การชำระเงินแบบไร้สัมผัสเพียงแตะบัตร JCB เมื่อขึ้นรถไฟหรือรถบัสกำลังแพร่หลายในญี่ปุ่นตอนนี้ค่ะ! กลุ่มบริษัทรถไฟนันไคที่เชื่อมต่อโอซาก้ากับสนามบินคันไซและจังหวัดวาคายามะก็ได้เริ่มใช้ระบบนี้แล้ว ในครั้งนี้เราจึงขอแนะนำแผนเที่ยว 2 วัน 1 คืน โดยใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสนั่งรถไฟสายนันไคค่ะ!
*บัตรบางประเภทอาจไม่สามารถใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสที่ประตูตรวจตั๋วได้
สามารถใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสของ JCB contactless card กับรถไฟนันไคได้แล้ว!
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อตั๋วที่ตู้จำหน่ายตั๋วที่ไม่คุ้นเคย หรือการที่ต้องเติมเงินใส่บัตร IC บ่อยๆ แถมบางครั้งยังต้องไปถามเจ้าหน้าที่เพราะไม่รู้ว่าต้องขึ้นรถไฟยังไงและไม่รู้ว่าค่าตั๋วเท่าไหร่... พอรู้ตัวอีกทีก็ถึงเวลาออกเดินทางซะแล้ว! การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศนั้นเต็มไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับ ""การเดินทาง"" ค่ะ
สิ่งที่จะช่วยขจัดความกังวลเหล่านั้นก็คือ ""ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส"" โดยเป็นบริการที่คุณสามารถชำระเงินได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่นำบัตรหรือสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสของ JCB ไปแตะที่อุปกรณ์ชำระเงินค่ะ
ในครั้งนี้ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ประตูตรวจตั๋วของรถไฟ รถบัส และเรือเฟอร์รี่ของกลุ่มบริษัทนันไค ทำให้คุณสามารถชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้ค่ะ! นอกจากจะช่วยลดเวลาเนื่องจากไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าที่ตู้จำหน่ายตั๋ว หรือตรวจสอบค่าโดยสารล่วงหน้าแล้ว ยังทำให้การขึ้นลงสะดวกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ไปเที่ยวกับรถไฟสายนันไคด้วยระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสกันเลยค่ะ!
วันที่ 1 ช่วงเช้า: เดินทางจากสนามบินคันไซด้วยรถไฟสนามบินด่วนพิเศษไปยังนัมบะ
เมื่อเดินทางถึงสนามบินคันไซแล้ว ก็นั่งรถไฟสายนันไคไปยังนัมบะซึ่งเป็นศูนย์กลางของโอซาก้าค่ะ โดยจะใช้เวลาเดินทางไปยังสถานีนันไคนัมบะเพียงแค่ 44 นาทีเท่านั้นหากคุณนั่งรถไฟสนามบินด่วนพิเศษ! เนื่องจากมีการติดตั้งอุปกรณ์ไว้ที่ประตูตรวจตั๋วที่สนามบินคันไซ ทำให้สามารถชำระเงินแบบไร้สัมผัสเพื่อขึ้นรถไฟได้ค่ะ
นอกจากนี้ เสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสคือไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนพิเศษใดๆ เมื่อเดินทางเข้าประเทศ เพียงแค่มีบัตรหรือสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบก็ใช้งานได้เลยค่ะ เนื่องจากสามารถใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้ทันทีตั้งแต่เดินทางเข้าประเทศทำให้สามารถเดินทางได้อย่างสบายใจตั้งแต่แรก และยังทำให้รู้สึกว่าการเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้ก็จะต้องสนุกแน่นอนค่ะ♪
อย่างไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องใช้ตั๋วรถไฟด่วนพิเศษในกรณีที่จะนั่งรถไฟด่วนพิเศษ Rapi:t ถึงแม้ว่าจะมีค่ารถไฟด่วนพิเศษต่างหากก็ตาม แต่ขอแนะนำสำหรับท่านที่อยากลดเวลาในการเดินทางค่ะ!
วันที่ 1 ช่วงบ่าย: กินและเที่ยวอย่างเต็มที่ที่นัมบะ
เมื่อลงรถที่สถานีนันไคนัมบะก็จะถึงย่านมินามิซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองโอซาก้า! ย่านโดทงโบริซึ่งขึ้นชื่อเรื่องป้ายนีออนและสะพานนั้นก็อยู่ติดกับสถานีเลยค่ะ! อย่าลืมแวะถ่ายรูปกันนะคะ
มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมายอยู่ใกล้เคียงกับสถานีนันไคนัมบะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้านัมบะยาซากะที่มีรูปปั้นสิงโตผู้พิทักษ์ขนาดยักษ์ หรือตลาดปลาคุโระมงที่ถูกเรียกว่า "ครัวแห่งโอซาก้า" ทุกสถานที่ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งนั้นเลยค่ะ
จากนั้นก็ไปรับประทานมื้อเย็นที่ตลาดปลาคุโระมง ที่นี่เต็มไปด้วยร้านมากมายไม่ว่าจะเป็นคุชิคัตสึหรือโอคาโนมิยามิ โดยล้วนเป็นร้านที่ถูกยอมรับโดยคนโอซาก้าซึ่งมีความพิถีพิถันในเรื่องอาหารค่ะ ไม่ว่าคุณจะเข้าร้านไหนก็มั่นใจได้ว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ!
สามารถเดินไปยังย่านชินไซบาชิซึ่งมีร้านแบรนด์หรูเรียงรายกันอยู่ได้อีกด้วยค่ะ สำหรับที่พักนั้นเราก็จะไปพักแรมที่ W OSAKA ที่ชินไซบาชิกันค่ะ ที่นี่เป็นโรงแรมเปิดใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจและยังมีการตกแต่งภายในที่หรูมีสไตล์ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นค่ะ
・3 โรงแรมใหม่สุดฮ็อตในเกียวโตและโอซาก้า
วันที่ 2 ช่วงเช้า: เดินทางจากนัมบะไปยัง "ภูเขาโคยะ" ! เดินทางง่ายๆ ด้วยระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส
วันที่ 2 ก็ออกเดินทางไปยังมรดกโลกภูเขาโคยะกันค่ะ! ในการเดินทางไปยังภูเขาโคยะนั้น เราจะต้องนั่งรถไฟจากสถานีนันไคนัมบะไปยังสถานีโกคุระคุบาชิ เนื่องจากมีการติดตั้งอุปกรณ์ไว้ที่สถานีนันไคนัมบะด้วย ทำให้ผ่านประตูตรวจตั๋วได้เพียงแค่แตะ JCB contactless card เท่านั้นค่ะ
หากนั่งรถไฟด่วนพิเศษโคยะของสายนันไคโคยะก็จะทำให้การเดินทางไปยังสถานีโกคุระคุบาชิสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ เนื่องจากรถไฟด่วนพิเศษโคยะเป็นรถไฟที่ต้องใช้ตั๋วที่นั่งแบบจองล่วงหน้า ดังนั้นจึงต้องไปซื้อตั๋วที่ตู้จำหน่ายตั๋วรถไฟด่วนพิเศษอัตโนมัติที่อยู่ที่ชานชาลาก่อนขึ้นรถ นอกจากนี้ ยังมีรถไฟด่วนอื่นๆ ที่ใช้เพียงแค่ตั๋วโดยสารรถไฟเท่านั้น ทำให้สามารถเลือกใช้ได้ตามช่วงเวลาค่ะ
หลังจากนั่งรถไฟและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงามของโอซาก้าและวาคายามะแล้วก็จะถึงสถานีโกคุระคุบาชิค่ะ จากที่นี่เราจะนั่งรถรางขึ้นไปยังเชิงเขาของภูเขาโคยะค่ะ เนื่องจากเชื่อว่าสถานีโกคุระคุบาชิเป็นเขตแดนระหว่างภูเขาโคยะ (สถานที่ศักดิ์สิทธิ) และโลกมนุษย์ ทำให้ภายในสถานีอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่ดูเหมือนไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์เลยค่ะ นอกจากนี้ ภาพบนเพดานของรูปนกปักษาสวรรค์ สัตว์ และพืชที่มีความเกี่ยวข้องกับภูเขาโคยะนั้นก็ดูน่าทึ่งสุดๆ ไปเลยค่ะ!
หลังจากนั่งรถรางเพียงแค่ 5 นาทีก็จะถึงสถานีโคยะซัง ที่ประตูตรวจตั๋วของสถานีโคยะซังก็สามารถใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้ ทำให้ผ่านประตูได้อย่างราบรื่นค่ะ
การเดินทางภายในภูเขาโคยะนั้นจำเป็นต้องใช้รถบัสค่ะ บนรถบัสนันไครินคังก็สามารถใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้อย่างราบรื่นค่ะ
หลังจากนั้นก็ไปขึ้นรถบัสที่วงเวียนของรถบัสนันไครินคังซึ่งอยู่หน้าสถานี และมุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางของภูเขาโคยะกันค่ะ เพราะว่าบริเวณทั้งหมดของภูเขาโคยะเป็นวัด ดังนั้นจึงต้องนั่งรถบัสหากคุณต้องการที่จะไปเยี่ยมชมสถานที่ขึ้นชื่อต่างๆ ภายในวันเดียว
เนื่องจากรถบัสนันไครินคังก็สามารถใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้ ทำให้ขึ้นรถได้อย่างราบรื่นค่ะ! เพียงแค่แตะบัตรตอนขึ้นรถและตอนลงรถก็สามารถชำระเงินได้แล้ว ถึงแม้ว่าค่าโดยสารรถบัสในญี่ปุ่นจะแตกต่างกันไปตามระยะทาง หรือบางครั้งต้องรับตั๋วเมื่อขึ้นรถบัสก็ตาม แต่ถ้าใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสก็ไม่ต้องกังวลไม่ว่าจะขึ้นลงรถบ่อยแค่ไหนก็ตามค่ะ เพลิดเพลินไปกับภูเขาโคยะอย่างสบายใจกันค่ะ
ภูเขาโคยะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิของศาสนาพุทธของญี่ปุ่นซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในสมัยเฮอัน (ปีค.ศ. 794-1885) โดยพระโคโบไดชิ ที่นี่มีสถานที่ชื่อดังหลายแห่งกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณกว้างที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นประตูไดมงที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่ทางเข้าซึ่งมีความสูงถึง 25.1 เมตร หรือวัดดันโจการันซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูเขาโคยะค่ะ
วัดคงโกบุจิเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาชินกง และเนื่องจากในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ดอกซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะและพันธุ์ชิดาเระ (ซากุระพันธุ์กิ่งย้อย) จะบานสะพรั่งสวยงาม ทำให้คุณสามารถชื่นชมการผสมผสานระหว่างอาคารที่มีประวัติศาสตร์และดอกซากุระได้ด้วย
・จุดชมซากุระที่งดงามในคันไซด้วยทิวทัศน์แตกต่างตามสไตล์ "ซากุระ x 〇〇"
วัดโอคุโนะอินเป็นสุสานของพระโคโบไดชิ ระหว่างเส้นทางเดินไปยังวัดจะมีอนุสรณ์และอนุสาวรีย์ของโชกุนมากกว่า 2 แสนหลุมเรียงรายอยู่ และยังถูกโอบล้อมด้วยต้นสึงิ (ต้นซีดาร์) ที่มีอายุกว่า 1000 ปี ทำให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบค่ะ
มื้อกลางวันก็มารับประทานอาหารโชจินดั้งเดิมตามหลักพุทธศาสนา เนื่องจากทำจากผักและเต้าหู้ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ทำจากพืชเท่านั้น ทำให้ได้รับความสนใจในฐานะอาหารเพื่อสุขภาพในญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ
หลังจากเพลิดเพลินกับภูเขาโคยะอย่างเต็มที่แล้วก็เดินทางไปที่โอซาก้า ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเดินทางกลับเข้าโอซาก้าก็ตาม แต่ถ้าใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสการเดินทางก็จะสะดวกและราบรื่นค่ะ ถึงแม้การเดินทางไปภูเขาโคยะจะต้องเปลี่ยนรถไฟและรถบัสหลายครั้งก็ตาม แต่ก็สามารถท่องเที่ยวได้อย่างไร้กังวลตั้งแต่ต้นจนจบด้วยการชำระเงินแบบไร้สัมผัสค่ะ
หากต้องการใช้ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส คุณจำเป็นต้องมี JCB contactless card ซึ่งมีเครื่องหมายด้านขวาของรูปด้านบนค่ะ! (จะมีเครื่องหมายอยู่ที่ด้านหน้าหรือด้านหลังของบัตร) โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ
JCB Contactless
https://www.global.jcb/en/products/payment-solution/contactless/index.html
Comments