จังหวัดฟุกุชิมะซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของภูมิภาคโทโฮคุ นอกเหนือจากหมู่บ้านโบราณ "โออุจิจูกุ" ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านหลังคามุงจากหลักสามแห่งของญี่ปุ่นแล้ว "ปราสาทไอสึวากามัตสึ" ที่มีหลังคากระเบื้องสีซากุระที่น่าประทับใจตัดกับผนังปราสาทสีขาวก็เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดค่ะ มีปราสาท 3 แห่งในจังหวัดฟุกุชิมะที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งใน "100 ปราสาทขึ้นชื่อแห่งญี่ปุ่น" ได้แก่ ปราสาทไอสึวากามัตสึ ปราสาทชิราคาว่าโคมิเนะ และตัวเอกของบทความครั้งนี้ "ปราสาทนิฮงมัตสึ" ค่ะ
หนึ่งใน 100 ปราสาทขึ้นชื่อแห่งญี่ปุ่น "ปราสาทนิฮงมัตสึ"
"ปราสาทนิฮงมัตสึ" (二本松城 / Nihonmatsu-jo) ตั้งอยู่ในอำเภอนิฮงมัตสึซึ่งอยู่ระหว่างอำเภอฟุกุชิมะและอำเภอโคริยามะ ว่ากันว่าชื่อสถานที่นี้ถูกเปลี่ยนให้เป็นนิฮงมัตสึ (แปลว่าสนสองต้น) เพราะมีการย้ายต้นสนสองต้นของ "ปราสาทชิโอโนะมัตสึ" (四本松城 / Shionomatsu-jo ปราสาทสนสี่ต้น) ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงมายังสถานที่แห่งนี้ค่ะ
ปราสาทนิฮงมัตสึยังเป็นที่รู้จักในชื่อคาสุมิกาโจ (霞ヶ城 / Kasumigajo ปราสาทในหมอก) หรือ ปราสาทชิราฮาตะ (白旗城) เพราะสร้างขึ้นที่ยอดเขาชิราฮาตากามิเนะ (白旗ヶ峰 / Shirahatagamine) เป็นปราสาทแบบฮิรายามะ (ปราสาทที่สร้างบนพื้นที่ราบ) ไม่เพียงแค่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 ปราสาทขึ้นชื่อแห่งญี่ปุ่น" เท่านั้น แต่ที่ตั้งของปราสาทนิฮงมัตสึยังถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถานระดับประเทศในฐานะ "อุทยานคาสุมิกาโจ" (霞ヶ城公園 / Kasumigajo-koen) มีต้นซากุระประมาณ 2,500 ต้นที่ปลูกในอุทยานคาสุมิกาโจ และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 จุดชมซากุระขึ้นชื่อ" ด้วยค่ะ
ปราสาทที่ถูกโชคชะตาเล่นตลก
ปราสาทนิฮงมัตสึมีดอกซากุระที่สวยงาม แต่ประวัติศาสตร์ของปราสาทก็ไม่ได้งดงามแบบซากุระเสียทีเดียวค่ะ
ประวัติของปราสาทนิฮงมัตสึสามารถสืบย้อนไปถึงสมัยมุโรมาจิ (1336-1573) เมื่อปราสาทถูกสร้างขึ้นโดย ฮาตาเกะยามะ มิตสึยาสุ (畠山満泰 / Hatakeyama Mitsuyasu) ผู้ครองแคว้นรุ่นที่ 4 ของแคว้นนิฮงมัตสึภายใต้ตระกูลฮาตาเกะยามะ มีสองทฤษฎีเกี่ยวกับปีที่สร้าง ได้แก่ ปี ค.ศ. 1414 และระหว่างปี ค.ศ. 1441-1443 หลังจากสร้างปราสาทแล้ว ก็ได้รับการสืบทอดให้เป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลฮาตาเกะยามะจนถึงรุ่นที่ 7 และในปี ค.ศ. 1586 ปราสาทก็ถูกโจมตีโดยขุนพลชื่อดังจากโทโฮคุ ดาเตะ มาซามุเนะ (伊達政宗 / Date Masamune) และถูกโค่นล้ม ปราสาทนิฮงมัตสึจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของแคว้นเซนไดและตระกูลดาเตะ ตั้งแต่นั้นมาก็ถูกปกครองโดยตระกูลยกาโมและตระกูลอุเอสึงิ
ซากปราสาทที่งดงามในปัจจุบันเกิดจากการบูรณะครั้งใหญ่โดย นิวะ มิตสึชิเงะ (丹羽光重 / Niwa Mitsushige เข้ามาในปี 1643) ซึ่งใช้เวลากว่า 10 ปี ด้วยการปรับปรุงใหม่นี้ ทิวทัศน์ของเมืองปราสาทนิฮงมัตสึจึงได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น และการปกครองของตระกูลนิวะก็กินเวลานานถึง 200 ปี การปกครองโดยตระกูลนิวะนั้นยาวนานที่สุดและเป็นผู้ครองปราสาทคนสุดท้ายด้วยค่ะ
โศกนาฏกรรมของนิฮงมัตสึโชเน็นไต
ในสงครามโบชิน ค.ศ. 1868 แคว้นต่าง ๆ รวมถึงแคว้นนิฮงมัตสึและแคว้นไอสึ ได้ร่วมรบในระดับแนวหน้าและก่อตั้ง "พันธมิตรโออุเอ็ตสึเรปปัน" (奥羽越列藩同盟 / Ouetsu Reppan Domei พันธมิตรขากแคว้นต่าง ๆ ในดินแดนมุตสึ ดินแดนเดวะ และดินแดนเอจิโก) เพื่อต่อต้านกองกำลังของรัฐบาลอิชิน ในบรรดา "พันธมิตรโออุเอ็ตสึเรปปัน" "นิฮงมัตสึโชเน็นไต" (二本松少年隊 / Nihonmatsu Shonentai กองร้อยเยาวชนนิฮงมัตสึ) เป็นกลุ่มเด็กผู้ชายที่มารวมตัวกันเพื่อรบในยุทธการนิฮงมัตสึ (二本松の戦い / Battle of Nihonmatsu) เช่นเดียวกับเบียกโคไต (白虎隊 / Byokkotai กองร้อยพยัคฆ์ขาว) ในไอสึวากามัตสึ สมาชิกทุกคนเป็นเด็กชายอายุต่ำกว่า 18 ปี อย่างไรก็ตาม อายุเฉลี่ยของนิฮงมัตสึโชเน็นไตนั้นต่ำกว่าเบียกโคไต และสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 12 ปีเท่านั้นค่ะ
ในเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2411 กองกำลังของรัฐบาลชุดใหม่ได้บุกโจมตีปราสาทนิฮงมัตสึ ด้วยกำลังทหารในปราสาทเพียง 1,000 นาย ปราสาทถูกทะลวงในเวลาเพียงครึ่งวัน เทียบไม่ได้กับกองทัพรัฐบาลชุดใหม่ที่มีทหารประมาณ 7,000 นาย ในยุทธการนิฮงมัตสึนี้ ตัวปราสาทส่วนใหญ่ รวมทั้งประตูมิโนวามอน (箕輪門 / Minowamon) ถูกไฟไหม้เสียหาย และเด็กชายผู้บริสุทธิ์ 14 คนเสียชีวิต การต่อสู้ครั้งนี้ยังปรากฏในละครเรื่อง "ยาเอะ ยอดหญิงซามูไร" (八重の桜 / Yae no Sakura) ละครย้อนยุคทางช่อง NHK ปี 2013 อีกด้วยค่ะ
ปราสาทนิฮงมัตสึที่ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและเบญจมาศในฤดูใบไม้ร่วงเบ่งบานเต็มที่
หลังจากผ่านความโกลาหลหลายครั้ง ประตูมิโนวะมอน Minowa ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกไฟไหม้ ได้รับการสร้างขึ้นใหม่และปัจจุบันเป็นปราสาทที่สวยงามตลอดสี่ฤดูกาล ดอกซากุระและเบญจมาศมีชื่อเสียงเป็นพิเศษ และดูงดงามมากในช่วงฤดูที่ดอกบานค่ะ
ปราสาทนิฮงมัตสึซึ่งกลายเป็น "อุทยานคาสุมิกาโจ" ที่ซากปราสาททั้งหมดยังสวยงาม ต้นซากุระประมาณ 2,500 ต้นจะบานเต็มที่ในฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากความสูงของภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ดอกซากุระจึงดูราวกับจะโอบล้อมกำแพงหินของปราสาทไว้ ทำให้กำแพงหินเรียงเหล่านี้ดูมีสีสันสวยงาม "อุทยานคาสุมิกาโจ" เป็นจุดชมซากุระสำหรับคนในท้องถิ่นและเป็นหนึ่งใน "100 จุดชมซากุระขึ้นชื่อแห่งญี่ปุ่น" ไม่มีค่าเข้าชมและไม่มีการจำกัดเวลาในการเข้าชม คนในท้องถิ่นจึงสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามและใช้เวลาพักผ่อนได้เสมอค่ะ
ทุกฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน จะมีการจัดงานที่เรียกว่า "หุ่นเบญจมาศนิฮงมัตสึ" (二本松の菊人形 / Nihonmatsu no Kiku Ningyo) ที่ปราสาทนิฮงมัตสึ ดอกเบญจมาศเป็นที่ชื่นชอบเป็นพิเศษในนิฮงมัตสึมาหลายร้อยปี ตั้งแต่สมัยโชวะตอนต้น (ค.ศ. 1926-1989) มีการจัดแสดงหุ่นเบญจมาศในเมืองโดยคนในท้องถิ่น และในปี ค.ศ. 1955 ความหลงใหลในดอกเบญจมาศได้เปลี่ยนไปเป็นการจัดเทศกาลดอกเบญจมาศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ "หุ่นเบญจมาศนิฮงมัตสึ" ที่พบเห็นได้ในปัจจุบันค่ะ
ในงาน "หุ่นเบญจมาศนิฮงมัตสึ" ในปัจจุบัน หุ่นและเวทีตกแต่งด้วยดอกเบญจมาศมากมาย และปราสาทก็มีสีสันสดใส นอกจากนี้ เทศกาลดอกเบญจมาศก็จะถูกจัดขึ้น และนิฮงมัตสึจะคึกคักปีละครั้งในช่วงเทศกาลดอกเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (การเข้าชมงานหุ่นเบญจมาศนิฮงมัตสึจะมีการเก็บค่าเข้าชม)
ข้อมูลการท่องเที่ยว
- ชื่อสถานที่: อุทยานคาสุมิกาโจ (霞ヶ城公園 / Kasumigajo Koen) (ซากปราสาทนิฮงมัตสึ 二本松城跡 / Nihonmatsu-joato)
- ที่ตั้ง: 3, Kakunai, Nihonmatsu-shi, Fukushima
- การเดินทาง: เดินประมาณ 20 นาทีจากสถานี JR Nihonmatsu
- เวลาทำการ: 24 ชั่วโมง
Comments