คุณผู้อ่านรู้จัก "อาคิตะอินุ" (秋田犬 / Akita Inu) กันไหมคะ? อาคิตะอินุหรือสุนัขพันธุ์อาคิตะ เป็นสุนัขขนาดใหญ่ที่มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่น มีบุคลิกที่อ่อนโยน และเป็นสายพันธุ์ที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมาก สุนัขพันธุ์อาคิตะที่เป็นที่นิยมสามารถพบเห็นได้ในส่วนต่างๆ ของยุโรปและสหรัฐอเมริกาด้วยค่ะ และผู้ที่สร้างกระแสนิยมให้กับสุนัขพันธุ์อาคิตะในต่างแดนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ฮาจิโค ยอดสุนัขกตัญญู สุนัขที่มีชื่อเสียงระดับโลกนั่นเองค่ะ ในครั้งนี้ กองบรรณาธิการ FUN! JAPAN จะไม่เพียงแค่แนะนำความรู้เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์อาคิตะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานที่ที่คุณสามารถพบกับสุนัขอาคิตะได้โดยตรงอีกด้วยค่ะ
เกี่ยวกับ "อาคิตะอินุ" ที่ถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งชาติ
ในบรรดา "สุนัขญี่ปุ่น" ที่มีอยู่ 13 พันธุ์ สุนัขที่ได้รับการกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติก็มีเพียง 6 พันธุ์เท่านั้น อันได้แก่ ชิบะอินุ ไคเค็น (จังหวัดยามานาชิ) คิชูเค็น (จังหวัดมิเอะและวาคายาม่า) ชิโกกุอินุ (ภูมิภาคชิโกกุ) ฮอกไกโดเค็น และอาคิตะอินุ (จังหวัดอาคิตะ) นอกจากนี้ อาคิตะอินุยังเป็นสุนัขสายพันธุ์ใหญ่เพียงสายพันธุ์เดียวในบรรดา 6 พันธุ์นี้ด้วยค่ะ บรรพบุรุษของสุนัขพันธุ์อาคิตะนั้นเป็นสุนัขล่าสัตว์ที่เรียกว่า "อาคิตะมาตากิอินุ" (秋田マタギ犬 / Akita Matagi Inu) ซึ่งมีรูปร่างที่เล็กกว่าสุนัขพันธุ์อาคิตะในปัจจุบันและมีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงค่ะ เพราะตั้งแต่สมัยเอโดะ การให้สุนัขต่อสู้กันก็ได้รับความนิยมในจังหวัดอาคิตะ ดังนั้นในแถบโอดาเตะและโนชิโระทางตอนเหนือจึงมุ่งเน้นไปที่การเพราะพันธุ์สุนัขที่เก่งเรื่องต่อสู้ สายพันธุ์ที่ชื่อ "โอดาเตะอินุ" (大館犬 / Odate Inu) จึงถูกจัดให้เป็นบรรพบุรุษสายตรงของอาคิตะอินุค่ะ
หลังจากนั้น จากการผสมพันธุ์ซ้ำ ๆ กับสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ อันเนื่องมาจากความก้าวหน้าในการเพาะพันธุ์สุนัขพันธุ์ตะวันตกในประเทศญี่ปุ่น ทำให้สุนัขอาคิตะพันธุ์แท้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปชั่วคราวเช่วงสิ้นสุดยุคเมจิ อย่างไรก็ตาม หลังจากยุคไทโช ความสนใจในสุนัขอาคิตะพันธุ์แท้ก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง นับตั้งแต่การก่อตั้ง "สมาคมอนุรักษ์อาคิตะอินุ" (秋田犬保存会 / Akita Inu Hozon-Kai) ในช่วงต้นยุคโชวะ อำเภอโอดาเตะก็ได้พยายามที่จะอนุรักษ์สุนัขอาคิตะมาโดยตลอดค่ะ
วิธีจำแนกอาคิตะอินุและชิบะอินุ
เนื่องจากสายพันธุ์มีความคล้ายคลึงกัน สุนัขพันธุ์อาคิตะและพันธุ์ชิบะที่มีลักษณะภายนอกเช่น ขนสีน้ำตาล (สีแดง) และสีขาว หูตั้ง และหางงอ จึงมักถูกเข้าใจผิดกันบ่อย ๆ และเนื่องจากมีคนที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ชิบะมากกว่าสุนัขพันธุ์อาคิตะ จึงเป็นเรื่องปกติที่เวลาเจอกับอาคิตะอินุ ก็มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสุนัขพันธุ์ชิบะตัวใหญ่ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ดังที่แสดงในภาพด้านบน เมื่อนำทั้งสองพันธุ์มาเทียบกันชัด ๆ ความแตกต่างของรูปร่างก็ชัดเจนค่ะ ส่วนสูงและน้ำหนักของสุนัขพันธุ์อาคิตะนั้นมากกว่าพันธุ์ชิบะถึงสองเท่าเลยค่ะ
และถ้าสังเกตดี ๆ ใบหน้าของทั้งสองพันธุ์ก็ต่างกัน แม้ว่าจะมีหูตั้งเหมือนกัน แต่หูของสุนัขพันธุ์อาคิตะนั้นเป็นรูปสามเหลี่ยม และในขณะที่อวัยวะส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าก็กระจุกรวมกัน แต่ก็มีหางตาตกเล็กน้อย ในทางกลับกัน หูของสุนัขพันธุ์ชิบะจะยาวและเรียวกว่า และอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้าไม่ได้กระจุกรวมกันอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง โดยรวมแล้ว การแสดงออกทางสีหน้าของสุนัขพันธุ์อาคิตะนั้นสงบและเยือกเย็น แต่สุนัขพันธุ์ชิบะนั้นจะดูซุกซนกว่าค่ะ
แถมลูกสุนัขพันธุ์อาคิตะยังมีหูที่พับด้วย แต่เมื่อโตขึ้นก็จะกลายเป็นหูตั้ง นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแยกแยะระหว่างลูกสุนัขพันธุ์อาคิตะและพันธุ์ชิบะค่ะ
สีขนอาคิตะอินุและประเภท
สีขนสำหรับสุนัขพันธุ์อาคิตะมี 4 ประเภท ได้แก่ "สีแดง" "สีขาว" "สีลายเสือ" และ "สีงาดำ" ค่ะ ประเภทที่พบมากที่สุดคือ "สีแดง" ซึ่งมักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพันธุ์ชิบะอินุ "สีลายเสือ" มีลักษณะขนสีขาวปนกับขนสีดำ หากแยกย่อยลงไปอีก ก็มีสีลายเสือแดง สีลายเสือดำ และสีลายเสือลายหินอ่อน 3 สีนี้เป็นสีที่รู้จักกันทั่วไปค่ะ "สีขาว" เป็นสีล้วนสีเดียวของพันธุ์อาคิตะ แต่มีไม่ค่อยมากนัก นอกจากนี้ สีของส่วนหน้าที่ต้องการเม็ดสีก็จางลงด้วย ทำให้สีของจมูกก็กลายเป็นสีชมพูไปด้วย สุนัขพันธุ์อาคิตะ "สีงาดำ" เป็นสายพันธุ์ที่หายากมาก ซึ่งพบได้ยากในปัจจุบัน
สุนัขพันธุ์อาคิตะนั้นโดยปกติจะมีขนสั้น แต่บางครั้งก็มีประเภทที่มีขนยาวเกิดขึ้นได้เช่นกัน "วาซาโอะ" (わさお / Wasao) ซึ่งเป็นหัวหน้านายสถานีของสถานี Ajigasawa ในจังหวัดอาโอโมริ ผู้ซึ่งออกเดินทางกลับดาวสุนัขในปี 2020 ก็เป็นตัวอย่างอาคิตะขนยาวค่ะ เรื่องราวของสายสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างวาซาโอะผู้มีขนยาวสีขาวล้วนซึ่งหายาก กับเจ้าของของวาซาโอะก็ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และกลายเป็นที่รู้จัก แต่ในทางกลับกัน ตามคำจำกัดความของ "สมาคมอนุรักษ์อาคิตะอินุ" สุนัขอาคิตะที่มีขนยาวไม่ตรงตามเงื่อนไขสำหรับสุนัขอาคิตะพันธุ์แท้ อย่างไรก็ตาม เมื่อวาซาโอะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ผู้คนจำนวนมากขึ้นก็สนใจในเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของสุนัขอาคิตะขนยาวกันค่ะ อย่างไรก็ดี สุนัขอาคิตะขนยาวก็ยังเป็นสุนัขสายพันธุ์หายากอยู่ค่ะ
นอกจาก "อาคิตะอินุ" พื้นเมืองของญี่ปุ่นที่ได้รับความสนใจแล้ว ยังมีสายพันธุ์ที่เรียกว่า "อเมริกันอาคิตะ" ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอีกด้วย บรรพบุรุษของ "อเมริกันอาคิตะ" คือสุนัขอาคิตะที่ถูกนำกลับไปยังสหรัฐอเมริกาหลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง ลักษณะที่ปรากฏยังค่อนข้างแตกต่างจากแหล่งกำเนิดของญี่ปุ่น และกลายเป็นสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปค่ะ
"ฮาจิโค ยอดสุนัขกตัญญู" ที่ทั่วโลกรู้จัก
เหตุผลที่สุนัขพันธุ์อาคิตะโด่งดังไปทั่วโลกก็เพราะอิทธิพลของ "ฮาจิโค ยอดสุนัขกตัญญู" ในสมัยนั้น ฮาจิโคจะไปสถานีชิบูย่าทุกวันเพื่อพบกับเจ้าของย ดร. อุเอโนะ และวันหนึ่งอุเอโนะซังได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันเนื่องจากเลือดออกในสมอง ฮาจิโคซึ่งรอคอยการกลับมาของผู้เป็นเจ้าของเป็นประจำทุกวันมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ ได้ไปพบกับเจ้าของบนสวรรค์ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1923 หลังจากเผยแพร่เรื่องราวของฮาจิโคลงหนังสือพิมพ์ ชื่อ "ฮาจิโค ยอดสุนัขกตัญญู" ก็แพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่นในทันที หลังจากนั้น เรื่องจริงที่น่าประทับใจนี้ก็ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ และยังถูกนำไปรีเมคโดยฮอลลีวูดของทางสหรัฐอเมริกาด้วยค่ะ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กระแสบูมสุนัขอาคิตะเกิดแพร่หลายขึ้นในยุโรปและสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีรูปปั้นฮาจิโคที่เฝ้ารอเจ้าของอย่างต่อเนื่องติดตั้งอยู่หน้าทางเข้าสถานีชิบูย่า และยังเป็นสัญลักษณ์ประจำชิบูย่าอีกด้วยค่ะ
* ชื่อของน้องคือ ฮาจิ (ハチ / Hachi) ส่วน โค (公 / Kou) เป็นเหมือนคำนำหน้าที่แต่งตั้งให้เพื่อเป็นเกียรติหลังเสียชีวิต น้องไม่ได้ชื่อฮาจิโกะนะคะ
ไปพบกับอาคิตะอินุที่บ้านเกิดกัน!
อำเภอโอดาเตะในจังหวัดอาคิตะเป็นบ้านเกิดของสุนัขพันธุ์อาคิตะค่ะ แม้แต่ฮาจิโคเองก็เกิดที่นี่เช่นกัน แม้ว่าจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของสุนัขอาคิตะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้พบกับน้อง ๆ ได้ตามริมถนนนะคะ ถ้าจะเล่นกับน้องหมาน่ารัก ก็ต้องไปที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะค่ะ...
อาคิตะอินุโนะซาโตะ (秋田犬の里 / Akita Inu Visitor Center)
"อาคิตะอินุโนะซาโตะ" หน้าสถานี JR Odate เป็นสถานที่สร้างโดยอำเภอโอดาเตะเพื่อแนะนำลักษณะและประวัติของสุนัขพันธุ์อาคิตะให้กับผู้คนได้รูจักกันมากขึ้น รูปปั้นฮาจิโคยังถูกตั้งไว้ที่ทางเข้าอาคารด้วย นอกจากนิทรรศการเกี่ยวกับสุนัขอาคิตะแล้ว คุณยังสามารถดูท่าทางน่ารักของสุนัขอาคิตะผ่านกระจกใน "ห้องนิทรรศการอาคิตะอินุ" ได้อีกด้วย นอกจากนี้ พนักงานยังพาสุนัขมาที่หน้าบานหน้าต่าง ให้คุณถ่ายภาพ (งดใช้แฟลช) ไปพลางฮีลตัวเองด้วยสีหน้าท่าทางที่ไร้เดียงสาของน้องหมาไปพลางได้อีกด้วยค่ะ บางครั้งก็ยังสามารถเห็นภาพสุนัขอาคิตะที่กำลังเดินเล่นกันอย่างคึกคักด้วยค่ะ
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
- ชื่อสถานที่: อาคิตะอินุโนะซาโตะ (秋田犬の里 / Akita Inu Visitor Center)
- ที่ตั้ง: 1-13-1 Onari-cho, Odate-shi, Akita
- การเดินทาง: ทันทีที่ออกจากสถานี JR Odate
- เวลาทำการ: 09:00-17:00 น. ห้องนิทรรศการอาคิตะอินุ 09:30-16:45
- วันหยุดประจำ: 31 ธันวาคมและ 1 มกราคม, ห้องนิทรรศการอาคิตะอินุ วันหยุด: ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดวันถัดไปแทน)
อาคิตะอินุไคคัง (秋田犬会館 / Akita Inu Kaikan)
อาคิตะอินุไคคังเป็นสำนักงานใหญ่ของ "สมาคมอนุรักษ์อาคิตะอินุ" และมีการติดตั้งรูปปั้นฮาจิโคไว้ที่หน้าประตูค่ะ
รูปปั้นฮาจิโคที่นี่มีชื่อว่า "รูปปั้นฮาจิโคคิดถึงบ้าน" เพราะหันหน้าไปทางบ้านเกิดค่ะ สุนัขอาคิตะ 2 ตัวของที่นี่ก็ตั้งตาีอคอยการมาเยี่ยมของทุกคนอยู่ที่สำนักงานสมาคมอนุรักษ์ที่ชั้นหนึ่งในวันธรรมดาค่ะ บางครั้งลูกสุนัขแสนน่ารักก็มาเล่นด้วย หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาคิตะอินุ โปรดไปที่ "พิพิธภัณฑ์สุนัขอาคิตะ" ที่ชั้น 3
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
- ชื่อสถานที่: อาคิตะอินุไคคัง (秋田犬会館 / Akita Inu Kaikan)
- ที่ตั้ง: 13-1 Sannomaru, Odate-shi, Akita
- การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากสถานี JR Odate
- เวลาทำการ: 09:00-16:00 น.
- วันหยุดประจำ: วันที่ 28 ธันวาคม - 3 มกราคม ช่วงบ่ายของวันที่ 13 สิงหาคม
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน
ฟุรุซาวะออนเซ็น (ふるさわおんせん / Furusawa Onsen)
และสถานที่ที่เราอยากผลักดันที่สุดในครั้งนี้ก็คือ "ฟุรุซาวะออนเซ็น" ค่ะ ในออนเซ็นเรียวกังขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยไมตรี มี "ฮารุ" (温) และ "ฮานะ" (華) แม่ลูกอาคิตะอินุ ซึ่งเป็นมาสค็อตสุดน่ารักของที่นี่ค่ะ ทั้งสองรอคอยการมาเยือนของทุกคนอยู่ที่นี่ทุกวัน ใบหน้าที่ไร้เดียงสาของตัวลูก "ฮานะ" นั้นก็ไม่อาจต้านทานได้ ส่วน "ฮารุ" ตัวแม่ก็มีท่าทางสง่างามค่ะ ขอแนะนำให้พักค้างคืนที่นี่และเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศและน้ำพุร้อนขณะเล่นกับน้องหมาอาคิตะค่ะ
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
- ชื่อสถานที่: ฟุรุซาวะออนเซ็น (ふるさわおんせん / Furusawa Onsen)
- ที่ตั้ง: 27 Niizuna, Odate-shi, Akita
- การเดินทาง: ประมาณ 7 นาทีโดยรถแท็กซี่จากสถานี JR Odate
- วันหยุดประจำ: ทุกวันอังคาร
Comments