ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ของประเทศญี่ปุ่นนั้นประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ อาโอโมริ (Aomori), อิวาเตะ (Iwate), อาคิตะ (Akita), ยามากาตะ (Yamagata), มิยางิ (Miyagi) และฟุคุชิมะ (Fukushima) เนื่องจากมีสภาพอากาศและภูมิประเทศที่เอื้ออำนวย ทำให้ที่นี่มีผลไม้ที่สดใหม่ อาหารทะเลรสเลิศ และธรรมชาติที่สวยงามที่ไม่สามารถหาดูที่อื่นได้
โครงการ "เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่... กิจกรรมสุดประทับใจ" โดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น จะนำเสนอเส้นทางแนะนำของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้คุณสามารถสนุกสนานได้เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเคยมาแล้วหรือมาเที่ยวเป็นครั้งแรกก็ตาม ในครั้งนี้เราจะขอนำเสนอเส้นทางแนะนำสำหรับทริป 4 วัน 3 คืน ที่อิวาเตะ (Iwate) และอาโอโมริ (Aomori) ในบริเวณโทโฮคุ มาดูกันเลย!
เส้นทางแนะนำ "โทโฮคุประเทศญี่ปุ่น - อิวาเตะ, อาโอโมริ"
Day1 | พระโพธิสัตว์กวนอิมใหญ่แห่งเมืองคามะอิชิ ⇒ ชายหาดโจโดงาฮามะ ⇒ พักแรมที่เมืองมิยาโกะ |
Day 2 | เมืองมิยาโกะ ⇒ มื้อเที่ยง (บินดง) ⇒ ถ้ำริวเซ็นโด ⇒ พักแรมบริเวณสถานีโมริโอกะ |
Day 3 | สถานีโมริโอกะ ⇒ กิจกรรมระบายสีเครื่องเขินด้วยวิธีของอัปปิ (พิพิธภัณฑ์ฮะจิมันไต) ⇒ ลานสกีอัปปิ โคเก็น ⇒ พักแรมที่อัปปิ โคเก็น |
Day 3 ขอแนะนำเส้นทางนี้ด้วย! | อัปปิ โคเก็น ⇒ ปั่นจักรยานเสือภูเขาชมที่ราบสูงฮะจิมันไตและอัปปิ โคเก็น ⇒ พักแรมที่เมืองโมริโอกะ |
Day 4 | เมืองโมริโอกะ ⇒ พิพิธภัณฑ์เนบุตะ วะ รัสเซะ ศูนย์แลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดอาโอโมริ ⇒ รถไฟเตาผิงสายซึการุ ⇒ ชาโยคัง พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์โอซามุ ดะไซ ⇒ พักแรมที่เมืองอาโอโมริ |
ไปสู่โลกแห่งหิมะสีเงินโดยรถไฟเตาผิง
https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/tohoku/itineraries-3/
เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่... กิจกรรมสุดประทับใจ
https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/
บริเวณอิวาเตะ
[สถานที่ท่องเที่ยว] พระโพธิสัตว์กวนอิมใหญ่แห่งเมืองคามะอิชิ (Kamaishi Daikannon Statue): สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคู่รักที่ถูกปกป้องโดยพระโพธิสัตว์กวนอิมใหญ่ที่มองออกไปยังทะเล
"พระโพธิสัตว์กวนอิมใหญ่แห่งเมืองคามะอิชิ (Kamaishi Daikannon Statue)" เป็นรูปปั้นสีขาวบริสุทธิ์ของพระโพธิสัตว์กวนอิมเกียวรัน โดยตั้งอยู่บนที่สูงที่คาบสมุทรคามะซากิเมืองโอฮิระซึ่งสามารถมองเห็นอ่าวคามะอิชิทั้งหมดได้ รูปปั้นนี้มีความสูงถึง 48.5 เมตร และเป็นหนึ่งใน "รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม 33 องค์"
ภายในรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมจะถูกแบ่งเป็น 13 ชั้น และมีการประดิษฐานรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม 33 องค์ และเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้งเจ็ดอีกด้วย นอกจากนี้ เนื่องจากมีพื้นที่สำหรับชมวิวที่ชั้น 11 และ 12 ทำให้ไม่เพียงแต่จะสามารถเพลิดเพลินไปทิวทัศน์ของทะเล ท้องฟ้าสีคราม และรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมจากภายนอกเท่านั้น แต่ผู้ที่เดินทางมาสักการะยังสามารถเข้าไปด้านใน และขึ้นไปชมทิวทัศน์ของทะเลที่สวยงามได้อีกด้วย
ภายในบริเวณยังมีจุดให้ถ่ายรูปอีกมากมาย และมีเครื่องราง (Omamori/โอมาโมริ) และเซียมซีญี่ปุ่น (Omikuji/โอมิคุจิ) ที่ไม่เหมือนที่อื่นอีกด้วย อย่าลืมมาแวะที่นี่!
พระโพธิสัตว์กวนอิมใหญ่แห่งเมืองคามะอิชิ (Kamaishi Daikannon Statue)
- ที่อยู่: 3-9-1 Ohira-cho, Kamaishi City, Iwate Prefecture
- เวลาทำการ: 9:00-17:00 เวลาทำการแตกต่างกันไปในแต่ฤดู
- การเดินทาง: นั่งรถบัสอิวาเตะเคงโคซือจากสถานีคามะอิชิ ไปลงที่ "คามะอิชิไดคันนงอิริกุจิ" หรือ"คันนงอิริกุจิ" และเดินประมาณ 10 นาที
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: http://kamaishi-daikannon.com/
[สถานที่ท่องเที่ยว] ชายหาดโจโดงาฮามะ (Jodogahama Beach): ทิวทัวศ์สุดอลังการ "ดุจดั่งสรวงสวรรค์"
"ชายหาดโจโดงาฮามะ (Jodogahama Beach)" ตั้งอยู่ที่เมืองมิยาโกะ (Miyako) จังหวัดอิวาเตะ และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติซันริคุ ฟุคโค (Sanriku Fukko National Park) คุณสามารถพลาดเพลินไปกับลักษณะทางธรณีวิทยาที่มีเอกลักษณ์ และทิวทัศน์ของทะเลสีฟ้าใสสะอาด ที่นี่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติในฐานะวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ในฤดูร้อนก็สนุกไปกับชายหาดที่ได้รับความนิยมจากผู้คนในท้องถิ่น และในฤดูหนาวก็สามารถชมทิวทัศน์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะซึ่งดูแปลกตาได้อีกด้วย
นอกจากจะสามารถนั่งเรือท่องเที่ยวและเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์สุดอลังการของชายฝั่งเว้าแหว่งจากบนดาดฟ้าเรือที่กว้างขวางได้ที่ชายหาดโจโดงาฮามะแล้ว ยังสามารถนั่งเรือซัปปะ (Sappa bune/เรือขนาดเล็ก) และเข้าไปชม "ถ้ำสีฟ้า (Ao no doukutsu)" อย่างใกล้ชิดได้อีกด้วย เมื่อถูกล้อมรอบด้วยทะเลสีฟ้ามรกตอันสวยงามแล้วละก็ คุณจะต้องรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกอีกแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน!
ชายหาดโจโดงาฮามะ (Jodogahama Beach)
- ที่อยู่: 32-69 Hitachihama-cho, Miyako City, Iwate Prefecture
- การเดินทาง: นั่งรถบัสอิวาเตะคิตะจากสถานีมิยาโกะ ไปลงที่ "โอคุโจโดงาฮามะ"
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.city.miyako.iwate.jp/kanko/jyoudogahama.html
[อาหารรสเลิศ] บินดง (Bindon): ของขึ้นชื่อใหม่ของมิยาโกะ ที่สามารถลิ้มรสข้าวหน้าปลาดิบ (Kaisendon) และโอฉะสึเกะ (Ochazuke/ข้าวราดน้ำชา) ได้พร้อมกันในทีเดียว
เป็นเรื่องปกติที่จะเก็บรักษาอาหารทะเลต่างๆ เช่น หอยเม่นที่เพิ่งจับมาสดๆ ในขวดนมที่ใส่น้ำทะเลที่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วที่บริเวณชายฝั่งของจังหวัดอิวาเตะ และเนื่องจากมีรสชาติความอร่อยสดใหม่ที่สามารถลิ้มรสได้เพียงแค่ที่นี่เท่านั้น ทำให้อาจกล่าวได้ว่าเป็นของขึ้นชื่อของมิยาโกะอีกด้วย
วิธีการกินที่ไม่เหมือนใครนี้เป็นที่มาของ "บินดง (Bindon)" ซึ่งเป็นอาหารที่นำวัตถุดิบตามฤดูกาลของมิยาโกะมาใส่ไว้ในขวดนม โดยจะใช้ปลาแซลมอน ปลาค็อด ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยเม่นเป็นหลัก
นตอนแรกให้รับประทานเป็นข้าวหน้าปลาดิบ (Kaisendon) โดยนำส่วนผสมครึ่งหนึ่งมาวางไว้บนข้าว จากนั้นก็ราดซอสโชยุและวาซาบิลงไป หลังจากนั้นก็รับประทานเป็นโอฉะสึเกะ (Ochazuke) โดยนำส่วนผสมที่เหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่งใส่ลงไปในชามและราดด้วยน้ำซุปดาชิ แน่นอนว่าสามารถนำมารับประทานตามวิธีที่คุณชอบได้อีกด้วย! เนื่องจากสามารถรับประทานด้วยวิธีต่างๆ ได้พร้อมกันในทีเดียว รับรองว่าคุณจะต้องไม่เบื่ออย่างแน่นอน!
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: สมาคมการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมิยาโกะ https://kankou385.jp/special_kiji/4482/
[สถานที่ท่องเที่ยว] ถ้ำริวเซ็นโด (Ryusendo Cave): หนึ่งในสามถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นที่ดูลึกลับและอลังการ
"ถ้ำริวเซ็นโด (Ryusendo Cave)" เป็นหนึ่งในสามถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เช่นเดียวกับ "ถ้ำอะคิโยะชิ (Akiyoshido Cave)" ที่จังหวัดยามากุจิ (Yamaguchi) และ "ถ้ำริวกะโด (Ryugado Cave)" ที่จังหวัดโคจิ (Kochi) นอกจากนี้ ยังถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานธรรมชาติแห่งชาติพร้อมกับค้างคาวที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำอีกด้วย
เนื่องจากน้ำในทะเลสาบใต้ดินภายในถ้ำนั้นมีความใสมาก ทำให้ส่องแสงประกายเป็นสีน้ำเงินสดที่ดูเหมือนดั่งอัญมณีเมื่อส่องด้วยแสงไฟ ถึงแม้ว่าภายในถ้ำจะมีความชื้นสูงและเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวก็ตาม จะมีลูกศรและป้ายบอกทางที่สามารถเข้าใจได้ง่ายจัดไว้อยู่ เพียงแค่เดินตามป้ายนำทางและทำการสำรวจโลกลึกลับแห่งนี้แล้วละก็ คุณจะต้องเข้าใจเสน่ห์ของที่นี่ได้อย่างลึกซึ้งแน่นอน
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะทราบว่าถ้ำนี้มีความยาวทั้งหมด 4,088 เมตร เนื่องจากยังคงอยู่ระหว่างการสำรวจทำให้มีส่วนที่ยังไม่ถูกค้นพบมากมาย กล่าวกันว่าถ้ำนี้มีความยาวมากกว่า 5,000 เมตร โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปชมได้เป็นระยะ 700 เมตร
ถ้ำริวเซ็นโด (Ryusendo Cave)
- ที่อยู่: 1-1 Aza Kannari, Iwaizumi, Iwaizumi-cho, Shimohei-gun, Iwate Prefecture
- เวลาทำการ: 8:30-17:00
- ค่าธรรมเนียม: ผู้ใหญ่ (อายุมากกว่านักเรียนชั้นมัธยมปลายขึ้นไป) 1,100 เยน, อายุต่ำกว่านักเรียนชั้นมัธยมต้น 550 เยน
- การเดินทาง: นั่งรถบัส JR จากสถานีโมริโอกะ ไปลงที่ "ริวเซ็นโดมาเอะ" (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที)
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: http://www.iwate-ryusendo.jp
[กิจกรรม, ท่องเที่ยว] กิจกรรมระบายสีเครื่องเขินด้วยวิธีของอัปปิ (Appi lacquerware painting) และพิพิธภัณฑ์ฮะจิมันไต (Hachimantai City Museum): สัมผัสประสบการณ์ระบายสีตะเกียบที่ไม่เหมือนใคร ด้วยวิธีการทาสีแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น
พื้นที่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ รวมถึงเขตอัปปิ (Appi) เมืองฮะจิมันไต (Hachimantai) นั้น เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตอุรุชิ (Urushi/ยางรัก) ในญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโจมง และยังเป็นแหล่งผลิตเครื่องเขินที่มีคุณภาพสูงไม่ว่าจะเป็นในด้านความโปร่งแสง สีสัน และความแข็งอีกด้วย
"Appi Urushi Studio" ได้สืบทอดวิธีการทำเครื่องเขินแบบดั้งเดิมมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากจะใช้ไม้และอุรุชิที่ทำจากวัสดุธรรมชาติที่ผลิตในประเทศ 100% แล้ว ยังผลิตเครื่องเขิน เช่น เครื่องครัวและจานชามต่างๆ ที่สามารถใช้งานได้ง่ายเข้ากับการใช้ชีวิตของคนสมัยใหม่อีกด้วย โดยมีเอกลักษณ์คือความเรียบง่ายที่ใช้เมื่อไหร่ก็ไม่เบื่อ นอกจากจะมีสีสวยสดแล้ว ยังมีความทนทานอีกด้วย เหมาะสำหรับให้เป็นของขวัญหรือจะนำไปใช้เองก็ได้
ภายในสตูดิโอจะมีการจัดแสดงและขายผลงานต่างๆ ที่สวยงามเหมือนดั่งงานศิลปะด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถร่วมกิจกรรมระบายสีเครื่องเขินแบบอัปปิในแบบของคุณได้อีกด้วย "พิพิธภัณฑ์ฮะจิมันไต (Hachimantai City Museum)" ที่อยู่ติดกันนั้น มีการจัดแสดงโบราณวัตถุต่าง ๆ เช่น วัฒนธรรมระบายสีเครื่องเขินแบบอัปปิ เครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบในพื้นที่ ตุ๊กตาดินเผา และการเกษตรสมัยใหม่
Appi Urushi Studio
- ที่อยู่: 230-1 Kamasuda, Hachimantai city, Iwate Prefecture
- เวลาทำการ: วันอังคาร-วันอาทิตย์ 9:30-17:00
- วันหยุด: วันจันทร์ (เปิดทำการหากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์), อาจปิดทำการในวันปีใหม่
- การเดินทาง: ลงรถไฟที่สถานี JR อาระยะชินมาจิ และเดินประมาณ 10 นาที
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.appiurushistudio.com
พิพิธภัณฑ์ฮะจิมันไต (Hachimantai City Museum)
- ที่อยู่: 230 Kamasuda, Hachimantai city, Iwate Prefecture
- เวลาทำการ: วันอังคาร-วันอาทิตย์ 9:00-16:30 (เปิดให้เข้าได้ถึง 16:00)
- วันหยุด: วันจันทร์ (หากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์จะหยุดในวันถัดไป), หยุดวันปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม ถึง วันที่ 3 มกราคม
- การเดินทาง: ลงรถไฟที่สถานี JR อาระยะชินมาจิ และเดินประมาณ 10 นาที
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.city.hachimantai.lg.jp/site/hachimantaisihakubutsukan/
[กิจกรรม] อัปปิ โคเก็น สกีรีสอร์ต (Appi Kogen Ski Resort): สนุกสนานไปกับสกี สโนว์บอร์ด และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่สวยงามของแดนหิมะและอนเซ็นธรรมชาติ
"อัปปิ โคเก็น สกีรีสอร์ต (Appi Kogen Ski Resort)" นั้นเป็นลานสกีชื่อดังแห่งหนึ่งของโทโฮคุ นอกจากจะมีพื้นที่ที่กว้างขวางที่มีเส้นทางทั้งหมด 21 คอร์ส ซึ่งมีความยาวทั้งหมดกว่า 43,100 เมตรแล้ว ยังมี "คิดส์แลนด์" สำหรับเด็ก และทัวร์เดินลุยหิมะที่สามารถสังเกตระบบนิเวศน์ในหิมะได้อีกด้วย ทำให้สามารถสนุกสนานได้ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์ก็ตาม!
หลังจากเพลิดเพลินไปกับสกีและสโนว์บอร์ดแล้ว ก็ต้องไม่ลืมไปถ่ายรูปเอามาลงอินสตาแกรมด้วย! ขอแนะนำให้ขึ้นกระเช้ากอนโดลาไปชมต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งบนยอดเขาด้วย! ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะสามารถชมภูเขาอิวาเตะ และมองเห็นจังหวัดอาโอโมริได้ด้วย ถึงแม้จะไม่สามารถเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดได้ก็ตาม แต่คุณก็สามารถสัมผัสเสน่ห์ของดินแดนหิมะได้ด้วยอากาศที่เย็นสบาย และพาวเดอร์สโนว์ที่เปล่งประกายเมื่อโดนแสงอาทิตย์!
นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมของลานสกีตั้งอยู่ภายในบริเวณด้วย โดยมีบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร อนเซ็นธรรมชาติ ไปจนถึงบริการให้เช่าอุปกรณ์สกี ดังนั้นจึงสามารถสนุกสนานไปกับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องพกอุปกรณ์หนักมาด้วย หากคุณอยากสัมผัสความสนุกของการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดแล้วละก็ ต้องมาที่อัปปิ โคเก็น สกีรีสอร์ต (Appi Kogen Ski Resort)!
อัปปิ โคเก็น สกีรีสอร์ต (Appi Kogen Ski Resort)
- ที่อยู่: Appi Kogen, Hachimantai City, Iwate Prefecture
- เวลาทำการ: ลิฟท์, กระเช้ากอนโดลา 8:30-17:00 กรุณาตรวจสอบสถานะการทำการที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- การเดินทาง: นั่งรถรับส่ง (ไม่ต้องจองล่วงหน้า) จากสถานี JR อัปปิ โคเก็น ไปลงที่ "คราวน์พลาซ่า"
มาเล่นหิมะให้สนุกสุดๆ ในลานหิมะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย
https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/activities/418/
[อาหารรสเลิศ] วังโกะโซบะ (Wanko Soba): ของขึ้นชื่อของโมริโอกะ (Morioka) ที่เต็มไปด้วยความสนุก
คุณเคยเห็นในรายการวาไรตี้ของญี่ปุ่นไหม? วังโกะโซบะ (Wanko Soba) เป็นอาหารชนิดหนึ่งซึ่งพนักงานจะเติมโซบะขนาดพอดีคำใส่ในชามให้กับลูกค้าพร้อมกับส่งเสียงให้สัญญาณอย่างต่อเนื่อง และชามที่กินเสร็จแล้วจะถูกนำมาวางเรียงซ้อนกันตรงหน้าจนสูง โดยพนักงานจะไม่หยุดเสิร์ฟโซบะจนกว่าเราจะบอกให้หยุด!
วังโกะโซบะ (Wanko Soba) เป็นอาหารสำหรับ "การต้อนรับแขก (Omotenashi)" แบบอิวาเตะ หากรับประทาน 15 ชามก็จะเท่ากับโซบะสำหรับ 1 ที่ คุณสามารถลิ้มรสชาติได้หลากหลายแบบโดยใส่เครื่องปรุงต่างๆ เช่น ซาชิมิปลามากุโระ, นาเมโกะโอโรชิ (Nameko oroshi), วาซาบิ (Wasabi), สาหร่ายทะเล (Nori), งา, อิชโชสึเกะ (Isshozuke) และต้นหอม หากน้ำซุปจะเริ่มเต็มชามแล้วก็ไม่จำเป็นต้องก็ไม่ต้องซดให้หมดชาม คุณสามารถเทใส่ลงไปในชามบนโต๊ะได้ มาสนุกไปกับการกินตามจังหวะของคุณ การปิดฝาชามให้พนักงานเห็นจะเป็นสัญญาณบอกให้ "หยุด" เมื่อคุณรู้สึกอิ่มแล้ว กรุณาทานโซบะที่อยู่ในชามให้หมดก่อนแล้วค่อยปิดฝา
แต่พอไปจริงๆ แล้ว ก็ถูกพนักงานกระตุ้นให้กินอีกเรื่อยๆ จนกลายเป็นการแข่งขันว่าเราจะปิดฝาเร็วกว่าพนักงานหรือพนักงานจะเติมโซบะเร็วกว่ากัน สุดท้ายแล้วก็กินไปถึง 46 ชาม ซึ่งเท่ากับโซบะ 3 ทีเลยทีเดียว! เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมาก! สำหรับผู้ที่สนใจ ขอแนะนำให้ไปที่ร้านวังโกะโซบะชื่อดัง "อาซึมายะ (Azumaya)" ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีโมริโอกะ!
ร้านโซบะ อาซึมายะ (Azumaya)
- ที่อยู่: 2F 8-11 Morioka Station Street, Morioka City, Iwate Prefecture (ทางเดินใต้ดินเชื่อมกับสถานี ทางออก A1)
- เวลาทำการ: ช่วงกลางวัน 11:00-15:00, ช่วงเย็น 17:00-19:00L.O.
- การเดินทาง: เดินประมาณ 2 นาทีจากสถานี JR โมริโอกะ
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://wankosoba.jp
บริเวณอาโอโมริ
[สถานที่ท่องเที่ยว] "พิพิธภัณฑ์เนบุตะ วะ รัสเซะ (Nebuta Museum Wa Rasse)" ศูนย์แลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดอาโอโมริ (Aomori Prefecture's cultural and tourism exchange facility): เทศกาลฤดูร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโทโฮคุ
"เทศกาลเนบุตะของอาโอโมริ (Aomori’s Nebuta Festival)" จะถูกจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี กล่าวกันว่าเกิดจากการรวมตัวกันของการลอยโคมในแม่น้ำ (Toro nagashi/โทโรนากาชิ) ในเทศกาลทานาบาตะของจีน และ ประเพณี "เนมุรินากาชิ (Nemuri nagashi)" ของภูมิภาคโทโฮคุ
เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง จึงมีประเพณีในการขับไล่เนบุตะ (ความง่วง) ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำการเกษตรในฤดูร้อนที่นี่ และทำให้เกิดเทศกาลเนบุตะขึ้นมา โดยในทุกปีจะมีการสร้างโคมเนบุตะขนาดใหญ่มากกว่า 20 ตัว และจะนำไปแห่ในงานเทศกาลพร้อมกับการร้องเพลงและเต้นรำ
คุณสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเทศกาลเนบุตะ วิธีการสร้างโคม และชมโคมเนบุตะที่ได้รับรางวัลในแต่ละปีได้อย่างใกล้ชิดที่ "พิพิธภัณฑ์เนบุตะ วะ รัสเซะ (Nebuta Museum Wa Rasse)" ศูนย์แลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดอาโอโมริ (Aomori Prefecture's cultural and tourism exchange facility) นอกจากโคมเนบุตะจะเป็นดูเป็นทรงสามมิติ มีสีสันที่สดใส และดูทรงพลังแล้ว ยังบอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์และตำนานต่างๆ อีกด้วย และเนื่องจากสามารถชมได้จาก 360 องศา ทำให้ดูน่าสนใจมากเลย!
และคุณยังสามารถซื้อ เช่น เสื้อยืด กระเป๋าผ้า มาส์กลายเนบุตะ และสินค้าขึ้นชื่อของเนบุตะต่างๆ ที่ไม่เหมือนใครได้ที่ร้านขายของที่ระลึกอีกด้วย มีของจุกจิกน่าสนใจวางขายอยู่มากมายจนมือไม่ว่างเลย!
"พิพิธภัณฑ์เนบุตะ วะ รัสเซะ" ศูนย์แลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดอาโอโมริ (“Nebuta Museum Wa Rasse” Aomori Prefecture's cultural and tourism exchange facility)
- ที่อยู่: 1-1-1 Yasukata, Aomori City
- เวลาทำการ: 9:00-18:00 (เดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม 9:00-19:00), เปิดให้เข้าได้ถึง 30 นาทีก่อนเวลาปิด
- วันหยุด: วันที่ 31 ธันวาคม, วันที่ 1 มกราคม, วันที่ 9 สิงหาคม, วันที่ 10 สิงหาคม
- การเดินทาง: เดินประมาณ 1 นาทีจากสถานี JR อาโอโมริ
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: http://www.nebuta.jp/warasse/foreign/hantai.html
[กิจกรรม, ท่องเที่ยว] เพลิดเพลินกับฤดูหนาวด้วย "รถไฟเตาผิงสายซึการุ (Tsugaru Railway Line “Stove train”)" : ถ้าหากได้มาเยือนแดนหิมะของโทโฮคุแล้วละก็ห้ามพลาดรถไฟที่ไม่เหมือนใครขบวนนี้
"รถไฟสายซึการุ (Tsugaru Railway Line)" วิ่งจากสถานีโกะโชะงะวะระไปจนถึงสถานีนากาซาโตะโดยมีระยะทางรวมกว่า 20 กิโลเมตร จะใช้เวลาการวิ่งประมาณ 45 นาทีต่อเที่ยว ซึ่งเป็นรถไฟที่จะเปิดทำการในระยะเวลาจำกัด และยังมีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูกาลอีกด้วย ในฤดูร้อนจะเป็นรถไฟกระดิ่งลม ในฤดูใบไม้ร่วงจะกลายเป็นรถไฟจิ้งหรีดกระดิ่ง และในครั้งนี้เราขอแนะนำ "รถไฟเตาผิง (Stove Train)" ในฤดูหนาว
รถไฟเตาผิงจะเปิดทำการตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมในปีถัดไป จะมีเตาผิงติดตั้งอยู่ภายในรถไฟสไตล์เรโทร ทำให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ของหิมะจากหน้าต่างรถไฟระหว่างนั่งผิงไฟในฤดูหนาวท่ามกลางบรรยากาศอันโรแมนติกได้
นอกจากนี้ ยังมีปลาหมึกย่างขายภายในรถไฟอีกด้วย โดยปลาหมึกจะถูกย่างด้วยตาข่ายบนเตาผิงจนกว่าจะกรอบดูน่ากิน ถ้าหากได้มานั่งกินปลาหมึกย่าง เบนโตะ หรือดื่มสาเกบนรถไฟระหว่างเพลิดเพลินไปกับโลกสีขาวภายนอกหน้าต่างแล้ว รับรองว่าจะต้องเป็นความทรงจำอันสวยงามของการเดินทางอย่างแน่นอน!
นั่งรถไฟเตาผิงโบราณ พร้อมชมทิวทิศน์งดงามท่ามกลางหิมะขาวโพลน
https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/activities/421/
[สถานที่ท่องเที่ยว] พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์โอซามุ ดาไซ "ชาโยคัง" (Dazai Osamu Memorial Hall "Shayokan") : ไปเยี่ยมชมบ้านเกิดของนักเขียนวรรณกรรม "ชื่อดัง" ในญี่ปุ่น
โอซามุ ดาไซ (Dazai Osamu) (ชื่อจริง: Shuji Tsushima /ชูจิ สึชิมะ) เป็นนักเขียนวรรณกรรมของญี่ปุ่น ซึ่งได้สามารถผลงานชื่อดังมากมาย เช่น "สูญสิ้นความเป็นคน (No Longer Human/Ningen Shikkaku)" และ "อาทิตย์สิ้นแสง (The Setting Sun/Shayo)" และเนื่องจากเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครและชีวิตที่เป็นตำนานของเขาทำให้ถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์อีกด้วย
"ชาโยคัง (Shayokan) คฤหาสน์เก่าตระกูลสึชิมะ)" นั้นตั้งอยู่ที่คานางิ เมืองโกะโชะงะวะระ และเป็นบ้านเกิดของโอซามุ ดาไซ คฤหาสน์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปีเมจิที่ 40 (พ.ศ. 2450) นอกจากจะมีห้องรวมทั้งหมด 19 ห้องในชั้น 1 และชั้น 2 แล้ว ยังมีอาคารต่างๆ ภายในบริเวณบ้าน เช่น โกดังข้าวและสวนญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นคฤหาสน์หรูที่มีความกว้างถึง 680 สึโบ (2,248 ตารางเมตร)
นอกจากจะเปิดให้ชมพื้นที่ใช้สอยในบ้านของตระกูลสึชิมะได้แล้ว ยังมีการจัดแสดงรูปถ่ายการเติบโต สิ่งของที่เคยใช้ ผลงานวรรณกรรม และรูปถ่ายอันล้ำค่าของโอซามุ ดาไซภายในอาคารอีกด้วย คุณจะต้องเพลิดเพลินไปได้กับทุกส่วนแน่นอน
"ชาโยคัง" พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์โอซามุ ดาไซ (Dazai Osamu Memorial Hall "Shayokan")
- ที่อยู่: 412-1 Asahiyama, Kanagi-cho, Goshogawara City, Aomori Prefecture
- เวลาทำการ: เดือนเมษายนถึงกันยายน 9:00-17:30, เดือนตุลาคมถึงมีนาคม 9:00-17:00 (เปิดให้เข้าได้ถึง 30 นาทีก่อนเวลาปิด)
- การเดินทาง: เดินประมาณ 7 นาที จากสถานีคานางิ รถไฟซึการุ
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://dazai.or.jp/
[สถานที่ท่องเที่ยว] พิพิธภัณฑ์โกะโชะงะวะระ ทะชิเนปุตะ (Goshogawara Tachineputa Hall): โคมเนบุตะขนาดใหญ่สุดอลังการ
"โคมทะชิเนปุตะ (Tachineputa)" ของโกะโชะงะวะระ (Goshogawara) เป็นโคมเนบุจะที่มีความสูงถึง 23 เมตร และน้ำหนักกว่า 9 ตัน โดยที่จะมีการสร้างโคมเนบุตะขนาดใหญ่ที่พิพิธภัณฑ์โกะโชะงะวะระ ทะชิเนปุตะ (Goshogawara Tachineputa Hall) และนำไปแห่ขบวนที่งานเทศกาล
ยังมีการจัดแสดงนิทรรรศการต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์อีกด้วย ที่ชั้น 4 จะมีที่นั่งสำหรับชมภาพยนตร์ซึ่งอยู่ระหว่างโคมทะชิเนปุตะขนาดใหญ่ 2 ตัว รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกลุ้นระทึกระหว่างนั่งชมสารคดีแน่นอน นอกจากนี้ หากเดินตามเส้นทางวนรอบอาคารตั้งแต่ชั้น 1 ถึง ชั้น 6 แล้ว ก็จะสามารถเดินชมผลงานโคมทะชิเนปุตะในแต่ละปีที่ถูกจัดแสดงอยู่ในห้องจัดนิทรรศการได้จาก 360 องศาอีกด้วย การออกแบบที่ละเอียดและสีสันที่งดงามนั้นทำให้ดูสวยงามมากเลย!
พิพิธภัณฑ์โกะโชะงะวะระ ทะชิเนปุตะ (Goshogawara Tachineputa Hall)
- ที่อยู่: 506-10 Omachi, Goshogawara City, Aomori Prefecture
- เวลาทำการ: 9:00-17:00 (เปิดให้เข้าได้ถึง 30 นาทีก่อนเวลาปิด)
- การเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานี JR โกะโชะงะวะระ
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://tachineputa-official.jp/
【[อาหารรสเลิศ] โฮทาเทะโกะเซ็น (Hotate gozen): อาหารรสเลิศสุดหรูไม่เหมือนใครที่เต็มไปด้วยสารอาหาร
าวมุตสึอุดมไปด้วยแพลงก์ตอนพืชจำนวนมาก เนื่องจากมีกระแสน้ำเย็นที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หอยเชลล์ (โฮทาเทะ) จะถูกเลี้ยงด้วยแพลงก์ตอนเหล่านั้นในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับในธรรมชาติ
นอกจากหอยเชลล์ที่ผลิตในอาโอโมริจะมีความสดและมีรสชาติหวานแล้ว เนื้อยังหนาแน่นอีกด้วย หอยเชลล์เข้ากับอาหารทุกประเภท ตั้งแต่อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน ไปจนถึงอาหารตะวันตก และยังสามารถนำไปทำอาหารได้หลายแบบ ไม่ว่าจะนำไปกินสดๆ หรือนำไปทอด ย่างเนยด้วยเตาถ่าน หรือนำไปต้มก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้น แต่หอยเชลล์ยังเป็นวัตถุดิบที่มีคุณค่าสูง เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ เช่น โปรตีน วิตามินบี 12 และทอรีน และยังมีปริมาณไขมันต่ำด้วย
คุณสามารถลิ้มรส "โฮทาเทะโกะเซ็น (Hotate gozen)" ได้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น "โมโมโยะ (Momoyo)" ในเมืองอาโอโมริ โดยเมนูนี้จะมีอาหารที่ทำจากหอยเชลล์ถึง 6 ชนิด ได้แก่ ซาชิมิหอยเชลล์, หอยเชลล์ย่างเนยด้วยเตาถ่าน, ซุป, ของทอด, ของดอง และไข่ตุ๋นสุดอร่อย นอกจากจะรับประทานได้อย่างเต็มอิ่มแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับความอร่อยและรสสัมผัสที่แตกต่างกันของหอยเชลล์ในแต่ละเมนูได้อีกด้วย ต้องเป็นสวรรค์ของคนรักหอยเชลล์แน่นอน! นอกจากผู้ที่ชอบหอยเชลล์แล้ว หากคุณสนใจอาหารญี่ปุ่นแล้วละก็ต้องห้ามพลาดที่นี่!
ร้านอาหารญี่ปุ่น โมโมโยะ (Momoyo)"
- ที่อยู่: 2-3-11 Honmachi, Aomori City, Aomori Prefecture
- เวลาทำการ: ช่วงกลางวัน 11:00-14:00, ช่วงเย็น 17:00-22:00, ไม่มีวันหยุดประจำ
- การเดินทาง: นั่งรถแท็กซี่ประมาณ 5 นาทีจากสถานี JR อาโอโมริ
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.momoyo-aomori.com/
ในครั้งนี้เราได้แนะนำโครงการ "เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่... กิจกรรมสุดประทับใจ" โดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น เกี่ยวกับจังหวัดอิวาเตะและจังหวัดอาโอโมริในบริเวณโทโฮคุ ครั้งหน้าที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นด้วย อย่าลืมแวะมาเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์ของดินแดนหิมะด้วย! โปรดตรวจสอบเว็บไซต์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม!
ไปสู่โลกแห่งหิมะสีเงินโดยรถไฟเตาผิง
https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/tohoku/itineraries-3/
เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่... กิจกรรมสุดประทับใจ
Comments