ยามากาตะ ถ้าไปเที่ยวที่นี่ ไปทำอะไรดี? สิ่งน่าสนใจ ของอร่อย และแหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัดยามากาตะ

ด้วยความที่จังหวัดยามากาตะ (山形 / Yamagata) อยู่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ที่นี่จึงยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม เต็มไปด้วยวัดวาอารามโบราณ อาหารที่แสนอร่อย และโรงอาบน้ำร้อนดั้งเดิมค่ะ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาจากกรุงโตเกียวหรือโอซาก้า จะมีความรู้สึกเหมือนตนได้เดินทางเข้าสู่แหล่งธรรมชาติที่สงบแห่งยามากาตะ ราวกับกำลังเดินทางจากความมืดมิดยามค่ำคืนไปสู่แสงสว่างเวลากลางวันเลยค่ะ

เนื่องจากจังหวัดนี้เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก ดังนั้นความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของคนในเมืองนี้จึงไม่ดีนักค่ะ ฉะนั้นจะเป็นการดีหากคุณเดินทางมาเที่ยวที่เมืองนี้กับคนที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ หรือไม่ก็นำหนังสือภาษาญี่ปุ่นติดตัวขณะไปเที่ยวด้วยจะดีกว่าค่ะ

เกี่ยวกับยามากาตะ

ยามากาตะเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมทะเลญี่ปุ่นในภูมิภาคโทโฮคุ พื้นที่ถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ได้แก่ โอคิทามะ (置賜 / Okitama) มุรายามะ (村山 / Murayama) โมกามิ (最上 / Mogami) และโชไน (庄内 / Shonai) นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งน้ำพุร้อน มีแหล่งน้ำพุร้อนมากถึง 229 แห่ง ที่เป็นที่รู้จักกันมากก็มีกินซังออนเซ็น (銀山温泉 / Ginzan Onsen) สะโอออนเซ็น (蔵王温泉 / Zao Onsen) และเท็นโดออนเซ็น (天童温泉 / Tendo Onsen) เป็นต้นค่ะ

ถ้าไปที่ยามากาตะ ไปเที่ยวที่ไหนดี? แหล่งท่องเที่ยวที่แนะนำ

กินซังออนเซ็น (銀山温泉 / Ginzan Onsen)

กินซังออนเซ็นเป็นเมืองออนเซ็นประวัติศาสตร์ที่สวยงาม ซ่อนตัวอยู่กลางขุนเขาแห่งยามากาตะ นอกเหนือจากเรียวกังสไตล์โมเดิร์นอย่างฟูจิยะเรียวกัง โรงแรมอื่นๆ ที่เหลือล้วนเป็นอาคารไม้สามสี่ชั้นที่เห็นแล้วชวนให้ระลึกถึงสมัยก่อนที่แสนเรียบง่าย ด้วยถนนหนทางที่แคบเรียวจึงทำให้การเที่ยวชมจุดศูนย์กลางของเมืองนี้ทำได้โดยการเดินเท่านั้นค่ะ ในยามค่ำคืน เมืองนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายลึกลับ และมีเพียงแสงไฟที่ส่องสว่างจากหน้าต่างโรงแรมและโคมไฟตามท้องถนน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้วางแผนว่าจะมาพักที่เรียวกัง ที่นี่ก็มีโรงอาบน้ำสาธารณะอยู่สองที่ในราคาประมาณ 500 เยนให้คุณไปแช่ได้ นอกจากนี้เรียวกังหลายแห่งยังเปิดให้บริการโรงอาบน้ำแก่นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เข้าพักอีกด้วย ให้สามารถมาใช้ห้องอาบน้ำระหว่างวันได้ โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายค่ะ

เดวะซันซัง (出羽三山 / Dewa Sanzan)

สามภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์แห่งจังหวัดยามากาตะเป็นที่รู้จักกันดีในนาม เดวะซันซัง (ภูเขาทั้งสามแห่งเดวะ) ภูเขาแต่ละลูกจะมีศาลเจ้าตั้งอยู่ที่ยอดเขา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเกิด การตาย และการเกิดใหม่ ตามลำดับ ชื่อของภูเขาแต่ละลูกมีชื่อว่า ฮากุโระซัง (羽黒山 / Haguro-san) กัสซัง (月山 / Gas-san) และยูโดโนะซัง (湯殿山 / Yudono-san) ในช่วงฤดูหนาวภูเขากัสซังและยูโดโนะซังจะไม่เปิดให้บริการแก่นักปีนเขาค่ะ

วัดยามาเดระ (山寺 / Yamadera)

วัดยามาเดระก่อตั้งขึ้นในปีค.ส. 860 ตั้งอยู่บนภูเขาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอเมืองยามากาตะ บริเวณเชิงเขาอยู่ห่างจากสถานีรถไฟยามาเดระ (Yamadera) เพียง 5 นาที พื้นที่รอบๆ มีร้านค้า ร้านอาหาร และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ หนึ่งในสิ่งที่สร้างชื่อเสียงของวัดยามาเดระนั้นก็มาจากการมาเยี่ยมชมของกวีไฮกุที่ชื่อ มัตสึโอะ บะโช (松尾芭蕉 / Matsuo Basho) ที่เขียนบทกวีเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณนี้ในระหว่างที่มาพักอยู่ที่วัดค่ะ

ภูเขาสะโอ (蔵王山 / Mount Zao)

ภูเขาสะโอเป็นภูเขาที่เป็นแนวพรมแดนระหว่างจังหวัดยามากาตะและจังหวัดมิยางิ ในช่วงฤดูร้อนภูเขาแห่งนี้มีทะเลสาบปล่องภูเขาไฟโอคามะ และมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยว และในฤดูหนาวเมืองน้ำพุร้อนใกล้ๆอย่างสะโอออนเซ็นก็จะกลายร่างเป็นสกีรีสอร์ทค่ะ

สะโอออนเซ็นตั้งอยู่บนความสูง 880 เมตรที่เนินเขาของภูเขาสะโอ เป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำที่นี่มีความเป็นกรดสูง ด้วยค่า PH เกือบ 1 แต่น่าเสียดายที่การแช่น้ำร้อนกลางแจ้งไม่เปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว ซึ่งการแช่น้ำร้อนกลางแจ้งนี้ถือเป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ในฤดูที่มีอากาศอบอุ่นเลยค่ะ

ของอร่อยและของดังประจำจังหวัดยามากาตะ

ผลไม้ต่างๆอย่างเชอร์รี่และลูกแพร์ฝรั่ง

จังหวัดยามากาตะเป็นพื้นที่ผลิตผลไม้ที่มีชื่อเสียงจนถูกเรียกว่า "อาณาจักรผลไม้" เป็นพื้นที่เพาะปลูกเชอร์รี่และลูกแพร์ฝรั่ง (พันธุ์ La France) ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ภายในจังหวัดมีจุดที่คุณสามารถไปทำกิจกรรมเก็บผลไม้ทานที่เรียกว่า "ฟรุ๊ตส์การิ" (フルーツ狩り / Fruits Gari การไปหาเก็บผลไม้จากต้นทานในไร่ภายในเวลาที่จำกัด) ได้

ทำในหม้อขนาดใหญ่ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 เมตร! งานอิโมนิไค (芋煮会 / Imonikai) แห่งจังหวัดยามากาตะ

ในยามากาตะนั้น พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีการจัดงานอิโมนิไค (芋煮会 / Imonikai งานต้มมัน) ขึ้นที่ที่ราบริมน้ำ อิโมนิ (芋煮 ต้มมัน) เป็นอาหารแบบหม้อไฟที่ทำจากการเคี่ยวมัน (ซาโตอิโมะ) เนื้อวัว บุก (คอนยัคคุ) และต้นหอม (เนกิ) และอื่นๆรวมกัน ในอำเภอเมืองยามากาตะจะมีการจัดงาน "นิปป้อนอิจิโนะอิโมนิไค" (日本一の芋煮会 / Nippon-ichi no Imoni-kai งานต้มมันอันดับหนึ่งแห่งญี่ปุ่น) ขึ้น และการเคี่ยวในหม้อขนาดใหญ่ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 ม. ก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของงานนี้ค่ะ

งานเทศกาลประเพณีในยามากาตะ

เทศกาลฮานะกาสะ มัตสึริ (花笠まつり / Hanagasa Matsuri)

หนึ่งในเทศกาลที่สวยงามที่สุดในยามากาตะและในประเทศญี่ปุ่นก็คือ เทศกาลฮานะกาสะมัตสึริ ซึ่งจะมีนักระบำกว่า 10,000 คนออกมาเต้นระบำรำหมวกที่ประดับไปด้วยดอกไม้ค่ะ เทศกาลนี้มีผู้เข้าชมถึงกว่าหนึ่งล้านคน เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1964 โดยปกติการแสดงจะมีท่าระบำกว่า 100 ท่าค่ะ งานเทศกาลนี้จัดขึ้นในวันที่ 5-7 สิงหาคมค่ะ

ขบวนการแสดงนี้จะเริ่มจากโทกามาชิ (Tokamachi Corner) ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR Yamagata ไปประมาณสิบนาทีด้วยการเดิน แล้วเคลื่อนขบวนมายังหอประชุม Bunshokan (文翔館)

เทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติยามากาตะ (山形国際ドキュメンタリー映画祭 / Yamagata International Documentary Film Festival)

อำเภอเมืองยามากาตะยังเป็นสถานที่ที่มีการจัดเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติแห่งแรกในเอเชีย เป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นทุกสองปี โดยจัดในช่วงเดือนตุลาคมเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ และในปี 2017 เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 5-12 ตุลาคม และจะมีนักสร้างภาพยนตร์อิสระจำนวนมากที่มางานเทศกาลนี้ เหมือนเป็นโอกาสที่เหล่าบรรดาศิลปินชาวเอเชียและชาวตะวันตกจะมาพบปะเพื่อชื่นชมผลงานของกันและกันค่ะ

วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปยังยามากาตะ

มีวิธีเดินทางอยู่ 2 ทาง คือ รถไฟชินคันเซ็นและเครื่องบินค่ะ สำหรับชินคันเซ็นจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงจากสถานี Tokyo ไปยังสถานี Yamagata สำหรับเครื่องบิน ให้เลือกสนามบินยามากาตะ (Yamagata Airport) หรือสนามบินโชไน (Shonai Airport) ผู้ที่ต้องการไปยังอำเภอเมืองยามากาตะ โยเนซาวะ เท็นโด และสะโอควรเลือกไปที่สนามบินยามากาตะ ส่วนผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังสึรุโอกะและซากาตะควรไปลงที่สนามบินโชไนค่ะ