เส้นทางแนะนำสำหรับทริป 5 วัน 4 คืน บริเวณชูบุ "เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่... กิจกรรมสุดประทับใจ" : ลิ้มรสปูสดและเพลิดเพลินกับหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวะโก (Shirakawa-go)

ภูมิภาคชูบุ (Chubu)ตั้งอยู่ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู (Honshu) ประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะสามารถชมวิวทะเลที่จังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa) และจังหวัดฟุคุอิ (Fukui) ที่ตั้งอยู่ในบริเวณชูบุได้แล้ว เนื่องจากทั้งสองจังหวัดหันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่นทำให้สามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลหลากหลายชนิดได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถชื่นชมทิวทัศน์ชนบทแบบโบราณได้ที่จังหวัดกิฟุ (Gifu) ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสี่ด้าน และยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวะโก (Shirakawa-go) ซึ่งสวยจนลืมหายใจกันเลยทีเดียว

โครงการ "เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่... กิจกรรมสุดประทับใจ" โดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น จะนำเสนอเส้นทางแนะนำของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้คุณสามารถสนุกสนานได้เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง ในครั้งนี้เราจะขอนำเสนอเส้นทางแนะนำสำหรับทริปเที่ยว อิชิคะวะ (Ishikawa), ฟุคุอิ (Fukui) และกิฟุ (Gifu) 5 วัน 4 คืน ประวัติศาสตร์และงานฝีมือดั้งเดิมของคานาซาวะ (Kanazawa), อนเซ็น ธรรมชาติ และทิวทัศน์ที่สวยงามของฟุคุอิ วัฒนธรรมและอาหารเลิศรสที่ไม่เหมือนใครของกิฟุ เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของทั้งสามจังหวัดนี้จะต้องดึงดูดใจผู้มาเยือนอย่างแน่นอน อย่าลืมเช็คแผนการเที่ยวที่เราจะแนะนำในครั้งนี้ หากคุณไม่เคยไปเที่ยวภูมิภาคชูบุมาก่อน หรือหากคุณอยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เมื่อได้มาเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง!

เส้นทางแนะนำ "ภูมิภาคชูบุ"

Day 1	สถานีโตเกียวหรือสถานีโอซาก้า ⇒ สถานีคานาซาวะ ⇒ พักแรมบริเวณสถานีคานาซาวะ
Day 2	สถานีคานาซาวะ ⇒ ร้านทองคำเปลวซาคุดะ ⇒ ตลาดโอมิโจ ⇒ คานาซาวะคิราระและนั่งรถลาก ⇒ พักแรมบริเวณสถานีคานาซาวะ
Day 3	สถานีคานาซาวะ ⇒ ชิราคาวะโกและบัสทัวร์เมืองฮิดะทะคะยะมะ ⇒ พักแรมบริเวณสถานีคานาซาวะ
Day 4	สถานีคานาซาวะ ⇒ สัมผัสประสบการณ์ซามูไรที่ชิจิมายะฮอนโป ⇒ สถานีคานาซาวะ ⇒ สถานีอะวะระอนเซ็น ⇒ โทจินโบ&เรือท่องเที่ยว ⇒ ยุเคะมุริโยโกะโจ ⇒ พักแรมที่อะวะระอนเซ็น
Day 5	สถานีอะวะระ ยุโนะมะจิ ⇒ สถานีฟุคุอิ ⇒ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์&สัมผัสประสบการณ์ขุดฟอสซิล ⇒ สัมผัสประสบการณ์ทำสมาธิที่วัดเอเฮจิ ⇒ พักแรมที่อะวะระอนเซ็น

ท่องโลกดุจความฝันในฤดูหนาว เที่ยวบนโลกที่เต็มไปด้วยหิมะ

https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/chubu/itineraries-6/

เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่... กิจกรรมสุดประทับใจ

https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/

ร้านทองคำเปลวซาคุดะ สาขาใหญ่: สัมผัสประสบการณ์ติดทองคำเปลวอันงดงาม

หากไปเที่ยวคานาซาวะ จังหวัดอิชิคะวะ คุณจะเห็นผลิตภัณฑ์มากมายที่ใช้ทองคำเปลว เช่น ครีมทามือผสมทองคำเปลว หรือซอฟต์ครีมที่ห่อด้วยทองคำเปลว อันที่จริงแล้ว ได้มีการเริ่มผลิตทองคำเปลวที่คานาซาวะตั้งแต่สมัยบุงโรคุ (ปีพ.ศ. 2135-2139) และในปัจจุบันก็กลายเป็นแหล่งผลิตทองคำเปลวที่มีชื่อเสียงซึ่งผลิตทองคำเปลวกว่า 99% ในญี่ปุ่น!

ทองคำเปลวที่ผ่านกระบวนการต่างๆ นั้นมีน้ำหนักเพียงแค่ 0.02 กรัม และมีความหนาเพียงแค่ 1/10,000 ม.ม. เท่านั้น ทำให้สามารถเรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะอันสวยงาม นอกจากจะสามารถซื้อผลิตภัณฑ์จากทองคำเปลวต่างๆ ได้ที่ "ร้านทองคำเปลวซาคุดะ สาขาใหญ่ (Gold Leaf Sakuda)" แล้ว คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ติดทองคำเปลวได้อีกด้วย หลังจากวาดลายที่ชอบลงไปบนทองคำเปลวแล้ว ก็ใช้คัตเตอร์ตัดอย่างปราณีต และนำไปติดบนไอเทมที่คุณเลือก เช่น กระจก กล่อง หรือจาน! ทุกครั้งที่เปลี่ยนมุมแสงสีทองจะส่องประกายแวววาวอย่างสวยงาม หากต้องการของที่ระลึกจากคานาซาวะที่ไม่ซ้ำใครต้องมาที่นี่!

ร้านทองคำเปลวซาคุดะ สาขาใหญ่ (Gold Leaf Sakuda)

ที่อยู่: 1-3-27 Higashiyama, Kanazawa City, Ishikawa Prefecture
การเดินทาง: นั่งรถบัสสายรถไฟโฮคุริคุ หรือ รถบัส JR จากสถานีคานาซาวะไปลงที่ "ฮาชิบะโช" และเดินประมาณ 5 นาที

ตลาดโอมิโจ (Omicho Market): มาลิ้มรสอาหารทะเลสดรสเลิศกัน

"ตลาดโอมิโจ (Omicho Market)" อยู่ห่างจากสถานีคานาซาวะไปประมาณ 15 นาทีโดยการเดิน ที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี โดยนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของคานาซาวะแล้ว ยังเป็น "ครัวของชาวบ้าน" ซึ่งผู้คนที่อาศัยอยู่ในคานาซาวะจะแวะมาซื้อกับข้าวและรับประทานอาหารกันด้วย ที่นี่มีร้านค้ากว่า 170 ร้านและมีสินค้าให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสด ผักผลไม้ในท้องถิ่น และอาหารแปรรูป ฯลฯ โดยอาหารทะเลสดที่สามารถรับประทานได้ที่ร้านเลยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ที่หน้าร้านจะมีปูและหอยเชลล์วางเรียงรายไว้อย่างสวยงาม แค่มองอย่างเดียวก็น้ำลายไหลแล้ว!

นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าจำนวนมากภายในตลาดที่ขายซูชิและข้าวหน้าปลาดิบด้วย หากคุณไปในช่วงอาหารกลางวันก็จะสามารถนั่งรับประทานได้อย่างสบายๆ เลย หากจะไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวแล้วละก็ ห้ามพลาดปูซุไว (Zuwai gani/Snow crab) ที่สามารถจับได้ในทะเลญี่ปุ่น! ปูซุไวตัวผู้ หรือ "ปูคะโน (Kano gani)" นั้นเป็นปูสายพันธุ์พิเศษที่สามารถจับได้ที่จังหวัดอิชิคะวะ นอกจากจะมีเนื้อที่แน่นแล้วยังมีรสชาติปูที่เข้มข้นอีกด้วย ส่วนปูตัวเมียสายพันธุ์เดียวกัน หรือ "ปูโคบะ (Kobako gani)" นั้น ถึงแม้จะตัวเล็กก็ตามแต่มีเนื้ออัดอยู่แน่น เมื่อแกะเปลือกแล้วก็จะเห็นว่ามีไข่อยู่มากมาย เนื่องจากสามารถจับได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ทำให้สามารถรับประทานได้เพียงแค่ประมาณ 10 วันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนธันวาคมของทุกปี ถ้าหากมีโอกาสได้มาต้องห้ามพลาด!

ตลาดโอมิโจ (Omicho Market)

ที่อยู่: 50 Kamiomi-cho, Kanazawa City, Ishikawa Prefecture
การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากสถานีคานาซาวะ

คานาซาวะคิราระ (Kanazawa Kirara): สวมชุดกิโมโนนั่งรถลาก และเดินชมย่านฮิงาชิชายะ (Higashi Chaya District)

บริเวณย่านฮิงาชิชายะ (Higashi Chaya District) นั้นยังคงบรรยากาศเก่าแก่และสถาปัตยกรรมในสมัยเอโดะ (ปีพ.ศ. 2146-2411) ไว้อยู่ ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเยือนคานาซาวะ หากคุณต้องการดื่มด่ำบรรยากาศของเมืองเก่าแห่งนี้อย่างเต็มที่แล้วละก็ ก่อนอื่นขอแนะนำให้เปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนแบบดั้งเดิมก่อนเลย ที่ร้าน "คานาซาวะคิราระ (Kanazawa Kirara)" มีชุดกิโมโนให้เลือกมากมาย ทำให้สามารถเลือกได้ตามอารมณ์ในวันนั้น โดยในครั้งนี้ได้ลองใส่ชุดกิโมโนสไตล์ "เรโทร" ซึ่งมีสีที่น่ารักและดูเรียบง่าย

นอกจากนี้ เราขอแนะนำคอร์สรถลากสำหรับผู้ที่อยากเพลิดเพลินไปกับเมืองมากยิ่งขึ้น ชะฟุ (Shafu) ซึ่งเป็นคนลากรถนั้นจะเป็นไกด์นำพาเที่ยว และเล่าประวัติศาสตร์และเรื่องราวเบื้องหลังของย่านฮิงาชิชายะให้ฟังด้วย หน้าต่างแบบ "โคชิมาโดะ (Koushimado)" ที่อาคารของรถลากนั้น ไม่เพียงแค่จะสวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยป้องกันอาชญากรรม และรักษาความเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย หากได้มานั่งรถลากเที่ยวชมเมืองและถ่ายรูประหว่างฟังคำอธิบายจากชะฟุแล้วละก็ รับรองว่าจะต้องเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจแตกต่างไปจากการเดินชมเมืองที่ผ่านมาแน่นอน

คานาซาวะคิราระ (Kanazawa Kirara)

ที่อยู่: 1-3-18 Higashiyama, Kanazawa City, Ishikawa Prefecture
การเดินทาง: นั่งรถบัสสายรถไฟโฮคุริคุ หรือ รถบัส JR จากสถานีคานาซาวะไปลงที่ "ฮาชิบะโช" และเดินประมาณ 5 นาที

สวม ”ชุดกิโมโน” เดินเล่นในเมืองโบราณ "คานาซาวะ(Kanazawa)" จังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa)“ กันเถอะ !

https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/activities/243/

ทัวร์รถบัสเที่ยวชิราคาวะโก (Shirakawa-go) และฮิดะทะคะยะมะ (Hida Takayama) แบบเช้าเย็นกลับ

หมู่บ้านชิราคาวะโก (Shirakawa-go) ที่จังหวัดกิฟุและหมู่บ้านโกะคะยะมะกัสโชซุคุริ (Gokayama Gassho-zukuri Village) ที่จังหวัดโทยามะ (Toyama) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 หลังคาบ้านของสองที่นี้เป็นหลังคามุงที่มีทรงแหลม ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงโดยทำให้หิมะตกลงมาจากหลังคาได้ง่ายในฤดูหนาว และเนื่องจากหลังคามีรูปร่างเหมือนมือที่กำลังพนมมือ จึงเรียกสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่า "กัสโชซุคุริ (Gassho-zukuri)" อาคารเก่าแก่ที่สืบทอดมากว่า 300 ปีนั้นยังคงได้รับการดูแลอย่างดีจากชาวบ้าน คุณสามารถสัมผัสช่วงเวลาอันเงียบสงบได้ที่ชิราคาวะโก บรรยากาศอันเงียบสงบที่สามารถสัมผัสได้เฉพาะที่นี่จะทำให้คุณลืมความวุ่นวายในชีวิตประจำวันไปได้เลย

ถึงแม้ว่าจะสามารถเดินทางมายังชิราคาวะโก (Shirakawa-go) ด้วยการขนส่งสาธารณะได้ก็ตาม แต่วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือทัวร์รถบัสแบบเช้าเย็นกลับ ซึ่งจะออกเดินทางจากสถานีคานาซาวะในช่วงเช้าและกลับไปยังสถานีคานาซาวะในตอนเย็น และเนื่องจากมีไกด์นำเที่ยวที่พูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วแนะนำสิ่งต่างๆ ระหว่างทัวร์ ดังนั้นถึงแม้จะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็สบายใจได้ หลังจากถึงที่ชิราคาวะโกแล้วก็จะมีเวลาเดินเที่ยวชมภายในหมู่บ้านได้สบายๆ และคุณยังสามารถไปชมวิวที่สวยงามจากจุดชมวิวซากปราสาทโอกิมาจิก่อนไปเดินเล่นในหมู่บ้านได้อีกด้วย ห้ามพลาดที่จะมาจารึกวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเหมือนดั่งรูปภาพนี้ไว้ในใจและความทรงจำของคุน

หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงแล้ว ก็จะเดินทางไปยัง "ฮิดะทะคะยะมะ (Hida Takayama)" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกิฟุ "ถนนซันมาจิโดริ (Sanmachi Street)" ซึ่งเป็นศูนย์กลางของทะคะยะมะนั้นเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองปราสาทและเมืองการค้าในสมัยเอโดะ ที่นี่เป็นพื้นที่ที่เกิดจากการรวมตัวของเมืองต่างๆ เช่น คามิอิจิโนะมาจิ (Kami ichi no machi) และคามิซังโนะมาจิ (Kami san no machi) และในปัจจุบันถูกขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์กลุ่มอาคารโบราณสำคัญแห่งชาติ หากคุณได้มาเดินเล่นแล้วละก็ อาคารต่างๆ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ที่นี่ก็จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในสมัยเอโดะเลยทีเดียว และเนื่องจากมีร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านขายงานฝีมือแบบดั้งเดิมและของที่ระลึก ไปจนถึงร้านอาหารและขนมขบเคี้ยว จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการซื้อของและรับประทานอาหารอีกด้วย เนื่องจากมีน้ำจากเทือกเขาฮิดะและสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ข้าวที่ปลูกในพื้นที่นี้มีคุณภาพที่ดี และสามารถนำไปผลิตเป็นสาเกคุณภาพดีได้ ดังนั้นวัฒนธรรมการผลิตสาเกญี่ปุ่นจึงฝังรากลึกอยู่ในพื้นที่นี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ มีโรงผลิตสาเกเก่าแก่ที่แขวน "สุงิดามะ (Sugidama)" ไว้หน้าร้านเรียงรายอยู่มากมาย และยังมีร้านที่สามารถลองชิมสาเกได้อีกด้วย คุณสนใจมาลองดื่มเปรียบเทียบรสชาติดูไหม?

ในตอนท้ายของทัวร์ (หรือก่อนที่จะถึงเส้นทางกลับบ้าน) (ไกด์ทัวร์จะพาไป) สามารถไปซื้อของฝากที่ร้านเซมเบ้ หรือร่วมกิจกรรมทำแพนเค้กก็ได้ ปิดท้ายวันสุดพิเศษด้วยของฝากและความทรงจำต่างๆ (มากมาย) และอิ่มท้องจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนที่จะถึงเวลาเดินทางกลับมายังคานาซาวะในตอนเย็น

ทัวร์รถบัสเที่ยวชิรากาวาโกะ (Shirakawa-go) ไปกลับใน 1 วัน 【ท่องเที่ยวญี่ปุ่น】

https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/activities/249/

ชิจิมายะฮอนโป (Shijimaya-Honpo): สัมผัสประสบการณ์ซามูไรและวัฒนธรรมของชาวบ้านที่คานาซาวะ จังหวัดอิชิคะวะ

ขอแนะนำชิจิมายะฮอนโป (Shijimaya-Honpo) หากคุณต้องการลิ้มรสอาหารพิเศษของคานาซาวะ และสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่คุณจะไม่มีวันลืม! "ชิจิมายะฮอนโป" เป็นร้านขายอาหารหมักที่ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2418 และจำหน่าย "คาบุระซูชิ (Kabura-zushi)" ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังห้ามพลาดเจลาโตที่ใช้ของดอง มิโซะ และสาเกคาสุอีกด้วย!

นอกจากนี้ ที่นี่ยังไม่ใช่แค่ร้านธรรมดาเท่านั้น เนื่องจากคุณมาซาฮิสะ ชิจิมายะซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลเป็นลูกหลานของซามูไรญี่ปุ่น จึงมีการเก็บรักษาดาบญี่ปุ่น 5 เล่มที่บรรพบุรุษของเขาได้คงเหลือเอาไว้ให้ที่บ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแห่งนี้อีกด้วย ดาบญี่ปุ่นซึ่งกล่าวกันว่าเป็นดาบที่คมที่สุดในโลกนั้นจะใช้เฉพาะส่วนที่ดีที่สุดของโลหะ และผ่านกระบวนการต่างๆ ขึ้นอยู่กับช่างฝีมือแต่ละคน เช่น การตียืดโลหะและการขัด ดาบญี่ปุ่นไม่ใช่เพียงแค่อาวุธที่เอาไว้สังหารศัตรูหรือป้องกันตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางศิลปะสูงอีกด้วย ถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปีก็ตาม ความงามที่ละเอียดอ่อนของลายดาบที่ช่างฝีมือได้จารึกไว้บนใบดาบนั้นก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ห้ามพลาดที่จะมาชมดาบญี่ปุ่นอันล้ำค่าที่สวยงามซึ่งถูกสืบทอดมาจากซามูไรทั้ง 5 เล่มอย่างใกล้ชิด!

ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์จะไปเปลี่ยนเป็นชุดฮากามะและแปลงร่างเป็นซามูไรหลังจากที่ฟังคุณชิจิมายะอธิบายและรับการอบรมแล้ว คุณยังสามารถถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับดาบอันล้ำค่าที่ถูกใช้จริงในสมัยก่อนได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถเรียนรู้วิธีการดึงดาบและการฟันดาบ และในตอนสุดท้ายคุณชิจิมายะซึ่งมี "อิไอโด (Iaido)" ระดับ 2 จะแสดงการตัดมากิวาระ (Makiwara) ซึ่งเป็นเสาที่ทำจากทาทามิด้วยดาบจำลองให้ดูอีกด้วย การแสดงสดที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นนั้นจะทำให้คุณลืมกระพริบตากันเลยทีเดียว!

ชิจิมายะฮอนโป สาขาใหญ่ (Shijimaya-Honpo)

ที่อยู่: 1-17-28 Yayoi, Kanazawa City, Ishikawa Prefecture
การเดินทาง: นั่งรถบัสสายรถไฟโฮคุริคุจากสถานี JR คานาซาวะไปลงที่ "นุมาตะโจ" และเดินประมาณ 5 นาที

ทัวร์สัมผัสวัฒนธรรมซามูไรและวัฒนธรรมพ่อค้าในจังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa) ประเทศญี่ปุ่น

https://www.japan.travel/th/th/japan-activities/activities/250/

โทจินโบ (Tojinbo) : นั่งเรือท่องเที่ยว และปีนหอคอยขึ้นไปชมทิวทัศน์สุดอลังกาลของโทจินโบจากมุมต่าง ๆ

"โทจินโบ (Tojinbo)" ซึ่งหันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่นนั้น เป็นจุดชมวิวที่มีแนวแตกเสาเหลี่ยมของหินแอนดีไซต์ไพรอกซีนซึ่งเรียงตัวอยู่ยาวกว่า 1 กิโลเมตร หน้าผาที่ดูเหมือนเสาปักลงไปในแนวตั้งฉากในทะเลนั้นมีความสูงมากกว่า 20 เมตร นอกจากจะรู้สึกลุ้นระทึกระหว่างเดินแล้ว คุณยังจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับ "งานฝีมือ" สุดอลังกาลของธรรมชาติอย่างแน่นอน หากต้องการสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของทัศนียภาพอันสวยงามแล้วเรายังขอแนะนำให้ชมจากหลายๆ มุมอีกด้วย คุณจะสามารถชมแนวแตกเสาเหลี่ยมได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้นหากนั่งเรื่องท่องเที่ยว นอกจากนี้ หากขึ้นไปบนโทจินโบทาวเวอร์ (Tojinbo Tower) และมองลงมา ก็จะสามารถชมวิวของโทจินโบและทะเลญี่ปุ่นได้พร้อมกันอีกด้วย แน่นอนว่าไม่ว่าจะดูจากมุมไหนก็ตาม คุณจะต้องหลงไหลในเสน่ห์และความงามของโทจินโบที่หาดูได้ยากอย่างแน่นอน

โทจินโบ (Tojinbo)

ที่อยู่: Tojinbo, Mikuni-cho, Sakai City, Fukui Prefecture
การเดินทาง: นั่งรถบัสเคฟุคุสายโทจินโบจากสถานี JR อะวะระอนเซ็น และไปลงที่ "โทจินโบ"

อะวะระอนเซ็น (Awara Onsen): พักแรมที่อนเซ็นเรียวกังสุดพิเศษ และแวะกินอาหารข้างทางที่ยุเคะมุริโยโกะโจ (Yukemuri Yokocho)

"อะวะระอนเซ็น (Awara Onsen)" ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองอะวะระทางตอนใต้ของจังหวัดฟุคุอินั้น เป็นที่รู้จักในนาม "โอคุซาชิกิของคันไซ" และมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี จุดเด่นของอะวะระอนเซ็นนั้น คือมีแหล่งอนเซ็นมากมายหลายสิบชนิด ซึ่งทำให้คุณสามารถสนุกสนานไปกับอนเซ็นที่มีคุณสมบัติและลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันไปในที่พักแต่ละแห่งได้ นอกจากนี้ ยังมี "อะชิยุ (Ashiyu)" ซึ่งเป็นอนเซ็นแช่เท้าให้ใช้บริการได้ฟรีอยู่ใกล้กับสถานีอะวะระ ยุโนะมะจิอีกด้วย นอกจากจะมีลักษณะเหมือนกับอนเซ็นเรียวกังแบบเก่าแก่ชวนให้คิดถึงแล้ว บางที่ยังมีอนเซ็นแช่เท้าถึง 5 ชนิด ขอรับรองว่าจะเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแน่นอน!

ในกรณีที่ไม่มีอาหารเย็นที่โรงแรม หรือว่าอยากสัมผัส "วัฒนธรรมยะไต" แบบญี่ปุ่นแล้วละก็ จะแนะนำให้ไปรับประทานอาหารที่ "ยุเคะมุริโยโกะโจ (Yukemuri Yokocho)" ที่นี่มีร้านยะไต (ร้านรถเข็น) ซึ่งขายอาหารท้องถิ่นของญี่ปุ่นถึง 10 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น คุชิอาเกะ (Kushiage) เทปปันยากิ (Teppanyaki) และโอเด้ง (Oden) การพูดคุยและสนุกสนานไปกับเพื่อนๆ ระหว่างรับประทานอาหารและดื่มสาเกท่ามกลางแสงโคมไฟสีแดงที่แกว่งไปมาที่มีบรรยากาศแบบสมัยโชวะนั้น ต้องสนุกมากๆ อย่างแน่นอน!

คุณสนใจมาพักที่เรียวกังที่สามารถสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่อะวะระอนเซ็น (Awara Onsen) ดูไหม? หากคุณสนใจ ขอแนะนำให้ไปที่ "Grandia Housen"!

นั้นมีห้องพักหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นห้องสุดน่ารักที่ตกแต่งด้วยธีมไดโนเสาร์ และห้องที่มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง ทำให้สามารถเพลิดเพลินได้ทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอน มื้อค่ำนั้นแวะไปกิน "เนื้อวัววากาซะ (Wakasa Beef)" ซึ่งเป็นเนื้อวากิวของจังหวัดฟุคุอิกัน เนื้อติดมันอย่างพอดี และเนื้อสัมผัสที่นุ่มละลายในปากนั้น จะต้องทำให้คุณต้องติดใจอย่างแน่นอน!

อะวะระอนเซ็นยะไตมุระ ยุเคะมุริโยโกะโจ (Awara Onsen Yataimura, Yukemuri Yokocho)

ที่อยู่: 1-207 Onsen, Awara City, Fukui Prefecture
การเดินทาง: ติดกับ "สถานีอะวะระ ยุโนะมะจิ" รถไฟเอจิเซ็น สายมิคุนิอะวะระ

Grandia Housen

ที่อยู่: 43-26 Funatsu, Awara City, Fukui Prefecture
การเดินทาง: นั่งรถรับส่งจากสถานี JR อะวะระอนเซ็น *จำเป็นต้องจองล่วงหน้า
URL: https://www.g-housen.co.jp/lg_en/access/

วัดเอเฮจิ (Eiheiji Temple): ฝึกนั่งสมาธิแบบเซนที่ไดฮงซังนิกายโซโต

วัดเอเฮจิ (Eiheiji Temple) ถูกสร้างโดยพระโดเก็นผู้ก่อตั้งนิกายโซโต โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับฝึกทำสมาธิแบบเซนในปีพ.ศ. 1787 วัดเอเฮจิเป็นศูนย์กลางของนิกายโซโต ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่อยู่ในระดับสูง และมีผู้คนเดินทางมาสักการะมากมาย ถึงแม้จะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ามาสักการะได้ก็ตาม ในปัจจุบัน วัดเอเฮจิก็ยังคงทำหน้าที่เป็นโรงฝึก "เซนโดโจ (Zen dojo)" ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับฝึกทำสมาธิแบบเซนของพระอีกด้วย นอกจากนี้ เพื่อเผยแพร่และให้ผู้คนรู้จักการทำสมาธิแบบเซนให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น วัดเอเฮจิยังเปิดให้สัมผัสประการณ์การทำสมาธิแบบเซนได้ 3 ครั้งในแต่ละวัน หลับตา หายใจสบายๆ นั่งในท่าที่ถูกต้อง และหันกลับย้อนไปมองตนเองในใจ คุณก็จะสามารถผ่อนคลายทั้งสภาพจิตใจและร่างกายได้อย่างแน่นอน!

หลังจากทำสมาธิเสร็จแล้วก็สามารถไปเข้าไปสักการะที่วัดได้โดยเดินไปตามทางเดิน สถานที่ส่วนใหญ่ของวัดนั้นถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เช่น อาคารบุตสึเดน (Butsuden) อาคารโฮโด (Hodo) และประตูซังมง (Sanmon) นอกจากนี้ เพดานของอาคารซันโชคาคุ (Sanshokaku) ยังถูกตกแต่งด้วยภาพวาด 230 ภาพอีกด้วย มีความสวยและอลังการมาก ต้องห้ามพลาด!

วัดเอเฮจิ (Eiheiji Temple)

ที่อยู่: 5-15 Shihi, Eiheiji-cho, Yoshida District, Fukui Prefecture
การเดินทาง: นั่งรถบัสเคฟุคุไปเอเฮจิมงเซนหรือเอเฮจิ จากสถานีเอเฮจิกุจิ รถไฟเอจิเซ็นสายคัตสึยามะเอเฮจิ และลงรถที่สถานีปลายทาง หลังจากนั้นเดินประมาณ 5 นาที

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ (Dinosaur Museum): เข้าไปผจญภัยในโลกของไดโนเสาร์ และมาลองขุดฟอสซิลกัน!

เนื่องจากมีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่เมืองคัตสึยามะ (Katsuyama) จังหวัดฟุคุอิเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นที่รู้จักในฐานะ "ดินแดนแห่งไดโนเสาร์" ไปทั่วประเทศ หากได้มาเยือนจังหวัดฟุคุอิแล้วละก็ ต้องห้ามพลาดไปตามหาไดโนเสาร์ที่พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แห่งนี้! พิพิธภัณฑ์ที่มีรูปทรงโดมนั้นถูกแบ่งออกเป็นแต่ละโซน โดยมีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 4,500 ตารางเมตร เนื่องจากไม่มีเสาภายในพื้นที่จัดนิทรรศการ จึงสามารถจัดแสดงกระดูก, ฟอสซิล, ตัวอย่าง และหุ่นจำลองของไดโนเสาร์ได้เต็มพื้นที่อันกว้างใหญ่ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับเข้าไปในโลกแห่งภาพยนตร์เลยทีเดียว

นอกจากนี้ หากคุณต้องการที่จะเพลิดเพลินไปกับโลกของไดโนเสาร์แล้วละก็ ขอแนะนำให้ออกไปผจญภัยที่ "สวนคัตสึยามะ เคียวริวโนะโมริ (Dinosaur Forest Park)" ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ พิพิธภัณฑ์! ภายในสวนจะมีรูปปั้นไดโนเสาร์ขนาดเท่าจริงจัดแสดงอยู่ 44 ตัว บางตัวยังสามารถขยับและร้องได้อีกด้วย! ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ รับรองว่าทุกคนจะต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน! นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรม "สัมผัสประสบการณ์ขุดฟอสซิล" ซึ่งจะได้ลองใช้อุปกรณ์เฉพาะทางในการตีหินที่ถูกขุดขึ้นมาจากสถานที่ขุดฟอสซิลจริง ถึงแม้จะไม่เจอฟอสซิลก็ตาม แต่ความคาดหวังและความตื่นเต้นระหว่างนั้นจะต้องกลายเป็นสมบัติที่สำคัญยิ่งกว่าฟอลซิลแน่นอน

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ จังหวัดฟุคุอิ (Fukui Prefectural Dinosaur Museum)

※มีกำหนดการปิดทำการถึงฤดูร้อนปีพ.ศ. 2566

ที่อยู่: Katsuyama Dinopark 51-11, Terao, Muraoka-cho, Katsuyama City, Fukui Prefecture
การเดินทาง: นั่งรถบัสกุรุรินชูบุโฮเมน จากสถานีคัตสึยามะ รถไฟเอจิเซ็นสายคัตสึยามะเอเฮจิ และลงรถที่ "เคียวริวฮาคุบุตสึคัง"

โครงการ "เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่... กิจกรรมสุดประทับใจ" โดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น จะแนะนำกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ในท้องถิ่นที่น่าสนใจ หากคุณกำลังรอคอยที่จะมาเยือนญี่ปุ่นอีกครั้งแล้วละก็ อย่าลืมตรวจสอบเว็บไซต์ของเรา!