณะของสุราที่ใช้ในการทำเหล้าบ๊วย

ประเภทและลักษณะของสารให้ความหวานที่นิยมใช้ในเหล้าบ๊วย

วัตถุดิบที่จำเป็นและขั้นตอนการทำ อธิบายวิธีการทำใน 5 ขั้นตอน

สิ่งที่ต้องเตรียม

สิ่งที่จำเป็นในการทำเหล้าบ๊วยเป็นอย่างง่าย ถ้ามีวัตถุดิบและเครื่องมือพื้นฐานครบถ้วน คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านเลย!

• บ๊วย (1 กิโลกรัม)
• สุรา (1.8 ลิตร)
• น้ำตาล (700 กรัม - 1 กิโลกรัม)
• ขวด (5 ลิตร)
• ไม้สำหรับเสียบ

ขั้นตอน

เมื่อคุณเตรียมวัตถุดิบได้แล้ว ลองทำเหล้าบ๊วยตามขั้นตอนด้านล่างนี้ตามความชอบของคุณเอง

① ทำการฆ่าเชื้อและทำให้ภาชนะเก็บรักษาแห้ง

② ใส่บ๊วยและน้ำตาลที่เตรียมไว้ลงไปเป็นชั้นๆ

③ เทสุราลงไป

④ ปิดฝาและเก็บไว้ในที่ที่เย็นและมืด

⑤ ทำการหมักเหล้าบ๊วยและนำบ๊วยออก

เวลาที่ดื่มได้

เหล้าบ๊วยจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนในการหมัก แต่ถ้าบ๊วยเริ่มมีริ้วรอยและสีของเหล้าบ๊วยเปลี่ยนจากใสเป็นสีเหลืองอำพัน นั่นคือสัญญาณว่าเหล้าบ๊วยเสร็จแล้ว

แม้ว่าคุณจะสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่สดชื่นได้เมื่อสารสกัดจากลูกพลัมเริ่มออกมา แต่ก็ยังมีกลิ่นแอลกอฮอล์หลงเหลืออยู่บ้าง ดังนั้นหากคุณกังวลเรื่องนี้ คุณอาจพบว่ารสชาติจะอร่อยยิ่งขึ้นหากดื่มหลังจากผ่านไปประมาณ 6 เดือน หากคุณให้ความสำคัญกับรสชาติ ความเข้มข้น และความกลมกล่อมของลูกพลัม ให้ลองบ่มอย่างระมัดระวังต่อไปอีกหกเดือนหรือมากกว่านั้น

ข้อควรระวังในการทำเหล้าบ๊วย

การเตรียมบ๊วยอย่างรอบคอบ

การเตรียมลูกพลัมเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำเหล้าบ๊วย ดังนั้นคุณจึงไม่ควรละเลย หากต้องการทำเหล้าบ๊วยให้อร่อย ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อเตรียม

①การล้าง: ล้างสิ่งสกปรกด้วยน้ำไหล โดยไม่ใช้สารล้างจาน

②การแช่น้ำ: แช่ในน้ำประมาณ 1-2 ชั่วโมง (พลัมที่สุกแล้วเป็นสีเหลืองไม่จำเป็นต้องแช่น้ำ)

③การทำให้แห้ง: ทำให้แห้งโดยธรรมชาติ และใช้กระดาษทิชชูหรือผ้าเช็ดน้ำที่เหลืออยู่

④การถอนก้าน: ใช้ไม้จิ้มฟันถอนก้านออกอย่างรอบคอบ

การฆ่าเชื้ออย่างละเอียด

หากคุณไม่ทำการฆ่าเชื้อในภาชนะ อาจทำให้เกิดเชื้อราในระหว่างการหมัก หรือทำให้รสชาติของเหล้าบ๊วยเสื่อมการฆ่าเชื้อด้วยน้ำเดือด (ประมาณ 5-10 นาที) เป็นวิธีที่มั่นใจที่สุดในการป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย แต่ถ้าขวดใหญ่มากและยากต่อการดำเนินการ คุณสามารถใช้เอทานอลสำหรับการฆ่าเชื้อแทนได้

นอกจากนี้ สุราเช่นไวน์ขาวหรือชโยชูมีผลต่อการขยายพันธุ์ของแบคทีเรีย แต่ไม่สามารถใช้แทนการฆ่าเชื้อได้ ดังนั้นโปรดระวัง

อาจจะผิดกฎหมายในบางกรณี! กฎที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดคืออะไร

ภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นแหล่งรายได้ที่มีคุณค่าของประเทศ ดังนั้นการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด ไวน์บ๊วยสำหรับบริโภคในบ้านก็อยู่ภายใต้ข้อบังคับเช่นกัน ดังนั้นเมื่อทำไวน์บ๊วยของคุณเอง โปรดปฏิบัติตามข้อควรระวังด้านล่างเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดพระราชบัญญัติภาษีสุรา

• เลือกสุราที่จะใช้เป็นฐานที่มีอัตราแอลกอฮอล์ 20 องศาขึ้นไป และเป็นสุราที่มีการเสียภาษีแล้ว
• ห้ามผสมข้าว ข้าวสาลี ฟอกฟัน ข้าวโพด องุ่น กรดอะมิโน วิตามิน และอื่น ๆ
• ไม่สามารถขายหรือโอนได้ (เฉพาะบุคคลที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน)

※ กฎหมายอาจแตกต่างกันไปตามประเทศและภูมิภาค ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบกฎหมายในประเทศของคุณเพื่อดูว่าอะไรเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย