จังหวัดนีงาตะล้อมรอบไปด้วยทะเลและภูเขา และมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตข้าวชั้นนำของญี่ปุ่น นอกจากข้าวและอาหารทะเลแล้ว ยังมีของอร่อยเกรด B มากมายที่เป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่น ในที่นี้ เราจะแนะนำอาหารเกรด B ตัวแทนของนีงาตะ เช่น ราเม็งหลักทั้ง 5 ของนีงะตะ ยากิโซบะที่ชื่อว่า "อิตาเลี่ยน" ข้าวแกงกะหรี่เสิร์ฟที่สถานีขนส่ง (ท่ารถบัส) และอื่น ๆ อีกมากมายกันค่ะ!
"ของอร่อยเกรด B" คืออะไร?
ของอร่อยเกรด B แตกต่างจากอาหารท้องถิ่นดั้งเดิมที่เป็นตัวแทนของภูมิภาคตรงที่ไม่ได้ใช้วิธีการปรุงอาหารญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์หรือการนำเสนออย่างสวยงามตามฤดูกาลเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว แต่เป็นอาหารพื้นเมืองที่ปรุงด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่นและเป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่นมาเป็นเวลานานค่ะ
ลักษณะจำเพาะของอร่อยเกรด B ของนีงาตะ
นีงะตะเป็นพื้นที่ปลูกข้าว มีสินค้าพิเศษที่เกี่ยวข้องกับข้าวมากมาย เช่น ข้าวและขนมที่ทำจากข้าว อย่างไรก็ตาม ของอร่อยเกรด B ของนีงาตะส่วนใหญ่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับข้าวค่ะ
อาหารที่เป็นตัวแทนนีงาตะอย่างหนึ่งคือราเม็งหลักทั้ง 5 ของนีงาตะค่ะ ชาวญี่ปุ่นบางคนถึงขั้นเรียกนีงาตะว่าเป็น “อาณาจักรราเม็ง” เพราะคุณสามารถเพลิดเพลินกับราเม็งที่หลากหลายซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคได้ที่นี่ค่ะ
เมื่อพูดถึงของอร่อยเกรด B ในนีคงาตะแล้วละก็ ต้องไม่ลืมของอร่อยเกรด B ที่มีพื้นฐานมาจากอาหารตะวันตกด้วยค่ะ ในปี ค.ศ. 1874 พ่อครัวชาวอิตาลีที่เข้ามาทางทะเลญี่ปุ่นซึ่งมาขึ้นฝั่งที่นีงาตะได้เปิดร้านอาหารตะวันตกแห่งแรกในญี่ปุ่นชื่อ Italia Ken ในอำเภอนีงาตะ เนื่องจากความสำเร็จของร้านอาหารแห่งนี้ ร้านอาหารตะวันตกจำนวนมากจึงพากันเปิดตัวขึ้นในนีงาตะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ด้วยเหตุนี้จึงมีของอร่อยสไตล์ตะวันตกเกรด B เกิดขึ้นมากมายด้วยค่ะ
ราเม็งหลักทั้ง 5 ของนีงาตะ
จังหวัดนีงาตะซึ่งกล่าวกันว่าเป็นอาณาจักรราเม็งนั้นมีรูปร่างยาวในแนวเหนือใต้ และแต่ละภูมิภาคก็มีราเมงที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ทั้งหมดก็เรียกรวมกันว่า "ราเม็งหลักทั้ง 5 ของนีงาตะ" ค่ะ
นีงาตะโนโคมิโสะราเม็ง (新潟濃厚味噌ラーメン - ราเม็งมิโสะรสเข้มของนีงาตะ)
ราเม็งตัวแทนของอำเภอนีงาตะ มาพร้อมถ้วยน้ำซุปสำหรับไว้ผสม เนื่องจากซุปมิโสะมีความข้นมากจึงสามารถให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนรสชาติได้ตามใจชอบด้วยการผสมน้ำซุปให้เจือจางตามต้องการค่ะ ร้านอาหารที่มีชื่อเสียง ได้แก่ "โคมาโดริ" (こまどり / Komadori) ซึ่งว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิดของราเม็งชนิดนี้ค่ะ
นีงาตะอัสซาริโชยุราเม็ง (新潟あっさり醤油ラーメン - ราเม็งโชยุรสอ่อนของนีงาตะ)
อีกหนึ่งตัวแทนราเม็งที่กำเนิดในอำเภอนีงาตะ สภาพก็ตามชื่อที่แปลว่าราเม็งโชยุรสอ่อนค่ะ ซุปใสที่ทำจากโชยุนั้นมีรสอ่อนและเรียบง่ายพร้อมรสชาติหลงเหลือหลังรับประทานที่น่าพึงพอใจ มีทฤษฎีที่น่าเชื่อว่าเกิดจากซุ้มร้านแผงลอยขายอาหารข้างทางค่ะ ร้านที่มีชื่อเสียง ได้แก่ "ซังคิจิยะ ฮอนเต็น" (三吉屋 本店 / Sankichiya Honten)
สึบาเมะเซะอาบุระราเม็ง (燕背脂ラーメン - ราเม็งไขมันจากสันหลังของสึบาเมะ)
อำเภอสึบาเมะเป็นเมืองที่ผลิตเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากโลหะ ราเม็งชนิดนี้ถูกทำขึ้นเพื่อให้ช่างฝีมือที่ทำงานจนดึกสามารถหาอะไรรองท้องระหว่างทำงานดึกได้ ประกอบด้วยเส้นราเม็งหนาพิเศษที่ไม่อืดง่าย ซุปที่เต็มไปด้วยมันหมูที่ไม่เย็นชืดง่าย และหัวหอมสับเป็นท็อปปิ้ง ร้านที่ขึ้นชื่อก็ได้แก่ "Koshu Hanten" (杭州飯店 / Koshu Hanten) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดราเม็งชนิดนี้ค่ะ
ซันโจคาเรราเม็ง (三条カレーラーメン - ราเม็งแกงกะหรี่ของซันโจ)
ราเม็งที่เป็นที่นิยมในอำเภอซันโจซึ่งรุ่งเรืองในฐานะเมืองผลิตเหล็ก พัฒนาโดยพ่อครัวที่เกิดในซันโจซึ่งได้รับการฝึกฝนจากร้านอาหารสไตล์ตะวันตกในโตเกียว ราเมงแกงกะหรี่ที่ไม่เย็นชืดได้ง่ายนี้ก็ได้รับความนิยมในหมู่ช่างฝีมือเครื่องเหล็กภายในเวลาไม่นาน มีหลายรูปแบบ เช่น แบบที่มีการราดแกงกะหรี่ไว้ด้านบน แบบที่มีซุปรสแกงกะหรี่ และแบบที่จุ่มแกงกะหรี่รับประทานคล้าย ๆ สึเกะเม็ง (ราเม็งแบบจุ่ม) ร้านที่มีชื่อเสียง ได้แก่ "มาซาฮิโระ" (正広 / Masahiro) เป็นต้นค่ะ
นางาโอกะโชกะโชยุราเม็ง (長岡生姜醤油ラーメン - ราเม็งโชยุขิงของนางาโอกะ)
ราเม็งนี้เกิดในภูมิภาคนางาโอกะที่เต็มไปด้วยหิมะ ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นด้วยสรรพคุณของขิง คุณสามารถสัมผัสกลิ่นหอมและรสชาติของขิงได้อย่างเต็มที่ในซุปที่ปรุงจากโชยุ ร้านอาหารที่มีชื่อเสียง ได้แก่ บ้านเกิดของราเม็งชนิดนี้ “อาโอชิมะ โชคุโด” (青島食堂 / Aoshima Shokudo) เป็นต้นค่ะ
อิตาเลี่ยน
"อิตาเลี่ยน" (イタリアン) เป็นชื่อของยากิโซบะที่มีส่วนผสมอย่างซอสมะเขือเทศและซอสเนื้อ มักจะมีให้บริการตามร้านกาแฟในจังหวัดนีงาตะ และร้าน "มิคาซึกิ" (みかづき / Mikazuki) กับร้าน "เฟรนด์" (フレンド / Friend) ก็มีชื่อเสียงเป็นพิเศษค่ะ มิคาซึกิเป็นแฟรนไชส์ร้านกาแฟในอำเภอนีงาตะ ส่วนร้านเฟรนด์เป็นแฟรนไชส์ร้านกาแฟในอำเภอนางาโอกะค่ะ
ในจังหวัดนีงาตะ มีการโต้เถียงกันมากว่าร้านกาแฟไหนกันแน่ที่เป็นต้นกำเนิดของอาหารที่ชื่อว่า "อิตาเลี่ยน" นี้ ลองไปชิมแล้วเปรียบเทียบดูว่าชอบรสชาติของเจ้าไหนดูนะคะ อนึ่ง ในบางภูมิภาคของญี่ปุ่น สปาเก็ตตี้ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศก็เรียกว่า "อิตาเลี่ยน" เช่นกัน แต่นั่นก็เป็นเมนูที่แตกต่างจาก "อิตาเลี่ยน" ของนีงาตะอย่างสิ้นเชิงค่ะ
แกงกะหรี่ที่สถานีขนส่ง (ท่ารถบัส)
ข้าวแกงกะหรี่ของร้าน "Bandai Soba" ภายในบริเวณสถานีขนส่ง Bandai City Bus Center ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Niigata เป็นร้านยอดนิยมมานานนับหลายปีแล้ว ได้รับความนิยมหลังจากได้รับการแนะนำจากนักแสดงตลกผู้ชื่นชอบแกงกะหรี่อย่างมากในรายการตลกของญี่ปุ่น และตอนนี้ก็มีลูกค้าที่มาจากนอกจังหวัดด้วยค่ะ
มีน้ำแกงรูส์สีเหลืองที่ทำด้วยซุปกระดูกหมู และเสิร์ฟในปริมาณที่มากอย่างที่เห็นในภาพแม้จะเป็นขนาดปกติก็ตาม (470 เยน) เนื่องจากเป็นร้านยืนกิน คุณจึงไม่สามารถใช้เวลาเพลิดเพลินกับรสชาติของอาหารตามอัธยาศัยได้ แต่ก็ลองไปแวะระหว่างเปลี่ยนรถหรือระหว่างรอรถเมล์/รถไฟรอบต่อไปกันได้ค่ะ
Bandai Soba (名物 万代そば)
- ที่ตั้ง: อาคาร Bus Center Building ชั้น 1F, 1-6-1 Bandai, Chuo-ku, Niigata City
- เวลาทำการ : 8.00 - 19.00 น.
- วันหยุดประจำ: ไม่มีวันหยุด
คัตสึด้งสไตล์ตะวันตก
"คัตสึด้งสไตล์ตะวันตก" (洋風カツ丼 / Yo-fu katsudon) ในอำเภอนางาโอกะ จังหวัดนีงาตะ ที่ซึ่งเป็นที่รู้จักจาก "การแสดงพลุดอกไม้ไฟครั้งใหญ่ในเทศกาลนากาโอกะ" เป็นของอร่อยเกรด B ที่มีหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดวางบนข้าว เสิร์ฟบนจานแบนแทนชามแบบญี่ปุ่น และราดด้วยซอส ซอสก็มี 2 ประเภทค่ะ ได้แก่ ซอสที่ทำจากซอสมะเขือเทศ “สไตล์ตะวันตก” และซอสเดมิกลาส “สไตล์ห้องอาหาร” เราขอแนะนำให้ตรวจสอบก่อนว่าร้านที่จะไปนั้นใช้ซอสชนิดใดก่อนที่จะไปเยี่ยมเยือนค่ะ
ร้าน Komatsu Parlour (小松パーラー) ซึ่งเป็นผู้คิดค้นคัตสึด้งสไตล์ตะวันตกนั้นก็ได้ปิดตัวลงหลังจากพ่อครัวเจ้าของรุ่นที่สองได้เสียชีวิตไป แต่ลูกศิษย์ทั้งสองคนของเขาก็ได้เปิดร้าน "Restaurant Nakata" และ "Yoshoku Matsu Kitchen" ตามลำดับ โดยรักษารสชาติจากสมัยที่คิดค้นเมนูนี้ขึ้นมาไว้ตามเดิมค่ะ
Restaurant Nakata (レストラン ナカタ)
- ที่ตั้ง: อาคาร Wakamanto Building ชั้น 2F, 2-3-6 Sakanoue-machi, Nagaoka-shi, Niigata
- เวลาทำการ: 11:30 - 21:30 น.
- วันหยุดประจำ: วันพฤหัสบดี
Yoshoku Matsu Kitchen (洋食 松キッチン)
- ที่ตั้ง: ใน Michi-no-Eki Nagaoka Hanabi-Kan Food Court, 707 Kitamachi, Nagaoka-shi, Niigata
- เวลาทำการ: 11:00 - 20:00 น.
- วันหยุดประจำ: ขึ้นอยู่กับศูนย์อาหาร
Comments