Hita เป็นเมืองเล็กๆที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ใจกลางคิวชู ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องสินค้าไม้แปรรูป รองเท้าเกี๊ยะญี่ปุ่น สาเก เครื่องปั้นดินเผา รวมไปถึงงานเทศกาลใหญ่ๆหลายงานในช่วงฤดูร้อน นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นที่ที่เดินทางมาได้ง่าย ซึ่งผู้มาเยือนสามารถบินมาจากสนามบิน Fukuoka ได้โดยตรง หากใครที่กำลังมองหา 1-day trip ที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่รับรองว่าคุณจะเต็มอิ่มไปกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อาหารอร่อยๆ และน้ำพุร้อนออนเซ็น
(https://worldwidewojnar.wordpress.com/)
การเดินทาง
จาก Fukuoka
มีรถบัสจากสถานีขนส่ง Tenjin และ Hakata ที่จะออกเดินทางทุกๆครึ่งชั่วโมง การเดินทางทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที เพื่อมาถึงใจกลางเมือง Hita ในราคา 1750เยน ระหว่างทางรถบัสจะจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สนามบิน Fukuoka ที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (domestic terminal) แต่ก็มีรถบัสทางด่วนที่จะไม่จอดสนามบิน สำหรับใครที่จะต้องลงรถที่สนามบินให้เช็คกับรถให้แน่ใจก่อนนะคะว่ารถคันที่เรากำลังจะขึ้นจะจอดหรือไม่จอดที่สนามบิน
จาก Oita
รถบัสที่ไปเมือง Hita จะออกทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งรถบัสสายนี้จะรับผู้โดยสารที่ highway bus stop ซึ่งจะอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนั้นยังมีรถไฟ JR โดยขึ้นรถไฟที่สถานี Hita ที่จะมีบริการเพียงไม่กี่เที่ยว ค่าโดยสารด้วยรถไฟจะมีราคา 2,070 เยน
รถยนต์ส่วนตัว
คุณสามารถขับรถขึ้นทาง Northwest โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเพื่อไปถึง Fukuoka จากนั้นไปทาง East อีก 1 ชั่วโมง คุณจะถึง Beppu ขับรถต่อไปอีก 20 นาทีคุณจะไปถึง Oita ซึ่งจะมีทางด่วนพาคุณไปยังเมือง Hita ในการเดินทางคุณควรเตรียมค่าทางด่วนไว้ประมาณ 1,600-2,400 เยน
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ถึง Hita จะเป็นเมืองที่มีขนาดเล็ก แต่ก็มีสถานที่ที่สวยงามและน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเขต Kuma-machi ที่จะมีแม่น้ำ Mikuma แม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน และเขต Mameda-machi ที่เป็นเขตที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
(https://www.instagram.com/p/BIxOsaCD1tm)
เมืองมาเมดะ
เมืองเล็กๆ เงียบๆ ที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยเอโดะ มีบรรยากาศแบบบ้านเมืองสมัยเก่า เป็นถนนทางยาวเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่างๆ คล้ายกับย่านกิองในจังหวัดเกียวโต ที่นี่จึงได้รับสมญานามว่า “Little Kyoto.”
ตลอดทางยาวของถนนมาเมดะนั้นก็มีพิพิธภัณฑ์และสถานที่ต่างๆ ให้เราแวะชมดังนี้ :
• Kusano House - เป็นต้นกำเนิดของงานเทศกาลตุ๊กตาเท็นเรียว, ซึ่งมีที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่จังหวัดโออิตะ• Nihongan - พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้ของแพทย์ที่ใช้กันในสมัยโบราณ
• Kuncho Sake Brewery Museum - โรงกลั่นเหล้าโบราณ "คุนโจะ" เปิดกิจการมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ผลิตเหล้าสาเกแสนอร่อย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าแวะชมและแวะชิมได้
• Shizantei Kaikokan - พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่รวมงานศิลปะตั้งแต่ 200 ปีก่อน
• Tsukikuma Park - สวนสาธารณะสึคิคุม่าตั้งอยู่ใกล้กับตัวปราสาทฮิตะ แม้ในปัจจุบันจะไม่เหลือตัวปราสาทแล้ว แต่ยังคงหลงเหลือกำแพงให้เราได้เห็น
• Reimeikan - สถานที่แห่งนี้เคยเป็นธนาคารมาก่อน แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมรวมดอกไม้แห้ง และยังเป็นโรงเรียนสอนให้แก่ผู้ที่สนใจด้วย
• Kangien Academy - โรงเรียนที่เปิดสอนมาตั้งแต่สมัยเอโดะ โดยนายทันโซ ฮิโรเสะ นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาชมประวัติศาสตร์ได้ที่อาคารหลัก
ศาลเจ้าโอฮาระ
เมื่อมองเห็นประตูโทริอิขนาดใหญ่ที่ถนนฮิตะ ที่นี่ล่ะค่ะ ศาลเจ้าโอฮาระอันศักดิ์สิทธิ์ มีบ่อปลาคาร์พ สะพาน ขั้นบันไดหิน 116 ขั้นที่พาเดินสู่ตัวศาลเจ้า มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงงานเทศกาลฤดูร้อน
(https://worldwidewojnar.wordpress.com/)
พิพิธภัณฑ์ฮิตะกิอง
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านคุมะมาจิ ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่อันดับสองของเมืองฮิตะ นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเทศกาลกิองได้
แม่น้ำมิคุม่า
เรียกได้ว่าแม่น้ำมิคุม่าเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านเมืองฮิตะ มีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตของชาวเมือง และยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญๆ เช่น เทศกาลกิอง รวมไปถึงงาน"คังโคไซ" (เทศกาลดอกไม้ไฟ) ด้วย ในฤดูร้อนก็มีเรือที่จัดเป็นร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวรับประทานอาหารและชมความงามของเมืองได้
(https://instagram.com/p/BPksK3_hWwy/)
เรือสำหรับรับประทานอาหาร
ช่วงปลายพฤษภาคม - สิ้นเดือนตุลาคมของทุกปี ผู้คนสามารถขึ้นเรือหาปลาเพื่อชมประเพณีอันเก่าแก่ในการจับปลาโดยใช้นกเป็ดน้ำ หรือจะนั่งทานอาหารไปชมประเพณีไป และก็สวมชุดญี่ปุ่นเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ใครอยากจะจับจองที่นั่งต้องติดต่อโดยตรงกับทางเรียวคัง หรือ ศูนย์ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองฮิตะได้ (โทรศัพท์ 0973-22-2036)
หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาออนตะ
ออนตะ หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งต้องขับรถไปอีกประมาณชั่วโมงครึ่ง ที่หมู่บ้านนี้มีสินค้าหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงก็คือ "ออนตะ-ยากิ" สืบสานต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16
ออนเซ็นบริเวณใกล้เคียง
Hita - มีหลายโรงแรม โดยเฉพาะแบบเรียวกังที่ให้บริการออนเซ็นใน Hita City
Amagase - Amagase เป็นศูนย์รวมรีสอร์ตที่ผู้คนนิยมเดินทางมาแช่น้ำพุร้อน ที่นี่มีทั้งโรงแรมที่ให้บริการออนเซ็นทั้งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ และมีออนเซ็นที่เก็นวิวแม่น้ำ Mikuma อีกด้วย
ร้านอาหารที่คุณต้องไปลอง
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการมาเยือน Hita City คือ ของกิน ค่ะ ที่นี่เต็มไปด้วยอาหารอร่อยและมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งร้านอาหารสำหรับผู้ที่มาเป็นครอบครัว ร้านซูชิ รวมไปถึงอิซาคายะ ที่นี่ยังมีร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ที่น่าไปลองอีกมากมาย
• Ohara-ya (Tashima-2-chome) - เป็นร้านอาหารเล็กๆแบบ street ที่จะทำการเปลี่ยนเมนูทุกๆเดือน ตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้า Ohara ที่ร้านนี้ได้ตั้งชื่อตามศาลเจ้านั่นเอง
• Ichijiku (Nakadzuru-machi) – เป็นร้านOkonomiyaki ที่อร่อยมาก
• Yama Midori - ร้านนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของ City Hall ร้านนีเป็นร้าน Izakaya ที่มีไก่คาราเกะสูตรเด็ด
• Takamura (Chome-7-8 Maruyama) - ร้านอุด้ง ที่มีอุด้งให้เลือกหลากหลายแบบทั้งอุด้งแบบฤดูร้อนและอุด้งแบบฤดูหนาว
• ที่ตกปลา Bamboo Fish (Takedashin-machi) - ที่ตกปลานี้ตั้งอยู่ในแม่น้ำ Mikuma โดยมีชื่อเรียกว่า Ayu โดยจะเปิดให้ใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน
• Sapporo Beer Factory (Takase 6979) - โรงเบียร์ชั้นเลิศ ที่ผู้มาเยือนสามารถเข้าชมกระบวนการกลั่นเบียร์ได้ อีกทั้งยังมีลานเบียร์ที่ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมือง
(https://www.facebook.com/WorldWideWojnar/)
ตารางเทศกาลวันหยุดและประเพณีที่ไม่ควรพลาด
• Hina Dolls Festival (15 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม) พิพิธภัณฑ์และบ้านโบราณใรเขต Mameda-machi และ Kuma-machi ต่างจะเปิดบ้านเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมตุ๊กตาญี่ปุ่นโบราณที่มีมากมายเป็นคอลเลกชั่น
• Cherry Blossom Festival (วันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน) ที่สวน Kizan จะเป็นสถานที่สำคัญในการให้นักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่นเอง เข้ามาชมความงามของซากุระ
• River Opening Festival (วันหยุดสุดสัปดาห์แรกหลังจากวันที่ 20 พฤษภา) งานนี้ถือว่าเป็นงานดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดของคิวชู ซึ่งเป็นงานแสดงดอกไม้ไฟที่จัดถึง 2 วัน และมีการแสดงดอกไม้ไฟกว่า 10,000ลูกเหนือแม่น้ำ Mikuma ในวันงานคุณสามารถสำรองที่นั่งเพื่อไปรับประทานดินเนอร์สุดโรแมนติกบนเรือได้อีกด้วย
• Hita Gion (วันหยุดสุดสัปดาห์แรกหลังจากวันที่ 20 มิถุนา) งานนี้จะจัดขึ้น 2 วัน โดยทั้งสองวันนี้ชายชาตรีชาวญี่ปุ่นจะแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ และเข็นเรือที่ประดับประดาอย่างอลังกาล มีความสูงถึง 12 เมตร น้ำหนักประมาณ 1 ตันไปรอบๆเมือง
• Tenryo Festival and Sennen Akari (วันหยุดสุดสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน) ในระหว่างวันชาวญี่ปุ่นจะแต่งกายด้วยชุดประจำชาติในสมัยเอโดะ และในตอนค่ำจะมีการจุดตะเกียงไม้ไผ่กว่า 30,000 ลำยาวสุดลูกหูลูกตาไปจามแม่น้ำ Kagetsu
(https://worldwidewojnar.wordpress.com/)
พักที่ไหนได้บ้าง
เวลาธรรมดาแล้วเมืองฮิตะจะเป็นเมืองที่เงียบสงบ ไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก ก็เลยหาที่พักได้ไม่ยาก แต่ในช่วงฤดูร้อนที่มีงานเทศกาลกิอง โรงแรมก็จะเต็มอย่างรวดเร็ว และราคาที่พักก็จะสูงขึ้นเป็นเท่าตัวเลย นักท่องเที่ยวส่วนมากจึงจัดการจองโรงแรมล่วงหน้าหลายๆ เดือน หากคนไหนที่อยากลองพักโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นที่เรียกว่าเรียวคังก็มีให้เลือกตามใจชอบค่ะ
แบบหรูหรา :
• Hatago Kayausagi - Kotohira Cho 1529-1
• Mikuma Hotel - Kuma 1-3-19
• Hina-no-Sato Sanyokan - Kuma 1-3-8
แบบราคาประหยัด :
• Hotel Socia - Motomachi 17-3
• Kizantei Hotel - Kuma 1-3-10
เรียวคังที่มีออนเซ็น :
• Kotohira Onsen Kayausagi - 1529-1, Kotohira-machi
• Sanso Tensui - 601 Amagase-machi, Sakuradake
Comments