อำเภอคุเระในจังหวัดฮิโรชิม่าเคยเป็นท่าเรือของอดีตกองทัพเรือญี่ปุ่น และปัจจุบันเป็นฐานทัพของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้ เมืองจึงมีจุดที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือและถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ญี่ปุ่นหลายเชื่อ เช่นเรื่อง "Umizaru" (海猿) และ "แค่วาดฝันให้โลกสวย" (この世界の片隅に / In This Corner Of The World) ฉากหลังที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของท่าเรือและทิวทัศน์ที่มีเรือดำน้ำทรงพลังเป็นพร็อพประกอบนั้นก็ยอดเยี่ยมมาก และคุณสามารถถ่ายภาพที่ดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครได้! ครั้งนี้เราจะมาแนะนำจุดที่สามารถถ่ายภาพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองท่านาวิกโยธินคุเระแห่งนี้กันค่ะ
อำเภอคุเระในจังหวัดฮิโรชิม่าคือ? พบความยิ่งใหญ่ของ “อู่ทหารเรือคูเระ”!
ว่ากันว่าการพัฒนาเมืองคุเระให้เป็นฐานะท่าเรือทางทหารนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1889 หลังมีการก่อตั้งฐานทัพเรือคุเระ (呉鎮守府 / Kure Chinjufu) ขึ้นเพื่อคอยกำกับควบคุมกองทัพเรือ "อู่ทหารเรือคูเระ" (呉海軍工廠 / Kure Kaigun Kosho) ก่อตั้งขึ้นในปี 1903 ได้สร้างเรือรบที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น เรือประจัญบาน "ยามาโตะ" (大和 / Yamato) และเรือบรรทุกเครื่องบิน "อาคากิ" (赤城 / Akagi) ค่ะ ในเวลานั้น คุเระก็มีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมือง "ท่าเรือทหารเรือที่ดีที่สุดในโลกตะวันออก" และ "อู่ทหารเรือที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น" จนถึงระดับที่เรียกว่า "สองโรงงานอาวุธใหญ่ของโลก" ครองตำแหน่งคู่กับ "ครุปป์" (Krupp) ของเยอรมนี
ปัจจุบัน อำเภอคุเระเต็มไปด้วยจุดที่บอกเล่าเรื่องราว ณ สมัยนั้น เช่น พิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติของท่าเรือทหารเรือและเรือประจัญบานของจริง เป็นต้นค่ะ
"Alley Karasukojima" เป็นจุดที่คุณสามารถถ่ายภาพเรือรบที่ทรงพลังได้จากระยะใกล้!
"Alley Karasukojima" (アレイからすこじま) เป็นสวนสาธารณะแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่คุณสามารถชมเรือดำน้ำที่ยังใช้งานจริงอยู่ได้จากระยะใกล้ สามารถถ่ายภาพสวย ๆ พร้อมฉากหลังเป็นอาคารอิฐที่อยู่รอบๆ อดีตอู่ทหารเรือและเครนยกตอร์ปิโดเก่าได้! ที่ฐานทัพป้องกันตนเองทางทะเลคุเระซึ่งอยู่ถัดกันไปนั้น เรือจะเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันอาทิตย์ และสามารถถ่ายรูปเรือที่จอดทอดสมออยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้ หากคุณทำการจองล่วงหน้า คุณยังสามารถไปทัวร์ภายในเรือได้ด้วยค่ะ
ที่พิพิธภัณฑ์ JMSDF Kure Museum (海上自衛隊呉史料館 / Kaijo Jieitai Kure Shiryo-kan ชื่อเล่นว่า พิพิธภัณฑ์วาฬเหล็ก) ก็มีเรือดำน้ำของจริงจัดแสดงอยู่ด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์ มีการจัดแสดงที่เกี่ยวข้องกับเรือกวาดทุ่นระเบิด (* เรือรบสำหรับกำจัด "ทุ่นระเบิด" - กับระเบิดในทะเล) และเรือดำน้ำ นอกจากนี้ คุณสามารถเข้าไปในเรือดำน้ำ "อากิชิโอะ" (あきしお / Akishio) ที่ปลดระวางแล้วและทัศนศึกษาได้ค่ะ
ที่พิพิธภัณฑ์ทางทะเลคุเระ (呉市海事歴史科学館 / Kure Maritime Museum ชื่อเล่นว่า พิพิธภัณฑ์ยามาโตะ) แบบจำลองของเรือประจัญบาน "ยามาโตะ" ที่สร้างขึ้นในอัตราส่วน 1/10 ก็ถูกจัดแสดงอยู่ แม้ว่ามันจะเป็นโมเดลจำลอง แต่เรือประจัญบาน "ยามาโตะ" ขนาด 26.3 ม. ก็ยังใหญ่น่าประทับใจค่ะ!
บทความที่เกี่ยวข้อง
สัมผัสบรรยากาศท่าเรือจาก "Rekishi no Mieru Oka Park"
ขอแนะนำให้คุณชมวิวแบบพาโนรามาของคุเระจากสวนสาธารณะที่เรียกว่า "Rekishi no Mieru Oka Park" (歴史の見える丘 - สวนเนินเขาที่มองดูประวัติศาสตร์) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ เดินประมาณ 20 นาทีจาก "พิพิธภัณฑ์ยามาโตะ" จากเนินเขานี้ มาถ่ายภาพอดีตฐานทัพเรือคุเระ ซากท่าเรือที่สร้างเรือประจัญบานยามาโตะ โรงงาน และอื่น ๆ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ช่องแคบคุรุชิมะและภูเขาต่าง ๆ ในชิโกกุได้ด้วยค่ะ
เมื่อปีนขึ้นเหนือ "บันไดนับ 200 ขั้นแห่งเรียวโจ" ทิวทัศน์บ้านเรือนที่เรียงรายอยู่เหนือเนินก็จะปรากฏ!
"บันไดนับ 200 ขั้นแห่งเรียวโจ" (両城の二百階段 / Ryojo no Ni-hyaku Kaidan) หมายถึงบันไดเกือบ 260 ขั้นบนเนินทางลาดของเรียวโจในอำเภอคุเระ บันไดที่ยาวและสูงชันนี้เคยถูกใช้โดยนักดำน้ำและนักดับเพลิงเพื่อการฝึกร่างกาย นอกจากนี้ยังปรากฏในฉากการฝึกในภาพยนตร์เรื่อง "Umizaru" ทำให้เป็น "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับแฟน ๆ ของเรื่อง Umizaru" กันเลยค่ะ
นอกจากนี้ ตั้งแต่ราวปี 1890 เมื่อฐานทัพเรือได้ถูกก่อตั้งขึ้น จำนวนประชากรของอำเภอคุเระก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และบ้านสำหรับเจ้าหน้าที่ทหารเรือจำนวนมากถูกสร้างขึ้นบนเนินลาดใกล้ ๆ บันไดนี้ มีการตกแต่งภายนอกแบบสไตล์โชวะที่ผสมผสานองค์ประกอบสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก ทิวทัศน์มุมกว้างของท่าเรือคุเระจะรอคุณอยู่ที่ด้านบนสุดของบันได! ดูเหมือนว่าหลายคนยังมาที่นี่เพื่อชมวิวกลางคืนกันด้วยค่ะ
สะพานออนโดสีแดงเข้มที่สวยงาม
สะพานออนโด (音戸大橋 / Ondo Bridge) เป็นสะพานถนนที่เชื่อมระหว่างเมืองออนโดในอำเภอคุเระและเกาะคุระฮาชิ ความตัดกันของสะพานโค้งสีแดงกับทะเลสีฟ้าดูทรงพลังมาก อาจจะจะถ่ายรูปสวยได้เลยนะเนี่ย!
เนื่องจากสะพานนี้ต้องมีความสูงพอให้เรือขนาดใหญ่ลอดใต้สะพานได้ ทั้งสองด้านของสะพานจึงมีรูปร่างเป็นโค้งแบบ "สองชั้นครึ่ง" ซึ่งในสมัยนั้นก็ดึงดูดความสนใจอย่างมากในฐานะสะพานเกลียว (สะพานวงแหวน) ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกชวนชมสีชมพูและสีขาวบานสะพรั่งบนถนนเกลียวด้านฝั่งออนโด จึงขอแนะนำให้ไปช่วงโกลเด้นวีค ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการชมดอกไม้เหล่านี้ทุกปีค่ะ
ไฮกามิเนะ หนึ่งในสามวิวยามค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมในชูโกกุและชิโกกุ!
ที่ระดับความสูง 737 ม. ยอดเขาไฮกามิเนะ (灰ヶ峰 / Haigamine) มีจุดชมวิวที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพยามค่ำคืนแบบ 360 องศาของคุเระ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมของชูโกกุและชิโกกุได้ค่ะ ด้วยทิวทัศน์มุมกว้างของตัวเมืองคุเระ ไฟถนนที่ดูเหมือนอัญมณี เรือที่จอดอยู่ในท่าเรือคุเระ และหมู่เกาะที่สวยงามที่ลอยอยู่ในทะเลในเซโตะจากบนยอดเขา ทำให้ที่นี่เป็นจุดโรแมนติกอย่างแท้จริงในคุเระค่ะ!
เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพของเกาะและทะเลตามแนวเส้นทางข้ามทะเล "อาคินาดะโทบิชิมะไคโด"!
"อาคินาดะโทบิชิมะไคโด" (安芸灘とびしま海道 / Akinada Tobishima Kaido) เป็นเส้นทางที่เชื่อมจากเกาะชิโมคามาการิในอำเภอคุเระ ไปยังเกาะโอคามุระในอำเภออิมาบาริ จังหวัดเอฮิเมะ ด้วยสะพาน 7 สะพาน คุณสามารถถ่ายภาพท้องฟ้าสีครามและท้องทะเลที่สวยงามในวันที่มีแดดดีได้ ดังนั้นมาเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของทะเลในเซโตะด้วยการปั่นจักรยานหรือขับรถเที่ยวทัวร์เกาะทั้ง 7 กันได้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
การเดินทางไปยังอำเภอคุเระ
จากอำเภอฮิโรชิมะไปยังอำเภอคุเระนั้น จะใช้เวลาประมาณ 32 นาทีโดยรถไฟด่วน (Akiji Liner) บนสาย Kure จากสถานี JR Hiroshima หากคุณเดินทางตรงจากสนามบินฮิโรชิมะ จะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยรถบัสลีมูซีน อย่างไรก็ตาม หากต้องการไปเที่ยวย่านใจกลางเมืองคุเระด้วยแล้วละก็ เราขอแนะนำให้ใช้บัตรผ่าน "1 Day Kure Pass" ค่ะ!
Comments